มิตรภาพภายในวงเหล้านั้นสร้างได้ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ตี๋และคณิตที่ซึ่งไม่เคยรู้จักกับผักบุ้ง และเพื่อนของเธอมาก่อน ตอนนี้กำลังนั่งกอดคอร้องเพลงกันอย่างสนิทสนม ผลัดกันรับส่งมุขอย่างรู้ใจ ราวกับรู้จักมานาน
ส่วนผักบุ้งนั้น น้ำตาได้เหือดหายไปแล้ว เธอเปลี่ยนจากร้องไห้มาเป็นร้องเพลงแทน
“บิว ฉันไปห้องน้ำก่อนนะ” ผักบุ้งเดินเข้าไปบอกเพื่อน
บิวหันมามองเพื่อนสาวด้วยท่าทางโอนเอนไม่แพ้กัน “ให้ไปเป็นเพื่อนปะ”
“ไม่เป็นไร ห้องน้ำอยู่แค่นี้เอง”
ผักบุ้งพาตัวเองมาถึงห้องน้ำซึ่งอยู่ทางด้านหลังของร้านสำเร็จ ด้วยความที่เธอมาร้านนี้บ่อยจึงสามารถใช้สัญชาตญาณในการเดินมาเข้าห้องน้ำได้แม้ว่าจะไม่ค่อยมีสติก็ตาม
ผักบุ้งวักน้ำใส่หน้าตัวเองเผื่อเรียกสติกลับคืนมา แต่พอสติกลับมาความเศร้าก็กลับมาเช่นกัน เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความล่าสุดจากต้องเตแล้วยกมือขึ้นจับหัวใจตัวเอง
“นี่ฉันจะไม่ได้รู้สึกหัวใจเต้นแรงแล้วเหรอ”
ฟิ้ว ลมพัดผ่านหน้าผักบุ้ง ทั้งที่ไม่ควรจะมีลมเนื่องจากห้องน้ำเป็นห้องน้ำปิด ความเย็นแบบผิดปกติทำให้หญิงสาวตัวแข็งทื่อ เธอรู้ตัวว่าตอนนี้กำลังจะเจอกับอะไรซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่อยากเจอที่สุดในเวลานี้
ปัง! ปัง!
ประตูห้องน้ำปิดไล่มาทีละบาน ทั้งที่ภายในห้องน้ำไม่มีใครอยู่เลย ผักบุ้งค่อย ๆ หันไปมอง หญิงสาวหลุบตาต่ำมองพื้นเห็นขาสีดำของใครบางคนยืนอยู่
เพียงเท่านั้น เธอไม่คิดจะหาคำตอบ หรือความแน่ชัดอะไรอีก รีบหลับตาแล้ววิ่งออกมาจากห้องน้ำทั้งที่หลับตาอยู่อย่างนั้น
ในใจได้แต่ภาวนาบทสวดมั่วไปหมด เธอรู้ดีว่าสิ่งที่เธอพึ่งเจอนั้นไม่ใช่คนอย่างแน่นอน
“เฮ้ย ๆ ระวัง”
กายรวบตัวผักบุ้งเข้าสู้อ้อมกอดตัวเองก่อนจะล้มลงกับพื้นโดยให้แผ่นหลังกระแทกลงกับพื้น และโอบกอดร่างบางเอาไว้บนตัว ท่าทางแบบนี้คล้ายว่าพึ่งเกิดขึ้นไม่นาน ยิ่งไปกว่านั้นยังเกิดกับคนคนเดียวกันอีกด้วย
“เธอหลับตาวิ่งอีกแล้วนะ ยัยปลาทองเอ๋อ”
ผักบุ้งยันตัวขึ้นจากแผงอกแกร่ง ครั้งนี้เธอไม่โวยวายเหมือนครั้งก่อนแต่กลับยิ้มกว้างส่งให้กายแทนเนื่องจากยังอยู่ในอาการมึนเมาเล็กน้อยจึงอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
“ขอโทษค่า”
ท่าทางเหมือนเด็กกำลังยกมือไหว้ขอโทษพร้อมทั้งฉีกยิ้มกว้างทำให้กายลดความโทสะลงอย่างรวดเร็ว เขายิ้มมุมปากอย่างไม่รู้ตัวก่อนจะลุกขึ้นยืนตามผักบุ้ง
“เป็นอะไรถึงชอบวิ่งหลับตาหะ?”
ผักบุ้งยังคงยิ้มกว้างให้กาย เธอทำมือเรียกเขาให้เข้ามาใกล้ซึ่งกายดันบ้าจี้ โน้มหน้าเข้าไปใกล้เธอตามที่เธอเรียกจริง ๆ
“ฉันเจอผี”
คิ้วเข้มเลิกขึ้น เขามองหน้าผักบุ้งแล้วถามย้ำอีกรอบ “เมาปะเนี่ย เหอะ ไม่น่าถามนะ”
“แหะ ๆ ไม่เชื่อสินะ ไม่แปลกหรอก เรื่องแบบนี้ใครจะเชื่อ”
ผักบุ้งบอกปัด แล้วหันหลัง กำลังจะเดินออกไปแต่กายกลับคว้าแขนเธอเอาไว้
“ไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อ”
“คะ?”
