ในวันต่อมาหมอภาสกร ไปตรวจคนไข้หลังผ่าตัด เมื่อห้านาทีพยาบาลเข้ามาทำความสะอาดร่างกายให้คนไข้สาว เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ แม่บ้านก็จัดการเปลี่ยนปลอกหมอน ผ้าปูเตียงนำผ้าห่มผืนใหม่มาทดแทน รับประทานอาหารเช้าเสร็จคนไข้จึงหลับไป ยังเพลียจากยาสลบ
“คุณหนูยังไม่ตื่นเลยค่ะ” สาวใช้ที่มาเฝ้าบอกแก่หมอ
“อีกเดี๋ยวก็ตื่นครับ”
แพขนตางอนกระพือขึ้นลง คนไข้เริ่มมีสีเลือดฝาด ผลการผ่าตัดเป็นที่น่าพอใจของคณะแพทย์ เนื้อเยื่อเข้ากันได้อย่างลงตัว คนในเสื้อกาวน์เดินไปหยุดปลายเตียง หยิบแฟ้มประวัติการรักษามาอ่าน
“ขอตรวจคนไข้หน่อยนะ” เขาหันไปทางคนเฝ้าไข้
“ได้ค่ะหมอ” สาวใช้รู้หน้าที่ดีจึงเดินออกจากห้อง
หมอภาสกรมองหน้าคนบนเตียง เปลือกตากระพริบ ปรับแสรอบตัว รู้สึกไม่ชินกับบรรยากาศที่เห็น เธอกลับไปว่ากี่ชั่วโมง ภาพแรกที่เจอใบหน้าหล่อเข้มแข็ง ภายใต้เสื้อกาวน์สีขาว คนเบื่องหน้าสวมแว่นเข้ากับดวงหน้าคม
ทุกครั้งที่เธอพบกับหมอภาสกร คือความสดใส มีแต่รอยยิ้ม ในวันนี้แววตาเขาต่างไปจากทุกครั้งที่เจอกัน รู้สึกตัวเองกำลังจะละลายจากสายตาร้อนแรง เต็มเปี่ยมด้วยพลังบางอย่างที่เธออ่านไม่ออก เขาขยับเข้าใกล้คนไข้ที่เพิ่งตื่น
“สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับกลับนะ” กล่าวต้อนรับคนเพิ่งตื่น
แววตาหมอที่ส่งมายังเธอส่องแสงแวววาว ก่อนหน้านั้นหมอภาสกร ไม่เคยส่งแววตาพราวพร่างแฝงความร้อนแรงแบบนี้เลยสักครั้ง
“หมอขอตรวจหน่อยสิคะ” ภาษาเขาช่างน่ารักสุภาพ เต็มไปด้วยความนุ่มหู ผู้หญิงคนไหนก็ตาม ถ้าได้ฟังสำเนียงละมุนนุ่มของหมอ คงได้เคลิ้มขึ้นสวรรค์
เจ้าของรูปร่างสูงใหญ่โน้มใบหน้าไปหาจันทมณี เธอเอาแต่จ้องมองเขา ราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง เขาเอ่ยปากพูดว่ามาตรวจร่างกาย ทำไมไม่จับหูฟัง แต่กลับก้มหน้าลงมาหาคนป่วย ซึ่งกำลังใจหัวใจเต้นระส่ำ ไม่อาจขยับหนีความหล่อขยับเข้าใกล้ทีละนิดๆ
“หมอ !” เสียงคนที่โดนพายุความหล่อกระหน่ำ ปากสั่งเรียกเขา
“หมอ...มีอะไรหรือเปล่าคะ” ใกล้แบบนี้ร่างกายร้อนไปทั้งตัว ราวกับเป็นไข้
