Episode 2 | ยามาดะ อันนา

1863 คำ
“จริงป้า เดี๋ยวพอไอ้ลิ้นจี่กลับมาป้าก็ลองถามมันดูนะ รับรองมันจะเล่าให้ป้าฟังตั้งแต่ต้นจนจบเลยแหละ” ชะอมบอกอย่างมีเลศนัย “อ้าว! แล้วทำไมแกไม่เล่าให้ข้าฟังเลยวะ?” ป้ากล้วยบอกชะอมอย่างกับวัยรุ่นใจร้อน นางอยากจะฟังเรื่องทั้งหมดมันเสียเดี๋ยวนี้เลย แต่ก็ได้รอยยิ้มแหยๆของสาวรุ่นลูกกลับมาก่อนที่จะพูดว่า... “พอดี...ฉันรู้มาแค่นี้จริงๆจ้า ถ้าอยากรู้ลึกต้องถามไอ้ลิ้นจี่กับไอ้ใบตองมัน สองคนนี้มันเก็บความลับไว้เยอะมาก แม้กระทั่งใครเป็นคนตีหมาตายตรงหน้าปากซอยตอนกลางคืนมันยังรู้กันเลย” ประโยคท้ายชะอมบอกกับป้ากล้วยเสียงติดตลก ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้อย่างที่บอกป้าไปหรอก เธอแค่อยากจะเก็บความลับที่เคยให้ไว้กับคุณท่าน ในเมื่อสัญญาแล้ว ก็ต้องเป็นสัญญาสิ แต่ถ้าใครเป็นคนพูดนี่...มันก็อีกเรื่องหนึ่ง จริงมั้ย! “แกนี่ก็นะ มาทำให้ข้าอยากรู้และก็จากไปอย่างนิ่มๆ” หญิงวัยกลางคนส่ายหัวไปมา กับความฉลาดของสาวรุ่นลูกด้วยความเอ็นดู ฉับพลันก็ทำให้คิดถึงเด็กหญิงแพรพรรณขึ้นมาไม่ได้ รายนั้นเป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย ถึงจะดูใสซื่อแต่ความฉลาดก็มีมากพอตัว แล้วแบบนี้ป้ากล้วยจะไม่รู้สึกรักและเอ็นดูเด็กน้อยได้อย่างไร “แฮร่ๆ...ฉันว่าเรามาทำอาหารกันเถอะจ้ะ ป่านนี้คุณท่านรอแย่แล้ว” “หึ! ทีแบบนี้ล่ะเปลี่ยนเรื่องเชียวนะเอ็ง” เวลา 13.00 น. ณ. ประเทศญี่ปุ่น “คุณซันไชน์รอสักครู่นะครับ คุณเคนกำลังเดินทางมาแล้ว” เซกิบอกกับเด็กหญิงน่าตาน่ารักเสียงนุ่มเป็นภาษาอังกฤษตามคำสั่งของนายน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปปรับเตียงนอนคนไข้ “น้ำ...หนูหิวน้ำ” เสียงเล็กบอกกับผู้ชายที่ยืนข้างเตียงของเธอ ถึงเด็กหญิงจะไม่ได้ตั้งใจฟังว่าเขาพูดอะไรกับเธอกันแน่ แต่เธอก็สามารถพูดกับอีกฝ่ายเป็นภาษาอังกฤษ ต้องขอบคุณความหัวไวของเธอที่ทำให้เธอสามารถเรียนภาษาอังกฤษ และนำมาใช้ประโยชน์ได้ “นี่ครับ...” เซกิที่ตอนแรกไม่ค่อยชอบเด็กผู้หญิงที่นายน้อยเก็บมารักษาเสียเท่าไหร่ ตอนนี้เริ่มรู้สึกเอ็นดูเด็กหญิงตัวน้อยขึ้นมาบ้างแล้ว “หิวข้าวหรือเปล่าครับ...เดี๋ยวผมเตรียมอาหารให้” “...