bc

เจ้าสาว

book_age12+
765
ติดตาม
3.4K
อ่าน
อื่นๆ
ตั้งครรภ์
กู๊ดเกิร์ล
เกรียน
หวาน
หญิงจีบหญิง
เบาสมอง
เมือง
first love
เพศกำกวม
like
intro-logo
คำนิยม

เพี๊ยะ!

"โอ๊ย ชอบใช้กำลังก็ไม่บอก จะได้จัดหนักๆ ให้ตั้งแต่เมื่อคืน"

"สารเลว"

ร่างสูงกว่าที่เปลือยเปล่าล่อนจ้อนไม่ต่างกันลูบใบหน้าตัวเองป้อย ๆ ตัวเล็กแบบนี้แต่เรี่ยวแรงมหาศาล ตบหน้าเขาทีเดียวเล่นเอาหน้าชาไปข้างหนึ่ง แรงเยอะจริงๆ ผู้หญิงตัวเล็กคนนี้

เมื่อลงมือตบและด่าเขาเสร็จร่างเล็กเปลือยเปล่าก็ก้มลงเก็บเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่ทีละชิ้นทันที โชคยังดีที่มันไม่ขาดรุ่งริ่งเหมือนอย่างที่เธอคิดเอาไว้ในตอนแรก ชั้นในถูกสวมใส่ทีละชิ้นอย่างรวดเร็วโดยที่เธอไม่สนใจสายตาคนมองเลยสักนิดเดียว

"เหมือนไปฟัดกับหมามา"

'นั่นปากเหรอ'

"ปากหมา!"

คนที่ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยร่องรอยที่เกิดจากบทรักร้อนแรงเร่าร้อนเมื่อคืนหันมาตวาดแหวใส่คนที่ยืนทำหน้าตาท่าทางไม่ยี่หระอยู่ปลายเตียงฝั่งตรงข้าม

เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นเจ้าสาวเองก็จำไม่ได้ รู้เพียงแต่ว่าเธอมาดื่มฉลองกับเพื่อนในคืนวันศุกร์ตามประสาสาวโสดเพียงเท่านั้น หลังจากรู้ตัวว่าดื่มจนจวนเจียนจะไม่ไหว สมองเธอก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย จำไม่ได้แม้กระทั่งว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ กับไอ้คนร่างกายประหลาดแถมยังปากหมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร

แถมดูสภาพเธอสภาพเขา และสภาพของเตียงนอนที่ยับย่นไม่ต่างกันแล้วเจ้าสาวก็รู้ได้ในทันทีว่าเธอถูกกระชากความบริสุทธิ์ไปเสียแล้ว

คนที่ถูกตราหน้าว่าร่างกายประหลาดเพ่งพิศดวงหน้าสวยหวานราวกับว่าไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง สาวขี้เมาในชุดเดรสสีเข้มที่เจอเขาตรงหน้าห้องน้ำเมื่อคืนแล้วขอมากับเขากำลังด่าเขาอยู่งั้นหรือ