“ตรวจคนไข้ไงคะ” เขาตอบนิ่งๆ ฉาบทาด้วยรอยยิ้มบนดวงหน้าคมสัน
“ตรวจคนไข้ ทำไมใกล้แบบนี้ละคะ” หมอมาแปลกๆ ดวงตาหวั่นปิดลง ตรวจแบบนี้ถือเป็นการไม่ไว้ชีวิตคนป่วย
ริมฝีปากช่างสวยได้รูปพอดีจรดแต้มลงบนหน้าผาก คนนอนหลับบนเตียง สองมือขยุ้มผ้าห่มบิดแน่น การตรวจคนไข้ด้วยการจูบ ปากเขาร้อนยิ่งกว่าเปลวไฟนาบลงผิว
ภายในห้องเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศ ทว่าอุณหภูมิคนไข้ร้อนผ่าว ราวกับหน้าร้อนของเมืองไทย
“หมอ...” สายตาคนไข้วิ้งๆ เท่ากับหัวใจที่กระโดดโลดเต้น หัวใจที่เคยอ่อนล้า จนไร้คลื่นขยับสูบฉีดเลือดไหลเวียน
“คนไข้หายแล้ว อีกไม่กี่วัน ก็น่าจะกลับบ้านได้ ไว้เดี๋ยว...” เขาหยุดประโยค เปลี่ยนมาส่งประกายดวงวาบไปทางหญิงสาว
“หมอตรวจคนไข้ แบบนี้ทุกคนเหรอคะ” เอ่ยถามก็มีแต่ความเขินจนพวงแก้มแดงก่ำ
“หมอเคยตรวจแค่คนเดียวครับ” แล้วแววตาเขาก็ฉ่ำหวานเอามากๆ
ในยุคที่หญิงชายแสดงออกต่อกันได้เสมอภาค ต่อให้เป็นอย่างนั้นจันทมณีก็เขินอยู่ดี หมอภาสกรเอาแต่จ้องคนไข้ไม่วางตา จะตรวจคนไข้อีกครั้ง สายตาเลื่อนเป้าหมายมายังริมฝีปากนุ่ม ระบายยิ้มให้กับคนแก้มแดง หัวใจนมลสามารถเข้ากับร่างกายใหม่ได้ดีมาก ผลข้างเคียงยังไม่มีเลย
“เดี๋ยวก่อนหมอ” ยกมือป้องหน้าหมอกำลังโน้มเข้าหาเธอ จันทมณีพ่ายแพ้ต่อความนุ่มนวล เข้มแข็ง และมีเสน่ห์ในความนุ่มนวลในคราวเดียวจากหมอหนุ่มเอามากๆ
“อย่ารบกวนเวลาหมอตรวจคนไข้นะคะ ถ้าคนไข้ดื้อหมอจะก็ตรวจไม่เสร็จ” หมอส่งเสียงทุ้มหล่อมาก ต่อว่าคนไข้ที่เอาแต่จ้องหมอ
“หมอต้องใช้หูฟังตรวจสิคะ ไม่ใช่ใช้...ปากจูบคนไข้” จันทมณีจับหูฟังสำหรับตรวจคนไข้คล้องอยู่ที่คอหมอตัวใหญ่ การจับพลอยทำให้สั่นเทา ถ้านี่คือความฝันจัดได้ว่าฝันดีมาก ดีจนไม่อยากตื่น แต่ถ้าทั้งหมดคือความจริง สุดๆ กับคำว่าฟิน จนพูดไม่ออก ตัวร้อนแดงซ่านไปหมดแล้วในเวลานี้
“ของแบบนี้ใช้ตรวจคนไข้ทั่วไป สำหรับคนไข้วีไอพีต้องตรวจด้วยวิธีนี้เท่านั้น” จับมือคนไข้ ริมฝีปาก โดนแตะจากปากร้อน เต็มไปด้วยแรงดึงดูดราวกับโดนมนตร์เสน่ห์
พอตื่นลืมตาในตอนบ่ายของวันนี้ หน้าหมอที่มีชื่อติดหน้าอกนายแพทย์ภาสกร หัวใจจันทมณีพลันเต้นรุนแรง เพียงแค่เห็นหน้าหมอเป็นคนแรกเมื่อลืมตา ราวกับเธอรอคอยเขาอยู่ทุกวันเวลา
ร่างกายตื่นเต้นและหดเกร็ง ดื่มด่ำรสชาติจุมพิต จูบอย่างกับต้องการต้อนรับการกลับมา คล้ายการขอโทษปลอบประโลมไปในที
ปากร้อนผ่าวชุ่มชื้นจากการถูกบดขยี้ ระคนอ่อนหวานมากับความร้อนแรง สร้างความตื่นเต้นให้กับเธออย่างไร้ขีดจำกัด
“ขอต้อนรับกลับบ้านนะคะคนดี” เขากล่าวราวกับเธอ ไปเที่ยวเพิ่งกลับบ้าน
“หมอ !” คนไข้สาวปั้นหน้าไม่ถูก แก้มซับสีไปด้วยเลือด
“ไม่เจ็บหน้าอก ไม่วูบใช่ไหมคะ” หมอถามเสียงหวาน เหมือนคนพิเศษเป็นห่วง
“วูบค่ะ” วูบจากการตรวจของหมอเมื่อกี้ เกือบจะไม่รอดชีวิตอยู่แล้ว
“วะ...ว่าไงนะ” เขาตกใจ เกรงการผ่าตัดผิดพลาด เขาไม่อยากสูญเสียเธอไปอีกรอบ เขารับไม่ได้ถ้าเธอจะอยู่ในร่างนี้แบบไม่มีความสุข
“วูบวาบไปทั่วปากเลยค่ะ” หญิงสาวตอบ พร้อมกับยิ้มเอียงอาย ยกนิ้วลูบริมฝีปากที่ยังคงรู้สึกร้อนผ่าว ราวกับว่าหมอยังจูบเธออยู่เลย
หมอลูกครึ่งระบายยิ้มอบอุ่น มองหญิงสาวมีแต่ความรู้สึกผูกพัน ต้อการแก้ตัวในการปกป้องเธอนับจากวินาทีนี้เขาจะชดเชยในสิ่งที่ทำพลาดไป ความรู้สึกผิดโอบล้อมในหัวใจหมอ ผลตรวจจัดได้ว่าน่าพอใจ หัวใจนมลแข็งแรงเข้ากันร่างกายจันทมณีเต็มร้อย
“สองวันถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด คุณเมนีคงกลับบ้านได้ ดีใจไหมครับจะได้กลับบ้านแล้ว”
“ไม่อยากกลับเลยค่ะ ถ้ากลับหมอจะแวะไปเยี่ยมเมนีไหมคะ” หญิงสาวอยากได้ยินคดำตอบแบบไหนกันแน่ ถ้าเขาบอกไม่ ผมไม่มีเวลาว่างเธอก็คงหน้าแตกยับ
“เมนีอยากให้หมอไปไหมคะ” เขาถามหยั่งเชิง
“ไม่รู้สิคะ แล้วแต่หมอ ถ้าหมอพอมีเวลาว่างแวะไปเยี่ยมเมนีบ้างก็ได้ค่ะ”
“หมอสัญญาจะแวะไปเยี่ยมเมนีแน่ๆ ตอนนี้หมอขอไปตรวจคนไข้คนอื่นก่อนนะคะคนดีของหมอ” เขาระบายยิ้มพร้อมกับผละห่างออกจากข้างเตียงคนไข้คนพิเศษ มีสายตาอาวรณ์เสียดายตามหลังชายหนุ่มในชุดกาวน์ไป
“หวังว่าหมอจะไม่ตรวจคนไข้คนอื่นแบบเมื่อกี้นะคะ” เธอหวงหมอรู้สึกว่าเขากับเธอผูกพันกัน
“ผมตรวจแค่คนไข้คนนี้เท่านั้น”