หิวค่ะ” แพรพรรณที่ตอนแรกยังรู้สึกมึนงงอยู่ ทำท่านึกคิดอะไรชั่วครู่ก็ตอบผู้ชายร่างสูงคนนี้กลับไปเสียงใส ก่อนจะยื่นแก้วน้ำที่ลดไปแล้วครึ่งแก้วส่งไปให้อีกฝ่าย “งั้นรอผมสักครู่นะครับ ผมไปไม่นานหรอก” เซกิบอกแค่นั้นก่อนจะเดินหายไปออกจาห้องผู้ป่วย ที่มีประตูใช้ในการเลื่อนเปิด-ปิด เด็กหญิงเหมือนได้ยินผู้ชายคนนั้นคุยกับใครสักคนที่หน้าประตูห้อง ก่อนจะเสียงจะเงียบหายไป ก็เป็นพอดีกับที่เด็กหญิงรู้สึกอยากเข้าห้อง ร่างเล็กจึงลงจากเตียง ก่อนจะถือสายน้ำเกลือตามไปยังห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ จะว่าไป...ห้องผู้ป่วยของโรงพยาบาลทำไมถึงได้ใหญ่กว่าห้องพักของเธออีกเสียล่ะ เด็กน้อยคิดในใจอย่างสงสัย ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องน้ำ... หลังจากที่เด็กหญิงแพรพรรณทำธุระส่วนตัวของเธอเสร็จเรียบร้อย เธอก็มานั่งรอผู้ชายปริศนาคนนั้นอยู่ที่เตียงเหมือนเดิม เหตุผลที่เธอไม่หนีออกไปเพราะเธอรู้สึกว่าผู้ชายคนนั้นไม่น่าจะเป็นคนร้าย แบบที่เธอเคยเจอก่อนหน้านี้ ดูจากการแต่งตัว กิริยา ท่าทีของอีกฝ่ายแล้ว ไม่มีทางใช่คนร้ายแน่นอน...หรือถ้าใช่ ก็เป็นคนร้ายที่สุภาพที่สุด และใจดีที่สุดที่เด็กหญิงเคยเจอมาเลยก็ว่าได้ “มาแล้วครับ...ที่นี่อาหารอาจจะจืดชืดไร้รสชาติไปสักหน่อยนะครับ แต่ผมอยากให้คุณซันไชน์ทาน อย่างน้อยจะได้มีแรง” เซกิบอกในขณะที่เขากำลังจัดแจงโต๊ะเลื่อนมาใกล้เด็กหญิงตัวน้อย “...หนูไม่ได้ชื่อซันไชน์ พี่ชายทักผิดคนแล้วค่ะ?” “ไม่ผิดหรอกครับ คุณเค...” ยังไม่ทันที่เซกิจะพูดจบประโยคดี ก็มีเสียงเอะอะมาจากข้างนอก ก่อนที่ประตูจะเลื่อนเปิดปรากฏร่างของชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่ง เดินเข้ามาในห้องที่เธอพักอยู่ พวกเขาทั้งสองมีใบหน้าที่ใจดีมาก ถึงแม้ผู้หญิงจะมีหน้าตาไปทางโซนยุโรปก็เถอะ ต่างกันกับผู้ชายที่มีเค้าโครงความหล่อในแบบเอเชีย “ไหนจ้ะเด็กผู้หญิงที่ลูกเราพูดถึง...ดูสิค่ะคุณหน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาเลย” ‘ยามาดะ อันนา’ พูดกับลูกน้องของลูกชายน้ำเสียงอบอุ่น ก่อนจะพูดกับคนเป็นสามีอย่าง ‘ยามาดะ โอชิน’ เมื่อเห็นเด็กหญิงแพรพรรณนั่งอยู่บนเตียงและข้างหน้าของเด็กน้อย ก็มีโต๊ะเลื่อนสำหรับใส่อาหาร ดีเลยเธอจะได้ป้อนข้าวแม่หนูน้อยคนนี้ อันนาคิดอย่างมีความสุข โอชินเมื่อเห็นรอยยิ้มของภรรยาที่ยังสวยอยู่ ก็รู้ความต้องการของเธอได้ในทันที จึงหันกลับพูดกับคนสนิทหลังจากปล่อยให้ภรรยาชวนเด็กน้อยคุยเพื่อทำความคุ้นเคย “ได้เรื่องอะไรไหม” โอชินถามลูกน้องเสียงเรียบตามประสาผู้คุมบังเ**ยน และอำนาจสูงสุดในตระกูล ‘ยามาดะ’ “เชิญท่านที่ห้องนี้ดีกว่าครับ” เซกิที่มองดูนายหญิงพูดคุยและป้อนข้าวให้เด็กน้อย ก็หันกลับมาพูดภาษาญี่ปุ่นแบบเดิม ก่อนจะเดินตาม ‘นายใหญ่’ ไปยังห้องรับแขกสำหรับความเป็นส่วนตัว “...นี่จ้ะ กินผักเยอะๆนะร่างกายจะได้แข็งแรง” อันนาที่หันกลับไปมองแผ่นหลังของสามีและลูกน้องคนสนิทของลูกชายเดินเข้าไปในห้องรับแขก ก็หันกลับมาพูดคุยกับเด็กน้อยต่อ และแน่นอนภาษาที่เธอใช้นั้นเป็นภาษาอังกฤษ “คุณคือคนที่ช่วยหนูใช่มั้ยค่ะ?” แพรพรรณถามอย่างไร้เดียงสา แต่ก็ได้รับสายตาเอ็นดูจากผู้หญิงตรงหน้าเธออย่างง่ายดาย “เปล่าจ้ะ...แต่ฉันเป็นแม่ของคนที่ช่วยหนูไว้จ้ะ” หญิงสาวบอกกับเด็กน้อยเสียงนุ่ม เธอรู้สึกถูกชะตากับเด็กน้อยคนนี้เหลือเกิน เธออยากได้เด็กคนนี้เป็นลูกของเธอ และเธอก็รู้...ไม่นานเธอก็จะสมหวัง “คนที่ช่วยหนูเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงค่ะ” และเสียงเล็กของแพรพรรณก็ถามคำถามที่ทำให้อันนารู้สึกเอ็นดูเด็กน้อยนี่อีกครั้ง “พี่เขาเป็นผู้ชายจ้ะ หล่อด้วยนะ” “...อืม หล่อเป็นแบบไหนหล่อค่ะ ใช่เหมือนคุณอากับพี่ชายที่เดินเข้าห้องไปหรือเปล่า” เด็กหญิงทำหน้าสงสัยอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะบอกกับอันนา ในประโยคที่ยาวเหยียดแต่ได้ใจความ และคำถามนั้นก็ทำให้หญิงวัยกลางคนรู้สึกชอบในตัวของเด็กหญิงมากขึ้นไปอีก จนเผลอหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข “จ้ะ...หนูอยากมีพี่ชายหรือเปล่าจ้ะ” อันนาลองถามเรียบๆเคียงๆกับเด็กน้อย ก่อนหน้านี้หญิงวัยกลางคนพอรู้มาบ้างแล้วว่าเด็กน้อยคนนี้เจออะไรมาบ้าง “อยากค่ะ!” แต่เด็กน้อยกลับตอบกลับอย่างพาซื่อ ก่อนจะยิ้มน่ารักอวดฟันกระต่ายให้อีกฝ่ายได้เห็น “อืม...ถ้าอย่างนั้นฉัน ‘ยก’ ลูกชายของฉันให้กับหนู...แต่หนูต้องสัญญากับฉันเรื่องหนึ่ง หนูพอทำให้ฉันได้มั้ยจ้ะ” หญิงวัยกลางคนถามเด็กน้อยเสียใจดี “ได้ค่ะ หนูสัญญา คุณน้าจะให้หนูทำอะไรบอกมาได้เลยค่ะ” ด้วยความดีใจที่เด็กน้อยจะมีพี่ชาย ที่เธอใฝ่ฝันมานาน ทำให้เด็กน้อยรับปากอย่างกระตือรือร้นด้วยความเต็มใจ นัยน์ตากลมโตก็เป็นประกายวิบวับอย่างมีความสุข “...ฉันอยากให้หนูเป็น ‘ลูกบุญธรรม’ ของฉัน” “ลูกบุญธรรม? คืออะไรหรือค่ะคุณน้า?” “ลูกบุญธรรมก็คือ...ลูกอีกคนที่เกิดจากการอุปการะเลี้ยงดูจากผู้ที่อยากจะมีลูก แต่ไม่สามารถมีได้ยังไงล่ะจ้ะ” ถึงการอธิบายรายละเอียดยาวให้เด็กน้อยฟังจะเป็นสิ่งที่ยุ่งยาก แต่อันนาก็ทำด้วยความเต็มใจ เธออยากจะมีลูกสาวมานานแล้ว แต่สภาพร่างกายของเธอนั้นไม่แข็งแรงพอ เธอจึงมีลูกชายชื่อ ‘ยามาดะ เคน’ เพียงคนเดียวเท่านั้น “ทำไมคุณน้าถึงมีลูกไม่ได้ล่ะ คุณน้ายังสวยอยู่เลย” “ฉันมีปัญหาด้านสุขภาพน่ะจ้ะ ว่าไงจ้ะหนูจะพอทำให้ฉันได้หรือเปล่า ฉันอยากได้หนูเป็นลูกสาวจริงๆนะ” “...คุณน้าจะรักหนูเหมือนลูกแท้ๆ จะไม่ทำตัวห่างเหินกับหนูใช่มั้ยค่ะ” เงียบไปอึดใจหนึ่ง เสียงเล็กก็เอ่ยถามออกมาเสียงอ่อย อย่างกล้าๆกลัวกับคำตอบที่รับกลับมา “จ้ะ ฉันกับโอชินสัญญาจะรักและจะดูแลหนูเหมือนลูกแท้ของฉันเลยจ้ะ” ไม่รู้ว่า ‘โอชิน’ คือใครแต่ถ้าให้เด็กหญิงเดาก็คงจะเป็นคุณอาสุดหล่อคนนั้น หรือไม่ก็ลูกชายที่คุณน้าบอกเธอไว้ก่อนหน้านี้แน่ๆ “งั้น...ก็ตกลงค่ะ หนูจะยอมเป็นลูกสาวของคุณน้าอีกคน” “ขอบคุณจ้ะ ขอบคุณหนูมากนะ...ต่อไปนี้ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณน้าแล้วนะ เรียกฉันว่า ‘มามี๊’ ส่วนคุณอาสุดหล่อคนนั้นหนูก็เรียกว่า ‘แด๊ดดี้’ นะรู้มั้ย” อันนาเคลื่อนตัวเข้าไปโอกอดร่างเล็กแต่นุ่มนิ่มของเด็กน้อย ด้วยความดีใจ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างไม่อยู่ “รู้ค่ะมามี๊” เด็กหญิงแพรพรรณบอกกับหญิงวัยกลางคนด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขเป็นครั้งแรกในรอบเก้าปี ตอนนี้เด็กน้อยรู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังฝันไป มากกว่าเป็นความจริงที่เธอกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ ทำให้แขนเล็กโอบกอดร่างผอมแต่มีน้ำมีนวล อย่างต้องการซึมซับความสุขนั้น “แล้วลูกชายของมามี๊ล่ะค่ะ หนูควรเรียกพี่เขาว่ายังไง” “เรียกเขาว่า ‘พี่เคน’ ก็พอจ้ะ” “แล้วพี่เคนจะไม่ว่าหนูใช่มั้ยค่ะ...พี่เคนจะใจดีเหมือนมามี๊และก็แด๊ดดี้ใช่มั้ยค่ะ” เหมือนเด็กหญิงแพรพรรณกำลังสับสนนิดๆ จึงเปลี่ยนคำถามใหม่ในตอนท้าย “...ไม่จ้ะ ‘พี่เคนของหนูแพร’ ใจดีที่สุดแล้ว” อันนายิ้มกับคำถามแสนซื่อของเด็กน้อย ก่อนจะใช้มือลูบศีรษะเล็กอย่างเอ็นดู
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม