“ฉันจะลืมเรื่องราวคืนนั้น และก็หวังว่าท่านประธานจะลืมมันอย่างนั้นเหรอ กล้าดียังไงมาสั่งให้ฉันลืมมัน ห๊า!!”
ภูดิสทุบลงบนพวงมาลัยรถหรูแรงๆเป็นการระบายความเจ็บแค้นที่โดนพนักงานสาวปฏิเสธ ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยคิดที่จะชวนผู้หญิงคนไหนนั่งร่วมโต๊ะอาหารด้วยเลยแม้แต่คนเดียว เธอเป็นคนแรกที่เขาคิดจะทานอาหารด้วยแต่เธอกลับเดินหนีเขาไปอย่างน่าโมโห นี่ถ้าไม่ติดว่าที่นั่นมีคนเยอะจะจับเธอมาจูบทำโทษสักทีสองที
“ฉันจะทำให้เธอมาเป็นของฉันแค่คนเดียวให้ได้ มาริกา!”
ภูดิสสาบานกับตัวเอง ก่อนจะเคลื่อนรถออกจากบริษัทด้วยความเร็วสูง ตามแรงอารมณ์โมโหของตัวเอง
………………………………………….
ทางด้านมาริกา หลังจากที่ได้กลับมาเล่าเรื่องราวที่เพิ่งจะเจอท่านประธานหนุ่มมา รวมทั้งได้พูดคุยเรื่องคืนนั้น ให้เพื่อนรุ่นน้องคนสนิทก็ต่างเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่างานนี้ต้องไม่ยอมถอย
“ท่านชวนไปทานข้าวก็แสดงว่าท่านมีใจให้ เจ๊อย่ายอมแพ้นะ ต้องเดินลุยหน้าต่อ”
“ไม่ยอมแล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ เขาเป็นถึงท่านประธาน แต่ฉันเป็นเพียงพนักงานตัวเล็กๆคนหนึ่ง”
“ถ้าใจเราบอกว่าใช่เราต้องลุยให้สุด อย่าลืมว่านี่มันโค้งสุดท้ายของเจ๊แล้วนะ”
อารยาบอกกับเพื่อนสาวรุ่นพี่ ก่อนที่เมธีจะเสริมขึ้นด้วยอีกคน
“ใช่ โค้งสุดท้ายที่สำคัญมากๆ พลาดแล้วไม่มีสิทธิ์แก้ตัว เจ๊ต้องลุยให้สุด เดี๋ยวฉันช่วยเจ๊เอง”
“ช่วยยังไง?”
“แปลงโฉม ส่วนแกยายอารยาจัดการหาอีเมลล์ท่านประธานสุดหล่อ แล้วส่งข้อความชวนไปดินเนอร์กับเจ๊เดี๋ยวนี้”
“เขาเป็นถึงประธาน คงไม่อ่านข้อความอะไรแบบนั้นหรอก”
“อ่านไม่อ่านก็ต้องเสี่ยง!”
เพื่อความรักที่สมหวังของเพื่อนสาวรุ่นพี่ ทั้งสองจะต้องร่วมมือเสี่ยงให้สุด ดีกว่าไม่ยอมทำอะไรเลย
มาริกาถูกแปลงโฉมเป็นสาวสวยอีกครั้ง ก่อนที่ทั้งสามจะพากันมายังร้านอาหารหรูติดแม่น้ำเจ้าพระยา กระทั่งเวลาล่วงเลยเกือบจะหนึ่งชั่วโมงก็ไม่มีทีท่าว่าท่านประธานหนุ่มหล่อจะมา
“ฉันบอกพวกแกแล้วใช่ไหม ว่าเขาไม่มาหรอก”
มาริกาบอกกับเพื่อนทั้งสองที่เธอชวนมาด้วยกัน เพื่อลดอาการประหม่าเวลาอยู่ต่อหน้าท่านประธาน
“รออีกนิดน่ะเจ๊ เผื่อท่านติดงานแล้วมาสาย”
“แต่ฉันรอมาจะครบหนึ่งชั่วโมงแล้วนะ”
ใบหน้างามยับยุ่งเมื่อต้องนั่งรอใครเป็นเวลานานๆ
…………………………………….
เวลาเดียวกันภูดิสกำลังเดินออกมาจากห้องประชุมพร้อมเลขาส่วนตัวในเวลาเกือบจะสองทุ่มตรง ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเสียงหลังจากเปลี่ยนเป็นแบบเงียบตอนอยู่ในห้องประชุม แต่แล้วคิ้วหนาเข้มก็ต้องเลิกขึ้นสูงเมื่อเห็นอีเมลเด้งขึ้นมา
‘ฉันเมริกาอยากจะชวนท่านประทาน ไปทานข้าวเย็นกัน ถ้าท่านตกลงเจอกันที่ร้าน…หนึ่งทุ่มตรงนะคะ’
หลังจากอ่านข้อความจบ ภูดิสก็ต้องหันมาถามเลขาพร้อมยื่นโทรศัพท์มาตรงหน้าอีกฝ่ายให้อ่านชื่อร้านที่อีกฝ่ายส่งมา
“คุณภาคภูมิ ถ้าเราจะไปร้านนี้ต้องใช้เวลาเดินทางนานเท่าไหร่”
“ยี่สิบนาทีครับท่าน”
“ผมจะไปที่นี่ ตอนนี้”
ประทานหนุ่มออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ขณะที่หัวใจนั้นร้อนรนเกรงว่าจะไม่ทันการ ซึ่งเลขาก็รีบก้าวยาวๆนำไปที่รถอย่างรู้งาน โดยไม่คิดจะถามไถ่อะไรให้มากความ
“เชิญขึ้นรถครับท่านประธาน ผมจะขับรถให้เร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ครับ”
เพียงไม่ถึงยี่สิบนาทีร่างสูงสง่าพร้อมด้วยเลขาส่วนตัวก็เดินเข้ามาในร้าน กลุ่มมาริกากับเพื่อนที่นั่งหลบมุมอยู่ต่างต้องระบายยิ้มออกมาเมื่อเห็นอีกฝ่ายมาตามที่ได้นัดหมาย
“ท่านประธานมาจริงๆด้วย”มาริกาพึมพำเบาๆอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
“เห็นไหม พวกฉันบอกเจ๊แล้ว”
แต่ก่อนที่ทั้งสามจะทันได้แสดงตัว ดาราสาวสุดเซ็กซี่ในชุดเดรสสั้นก็ปรากฏตัวตัดหน้าเสียก่อน ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของทั้งสามคนต้องหุบลงทันที
“อ้าว…พี่ภู มาทานอาหารร้านนี้ด้วยเหรอคะ”
“อืม”
ภูดิสครางเสียงตอบในลำคออย่างไม่ใส่ใจ ขณะที่นัยน์ตาคมกริบกวาดมองหาใครบางคนที่นัดเขามาที่นี่
“นัดใครไว้หรือเปล่าคะ ถ้าไม่นัดใครไว้ไปนั่งกับลินดานะคะพี่ภู”
ลินดาบอกกับชายหนุ่มด้วยใบหน้าที่ระบายยิ้มเต็มวงหน้า ถึงแม้จะโดนเขาปฏิเสธหลายต่อหลายครั้งแต่เธอก็จะไม่ละความพยายาม ทว่าเขาไม่ตอบคำถามแต่กลับเรียกพนักงานของร้านที่กำลังเดินผ่านหน้า
“ขอโทษนะครับ มีใครที่จองโต๊ะไว้สองที่แล้วมาทานคนเดียวก่อนไหมครับ”
“ไม่มีนะคะ วันนี้มีแต่มาคนเดียวแล้วก็หลายคน ไม่มีโต๊ะที่จองไว้สำหรับสองคนเลยค่ะ”
พนักงานสาวตอบกลับมา ทำให้ชายหนุ่มต้องพ่นลมหายใจออกมาอย่างเซ็งๆเมื่อเขามาไม่ทันการ ใบหน้าหล่อเหลาเผลอแสดงสีหน้าผิดหวังออกมาอย่างชัดเจนจนทำให้ลินดาที่ยืนอยู่ด้วยต้องเลิกคิ้วถามอีกครั้งด้วยความสงสัย
“พี่ภูหมายถึงใครเหรอคะ”
“เปล่า โต๊ะคุณอยู่ไหน”
ภูดิสปฏิเสธ ก่อนจะถามเธอทำให้หญิงสาวต้องทำตาโตด้วยความตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่คู่หมั้นหนุ่มยอมที่จะนั่งทานอาหารกับเธอ พอตั้งสติได้ลินดาก็รีบเดินนำชายหนุ่มมาที่โต๊ะของตัวเอง ในใจภาวนาให้ปาปารัสซี่ถ่ายภาพความบังเอิญนี้ได้ เธอจะได้ถือโอกาสประกาศให้คนรับรู้ไปเลยว่าเขาคือคู่หมั้นของเธอ
ทางด้านมาริกานั้นรู้สึกผิดหวังอย่าแรง เมื่อคนที่เธอนัดมาและนั่งรออยู่หลายชั่วโมงนั้นไม่ได้จะมาหาเธอ แต่เขากลับนัดกับดาราสาวเสียอย่างนั้น คิดแล้วหัวใจก็ห่อเหี่ยวลงทันที
“กลับกันเถอะเจ๊ ยายนางเอกนั่นหอบไปกินแล้ว”
“อืม อุตส่าห์หิ้วท้องรอ เปลี่ยนร้านกันดีกว่า”
มาริกากับเพื่อนลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วก็เดินออกจากร้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่ภูดิสหันมาพอดี
‘มาริกา’
หัวใจของชายหนุ่มไหววูบ เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังตัดสินใจผิดพลาดอย่างมหันต์ แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ตามเธอไป เสียงหวานใสของลินดาก็ดังขึ้นเสียก่อน
“พี่ภูลองทานอันนี้ดูนะคะ อร่อยมาก ลินดาก็เพิ่งจะรู้ว่าร้านนี้มีแต่เมนูอร่อยๆ สงสัยวันหลังต้องมาบ่อยๆเสียแล้ว”
ภูดิสจำใจต้องปล่อยให้อีกฝ่ายเดินจากไป เพราะถึงตามไปตอนนี้ก็ไม่ทันอยู่ดี เมื่อเจ้าหล่อนและเพื่อนๆเดินขึ้นรถแท็กซี่ไปไม่แม้แต่จะเหลียวหลังกลับมามอง ขณะที่ลินดาก็เอาอกเอาใจเขาชุดใหญ่โดยการชวนคุยแล้วก็ตักโน้นนี่ให้ไม่หยุด
“ทานเถอะ ผมตักเองได้”
ภูดิสบอกกับนางเอกสาวเมื่อเห็นว่าเธอชักจะเอาใจเขาเกินไป จนตอนนี้จานของเขาเต็มไปด้วยอาหารที่เธอตักให้ ก่อนที่จะก้มหน้าก้มตาทานอาหารในจานอย่างไม่รู้รส เมื่อคนที่ทานด้วยไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาอยากจะนั่งร่วมโต๊ะด้วย