เอไลจาห์ Talk:
เมดิลีนมาทำงานที่บริษัทเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว เราได้ร่วมมือกันต่อสู้ทำงานอย่างหนักเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยกัน พวกเราสามคนเป็นทีมที่สมบูรณ์แบบจริง ๆ ผมไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว เธอเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่ทำงานเก่งและกระตือรือร้นมาก
เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่เมดิลีนสามารถทำงานร่วมกับโจนาธานได้อย่างไม่มีปัญหา เธอเป็นผู้หญิงอ่อนหวาน ฉลาด เรียนรู้งานได้เร็ว เป็นอาวุธที่ทรงประสิทธิภาพเมื่อมาร่วมทีมกับเรา เราไม่ต้องกังวลเรื่องดึงดูดนักลงทุนและลูกค้ารายใหม่หรือรักษาลูกค้ารายเก่าที่เป็นคู่ค้ากันมาอย่างยาวนานให้อยู่กับเราอย่างภักดีอีกต่อไป
สิ่งที่เราทำคือส่งข้อเสนอและนัดประชุม จากนั้นปล่อยให้เมดิลีนเป็นคนเจรจา ทักษะการพูดของเธอเป็นมืออาชีพมาก ทุกเป้าหมายไม่อาจต้านทานเสน่ห์ของเธอได้ และตอนนี้เราได้ลูกค้ามาเพิ่มจนเป็นที่น่าพอใจของบริษัทแล้ว อีกทั้งในอนาคตก็มีแนวโน้มจะดีกว่าหลายปีที่ผ่านมา
ผมเหลือบมองไปที่นาฬิกาซึ่งส่งสัญญาณว่าเป็นเวลาบ่ายสามโมงแล้ว จึงหยุดคิดเรื่องที่ทำให้สมาธิล่องลอย แล้วจัดเรียงเอกสารที่เซ็นเสร็จเพื่อรอให้มิคาอิมาเอาไปแจกตามแผนกต่าง ๆ
Rrr!
เสียงกรีดร้องของโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นสายเรียกเข้าจากโจนาธาน
“ไงเบบี๋!”
(“ลงมาที่เลานจ์หน่อยสิ เรากำลังเตรียมการสำหรับงานออกแบบครั้งต่อไปกันอยู่”) เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหนื่อย ๆ
“โอเคเบบี๋ ผมจะไปถึงในอีกไม่กี่นาที!” ผมตัดสายแล้วรีบเดินออกจากห้องไปที่เลานจ์
เมื่อมาถึงก็พบเมดิลีนนั่งอยู่ปลายสุดของโซฟาตรงข้ามกับโจนาธาน มีเอกสารจำนวนมากกระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะกาแฟ ผมเพิ่งสังเกตว่าวันนี้เมดิลีนอยู่ในชุดเดรสแขนสั้นสีเขียวเข้ม ยาวประมาณเข่า
ให้ตายสิ!… เธอดูสวยมากและยังร้อนแรงเหมือนทุกครั้ง!
ผมพุ่งตัวเข้าไปนั่งถัดจากโจนาธาน เขาหันมามองผมก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบ ผมตัวแข็งไปหนึ่งวินาที ก่อนที่ลิ้นร้อนจะสอดเข้ามาในปาก กลืนกินรสหวานของมินต์และโกโก้ผสมกัน ไม่รู้ว่าเขาเป็นสิ่งเสพติดหรือเปล่า แต่สาบานได้เลยว่าผมจะตายเพื่อเขา
ผมได้ยินเสียงเมดิลีนถอนหายใจ หรือเธออาจกำลังอ้าปากค้างอยู่ก็ได้ ไม่แน่ใจเหมือนกันเพราะลิ้นของโจนาธานที่กำลังดูดกินผมอยู่ทำให้หูอื้อตาลายไปหมด จนไม่ได้ยินเสียงอย่างอื่นรอบกาย ความร้อนแรงเกินต้านทานนั้นส่งผลให้ผมขาดสติ
การจูบโจนาธานต่อหน้าเมดิลีนทำให้ผมมีอารมณ์มากกว่าเดิม เมื่อถอนจูบก็รู้สึกได้ว่าตอนนี้กำลังแข็งมาก บ้าจริง!… ผมควบคุมตัวเองไม่ได้เลย
“นั่นอะไร!” โจนาธานถามพลางขมวดคิ้ว
“ไม่รู้สิ! คุณแค่ดูร้อนแรงและนั่งอยู่ที่นี่กับผม ก็เลยทนไม่ได้” ผมตอบพลางยักไหล่อย่างไม่สนใจ
“คุณนี่ไม่รู้จักพอเอาเสียเลยนะ!” เขาพูดกลั้วหัวเราะเบา ๆ
“สำหรับคุณเท่านั้นเบบี๋!” ผมจูบแก้มโจนาธานแล้วเอนไปข้างหน้าโต๊ะเอกสาร ก่อนจะถามหญิงสาวตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม “มีอะไรบ้างเมดิลีน”