ใจจันทมณีฟูยิ่งกว่าขนมถ้วยฟู เขาทิ้งรอยยิ้มหวานฉ่ำไว้ให้เธอ ยิ้มจากหมออุ่นซ่านทั่วหัวใจ หัวใจรู้สึกเหมือนไม่ใช่ตัวเอง
คนไข้แก้มแดงหัวใจเต้นแรง โบกมือส่งหมอมีแต่ความรู้สึกอาลัย พวงแก้มร้อนผ่าวเมื่อหมอหันมายักคิ้ว
“ทำไมฉันรู้สึกผูกพันกับหมอ อย่างกับรู้สึกมานาน” หญิงสาวคุยกับตัวเอง
“คุณหนูว่ายังไงนะคะ พูดกับนุชหรือเปล่าคะ” สาวใช้เดินเข้ามาในห้อง หลังจากหมอตรวจเสร็จแล้ว
“เปล่า นุชมาก็ดีแล้วพาฉันเข้าห้องน้ำทีสิ” จันทมณีเปลี่ยนเรื่อง
“จริงหรือคะ คุณหนูจะเข้าห้องน้ำ” เป็นเรื่องน่ายินดีมากทีเดียว
“แค่จะเข้าห้องน้ำ ทำไมต้องดีใจขนาดนั้นละนุช”
“ปวดหนักหรือปวดเบาละคะ” หมอบอกว่าถ้าคุณหนูอยากเข้าห้องน้ำ แสดงว่าร่างกายเข้าสู้สภาวะปกติ นี่ก็เท่ากับว่าคุณหนูกำลังจะหายป่วย
“ปวดเบามั้ง ไม่รู้สิก็มันปวด” สำคัญด้วหรือว่าเบาว่าหนัก
“คุณหนูกำลังจะหาย นุชดีใจจังเลยค่ะ ต้องบอกข่าวดีแก่คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง” นุชกระตือรือร้นหน้าชื่นตาบาน นุชเป็นสาวใช้ข้างกายจันทมณี หล่อนอดทนดูแลเจ้านายด้วยดีเสมอมา ไม่บ่น ไม่พูดมาก ไม่นินทานายไม่ยอมให้ใครทำร้ายเจ้านายของตัวเอง ดังนั้นจันทมณีจึงรักและเมตตาต่อนุชมากกว่าสาวใช้คนอื่นๆ
“ทำตื่นเต้นไปได้นะนุช” ว่าสาวใช้ตื่นเต้นเกินเหตุ ทว่าตัวเธอเองกลับมีอาการตื่นเต้นมากกว่าในตอน โดนจู่โจมจูบจากหมอ จันทมณีตกอยู่ในอาการเพ้อฝัน ดวงหน้าคล้ายยิ้มหรือไม่ยิ้มในเวลาเดียวกัน ได้แต่เก็บอาการดีใจซ่อนไว้ลึกๆ
“ดูคุณหนูไม่มีไข้แต่ทำไมหน้าแดง ตัวร้อนจัง”
“ฉันนี่เหรอตัวร้อน” ไม่เห็นจะรู้สึกแบบนั้น
“หน้าคุณหนูแดงเหมือนคนมีไข้” จากเมื่อก่นหน้าซีดเซียว อย่างน่าเป็นห่วง เกรงจันทมณีอาจจะไม่รอด ทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย หวั่นวิตกอาการโรคหัวใจกำเริบของลูกสาวมาก
สาวใช้ผู้ดีใจมากนี่เป็นเรื่องน่ายินดีที่สุด เต็มใจพยุงพาจันทมณีเข้าห้องน้ำ ตื่นเต้นอยากโทรแจ้งคุณผู้หญิงรับทราบข่าวดี นุชสังเกตสีหน้าคุณหนู ระบายไปด้วยมีเลือด นับว่าเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยม เชื่อว่าคุณหนูของนุชหายจากโรคร้าย