หวงฮุ่ยเหยาพาน้องทั้งสองเดินคอตกออกไปจากบ้านของอดีตสหายรัก จะเรียกว่าบ้านก็ไม่เชิงนักหรอก มันคือกระท่อมที่ทำจากดินเหนียวมุงหลังคาหญ้าคาแห้งๆนั่นเอง
จากบ้านของเจี๋ยกุ้ยหนิงเดินมาทางด้านทิศตะวันตกอีกประมาณหนึ่งลี้ก็ถึงบ้านของเฉิงเฟยหรง ลักษณะบ้านเป็นกระท่อมขนาดเล็กทำจากไม้ไผ่
“ท่านป้า ข้ามาหาพี่เฟยหรงเจ้าค่ะ พี่เฟยหรงอยู่หรือไม่เจ้าคะ” หวงฮุ่ยเหยาที่หอบหิ้วเอาน้องชายหญิงทั้งสองมาด้วยอาการหอบเหนื่อยเอ่ยถามมารดาของเฉิงเฟยหรงที่นั่งเด็ดผักอยู่ที่แคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน
ก่วงเหม่ยผิงเงยหน้าขึ้น สีหน้าไม่รับแขก
“นี่ผู้ใดกัน สารรูปอย่างกับขอทานข้างถนน ไปที่อื่นไป๊ ที่นี่ไม่มีเงินให้หรอก จะไปขอทานก็ไปขอในตลาดนู่น”
“เอ่อ…ท่านป้าเจ้าคะ ข้า…หวงฮุ่ยเหยาเองเจ้าค่ะ ข้าเป็นคนรักของพี่เฟยหรงอย่างไรล่ะเจ้าคะ ท่านป้าจำไม่ได้หรือ?”
นางเหม่ยผิงวางผักที่กำลังเด็ดลงก่อนจะยืนขึ้นเท้าสะเอวแล้วใช้นิ้วชี้มาที่หวงฮุ่ยเหยา
“คนรักอันใดกัน เฟยหรงบุตรชายของข้าไม่เคยเป็นคนรักกับสตรีนางใดที่นี่ทั้งนั้น เขาจะเป็นขุนนางในราชสำนัก ต่อไปในภายภาคหน้าเขาจะต้องแต่งงานออกเรือนไปกับบุตรสาวของขุนนางขั้นสูงในราชสำนักหรือว่าองค์หญิงเท่านั้นจึงจะเหมาะสม เจ้ามาทางไหนก็ไปทางนั้น คุณหนูตกอับ หมดตัว สิ้นไร้ไม้ตอกเช่นเจ้าอย่าได้หวังมาเกาะแกะกับบุตรชายของข้าอีก” นางเหม่ยผิงไม่พูดเปล่ายังหยิบไม้มาทำท่าจะไล่ตีหวงฮุ่ยเหยาและน้องทั้งสองของนางอย่างกับจะไล่วัวไล่ควาย
หวงฮุ่ยเหยายกยิ้มมุมปากเมื่อสายตาที่คมเฉียบของนางทันได้สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเงาร่างๆหนึ่งภายในกระท่อมที่สะท้อนจากแสงแดดรำไรที่ส่งลอดเข้าไปด้านใน
เป็นเฉิงเฟยหรงอดีตคนรักของนางนั่นเอง ที่นางใช้คำว่า ‘อดีตคนรัก’ เพราะนางรู้ดีว่าเขาคงจะตีจากนางอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นคงไม่หลบหน้าอยู่ในกระท่อม ให้มารดาออกมารับหน้าและขับไล่นางเช่นนี้หรอก
“หึ! ท่านป้า ท่านเป็นมารดาของเฉิงเฟยหรง ฝากบอกเขาด้วยว่าเงินที่หยิบยืมข้าไปให้เอามาคืนได้แล้ว บัดนี้ข้าและน้องๆมีความจำเป็นต้องใช้ หวังว่าสุภาพบุรุษอนาคตขุนนางอย่างเขาคงจะไม่คิดคดโกงสตรีตัวน้อยๆที่ไร้ซึ่งหนทางเช่นข้าหรอกนะ”
พอหวงฮุ่ยเหยาพูดจบภายในกระท่อมไม้ไผ่หลังน้อยก็มีเสียงดังเหมือนกับคนทำของตก หวงฮุ่ยเหยารู้ดีว่าอดีตคนรักต้องได้ยิน นางยักไหล่ก่อนจะพาน้องทั้งสองหันหลังเตรียมจะเดินจากไป
“ช้าก่อน หวงฮุ่ยเหยา คุณหนูตกยาก” เป็นเสียงแหบพร่าของชายชรา ซึ่งก็คงไม่ใช่ใครอื่น เฉิงหย่งฝูบิดาของเฉิงเฟยหรงนั่นเอง
หวงฮุ่ยเหยาหันมาตามเสียงเรียกอย่างช้าๆ แววตาของนางดูแข็งกร้าว
“เจ้าคะ ท่านลุง”
“เงินที่เจ้าว่ามานั้น เฟยหรงหาได้หยิบยืมมาไม่ เป็นบิดาของเจ้าและเจ้าเองที่เสนอเงินให้บุตรชายของข้ามาโดยที่เขาไม่ได้รู้สึกอยากจะได้มาแม้แต่น้อย”
“เหตุใดท่านลุงจึงกล้ากล่าวเช่นนั้น?” หวงฮุ่ยเหยาเตรียมต่อปากต่อคำ
“ใครๆต่างก็รู้กันไปทั่ว หวงเหวินกวงบิดาของเจ้านั้นอยากได้เฟยหรงลูกชายข้าเป็นลูกเขยจนตัวสั่น คงจะเห็นว่าต่อไปในภายภาคหน้าเขาจะต้องมีอนาคตไกลได้เป็นขุนนางใหญ่อย่างแน่นอน เถ้าแก่หน้าเลือดอย่างบิดาเจ้าจึงคิดจะมัดเขาไว้ด้วยการให้เงินค่าเล่าเรียนเพียงเล็กน้อย แล้วจะมัดมือชกให้เขาแต่งงานกับเจ้า พอได้เป็นพ่อตาของขุนนางแล้วก็จะได้กอบโกยผลประโยชน์และใช้เส้นสายในการทำมาค้าขายได้มากขึ้นอย่างไรล่ะ ส่วนเจ้า คงคิดฝันไปไกลละสิว่าจะได้เป็นฮูหยินของขุนนางใหญ่ ฮึ!…เจ้าน่ะ มีดีก็เพียงแค่เกิดมาเป็นบุตรสาวเศรษฐี อย่างอื่นไม่เห็นจะมีอันใดดี ทำมาหากินอันใดก็ไม่เป็น อ้อ…มีอย่างเดียวที่ดีก็ตรงที่มีหน้าตาสะสวย เพียงอย่างเดียวเท่านั้นก็อาจจะทำให้เจ้ากับน้องของเจ้ารอดชีวิตอยู่ได้ สุดท้ายก็คงหนีไม่พ้นต้องไปขายตัวเป็นนางคณิกาที่หอนางโลมกระมัง ฮ่าๆๆๆ ข้านึกไม่ถึงเลยว่าไอ้เถ้าแก่หน้าเลือดหวงเหวินกวงมันจะต้องตายอย่างเอน็จอนาจในกองเพลิงและลูกๆของมันต้องมีชีวิตที่ตกต่ำขนาดนี้ ฮ่าๆๆๆ สวรรค์ช่างมีตาเสียจริง”
หวงฮุ่ยเหยาโกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยง แต่เมื่อก้มลงมองน้องทั้งสองที่กอดนางเอาไว้แน่นด้วยความเสียใจที่โดนผู้คนใจร้ายเหยียบย่ำซ้ำเติมหวงฮุ่ยเหยาจึงผ่อนลมหายใจและพยายามตั้งสติให้จิตนิ่งให้มากที่สุด
“ที่พูดพร่ำซ้ำเติมข้ามาทั้งหมดนี่จะไม่ยอมค*****นมาให้ข้าใช่หรือไม่ เฉิงเฟยหรง…ข้ารู้นะว่าเจ้าแอบหลบอยู่ด้านใน เฮอะ! นี่น่ะหรือผู้ที่จะเป็นขุนนางใหญ่ จะแต่งงานกับองค์หญิง ข้าฟังแล้วแทบจะสำลัก”
“นะ..นี่เจ้า หยุดพูดจาสามหาวกับบุตรชายของข้าเดี๋ยวนี้นะ ไม่เช่นนั้นข้าจะใช้ไม้นี่ฟาดเจ้าให้ดู” นางเหม่ยผิงทำท่าจะใช้ไม้ในมือฟาดเข้าใส่หวงฮุ่ยเหยาและน้องๆของนาง หวงฮุ่ยเหยาจึงให้น้องๆรีบมาหลบด้านหลัง
“หยุดนะ หากว่าเจ้าฟาดไม้โดนข้าแม้แต่เพียงปลายเล็บ ข้าจะไปร้องเรียนท่านนายอำเภอว่าเจ้ารังแกข้าและเด็กๆ ส่วนบุตรชายขี้ขลาดของเจ้า หากไม่รีบนำเงินมาใช้หนี้ข้า ข้าจะนำเรื่องนี้ไปร้องเรียนท่านนายอำเภอ ท่านเจ้าเมือง ขุนนางในราชสำนัก หรืออาจจะเขียนฎีการ้องทุกข์ไปถึงฮ่องเต้ เจ้าลองใช้สมองที่มีแต่ขี้เลื่อยของเจ้าคิดดูสิว่าผู้ที่มีข้อด่างพร้อย หลอกลวงเงินจากสตรีเพื่อเป็นค่าเล่าเรียนและค่าสอบจะมีโอกาสได้เป็นขุนนางหรือไม่ อย่าลืมสิว่าคนในตำบลหงเหลิงแห่งนี้เป็นพยานให้ข้าได้ พวกเขาต่างก็พากันรู้เห็นทั้งนั้นว่าข้ากับบุตรชายของพวกเจ้านั้นเคยเป็นคนรักกันและเรื่องที่ลูกชายของพวกเจ้ามาหยิบยืมเงินจากข้าและท่านพ่อก็มีคนรู้เห็นมากมาย ฮึ! เห็นว่าข้าเป็นเพียงสตรีตัวน้อยๆคิดจะรังแก คิดจะคดโกงก็จะทำได้ง่ายๆเช่นนั้นรึ ฝากบอกลูกชายขี้ขลาดของพวกเจ้าว่าเอาไปคิดซะใหม่ ฮึ! อยากแต่งกับองค์หญิง อยากเป็นราชบุตรเขยเช่นนั้นรึ ฮ่าๆๆๆ ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องตลกเช่นนี้มาก่อนเลย อ้อ! ที่ตาแก่หย่งฝูแนะนำข้าให้ไปขายตัวเป็นนางโลมนั้นน่ะ ภรรยาของเจ้าซึ่งก็คือยายเฒ่าผู้นี้คงจะเคยทำงานที่นั่นมาก่อนละสิเจ้าถึงได้ดูคุ้นเคยกับสถานที่พรรค์นี้นัก ฮ่าๆๆๆ วันนี้ช่างดีจริงๆ สวรรค์มีตาให้ข้าได้รู้เช่นเห็นชาติและตัวตนที่แท้จริงของผู้คน ไป…ไปกันเถอะเหยียนเอ๋อร์ จื้อเอ๋อร์ เรารีบออกไปจากบ้านที่มีแต่เสนียดจัญไรนี้เถอะ” พูดจบหวงฮุ่ยเหยาก็รีบดันหลังน้องทั้งสองให้ออกเดินนำก่อน ส่วนนางนั้นหันกลับมาร้องตะโกนบอกคนที่อยู่ในกระท่อมอีกที
“เฉิงเฟยหรง เจ้าคนขี้ขลาด ข้าให้เวลาอีกเจ็ดวัน นำเงินทั้งหมดหกร้อยห้าสิบตำลึงที่เจ้ายืมข้าและท่านพ่อไปมาคืนข้าให้ครบ ไม่เช่นนั้นเจ้าอย่าหวังเลยว่าจะได้เข้าสอบ ข้าจะตามไปป่วนทุกสนามที่เจ้าคิดจะไปสอบ ข้าจะเขียนฎีการ้องทุกข์ถึงฮ่องเต้ ข้าจะให้คนไปป่าวประกาศทั่วเมืองหลวง เพียงเท่านี้ชื่อเสียงของเจ้าก็ป่นปี้แล้ว เจ้าอย่าหวังเลยว่าจะได้เป็นจอหงวน ฮึ!” พูดจบนางก็หันหลังแล้วรีบมาน้องๆก้าวเดินฉับๆเร็วๆเพราะกลัวว่านางเหม่ยผิงจะบ้าขึ้นมาแล้วเอาไม้มาไล่ตีพวกนาง
หวงฮุ่ยเหยาไม่สนใจว่าจะได้รับคำตอบจากบุรุษขี้ขลาดที่เอาแต่หดหัวอยู่ในกระท่อมหรือไม่ แต่…ทันทีทันใดประตูไม้ไผ่ก็ถูกเปิดออก เฉิงเฟยหรงรีบลนลานออกมาท่ามกลางความตกตะลึงของเฉิงหย่งฝู และ ก่วงเหม่ยผิง
“ได้ ข้าจะรีบหามาคืนเจ้าให้เร็วที่สุด ขอเพียงเจ้าอย่าได้ทำลายชื่อเสียงและอนาคของข้าด้วยวิธีนี้เลย ข้าขอร้องละ เห็นแก่ที่เราเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเถิด” บุรุษผู้มีใบหน้าซีดเผือดตะโกนกลับไปด้วยเสียงวิงวอน
“ฮึ! ความสัมพันธ์อันดีอันใดกัน ความสัมพันธ์จอมปลอมที่เจ้าหวังปอกลอกเงินจากข้านะสิ”
ตอนนี้ตาเฒ่าเฉิงหย่งฝูและยายแก่ก่วงเหม่ยผิงได้แต่เต้นเป็นเจ้าเข้า พวกเขาไม่เคยโดนเด็กรุ่นลูกถอนหงอกเช่นนี้มาก่อนเลย