เข้ากันได้ดี #2

1410 คำ
เมดิลีน Talk: เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วที่ฉันทำงานในบริษัท JE Martinez ฉันมีความสุขและสนุกกับงานที่ได้ทำมาก ฉันทำทุกอย่างตามกิจวัตรประจำวันเมื่อมาถึงที่ทำงาน เวลา 06.45 น. เตรียมกาแฟให้บอสจอมบึ้งและวางไว้บนโต๊ะของเขาห้านาทีก่อนที่พวกเขาจะมาถึง พอถึงตอนกลางวันฉันจะโทร.ไปสั่งอาหารให้ หรือบางครั้งพวกเขาก็จะออกไปกินข้างนอก งานของฉันเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นและท้าทายมาก เนื่องจากบริษัทเรากำลังเจอวิกฤต แต่แม้ว่าหลายสิ่งอย่างจะวุ่นวาย เวลานี้กลับดูเหมือนเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น ธุรกิจเริ่มกลับมาเหมือนเดิม นักลงทุนและคู่ค้าไม่มีใครขอถอนตัวอีกต่อไป และเรายังได้ทำสัญญากับลูกค้ารายใหม่อีกด้วย เรียกว่าดีกว่าวันแรกที่ฉันเข้ามา บอสทั้งสองคนก็ยอดเยี่ยมมาก พวกเขาพาฉันไปซื้อของหลังจากวันที่ปีเตอร์มาที่บริษัทเรา โอ้ใช่ พวกเขาซื้อให้ฉันจริง ๆ ! เดาสิว่าคืออะไร มันเป็นความคิดของบอสจอมบึ้ง พวกเขาซื้อชุดจากดิไซเนอร์แบรนด์ดังให้ฉัน ถึงแม้ฉันจะปฏิเสธ แต่พวกเขาก็เกลี้ยกล่อมจนต้องยอมแพ้ในที่สุด ตอนนี้ตู้เสื้อผ้าของฉันเต็มไปด้วยรองเท้าหลายแบบ ชุดสูทสำหรับใส่มาทำงาน ชุดเซต รวมถึงเสื้อโคตกันหนาวด้วย จากนั้นพวกเขายังพาฉันไปกินอาหารเย็นอร่อย ๆ อีกด้วย สิ่งที่ตลกคือเช้าวันถัดมาตอนที่เอไลจาห์มาทำงาน เขาดูเหนื่อยมาก ไม่รู้ว่าไปทำอะไรมา มิคาอิเองก็มองหน้าบอสพร้อมขมวดคิ้ว “อย่าคิดถามอะไรผม ไปถามโจนาธานโน่น แล้วตำหนิสิ่งที่เขาทำด้วย” เอไลจาห์ชิงพูดขึ้น มิคาอิกับฉันมองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมา จากนั้นฉันก็ได้รับคำสั่งให้นำยาแก้ปวดไปให้เขาที่ห้องทำงาน ฉันสรุปเองว่าโจนาธานมีอาวุธลึกลับที่อันตรายต่อเซ็กซ์อย่างแท้จริง แล้วอดสงสัยไม่ได้ว่าพวกเขาทั้งคู่ทำอะไรกันบ้าง คิดไปคิดมาก็รู้สึกว่ากางเกงชั้นในของตัวเองเปียก ให้ตายเถอะ! ฉันคิดอะไรอยู่เนี่ย ไร้สาระที่สุด ฉันต้องหยุดความคิดนี้ เพราะคงไม่มีผู้หญิงคนไหนช่วยตัวเองในห้องทำงานของบริษัทเมื่อคิดถึงหน้าบอสหรอก… Rrr ! Rrr! เสียงกรีดร้องของโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานปลุกฉันให้ตื่นจากเรื่องฟุ้งซ่าน “มีอะไรหรือเปล่าคะท่าน” (“มาห้องทำงานของผมที!”) เอไลจาห์พูดแค่นั้นก็วางสายไป เกิดอะไรขึ้น? นี่ใช่บอสเอไลจาห์หรือเปล่า เพราะปกติคนที่พูดกับฉันแบบนี้มีแต่บอสจอมบึ้งโจนาธานเท่านั้น ฉันรีบหยิบ mini notepad พร้อมปากกาแล้วตรงไปที่ห้องทำงานของเอไลจาห์ ฉันเคาะประตู ก่อนจะเปิดเข้าไปข้างใน เห็นบอสทั้งสองดูสงบมาก โจนาธานนั่งอยู่บนโซฟาและมีแล็ปท็อปวางบนตัก ฉันเดินไปหาเอไลจาห์ “ท่านโทร.