เธอดูเขินอายจนหน้าเป็นสีแดงระเรื่อ “ไม่มีอะไรมากค่ะท่าน เรากำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับการออกแบบคอลเลกชันใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า เราหาวัสดุที่จะใช้ในการผลิตได้แล้ว และทางโรงงานก็เริ่มผลิตแล้ว... ฉันกำลังคิดว่าครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้งเพราะเราเพิ่งรอดพ้นจากสถานการณ์ที่ยากลำบากครั้งใหญ่ คุณคิดว่าไงคะถ้าเราจะลองทำอะไรที่ดูแปลกใหม่เพื่อดึงดูดใจผู้ซื้อมากขึ้น” เมดิลีนพูดด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่ดูแปลกกว่าทุกครั้ง เธอขยับขาไปมาตลอดเวลา ชวนให้ผมนึกสงสัยว่าต้นขาเธอจะนิ่มลื่นมือไหมนะ… บ้าจริง นี่ผมกำลังคิดอะไรกับเธออยู่
“แล้วคุณคิดว่าพวกเราควรทำอะไรดี” ผมวางมือบนหัวเข่าของโจนาธาน ซึ่งเขากำลังเคร่งเครียดกับเอกสารในมือ ขณะที่เมดิลีนมองมาที่มือของผมก่อนจะกระแอม
“ฉันคิดว่าเราควรทำอะไรแบบง่าย ๆ แต่ดึงดูดลูกค้าค่ะ อาจเป็นการจัดแฟชั่นโชว์ฟรีที่ทำให้ผู้คนสนใจเข้าร่วมได้มากขึ้น เมื่อก่อนเป้าหมายและกลยุทธ์ของเรามีไว้เพื่อดึงดูดลูกค้ากระเป๋าหนักเท่านั้น แต่ถ้าเราสามารถนำเสนอให้ลูกค้าที่อยู่ชนชั้นกลางสามารถจับต้องได้ ฉันคิดว่าผลตอบรับต้องดีมากแน่ ๆ ค่ะ”
“...”
“เราจะใช้สื่อโซเชียลมีเดียเพื่อโพรโมต และทำคอลเลกชันของท่านทั้งสองขึ้นมา พวกท่านจะขึ้นเดินแบบเองเพื่อสื่อให้คนทั่วไปได้เห็นว่าสินค้าของเราสามารถเอามาใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง ๆ และฉันคิดว่าผู้คนจำนวนมากต้องอยากมาเห็นซีอีโอของ JE Martinez แน่นอนค่ะ” เธอพูดจบก็ยักไหล่เบา ๆ
“ตกลง เอาตามที่เมดิลีนพูด” เสียงของโจนาธานดังก้องอยู่ข้าง ๆ ผมขยับนิ้วสูงขึ้นไปบนต้นขาเขา จากนั้นก็เริ่มลูบไล้ไปมา
ดวงตาของเมดิลีนจ้องมองมือผมอีกครั้ง คราวนี้ริมฝีปากของเธอแยกออกจากกัน โอ้!…เกมกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!…
ผมเอนตัวไปหาโจนาธานและเลียหูเขา ทำให้กล้ามเนื้อของเขาเกร็งกะทันหัน
“ถ้าเบบี๋เห็นด้วย แล้วผมจะค้านได้อย่างไร” ผมพูดเสียงกระเส่า ท้าทายเมดิลีนในสิ่งที่เธอต้องเผชิญ เธอดูตกใจมาก แก้มนวลพลันแดงก่ำ พร้อมกับขยับตัวไปมาไม่หยุด เสียงถอนหายใจของเธอยิ่งปลุกอารมณ์มากขึ้น รู้ดีว่าเธอกำลังอึดอัดกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้า แต่มันอดรู้สึกสนุกไม่ได้เมื่อได้แกล้งเธอเล็ก ๆ น้อย ๆ
“โอเคค่ะ ฉันจะร่างแผนงานและส่งให้ท่านตรวจดูอีกครั้งนะคะ”
เธอเผลออุทานเมื่อมือผมเลื่อนสูงขึ้นมาที่หน้าขาของโจนาธาน แล้วบีบขยำเบา ๆ สลับลากไล้มือไปมา
“ได้เลยเมดิลีน เอาตามที่คุณพูดเลย” เสียงผมแหบพร่ามากกว่าเดิมพร้อมกับจ้องมองเธอ
“รับทราบค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ” เมดิลีนพูดจบก็รีบลุกออกจากเลานจ์ไปทันที
หลังจากนั้นผมก็ดึงโจนาธานให้ลุกขึ้นแล้วรีบกลับไปที่ห้องทำงานของเขา
“ผมว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นในห้องทำงานของเธอแน่” ผมรีบลากโจนาธานให้ไปที่ลิฟต์ เขาเลยหัวเราะกับท่าทางของผม
“บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจคุณจริง ๆ !”
“แต่คุณรักผม!” ผมพูดพร้อมกับเข้ามาในห้องทำงานและล็อกประตู จากนั้นก็ผลักเขาไปที่โต๊ะทำงาน