กายยกมือขึ้นเกาแก้มตัวเองก่อนจะเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นเข้มขึ้น “นั่งโต๊ะไหน เดี๋ยวเดินไปส่ง”
“ฮันแน่ คิดไรกับเค้าปะเนี่ย”
ดวงตากลมหรี่มองชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มล้อ จึงโดนคนที่เธอยิ้มล้อผลักหัวไปหนึ่งที
“เค้าเจ็บน้า”
ใบหน้าน่ารักงองุ้ม เธอตวัดสายตามองกายก่อนจะเดินออกไป ท่าทางโซซัดโซเซจนกายต้องเข้าไปช่วยพยุง
“เดี๋ยวหน้าก็ได้ทิ่มพื้นกันพอดี”
กลายเป็นว่าตอนนี้กายเป็นคนพยุงผักบุ้งกลับมายังโต๊ะของเธอ ซึ่งสภาพคนในโต๊ะตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากผักบุ้งเลย เผลอ ๆ อาจจะหนักกว่าด้วยซ้ำ
“อุ๊ย เพื่อนเมากันหมดแล้ว” ผักบุ้งพูดขึ้นพร้อมทั้งยิ้มกว้างจนตาหยี
กายส่ายหน้า พลางถอนหายใจออกมา “เธอเองก็ไม่ได้เมาน้อยกว่าพวกนั้นเลย”
ผักบุ้งปล่อยมือออกจากมือของกายซึ่งกายจับไว้เพื่อพยุงเธอเดินก่อนหน้านี้ แล้ววิ่งเข้าไปรวมกับคนอื่นที่กำลังร้องเพลงกันอยู่อย่างสนุกสนาน
กายก้มลงมองมือตัวเอง แล้วเงยหน้าขึ้นมองคนตัวเล็กที่พึ่งวิ่งออกไป ไออุ่นบนฝ่ามือนั้นทำไมถึงมีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจเขาอย่างไม่ควรจะเป็น
“ท่าจะบ้าแล้วกู”
ตี๋ คณิต และแตงโมกอดคอกันอยู่ด้านล่าง โบกไม้โบกมือไปมาเหมือนคนกำลังมาดูคอนเสิร์ตซึ่งนักร้องนำตอนนี้นั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่กวาง
ส่วนแดนเซอร์เอวพลิ้วที่กำลังเลื้อยอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่คือแม่เสือสาวอย่างบิว
“อย่าเลิกกับฉัน ตอนยังเป็นพระได้มั้ย”
เพลงที่ฟังไม่คุ้นเอาเสียเลยทำให้คนด้านล่างถึงกับทำหน้างงแต่ถึงอย่างนั้น ทุกคนยังคงโยกไปมาให้กับนักร้องอยู่ดี
“หัวใจสลาย จะเป็นจะตาย บนทางสายบุญ”
กายเดินเข้ามาหยุดยืนด้านข้างผักบุ้ง แล้วมองไปยังน้องสาวตัวเองที่กำลังยืนร้องเพลงอยู่บนโต๊ะ
“กวางมันทำอะไรของมัน”
ผักบุ้งหันไปมองกาย แล้วฉีกยิ้มให้เขา
“พี่ไม่ไปร้องบ้างอะ”
“ตลกรึไง”
“ทำไมอะ ปกติพี่ไม่ชอบร้องเพลงเหรอ”
กายยกยิ้มมุมปาก เขาก้มหน้าลงมาอยู่ระดับเดียวกับใบหน้าของผักบุ้ง
สองสายตาสอดประสานกัน บรรยากาศรอบข้างรายล้อมไปด้วยเสียงร้องเพลงตลก ๆ ของกวาง และเสียงเชียร์ของคนอื่น ๆ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ทั้งสองคนละสายตาออกจากกันเลยจนกระทั่งกายเป็นคนดีดหน้าผากผักบุ้งก่อน
“โอ๊ยเจ็บนะ ทำไมชอบทำร้ายร่างกาย คอยดูนะบุ้งจะฟ้องสคบ.”
“ก่อนจะฟ้องใคร ไปให้ถูกที่ก่อนนะครับน้อง”
ผักบุ้งแบะปากใส่ เธอหันไปมองคนข้างกายที่ยืนกอดอกมองน้องสาวตัวเองอยู่ด้วยความหมั่นไส้ และไม่รู้ด้วยความเมาหรือใจกล้าอย่างไร เธอจึงเตะเข้าที่ขาของกายแต่นั่นแหละ เธอทำมันไม่สำเร็จเพราะกายหลบทัน
นอกจากจะไม่สำเร็จแล้ว หญิงสาวยังล้มลงไปนั่งกับพื้นอีกด้วย
“โอ๊ย เจ็บจัง”
กายก้มลงมองผักบุ้งด้วยรอยยิ้ม เขาไม่ได้ช่วยดึงเธอขึ้นจากพื้นแต่กลับโน้มตัวลงมากระซิบข้างใบหูเธอแทน
“เธอนี่มันเป็นปลาทองเอ๋อจริง ๆ ด้วย”
ผักบุ้งกำหมัดแน่น มองตามหลังคนกวนประสาทด้วยความเคียดแค้น นึกเจ็บใจที่ไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย
คอยดูเถอะ ครั้งหน้าเธอจะทำให้เขาเลิกกวนประสาทให้ได้ แต่ตอนนี้ขอรักษาแผลใจก่อนแล้วกัน
หญิงสาวบอกกับตัวเองก่อนจะวิ่งเข้าไปรวมกับเพื่อนของเธอ และกวาง วันนี้เธอจะดื่มเหล้าให้ลืมคนที่ทำร้ายจิตใจเธอ ให้เหล้าช่วยชำระล้างเขาออกจากหัวใจเสียเลย