เรียกฉันมา มีอะไรหรือคะ” เอไลจาห์เงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยรอยยิ้ม เขาไม่ได้เป็นคนโทร.หาฉันก่อนหน้านี้หรอกเหรอ “ใช่ เราอยากให้คุณหยุดพักในวันนี้เพราะเป็นวันสิ้นเดือน คุณอาจมีธุระส่วนตัวที่ต้องไปทำ ส่วนเงินเดือนก็คงเข้าบัญชีคุณเรียบร้อยแล้ว” เอไลจาห์พูดพร้อมกับยิ้มให้ฉัน “ฉันคิดว่าคุณมีเรื่องฉุกเฉินเสียอีก” ฉันสับสนไปหมดแล้ว “รีแลกซ์หน่อย! ผมคงทำให้คุณตกใจสินะ ไม่มีงานอะไรเร่งด่วนหรือฉุกเฉินตอนนี้หรอก เราแค่อยากให้คุณได้หยุดพักหนึ่งวัน ไปซื้อของ ช็อปปิง หรือไปปาร์ตี้ก็ได้... ไปเถอะ” เอไลจาห์นั่งเอนหลังอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่อย่างผ่อนคลาย ฉันมองไปที่บอสอีกคน แต่เขาไม่สนใจฉัน เพราะกำลังยุ่งอยู่กับแล็ปท็อป “มันเป็นความคิดของเขา ไม่ใช่ของผม!” เอไลจาห์เอ่ยขึ้นมา ทำให้ฉันหันหน้ากลับมามองเขาพร้อมรอยยิ้มเล็ก ๆ ฉันเอ่ยขอบคุณพวกเขาเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องมา ฉันจะไปไหนดีนะ กลับห้อง!... ไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะฉันได้นัดพบตัวแทนเพื่อไปดูอะพาร์ตเมนต์ใหม่ไว้ ซึ่งอยู่ห่างจากบริษัทไปไม่ไกลนัก ราคาก็ไม่แพงมาก ตอนนี้จึงเป็นเวลาเหมาะสมที่จะไปดู ฉันรีบเดินออกจากอาคารและตรงไปยังจุดหมาย ใช้เวลาประมาณสิบห้านาทีก็เดินทางมาถึง ดูสิ ไม่ไกลเลยใช่ไหม! อะพาร์ตเมนต์มีขนาดใหญ่กว่าห้องเดิมและตกแต่งสวยงาม แถมให้ความรู้สึกอบอุ่น ฉันแทบรอเห็นห้องจริงไม่ไหว อยากย้ายออกจากห้องเล็ก ๆ นั้นเต็มที ฉันเดินตรงไปที่แผนกต้อนรับ แล้วพนักงานก็บอกให้ฉันรอสักครู่ ฉันมองสำรวจรอบ ๆ บริเวณ พบว่าพื้นเป็นกระเบื้องหินอ่อนสีขาวสีเดียวกับผนัง ประดับด้วยภาพทิวทัศน์สวยงาม สถานที่ดูสะอาดสะอ้านและมีลิฟต์อยู่มุมขวามือ ไม่นานก็มีผู้หญิงวัยกลางคน ผมบลอนด์ยาวประมาณไหล่ เดินตรงมาหาฉัน “สวัสดีตอนบ่ายค่ะ คุณเมดิลีน” เธอยื่นมือมาจับกับฉันเพื่อทักทาย “สวัสดีตอนบ่ายค่ะ คุณออร์เดน หวังว่าฉันจะไม่รบกวนคุณจนเกินไปนะคะ เพราะฉันมาเร็วกว่าที่ตกลงกันไว้” “โอ้! ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นเลย จริง ๆ แล้วฉันรอเจอคุณอยู่ค่ะ” เธอตอบพร้อมกับแตะแขนฉันอย่างสุภาพ “นั่นเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากค่ะ” “ไปดูห้องกันดีกว่าค่ะ ว่าห้องไหนที่คุณชอบและเหมาะกับรสนิยมของคุณ แล้วเราค่อยมาทำสัญญากัน” ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะนี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของฉัน “เยี่ยมเลยค่ะ!” ออร์เดนเชิญให้ฉันตามเธอเข้าไปในลิฟต์ จากนั้นเธอก็กดปุ่ม “ห้องที่ว่างจะอยู่ที่ชั้นยี่สิบ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ลองนึกภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามจากระเบียงห้องนอนของคุณสิคะ สาบานได้เลยว่าคุณจะต้องรักมัน” เธอปรบมือท่าทางมีความสุข ฉันจึงยิ้มกว้างหลังจากได้ยิน “คุณไม่รู้หรอกว่าฉันตื่นเต้นแค่ไหน” “พนันได้เลยว่าคุณจะตื่นเต้นมากกว่านี้ ไปกันเถอะค่ะ!” เธอเดินนำฉันออกไปทันทีที่ประตูลิฟต์เปิด ฉันก้าวไปตามโถงทางเดินซึ่งปูพื้นด้วยกระเบื้องหินอ่อนสีน้ำตาลตัดกับผนังสีขาว ตกแต่งด้วยโคมไฟพร้อมประติมากรรมที่สวยงามด้านข้าง เมื่อพนักงานเปิดประตูห้องลมหายใจฉันก็สะดุด เพราะห้องนี้ถูกตกแต่งเรียบร้อยแล้ว โซฟาตัวใหญ่สีกรมดูสะดวกสบาย ข้างกันมีโคมไฟสีขาว โต๊ะกาแฟสีโอ๊ก และทีวีจอแบนสีดำขนาดห้าสิบนิ้ว จากนั้นฉันก็เดินไปที่ห้องครัว พบตู้เย็นและเตาแก๊สสี่หัว รวมถึงเคาน์เตอร์ครัวที่เป็นสีขาวครีมดูสะอาดตา “เป็นอย่างไรบ้างคะ คุณชอบห้องนี้ไหม” “คุณล้อฉันเล่นใช่ไหมคะ ฉันรักที่นี่เลยละ ห้องนี้มันเกินกว่าที่ฉันจินตนาการไว้มาก!” ฉันอุทาน แล้วเดินผ่านเธอมาตามโถงทางเดินที่เป็นพรมสีครีม ทันทีที่ฉันเปิดประตูห้องนอนเข้าไปก็ต้องอ้าปากค้าง ภายในห้องนอนถูกตกแต่งไว้แล้ว มีเตียงนอนขนาดใหญ่อยู่กลางห้อง และมีห้องแต่งตัวเล็ก ๆ แยกออกไปเป็นสัดส่วน รวมถึงตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอิน ส่วนห้องน้ำมีอุปกรณ์ครบครัน มีอ่างอาบน้ำอยู่มุมซ้ายมือ ซึ่งมันสมบูรณ์แบบมาก ฉันเดินออกไปที่ระเบียงต่อ หลับตาและสูดลมหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์ของลอนดอนเข้าปอด บริเวณนี้มีเก้าอี้ไม้สองตัวพร้อมโต๊ะ มีกระถางดอกไม้หกใบที่ดอกไม้กำลังเบ่งบาน มองลงไปที่ด้านล่างเห็นผู้คนเดินสวนกันไปมา เอาละ ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่ที่นี่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม