~ คนหนึ่งยังทำทุกทางเพื่อความรักจึงคอยทุ่มเททุกอย่าง
ยิ่งใกล้เธอแค่ไหน ก็ยิ่งเหมือนเป็นแค่ลมพัด~
จากเดิมวันนี้ควรเป็นการฉลองวันเกิดของผักบุ้ง แต่เจ้าของวันเกิดกลับซึมเศร้ามาสอง สามวันแล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นเลย
เพลงเศร้าจากนักร้องของร้านยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดในหัวใจเธอตอนนี้
“แม่งเอ๊ย เจอกันทุกวัน คุยกันทุกวันมาสี่ปีเสือกบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน!”
เหยือกเบียร์สดถูกยกขึ้นดื่มก่อนจะกระแทกวางลงบนโต๊ะเสียงดัง ผักบุ้งปาดน้ำตาออกจากใบหน้าก่อนจะหันไปหาเพื่อนสนิททั้งสองคน
“ฉันถามหน่อย คนเราจะคุยกันไปทุกวันทำไม จะมาแสดงความห่วงใยเป็นพิเศษทำไมวะ ถ้าสุดท้ายแล้วแม่งก็ไม่มีสถานะให้กันอยู่ดี”
“ใจเย็นก่อนนะผักบุ้ง” บิวหยิบเหยือกเบียร์ ตั้งใจหลบจากมือเพื่อนสาวแต่ไม่ทันได้หยิบออก เหยือกเบียร์ก็ถูกคว้ากลับไปดื่มอีกครั้ง
แตงโม และบิวหันมองหน้ากัน แล้วหันไปมองเพื่อนที่กำลังกระดกเบียร์ราวกับน้ำเปล่าพลางถอนหายใจออกมา
“ไม่คิดเลยนะว่าพี่ต้องเตจะใจร้ายแบบนี้”
แตงโมพูดขึ้น เธอเห็นความสัมพันธ์ระหว่างต้องเต และผักบุ้งมาตั้งแต่เธอพึ่งรู้จักผักบุ้ง ตอนแรกเธอยอมรับว่าเธอคิดว่าทั้งคู่เป็นคู่ที่น่าอิจฉาคู่หนึ่งเลยแต่ช่วงหลังมานี้ เหมือนความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มเปลี่ยนไป ผักบุ้งเป็นคนที่วิ่งตามต้องเตเสียมากกว่า
“ทำไงได้ล่ะ เรื่องมันไม่ชัดเจนตั้งแต่แรกแล้วหนิ”
บิวพูดพลางถอนหายใจออกมา บิวเคยเตือนผักบุ้งเรื่องนี้แล้วซึ่งตอนนั้นผักบุ้งยังเข้มแข็ง และยืนยันจะทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นซึ่งบิวไม่คิดเลยว่าเรื่องจะจบลงแบบนี้
…..
นักมวยในค่ายมวยบรรชิตวันนี้มีความสุขเป็นพิเศษเนื่องจาก เป็นวันสุดท้ายในการซ้อมก่อนจะหยุดยาวซึ่งใครประสงค์จะเดินทางกลับบ้านเพื่อไปหาครอบครัวสามารถกลับได้เลยตั้งแต่ช่วงเช้า อีกทั้งกายยังจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ทั้งหมดอีกด้วย
อย่างที่บอกว่าค่ายมวยบรรชิต อยู่กันแบบครอบครัวฉะนั้นเรื่องเล็ก ๆ น้อยๆ แบบนี้ กายและบรรชิต พ่อของกาย มักจะคอยช่วยเหลือนักมวยในค่ายอยู่เสมอ
ส่วนคนที่ไม่ได้กลับบ้านก็ยังสามารถพักอยู่ที่ค่ายได้
เนื่องจากครั้งนี้มีนักมวยที่ไม่ได้กลับบ้านอยู่แค่สองคน กายจึงตัดสินใจพาทั้งหมดไปเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดนี้โดยค่าใช้จ่าย กายเป็นคนออกเองทั้งหมด ส่วนกวางกำลังหว่านล้อมทุกคนให้ไปร้านเหล้ากับเธอ
“เราไปกินเหล้ากันวันนี้จะดีเหรอครับเ**กวาง พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางกับพี่กายแต่เช้านะครับ”
ตี๋ หนึ่งในนักมวยถามขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล กวางหันไปยิ้มพร้อมทั้งกอดคอตี๋แล้วดึงเข้าหาตัว
“โธ่ น้องรัก ไปกับเ**กวางคนนี้จะกลัวอะไร”
กวางบอก แล้วขยิบตาให้เพื่อสร้างความมั่นใจ เธอรู้ว่าตี๋ไม่กล้าไปเพราะกลัวกาย เนื่องจาก ตี๋ เป็นนักมวยที่อายุน้อยที่สุดในค่าย
อีกอย่างตี๋ทั้งกลัว และเคารพกายจึงกลัวว่าพรุ่งนี้จะตื่นไม่ไหวจนโดนกายลงโทษ
“เราไปขออนุญาตพี่กายหน่อยดีมั้ยครับเ**กวาง”
คณิตเป็นอีกคนที่กลัวกายเช่นกัน หากพูดให้ถูก ไม่มีเด็กในค่ายมวยคนไหนไม่กลัวกายหรอก
ถึงแม้ว่ากายจะเป็นคนจริงใจ ใจดี และคอยช่วยเหลือพวกเขาอยู่เสมอแต่กายก็ยังดุดันอยู่ดี
“อะ รอแป๊บ” กวางตัดปัญหาด้วยการโทรหากาย
รอสายไม่นาน ปลายสายก็กดรับ กวางจึงรีบพูดก่อนที่ปลายสายจะได้พูดอะไรออกมา
“กายไปร้านเหล้าเรียนกัน รออยู่หน้าค่ายนะ โอเคสิบนาทีนะ”
กวางพูดสรุปเองเสร็จสรรพ เธอไม่สนใจว่าพี่ชายของเธอจะไปหรือไม่ แต่นาน ๆ ที เธอจะได้ไปร้านเหล้าโดยไม่มี เดลต้า ว่าที่เจ้าบ่าวของเธอตามไปด้วย ฉะนั้น วันนี้เป็นตายยังไง เธอต้องไปกินเหล้าให้ได้
สรุปกายไม่สามารถหลีกเลี่ยงการกินเหล้าครั้งนี้ได้ เขาเดินออกมาด้วยใบหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย ตี๋และคณิตต่างพากันหลบสายตาของกายคงมีเพียงกวาง น้องสาวของเขาเท่านั้นที่ยังคงยิ้มกว้าง
“วุ่นวายกันจริงนะพวกมึง”
“อย่าอารมณ์เสียสิคะคุณพี่ชาย ไปกินเหล้ากัน”
ร้านเหล้าที่กวางเลือกเป็นร้านเหล้าหลังมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นหนึ่งในร้านประจำของเธอ เหตุผลที่เลือกร้านนี้เพราะเป็นร้านที่เดลต้าไม่รู้จัก ฉะนั้นไม่มีใครเอาเรื่องเธอแอบหนีมาเที่ยววันนี้ไปรายงานเดลต้าแน่นอน
“คนเยอะเชียว มีโต๊ะรึเปล่าอะเ**กวาง”
ตี๋ชะเง้อคอมองในร้าน กวางหันมามองด้วยรอยยิ้ม และเรียกให้ทุกคนเดินตามตัวเองเข้าไป
“ตามเจ๊มาเลยเด็ก ๆ”
เนื่องจากมหาวิทยาลัยของกวางเป็นมหาวิทยาลัยเก่าของกายเช่นกัน ลูกค้าในร้านส่วนใหญ่จึงรู้จักกาย เขาจึงต้องแวะทักทายคนรู้จักแทบทุกโต๊ะโดยให้กวาง และคนอื่นล่วงหน้าไปหาโต๊ะนั่งก่อน
กวางเดินตรงไปยังโต๊ะประจำของเธอ เป็นโต๊ะหลบมุมอยู่เกือบหลังร้าน ทำเลอับแบบนั้น ไม่ค่อยมีใครนั่งแต่หลายคนไม่รู้ว่าที่ตรงนั้นเป็นทำเลทองขนาดไหน ทั้งลมพัดเย็นสบาย มีความเป็นส่วนตัว แถมเพลงยังไม่ดังให้ต้องตะโกนคุยกันจนคอแตกอีกด้วย
“เอ้าชน ให้กับหัวใจที่เขาไม่สนใจ”
กวางหรี่ตามองโต๊ะหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ติดอยู่กับโต๊ะประจำของเธอด้วยความรู้สึกคุ้นตา ท่าทางบ้าบอแบบนั้น จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ ผักบุ้ง น้องรหัสของเธอ
“เฮ้ย บุ้ง ยืนบนเก้าอี้ทำไมวะ”
“เ**กวางของน้องบุ้ง”
ผักบุ้งกระโดดลงจากเก้าอี้ ปรี่ตรงเข้าไปกอดกวางแน่นจนกวางเองยังตกใจ และยิ่งตกใจไปกว่านั้นเมื่อผักบุ้งปล่อยโฮออกมา
“ฮือ เ**กวาง”
กวางหันไปมองบิว และแตงโมเป็นเชิงถามว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งทั้งคู่ได้เพียงแค่ส่งยิ้มแหย ๆ มาให้
“เป็นอะไรผักบุ้ง”
“เป็นคนที่เขามองไม่เห็น ฮือ”
“อาการหนักแล้วน้องกู”
ติ๊ง
เสียงข้อความจากโทรศัพท์ของผักบุ้งดังขึ้น เธอผละออกจากกวางแล้วล้วงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันเมื่อเห็นข้อความที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์
พี่ต้องเต : สุขสันต์วันเกินนะผักบุ้ง ขอให้สมหวังในทุกเรื่องนะ พี่คอยเป็นกำลังใจให้
ผักบุ้งง้างโทรศัพท์ขึ้น ทำท่าจะเขวี้ยงลงพื้น บิวจึงรีบเข้ามาดึงโทรศัพท์ออกจากมือของเธอ
“ใจเย็นก่อนไอ้บุ้ง โทรศัพท์ไม่ใช่เครื่องละบาท สองบาท”
“ฮึก ทำไมเขาไม่ปล่อยกูไปเลยสักทีวะ เขาจะทำแบบนี้ไปทำไมอีก”
“เขาจะรู้มั้ยว่าความหวังดีอะไรนั่น มันทำกูเจ็บแค่ไหน ไม่เห็นความรักกันไม่ว่านะเว้ย แต่อย่าเอามีดมากรีดกันซ้ำ ๆ แบบนี้ได้มั้ย”