ไม่เกินสามสิบนาทีฟรังโก้ก็มาเคาะประตู เพื่อนำอาหารที่เจ้านายสั่งมาให้ คาร่ามองเบอร์เกอร์ด้วยความสุข จนดวงตาเป็นประกาย
ส่วนคริสเตียนก็มองดูเธอและคิดว่าท่าทางของเธอนั้นน่ารัก ยิ่งเห็นเธอมองดูเบอร์เกอร์อย่างตื่นเต้น เขาก็ส่ายหัวไปมา
‘ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนมีความสุข แค่เพียงเพราะจะได้กินเบอร์เกอร์เท่านั้น’ คริสเตียนยิ้มให้เธออย่างอบอุ่น
“ขอบคุณมากนะคะ คุณฮิลล์... เอ่อ…ฉันหมายถึง คริสเตียน” เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า
เขาชอบเวลาที่ชื่อของเขาถูกเรียกออกมาจากปากเธอ เพราะน้ำเสียงของเธอช่างอ่อนโยนและมีเสน่ห์
“กินสิ” เขาพูดพลางชี้ไปที่เบอร์เกอร์
เธอก็พยักหน้าและเริ่มที่จะกัดเบอร์เกอร์ทานอย่างช้าๆ ด้วยท่าทางที่ดูมีความสุข เธอนั่งอยู่บนโซฟาของเขา พลางพิงหลังลงกับเบาะนุ่ม และถือเบอร์เกอร์ด้วยมือทั้งสองข้าง
หลังจากกัดไปสองสามคำ เธอก็มองมาทางเขาด้วยแก้มป่องๆ ที่มีซอสติดเลอะทั่วแก้มซ้าย รวมถึงนิ้วของเธอ อีกด้วย
เขาจึงยืนขึ้นและเดินมาหาเธอช้าๆ เพื่อไม่ให้เธอตกใจ ก่อนจะจัดการเช็ดซอสออกจากแก้มให้เธอด้วยทิชชู แล้วกลับไปนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง คาร่าจึงฉีกยิ้มให้เขาพร้อมลักยิ้มทั้งสองข้าง ทำให้คริสเตียนตาพร่าไปชั่วขณะ
“แล้วคุณไม่ทานหรือคะ? โอ้… ไม่นะ ดูอาหารของคุณสิ มันเริ่มเย็นหมดแล้ว ฉันควรจะเอาไปอุ่นให้คุณดีไหมคะ?” หญิงสาวถามพลางกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา
‘ฉันไม่หิวเลยกระต่ายน้อย ฉันชอบมองเธอที่กำลังเพลิดเพลินกับอาหารของเธอมากกว่า’ คริสเตียนไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีเวลามานั่งทำอะไรที่ไร้สาระแบบนี้
“อาหารนี่... ไม่เป็นไรหรอก ฉันกินมันได้” เขายืนยันกับเธอและเริ่มทานอาหารที่เธอนำมาให้
ซึ่งพอทานคำแรกเข้าไปอย่างช้าๆ เขาก็เอ่ยชมว่าเธอเก่งมากที่สามารถทำอาหารให้เขาทานได้
ด้านคาร่าเมื่อทานเบอร์เกอร์เสร็จแล้ว เธอก็รู้สึกอิ่มและง่วงนอนมาก เพราะปกติเธอจะชอบนอนเร็ว แต่ตอนนี้ดูเวลาเกือบจะสี่ทุ่มแล้ว
“ฉันควรกลับบ้านของเราได้แล้ว ฉันมากวนเวลาทำงานของคุณนานแล้วด้วย... แล้วคืนนี้คุณจะกลับไปนอนที่บ้านหรือเปล่าคะ”
มันเป็นบ้านของเขาเอง และเขาก็อยู่ที่นั่นด้วย แต่คริสเตียนไม่ได้วางแผนที่จะกลับไปที่นั่นในเร็วๆ นี้ แต่เพราะเขาได้ยินเธอเรียกมันว่าบ้านหลายครั้งมาก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจว่าจะกลับไปนอนที่ ‘บ้าน’ กับเธอ ด้วยรู้สึกอบอุ่นที่ได้ยินเธอเรียกมันว่า ‘บ้านของเรา’
“เธอรอฉันสักครู่ได้ไหม เราจะได้กลับบ้านพร้อมกัน” เขาถามเธอขึ้นมาหลังจากตัดสินใจได้แล้ว
ซึ่งปกติเขามักไม่ถามใคร แต่จะสั่งทุกอย่างที่เขาอยากทำ หรืออยากได้ตามความต้องการของตัวเอง ทว่ากับคาร่า เขาไม่อยากจะใช้น้ำเสียงเป็นเชิงออกสั่งกับเธอ เขาจึงลดเสียงลงให้ฟังดูอ่อนโยน และยังแฝงด้วยความอบอุ่น อย่างที่ไม่เคยใช้กับใครมาก่อน
เพราะเธอมีความหมายกับเขาอย่างมาก เธอทำให้เขาอ่อนโยนลงด้วยทุกอย่างที่เธอทำ เขาเลยเสนอทางเลือกให้เธอ แต่ลึกๆ เขาก็รู้ว่าเธอจะอยู่ที่นี่กับเขา
“ไม่เป็นไร คุณทำงานให้เสร็จเถอะ ฉันจะรอ” เธอพูดพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น
คริสเตียนยุ่งกับงานจนลืมเวลา และเขาลืมไปเลยว่าในห้องนี้ยังมีหญิงสาวสวยอยู่บนโซฟาของเขาอีกคน เมื่อเขามองไปที่โซฟาอีกครั้งหลังจากผ่านไปสองสามชั่วโมง เขาก็เห็นเธอนอนขดตัวอยู่ เธอหันหน้ามาหาเขาโดยใช้ฝ่ามือรองใต้ศีรษะของตัวเอง เธอดูราวกับนางฟ้าที่กำลังหลับใหล
ขนตาหนายาว แก้มป่องๆ และริมฝีปากที่ดูนุ่ม เผยอออกเล็กน้อยอย่างน่ารัก ผมของเธอสยายอยู่ทุกที่ คริสเตียนจึงยกโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพของเธอไว้ เขาชอบความรู้สึกนี้จัง มันทำให้หัวใจของเขาเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ
เวลาที่มองดูเธอ มันช่วยให้เขาผ่อนคลายลงไปได้อย่างแปลกประหลาด สายตาของเขาที่ทอดมองเธอ จึงอ่อนโยนโดยไม่รู้ตัว
เขาเก็บไฟล์งานของเขาและกดปิดแล็ปท็อป ก่อนจะเดินมาที่โซฟา แล้วช้อนอุ้มเธอขึ้นสู่อ้อมแขน เธอจึงสะดุ้งเล็กน้อยในอ้อมกอดของเขา และดวงตาที่ง่วงนอนของเธอ ก็มองมาที่เขาด้วยความสับสน
“นอน” เขาปลอบเธอเบาๆ คาร่าจึงหลับตาลงทันที และเข้าสู่ภวังค์ต่อ
ฟรังโก้และบอดี้การ์ดคนอื่นๆ ที่ทำงานอยู่ในไนต์คลับ ต่างมองดูเจ้านายของพวกเขาด้วยอาการช็อก เพราะเจ้านายที่แสนเย็นชาและไม่เคยเอาใจใส่ใคร กลับโอบอุ้มหญิงสาวตัวเล็กๆ ไว้ในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอม
เจ้านายที่คอยดูแลคนอื่น... ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาคิดฝัน ว่าจะมีวันได้เห็นในชีวิตนี้ แต่ที่นี่ ณ ตอนนี้ เจ้านายของพวกเขา กำลังทำให้เห็นเป็นบุญตา
คริสเตียนใจกว้างกับลูกน้องที่ทำงานด้วยความจงรักภักดี แต่คริสเตียนจะไม่ปล่อยให้พวกเขามีชีวิตอยู่ หากพวกเขาแทงข้างหลังเขา ทำให้พวกเขาไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ของคริสเตียนได้อย่างถูกต้อง เขาปิดบังความรู้สึกอยู่เสมอ และนั่นทำให้เขาได้เปรียบคนอื่น เพราะไม่มีใครสามารถคาดเดาความคิดหรืออารมณ์ของเขาได้เลย
คริสเตียนมองไปที่ฟรังโก้ ซึ่งกำลังตกใจอยู่ ก่อนพยักหน้า ฟรังโก้ก็พยักหน้ากลับเป็นการรับทราบคำสั่ง
ดาวิเด้กับกาสปาโรจึงรีบเดินตามคริสเตียนไปทันที โดยดาวิเด้วิ่งออกไปก่อน และรีบนำรถออกมาด้านหน้า จากนั้นกาสปาโรก็เปิดประตูหลังให้เจ้านายได้พาคาร่าเข้าไป
คริสเตียนนั่งอยู่ข้างในโดยที่คาร่ายังอยู่ในอ้อมแขน เธอตัวเล็กและเบาเมื่ออยู่บนตักเขา กลิ่นหอมอ่อนหวานที่เขาได้รับจากตัวเธอทำให้เขาแอบสูดดมอีกหลายครั้ง
ตอนแรกเขาคิดว่าจะวางเธอลงบนที่นั่งด้านข้าง ทันทีที่พวกเขาเข้ามาในรถ แต่เขาก็ทำไม่ได้ เพราะเขาอยากจะดูแลเธอ และให้แน่ใจว่าเธอปลอดภัยอยู่ในอ้อมกอดเขา มืออีกข้างของเขาตบลงที่หลังของเธอเบาๆ เวลาที่รถขยับตัวเพราะเขาเกรงว่าเธอจะตื่น
ตลอดการเดินทาง คริสเตียนคอยลูบหลังลูบผมให้คาร่าด้วย
ฟรังโก้ที่มองดูกระจกส่องหลังจึงตกใจ แถมเขายังไม่เคยเห็นสายตาที่อ่อนโยนแบบนี้ของเจ้านายมาก่อน คาร่าทำให้เจ้านายของพวกเขาเปลี่ยนไปจริง ๆ
ไม่นานนักรถก็แล่นมาจอดยังหน้าคฤหาสน์ หรือ ‘บ้าน’ ที่คาร่าเรียก จากนั้นเขาก็อุ้มเธอไปที่ห้องของเธอแล้ววางเธอลงบนเตียง
ก่อนจัดการช่วยเธอถอดรองเท้าผ้าใบ และถอดกางเกงยีนออกให้ จากนั้นก็ห่มผ้าให้เธอ เธอขยับตัวไปมาหาท่าที่สบายที่สุด ไม่นานรอยยิ้มน้อยๆ ก็ผุดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
เธอมีอะไรที่ทำให้ใจของเขาอ่อนไหวเกินกว่าจะจินตนาการได้
คริสเตียนไล้แก้มเธอก่อนจะยืนขึ้น “ชู่ว… นอนซะกระต่ายน้อย” เขาพูดเบาๆ พร้อมกับจัดผ้าห่มให้เธออีกครั้ง ก่อนจะเดินกลับห้องไป