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทที่ 1 บทเรียน
                                                                       เพียงอารมณ์สิเน่หาพาหวั่นไหว                                                                        เกิดดวงใจสุดรักสลักสมร                                                                        ความผิดพลาดเปรียบฝันร้ายในยามนอน                                                                        มิอาจถอนดวงจิตคิดเผลอไผล   เพี๊ยะ! "โอ๊ย ชอบใช้กำลังก็ไม่บอก จะได้จัดหนักๆ ให้ตั้งแต่เมื่อคืน" "สารเลว" ร่างสูงกว่าที่เปลือยเปล่าล่อนจ้อนไม่ต่างกันลูบใบหน้าตัวเองป้อย ๆ ตัวเล็กแบบนี้แต่เรี่ยวแรงมหาศาล ตบหน้าเขาทีเดียวเล่นเอาหน้าชาไปข้างหนึ่ง แรงเยอะจริงๆ ผู้หญิงตัวเล็กคนนี้ เมื่อลงมือตบและด่าเขาเสร็จร่างเล็กเปลือยเปล่าก็ก้มลงเก็บเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่ทีละชิ้นทันที โชคยังดีที่มันไม่ขาดรุ่งริ่งเหมือนอย่างที่เธอคิดเอาไว้ในตอนแรก ชั้นในถูกสวมใส่ทีละชิ้นอย่างรวดเร็วโดยที่เธอไม่สนใจสายตาคนมองเลยสักนิดเดียว "เหมือนไปฟัดกับหมามา" 'นั่นปากเหรอ' "ปากหมา!" คนที่ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยร่องรอยที่เกิดจากบทรักร้อนแรงเร่าร้อนเมื่อคืนหันมาตวาดแหวใส่คนที่ยืนทำหน้าตาท่าทางไม่ยี่หระอยู่ปลายเตียงฝั่งตรงข้าม เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นเจ้าสาวเองก็จำไม่ได้ รู้เพียงแต่ว่าเธอมาดื่มฉลองกับเพื่อนในคืนวันศุกร์ตามประสาสาวโสดเพียงเท่านั้น หลังจากรู้ตัวว่าดื่มจนจวนเจียนจะไม่ไหว สมองเธอก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย จำไม่ได้แม้กระทั่งว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ กับไอ้คนร่างกายประหลาดแถมยังปากหมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร แถมดูสภาพเธอสภาพเขา และสภาพของเตียงนอนที่ยับย่นไม่ต่างกันแล้วเจ้าสาวก็รู้ได้ในทันทีว่าเธอถูกกระชากความบริสุทธิ์ไปเสียแล้ว คนที่ถูกตราหน้าว่าร่างกายประหลาดเพ่งพิศดวงหน้าสวยหวานราวกับว่าไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง สาวขี้เมาในชุดเดรสสีเข้มที่เจอเขาตรงหน้าห้องน้ำเมื่อคืนแล้วขอมากับเขากำลังด่าเขาอยู่งั้นหรือ กล้าดียังไง ตัวเองเป็นคนอยากมากับเขาแท้ ๆ พอเขาถามว่าจะไปสวรรค์ด้วยกันไหมเจ้าตัวก็พยักหน้า แล้วจะให้ปราบเซียนปฏิเสธได้อย่างไร มีคนสวยราวกับนางฟ้าที่ตกลงมาจากสวรรค์ขอมาด้วยแบบนี้มีหรือจะปฏิเสธลง  เขามาที่นี่ก็เพื่อมาดื่มและหาความสุขทางกาย ไม่ได้มาเดินตลาดโต้รุ่งสักหน่อย พอเขาพามาถึงห้องก็ต้องพาไปสวรรค์นั่นแหละถูกแล้ว "เมื่อคืนครางอย่างสุด ตอนนี้กลับมาด่า เธอนั่นแหละที่ประหลาด" เจ้าสาวกำหมัดแน่น ไอ้บ้านี่กล้าดียังไงถึงมาพูดให้เธอแบบนี้ ยอมรับว่าเมื่อคืนเมาจริงแต่ไม่คิดว่าจะเจอคนใจร้ายแบบเขาที่พาเธอมาปู้ยี่ปู้ยำถึงห้อง ผู้ชายนี่มันไว้ใจไม่ได้จริง ๆ  ผู้ชายเหรอ ไม่สิ...เขาเหมือนเธอทุกอย่างยกเว้น 'ไอ้นั่น' ที่กำลังโด่เด่ชี้หน้าเธออยู่ในตอนนี้ ไม่รู้ว่ามันเป็นธรรมชาติ หรือเพราะเขาไปแต่งเติมเสริมมาเธอก็ไม่แน่ใจ "เอ้านี่! ถึงจะกรึ่ม ๆ เมื่อคืน แต่คุณก็ใช้ได้เลยนะ เสียดายปากจัดไปหน่อย ชอบดุ ๆ ก็ไม่บอกจะได้จัดให้หนัก ๆ " แบงก์สีเทาปึกหนึ่งถูกโยนลงบนเตียง หากคลี่ออกดูก็คงจะเป็นเงินหลายหมื่น เขาตีค่าเธอแบบนี้เหรอ ย่ำยีเสร็จก็ฟาดด้วยเงิน เธอไม่ใช่ผู้หญิงขายบริการทางเพศนะ เขาจะดูถูกเธอเกินไปแล้ว แต่ถึงเธอจะทำอาชีพนั้นจริงเขาก็ไม่มีสิทธิ์มาโยนเงินให้เธอแบบนี้ เพราะทุกอาชีพย่อมมีเกียรติมีศักดิ์ศรี เจ้าสาวหยิบเงินปึกนั้นขึ้นมากำแน่นจนยับย่น เธอถูกตราหน้าว่าเป็นหญิงขายบริการทางเพศและเขาผู้นี้ก็ดูถูกเหยียดหยามเธอขนาดนี้เชียวหรือ ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย อย่างน้อยก็น่าจะมีความเป็นคนอยู่บ้าง ผลั่ก! เงินทั้งหมดถูกกำแน่นและฟาดเข้าหน้าชีเปลือยที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามทันทีด้วยแรงโทสะ รู้จักเจ้าสาวลูกเจ้าสัวน้อยไปเสียแล้ว "ถือว่าทานให้หมามันแดก" ปราบเซียนอ้าปากหวออีกครั้ง พร้อมกับดวงตาเรียวเล็กที่มองดูเงินหลายใบกำลังปลิวว่อนและร่วงหล่นลงสู่พื้น ยัยนี่สุดแสนจะปากเสีย  "ดี ชอบแดกของฟรีเหมือนกัน" ชุดเดรสเปิดไหล่น้ำเงินเข้มถูกสวมลงบนร่างเล็ก เจ้าสาวเดินไปหยิบเอากระเป๋าแบรนด์ดังราคาแพงขึ้นมา แล้วก้าวฉับ ๆ ออกไปทางประตูห้องถึงแม้แต่ละย่างก้าวจะเดินได้ลำบากนักเพราะความรู้สึกเจ็บแปลบตรงกลางกายกำลังเล่นงานอย่างหนัก แต่เธอไม่มีทางแสดงความอ่อนแอให้เขาเห็นหรอกนะ ปัง!  ประตูห้องถูกปิดลงด้วยแรงอารมณ์ของคนที่เพิ่งจะเดินออกไปเมื่อครู่  "ปากดีแบบนี้เราได้เจอกันอีกแน่ อย่าหวังว่าจะรอดเงื้อมมือของปราบเซียนไปได้" ร่างเปลือยเปล่าอมยิ้มร้ายกาจ ถอนสายตากลับมามองดูกระดาษสีเทาที่ระเกะระกะบนพื้นห้อง ปราบเซียนมองดูเสื้อผ้าที่ถูกทิ้งขว้างอย่างไม่แยแส สงสัยเมื่อคืนคงรีบร้อนไปหน่อย และเขาเองก็จำอะไรไม่ค่อยได้ เพราะมีอาการเมามายอยู่ไม่น้อย และแปลก ที่เขามองไม่เห็นอะไรบางอย่าง บางอย่างที่จะการันตีได้ว่าทั้งเขาและเธอจะปลอดภัยจากโรค และผู้หญิงคนเมื่อกี้จะปลอดภัยจากอาการท้องป่องและมีเด็กอยู่ในนั้น "บ้าฉิบ เมื่อคืนเราไม่ได้ป้องกันเหรอ" ปราบเซียนปีนขึ้นไปบนเตียงอีกครา จัดการรื้อค้นผ้าห่มที่กองอยู่ปลายเตียง ลงจากเตียงและเดินไปเช็คดูที่ถังขยะ เมื่อคืนไม่ใช่แค่รอบเดียวแน่เขามั่นใจ "ไม่มี!" มือเรียวคว้าผ้าห่มผืนหนาออก แม้เตียงจะยับย่นแต่เขาก็ยังสังเกตเห็นรอยเลือดจาง ๆ เปรอะเปื้อนบนผ้าสีขาวสะอาด มันตัดกันได้เป็นอย่างดีจึงทำให้ปราบเซียนมองเห็นได้โดยง่าย "บ้าเอ๊ย" ปราบเซียนชกกำปั้นลงกับเตียงนุ่มหนึ่งทีด้วยอารมณ์โมโหโกรธา ให้ตายเถอะเธอยังบริสุทธิ์หรือนี่ อดจะแปลกใจไม่ได้ที่สาวเจ้าคนเมื่อครู่ไม่มีอาการฟูมฟายให้เห็น ไม่แปลกที่เธอจะฟาดเงินใส่หน้าเขาคืน ถึงจะรักสนุกและเธอคนเมื่อครู่ก็ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่ปราบเซียนก็ไม่อยากมีบ่วงคล้องคอที่ชื่อว่าลูกหรอกนะ ชีวิตเขายังอีกยาวไกล ยังรักสนุกและไม่อยากมีพันธะในเร็ว ๆ นี้และอีกหลายปี ทางด้านอีกคนที่กว่าจะทุลักทุเลมาถึงรถคันหรูของตัวเองได้ก็เล่นเอาแทบหมดแรง ทั้งที่ลานจอดรถและห้องที่เธอเดินจากมาไม่ได้ไกลกันเลยสักนิดเดียว เจ้าสาวเพิ่งรู้ว่าสถานที่แบบนี้มีห้องไว้สำหรับพักผ่อนด้วย เพราะเธอเพิ่งเดินจากมาเมื่อครู่และได้รู้ว่ายังอยู่ที่ร้านเดิม ชั้นสองของร้านเป็นห้องสำหรับพักผ่อน หรือเป็นห้องที่เอาไว้ทำกิจกรรมอย่างอื่นเธอก็ไม่แน่ใจ สมาร์ตโฟนเครื่องหรูยังสั่นอยู่ แม้จะรับรู้ได้ตั้งแต่เดินออกมาจากร้านแล้ว แต่เจ้าสาวก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะในตอนนั้นรู้แค่ว่าอยากออกจากที่ตรงนั้นให้เร็วที่สุดก็พอแล้ว "อยู่ไหน" "เจ้าเป็นไงบ้าง" "เจ้าอยู่ไหน" "เจ้ากลับแล้วเหรอ" "เจ้าตอบหน่อยเพื่อนเป็นห่วง" เจ้าสาวอ่านข้อความทั้งน้ำตา เธอไม่ได้โทษเพื่อนเลยสักนิด แค่เสียใจที่ตัวเองต้องมาเจออะไรแบบนี้เท่านั้น  "เจ้าสบายดี" ตอบกลับเพียงแค่ข้อความเดียวเท่านั้น เธอตอบลงไปในกลุ่มที่มีเพื่อนทุกคนเป็นสมาชิกแค่ให้พวกเขารับรู้ว่าเธอสบายดีก็พอแล้ว เจ้าสาวโยนสมาร์ตโฟนทิ้งไปตรงเบาะข้างคนขับอย่างไม่ใส่ใจไยดี เจ้าสาวฟุบหน้าลงกับพวงมาลัยแล้วปล่อยโฮออกมาจนสุดพลัง เธอขอร้องไห้แค่วันนี้ ร้องไห้ให้กับโชคชะตา ร้องไห้ให้กับคนเฮงซวยอย่างเขา เธอก็ไม่เคยเห็นคนแบบนั้นมาก่อน เขาแปลก ไม่รู้ว่าแปลงเพศมาหรือเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ไม่ได้รังเกียจและไม่ได้หวังให้เขามารับผิดชอบ ก็แค่เสียใจและเสียดายความสาวที่คนปากร้ายแบบนั้นเป็นคนได้มันไปก็แค่นั้นเอง อุตส่าห์คิดว่าจะมอบมันให้กับคนที่เธอรักและรักเธอจริง แต่สุดท้ายก็เป็นแบบนี้จนได้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก  เจ้าสาวเงยหน้าขึ้นมาจากพวงมาลัยทั้งน้ำตาที่นองอยู่เต็มใบหน้า "บ้าจริง" เธอสบถคนเดียวเบา ๆ เพราะมองผ่านกระจกออกไปก็เจอเข้ากับคนที่เธอเพิ่งหนีมาเมื่อครู่และไม่อยากจะเห็นหน้าเขาอีกไปตลอดชีวิต "ลง มา คุย กัน หน่อย" คนด้านนอกกระจกตะโกนช้า ๆ ชัด ๆ ให้เธอได้ยินและจับใจความของประโยค เจ้าสาวเช็ดน้ำตาออกลวก ๆ ไม่มีอะไรต้องคุยกันอยู่แล้ว เธอสตาร์ทรถและเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว ไม่สนว่ารถยนต์คันหรูของเธอจะเบียดร่างเขาหรือไม่  "บ้าเอ๊ย ยัยคนอวดเก่ง" ปราบเซียนตะโกนตามหลังอีกคนไป อุตส่าห์รีบแต่งตัวแล้วลงมาจากห้องเพราะหวังว่าเขาจะได้เจอเธอ และก็เจอจริง ๆ เพราะทั้งลานจอดรถมีแค่รถเขาที่จอดอยู่และรถคันนี้ ผู้หญิงคนนั้นยังไปไหนไม่ได้ไกล และถ้าเดาไม่ผิดเมื่อครู่ที่เขามองลอดผ่านกระจกเข้าไป เธอร้องไห้งั้นหรือ ก็คงจะเสียดายครั้งแรก แต่เธอจะรู้บ้างไหมว่าเขาไม่ได้ป้องกันและไม่รู้ว่าเมื่อคืนมันเกิดขึ้นกี่ครั้ง   "มี๊" "..." "มี๊" "..." "มี๊ขา" "..." "คุณมี๊จ๋า" เด็กหญิงตัวเล็ก ผิวขาวอมชมพูระเรื่อริมฝีปากจิ้มลิ้ม ดวงตากลมโต และแก้มย้วยที่ฟูฟ่องมองแล้วช่างน่ารักน่าเอ็นดูเสียจริงสะกิดแขนเรียกเบา ๆ เมื่อผู้เป็นแม่กำลังนั่งเขี่ยอาหารในจานไปมา ไม่ยอมกินมันสักทีเหมือนในตอนที่เธอทำกับคุณผักเพราะไม่อยากกินไม่มีผิด "คะ" "มี๊ไม่ตะบายหยอ" เด็กหญิงตัวน้อยยืดตัวขึ้นยืนบนเก้าอี้ที่ตนเองนั่งอยู่เมื่อครู่เพราะถ้าทำแบบนี้มือป้อม ๆ จะสามารถวางลงบนหน้าผากของคนเป็นแม่ได้ "มี๊สบายดีค่ะน้องข้าว" เจ้าสาวส่งยิ้มให้ลูกน้อย เธอเผลอไผลคิดเรื่องในอดีตอยู่หรือนี่ แม้จะเจ็บปวดแต่มันคือความเจ็บปวดที่งดงาม จากที่เคยเรียกว่าความผิดพลาดเจ้าสาวขอกลับคำและคิดใหม่ มันไม่ใช่ความผิดพลาดเลยสักนิด แม้หากว่าถ้าเธอไม่พร้อมเธอจะสามารถทำแท้งเด็กได้ แต่เจ้าสาวไม่เลือกทำแบบนั้น แม้พ่อกับแม่จะสนับสนุนก็ตามที เธออยากเก็บเด็กไว้ เพราะเธอเองก็ไม่ได้มีภาระหน้าที่อะไรที่ต้องรับผิดชอบมากมาย เธอตัวคนเดียวและมีกำลังพอที่จะเลี้ยงเด็กหนึ่งคนได้สบายมาก ดังนั้นเจ้าสาวจึงเลือกเก็บเด็กคนนี้ไว้ แล้วขอพ่อกับแม่มาใช้ชีวิตอยู่ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษตั้งแต่รับรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ได้เพียงสองเดือน จนถึงตอนนี้ก็ย่างเข้าปีที่ห้าแล้วที่เธอและลูกสาวอาศัยอยู่ที่นี่ "มี๊ไม่ตัวย้อน" "ร้อนค่ะ ไม่ใช่ย้อน" เจ้าสาวลูบหัวลูกสาวสุดที่รักอย่างนึกเอ็นดู นี่คือของขวัญสุดล้ำค่าในชีวิตเธอ ไม่ใช่เขาคนนั้นที่มอบให้ แต่เป็นเธอเองที่เลือกของขวัญชิ้นนี้ เลือกที่จะให้เด็กน้อยมีชีวิตอยู่ เลือกที่จะเลี้ยงเด็กน้อยสุดแสนจะน่ารักคนนี้เอาไว้ แม้ทั้งชีวิตของเขาจะปราศจากคำว่าพ่อก็ตาม "ย้อน" "ลูกสาวคุณมี๊โตแล้วนะคะ แต่ยังพูดไม่ชัดเลย แบบนี้ตอนกลับไทยมี๊จะให้เข้าโรงเรียนดีมั้ยคะ" "ร้อนค่ะมี๊ น้องข้าวพูดได้แย้ว" คุณแม่ยังสาวอมยิ้มอ่อนโยนให้ลูกน้อยวัยสี่ขวบ ดูเอาเถิดลูกสาวเธอน่ารักขนาดนี้จะไม่ให้เรียกว่าของขวัญสุดล้ำค่าได้อย่างไร "มี๊สบายดีค่ะ" "มี๊ไม่กีงผัก" "มี๊กินค่ะ" "แต่มี๊เขี่ย" ลูกสาวตัวน้อยทำท่าทางสงสัยด้วยดวงตาใสแจ๋ว เอียงคอถามผู้เป็นมารดาพร้อมกับทำท่าทางเขี่ยอาหารตามที่เจ้าสาวทำเมื่อสักครู่เป๊ะ "มี๊คลุกข้าวให้เข้ากันค่ะ" โกหก เธอเลือกที่จะโกหกลูกสาวเพียงเพราะเธอเกิดอาการคิดถึงความหลังที่เป็นบทเรียนราคาแพงของเธอเพียงเท่านั้น "น้องข้าวอยากกีงไอตีม" เด็กก็เป็นแบบนี้ สนใจเรื่องบางอย่างได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งเจ้าสาวถือว่าเป็นเรื่องดีอย่างมากที่ลูกสาวของเธอไม่เซ้าซี้ถามต่อ "ถ้วยเดียวพอนะคะ" "มี๊น่าย้าก" ข้าวจ้าวปรบมือและคว้าคอผู้เป็นแม่ไปจุ๊บลงตรงตำแหน่งแก้มเบา ๆ แทนคำขอบคุณ "แต่ต้องกินข้าวให้หมดก่อน" เด็กน้อยมีสีหน้าสลดลงทันทีที่มารดาพูดจบ ก้มหน้าลงตักอาหารในจานกินอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้าอยากลิ้มรสไอติมรสโปรดข้าวจ้าวรู้ดีว่าตัวเองต้องกินอาหารในจานให้หมดก่อน ซึ่งก็ไม่เป็นปัญหาของหนูน้อยเลยสักนิดเดียว       "เจ้าสาวกลับมาไทยเถอะนะ" เจ้าสัวธงชัยเอ่ยกับลูกสาวเมื่อมีโอกาสได้คุยกันทางโทรศัพท์ อยากบอกเหลือเกินว่าตอนนี้ธุรกิจของครอบครัวกำลังเผชิญปัญหาหลายด้าน เขาอยากให้เจ้าสาวขายร้านอาหารเล็ก ๆ ที่เขาเปิดให้เมื่อห้าปีก่อนทิ้งไปและกลับมาช่วยสะสางงานที่ไทยได้แล้ว ธุรกิจครอบครัวของเจ้าสาวคือการเป็นเพียงบริษัทเดียวที่ผูกขาดในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศ แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าเจ้าสัวบริหารล้มเหลว มีบริษัทไม่ทราบชื่อรายหนึ่งกำลังกว้านซื้อหุ้นจากภายใน และกำลังจะวางแผนเทคโอเวอร์บริษัทเขาในไม่ช้านี้แล้ว "ทำไมคะ" "แม่กับพ่อคิดถึงหลาน" "สิ้นปีเจ้าจะพาน้องข้าวกลับค่ะ" "ป๊าหมายถึงกลับมาอยู่ไทยถาวร" เจ้าสาวชะงักไปชั่วครู่ เธอพอจะรับรู้สภาพคล่องทางการเงินของบริษัทอยู่บ้าง แต่คิดว่าผู้เป็นพ่อคงจัดการได้ ในวันนี้ท่านเอ่ยขอให้กลับไปอยู่ที่ไทยอย่างถาวรนั่นก็แสดงว่าครอบครัวเธอกำลังถึงขั้นวิกฤต "แล้วร้านอาหารเจ้าล่ะคะ" "ขายทิ้งได้มั้ย" "ป๊า..." คุณแม่หันมองกลับเข้าไปในบ้านด้วยแววตาเป็นกังวล น้องข้าวจ้าวกำลังเล่นตุ๊กตาเจ้าหญิงอยู่ในนั้นอย่างมีความสุข และไม่รู้อีโหน่อีเหน่ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นบ้างต่อจากนี้ ถึงเวลาที่ต้องกลับบ้านเกิดจริงๆ แล้วหรือ เจ้าสาวจบบริหารมาแต่ยังไม่ทันได้เริ่มทำงานเป็นจริงเป็นจังก็ดันมาเกิดเรื่องเสียก่อน จะว่าไปเธอยังไม่ทันได้ช่วยเหลือธุรกิจครอบครัวอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเลยสักนิดเดียว เมื่อครอบครัวกำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่หลวง หากเธอยังฝืนดันทุรังอยู่ที่นี่ต่อก็ดูจะเห็นแก่ตัวจนเกินไป "ได้มั้ยเจ้าสาว" "ค่ะ เจ้าจะกลับไปอยู่ที่ไทย" "เจ้าของหุ้นที่นายให้ติดต่อตกลงขายเรียบร้อยแล้วครับ" ลูกน้องหนุ่มสูงยาวเข่าดีหุ่นบอดี้การ์ดค้อมตัวลงเล็กน้อยแล้วรายงานผู้เป็นนาย "ให้เพิ่มตั้งสิบเท่าไม่เอาก็โง่แล้ว นายว่ามั้ยเต๋า" ปราบเซียนกระตุกยิ้ม เขาแค่ต้องการอยากลองเป็นเจ้าของธุรกิจค้าแอลกอฮอล์เพียงรายเดียวในประเทศดูบ้าง อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าสัวมีคอนเนคชั่นแบบไหนถึงกลายเป็นผู้ค้าเพียงรายเดียวได้ ผูกขาดขนาดนี้ก็คงจะเส้นใหญ่ไม่ธรรมดาแน่นอน และถ้าเขาได้ถือหุ้นรายใหญ่เมื่อไหร่ ไอ้ระบบแบบนี้เขาจะพังมันเองกับมือ แล้วสร้างอาณาจักรแอลกอฮอล์ที่เสรีขึ้นมาคืนกำไรให้ลูกค้าสักหน่อย เจ้าสัวไม่รู้เลยหรืออย่างไรว่าแบรนด์ตัวเองรสชาติแย่ขนาดไหน เหมือนมุดลงไปเลียตอใต้น้ำไม่มีผิด "เหลืออีก 5% คุณเซียนก็จะได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่แล้ว ให้จัดการเลยมั้ยครับ" "จัดการเลย เสนอราคาไปเต็มที่ ชั้นยินดีจ่าย" ปราบเซียนควงแก้วไวน์รสชาติเยี่ยมในมือแล้วยิ้มร้าย ถ้าเขาได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เจ้าสัวต้องกลัวจนตัวสั่นแน่ คิดว่าบอร์ดบริหารจะเชื่อใครมากกว่ากัน ระหว่างเจ้าสัวที่ใกล้หมดไฟกับนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงแบบเขา การบริหารงานที่เริ่มแย่เพราะแก่ตัวลง อยากรู้จริง ๆ ว่าไม่มีคนสืบทอดเลยหรือไรถึงไม่วางมือแล้วให้ลูกมาดูแลแทน "เจ้าสัวมีลูกมั้ย" คนที่นั่งอยู่บนโซฟาหรูหันหน้ามาถามลูกน้องคนสนิทที่ทำงานทุกอย่างได้อย่างดีไม่ขาดตกบกพร่อง "มีครับ" "แล้วไปไหนล่ะ" "เจ้าสัวมีลูกสาวคนเดียว ตอนนี้อยู่ที่อังกฤษครับ" ลูกสาวคนเดียว มีพ่อรวยเลยเสวยสุขอยู่ที่อังกฤษงั้นเหรอ น่าสงสารเจ้าสัวเสียจริงที่มีลูกสาวไม่เอาไหนแบบนั้น "คงไม่ชอบธุรกิจของพ่อครับ" "ไม่เอาไหนมากกว่า" ปราบเซียนยกไวน์ดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว เขายังมีงานที่ต้องทำอีกหลายอย่าง การเกิดเป็นลูกนักธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย เขาเกิดบนกองเงินกองทองก็จริงแต่ก็ต้องทำงานและรับผิดชอบภาระที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือการพาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวไปให้ตลอดรอดฝั่ง "ทำไมพ่อไม่มีลูกสักยี่สิบคนนะ จะได้มาดูแลช่วยกัน" ลูกน้องอมยิ้มให้กับความคิดของเจ้านาย ไม่แปลกที่ปราบเซียนจะคิดแบบนั้น เพราะภาระที่เขาต้องดูแลมากมายเสียเหลือเกิน นี่ยังมีแก่ใจไปเล่นเกมช่วงชิงบริษัทของคนอื่นมา อาจฟังดูว่าปราบเซียนร้ายกาจ แต่นั่นคืออุดมการณ์ที่จะกำจัดอาณาจักรแอลกอฮอล์แบบผูกขาดของเจ้าสัวให้หมดไป แล้วสร้างอาณาจักรที่เสรีขึ้นมาใหม่ ให้ผู้บริโภคได้มีสิทธิ์เลือกบ้างถือเป็นการคืนกำไรให้ ซึ่งปราบเซียนไม่สามารถหยั่งรู้ได้เลยว่า การยื่นมือเข้ามาแตะอาณาจักรแอลกอฮอล์ของเขาในครั้งนี้ จะทำให้ชีวิตในอนาคตของเขาเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล  

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

คุณอาของหนู...น่ารักกว่าใคร

read
7.4K
bc

งูบ้านนี้สายพันธุ์เหมียว (Luna V.)

read
1K
bc

Heroine (ที่นี่ไม่มี นางเอก)

read
13.9K
bc

เป็นแฟนผมนี่มันไม่ดียังไงครับเฮีย

read
2.8K
bc

เป็นได้แค่เพื่อน(รัก)

read
7.4K
bc

ผีเสื้อสมุทรจะเลี้ยงลูก

read
1K
bc

เมื่อปีศาจมาสิงสู่ [omegaverse]

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook