เช้าวันต่อมา คาร่าตื่นขึ้นมาด้วยความงงปนสับสน ว่าตัวเองมานอนตรงนี้ได้ยังไง
เธอจำได้ไม่ชัดว่าคริสเตียนพาเธอออกจากไนต์คลับตอนไหน
‘เขาก็ไม่ได้น่ากลัวเลยนี่นา’
คาร่าคิดว่าเธอคิดถูกเรื่องคริสเตียน เลยเผลอยิ้มออกมา ก่อนจะอาบน้ำและทำกิจวัตรตอนเช้าจนเสร็จ
‘วันนี้อากาศร้อนนิดหน่อย ฉันจะสวมชุดที่สวมใส่สบายและสีสันสดใส’ เธอคิด ก่อนจะหยิบเดรสแขนกุดพิมพ์ลายสีฟ้าและยาวถึงเข่าออกมา จากนั้นก็วิ่งลงไปข้างล่างตามปกติ
แต่เธอก็ต้องงงงันอีกครั้ง เมื่อสังเกตเห็นว่าการพูดคุยในวันนี้ มันดูเงียบผิดปกติ ไม่เหมือนทุกวันที่คุยกันเสียงดัง โดยเฉพาะโมนิก้า
‘วันนี้ทำไมบ้านถึงเงียบแปลก ๆ’ เธอคิดก่อนจะเดินไปทางห้องครัว เธอพบโมนิก้าที่กำลังทานแพนเค้ก กับลุงมาร์คที่กำลังทอดเบคอนอยู่หน้าเตา แม้แต่ดาวิเด้และกาสปาโร ยังยืนสงบนิ่งและตัวตรงกว่าปกติ
“อรุณสวัสดิ์ โมนิก้า อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณลุงมาร์ค” เธอทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้มสดใสทักทาย
โมนิก้าจึงมองคาร่าแล้วส่งยิ้มตอบ “อรุณสวัสดิ์คาร่า”
“อรุณสวัสดิ์คาร่า” บอดี้การ์ดทั้งสอง ทักทายขึ้นพร้อมกัน
“ทำไมวันนี้บ้านเงียบจัง แล้วทำไมเธอถึงมากินข้าวในครัวล่ะ”
คาร่าถามโมนิก้าด้วยความอยากรู้ แล้วคำตอบก็มาในรูปแบบของเสียงฝีเท้าที่หนักแน่นของคริสเตียน ตอนนี้คาร่าจึงได้รู้แล้วว่า ทำไมบ้านถึงได้เงียบผิดปกติ เพราะคริสเตียนยังไม่ออกไปทำงานนี่เอง
คาร่ามองออกมาจากห้องครัว และสังเกตเห็นคริสเตียน ตามมาด้วยฟรังโก้ เธอเดินเข้าไปในห้องอาหารด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เพื่อทักทายคริสเตียน
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคริสเตียน”
“กระต่ายน้อย” ดวงตาของเขาอ่อนลงเมื่อได้ยินเสียงเธอ
“คุณอยู่ที่นี่ ยังไม่ไปทำงาน” เธอพูดด้วยความประหลาดใจ รู้สึกเซอร์ไพรส์มากที่เห็นคริสเตียนนั่งอยู่ตรงหน้า
“เธอไม่ชอบให้ฉันอยู่ที่นี่อย่างนั้นเหรอ” เขาถาม และยังคงจำคำถามของเธอเมื่อคืนนี้ได้
‘เมื่อไหร่คุณจะกลับมาบ้าน?’ และตอนนี้ฉันก็กลับมาแล้ว เพราะเธอ คริสเตียนยกยิ้มน้อย ๆ
“เปล่านะคะ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ฉันก็แค่แปลกใจน่ะค่ะ” เธอสารภาพ
เขามองเธอ ก่อนจะเสไปมองดูอาหารตรงหน้า
“เธอกินข้าวเช้าหรือยังกระต่ายน้อย” คริสเตียนถาม ก่อนจะจิบกาแฟดำที่มาร์คนำมาเสิร์ฟ
“ยังไม่ได้ทานเลยค่ะ เพราะฉันเพิ่งตื่นนอน”
“งั้น... เธอก็มานั่งทานขาวเช้ากับฉันสิ” เขาพูดพลางขยับเก้าอี้ข้างตัวเขาออกให้เธอนั่ง เธอจึงนั่งลงอย่างเชื่อฟัง
“ขอบคุณค่ะ”
แล้วเธอก็นึกถึงโมนิก้าที่กำลังนั่งทานข้าวอยู่ในครัว เธอจึงเรียก โมนิก้าให้มานั่งทานข้าวเช้ากับพวกเราอย่างไร้เดียงสา ทำเอาฟรังโก้ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ หากแต่ดวงตาของคริสเตียนกลับเป็นประกายสนุกสนาน เพราะเขารู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้
“ฉันทานเสร็จแล้ว ฉันจะรอเธอที่สวนหลังบ้านนะ” โมนิก้าเดินหนีออกไปพร้อมกับชิ้นส่วนของขนมปังปิ้งในมือของเธอ
“แปลก” คาร่าเอ่ย คริสเตียนจึงเอ่ยถามโดยไม่สนใจว่าเธอกำลังคิดเรื่องของโมนิก้าอยู่
“เธอชอบแล็ปท็อปของเธอไหม”
“อ๋อ ฉันชอบมันมากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฮิลล์”
เขาเลิกคิ้วกับชื่อที่เธอเรียก เธอจึงรู้ตัวและรีบเปลี่ยนสรรพนาม
“โอ้!… ขอบคุณนะคะคริสเตียน”
ฟรังโก้พร้อมกับดาวิเด้และกาสปาโร ต่างก็ยืนตกใจเมื่อได้ยินคาร่าเรียกชื่อคริสเตียนอย่างสนิทสนม
พวกเขายืนอ้าปากค้างราวกับว่าพวกเขาถูกโจมตีด้วยสายฟ้าฟาด เพราะพวกเขาไม่เคยได้ยินใครเอ่ยเรียกเจ้านายด้วยชื่อของเขาเลย คาร่าเป็นคนแรกในทุกๆ ทางที่เข้ามาเปลี่ยนคริสเตียน
เธอส่งยิ้มให้เขาจนลักยิ้มผุดขึ้นทั้งสองข้าง ซึ่งเขาชอบมองมันมาก เพราะทำให้เธอดูสวยหวานมากกว่าเดิม
ใบหน้าสวยในกรอบผมที่เป็นลอนคลื้น ราวกับตุ๊กตามีชีวิต เธอดูบอบบาง ไร้เดียงสา และเขารู้สึกว่าตัวเองชอบมองเธอ ไม่ว่าเธอจะอยู่ในอารมณ์ไหน
‘ฉันไม่รู้ว่าฉันจะต้องฆ่าผู้ชายกี่คน ที่จะเข้ามาใกล้เธอ และคงต้องขู่คนพวกนั้น ว่าให้อยู่ห่างจากเธอ เมื่อไหร่ที่เธอเริ่มเข้ามหาวิทยาลัย เธอยิ่งเชื่อใจคนอื่นง่ายและไว้ใจทุกคนที่เข้ามาทำดีกับเธอแบบนี้’
‘แต่ฉันหวังว่าโมนิก้าจะปกป้องเธอได้นะ และฉันจะทำทุกทางที่ทำให้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย ฉันจะอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องเธอ ถ้าฉันก้าวเข้าไปในชีวิตเธอ ฉันแน่ใจว่าฉันจะต้องฆ่าคนจำนวนมากเพื่อเธอโดยไม่ลังเล’
เขาคิดในด้านมืดเพราะเขาเรียนรู้ว่าโลกใบนี้มันโหดร้ายแค่ไหน