บทที่ 1 ทะลุมิติมาในนิยาย

1651 คำ
“โอ๊ย! ทำไมปวดหัวแบบนี้ล่ะ หรือว่าฉันนอนมากเกินไป” ตันหยงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวขั้นรุนแรง ภาพในหัวฉายชัดขึ้นมาเป็นฉาก ๆ ไม่ต่างอะไรกับภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง นี่เธอตายแล้วเหรอ ไม่จริงน่า! เธอเพิ่งจะเอนหลังนอนเท่านั้นเอง ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ ที่หน้าอกเหมือนมีตัวอะไรดุ๊กดิ๊กมุดเข้ามาและพยายามงับนมของเธอ “แอ๊ ๆ” เหมือนหนูน้อยคนนี้จะอารมณ์เสีย แล้วพยายามดึงเสื้อและมุดเข้าไปจะหานมกินกลับทำไม่ได้สักที เมื่อความทรงจำมาครบแล้ว หญิงสาวร้องเสียงหลง นี่เธอหลุดเข้ามาในนิยายใช่ไหม “เดี๋ยวก่อน ฉันคือแม่ของนางร้ายเหวินฟางลี่นี่...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!” ตันหยงพูดเสียงดังจนเด็กน้อยเบ้ปากเตรียมจะร้องไห้ เพราะตกใจ “โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะลี่ลี่ของแม่ หนูหิวนมใช่ไหม มาจ้ะ มากินนมดีกว่านะ” เอาว่ะ กินก็กิน แม้ว่าจะงุนงงกันเรื่องทั้งหมด แต่ในเมื่อมาอยู่ในร่างนี้แล้ว อย่างน้อย ๆ เหวินฟางลี่ก็คือเลือดในอก ก่อนหน้านี้เธอยังเลี้ยงน้องชายมาจนโตได้เลยหลังจากที่เสียพ่อกับแม่ไป ตอนนี้เธอมีลูกเป็นของตัวเองแล้ว ทำไมจะเลี้ยงไม่ได้ เป็นไงเป็นกันว่ะ จากนั้นหญิงสาวจึงคว้าตัวเด็กน้อยมาอุ้มก่อนจะเปิดหน้าอกด้วยความเขินเล็กน้อย ลี่ลี่เองเมื่อเห็นอาหารอันโอชะอยู่ตรงหน้าจึงใช้ปากงับและดูดด้วยความเร็ว “ใจเย็นลูก ไม่มีใครแย่งนมหนูหรอก เบา ๆ แม่จั๊กจี้” ตันหยงพูดปนเสียงหัวเราะ จากนั้นสงครามระหว่างแม่กับลูกจึงจบลงและตอนนี้เด็กน้อยหลับคาอกไปแล้ว ตันหยงจึงวางร่างของลูกน้อยบนที่นอนอย่างแผ่วเบา ก่อนจะทบทวนเรื่องราวทั้งหมด ร่างนี้แซ่ตู้มีชื่อเซียงเหมยอายุยี่สิบปี แต่งงานกับสามีมาเกือบจะสองปีแล้ว เป็นลูกสาวคนสุดท้องบ้านตู้ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีเท่าไร จึงอยากจะถีบตัวเองมาเป็นคุณนายทหาร เลยวางแผนชั่วทำให้ตัวเองมามีความสัมพันธ์ทางร่างกายกับเหวินหยวนต้าชายหนุ่มหน้าตาดีรูปร่างกำยำ และที่สำคัญชายหนุ่มเป็นทหาร เธอไม่รู้หรอกว่าเหวินหยวนต้านั้นเป็นทหารอยู่ในตำแหน่งไหน หลังจากที่ทั้งสองมีความสัมพันธ์กันเพียงสามวัน ชายหนุ่มจึงรับผิดชอบการกระทำของตัวเองโดยส่งแม่สื่อมาสู่ขอเธอมาเป็นภรรยา แม้ว่าในใจจะเกิดไม่ยินยอมก็ตาม ระหว่างสามีภรรยาคู่นี้ต่างจากสามีภรรยาคู่อื่น เนื่องจากฝ่ายสามีอย่างเหวินหยวนต้ามีแต่ความเย็นชามอบให้ เพราะเขาไม่ได้รักหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาคนนี้เลย แต่งงานได้ไม่นานตู้เซียงเหมยจึงตั้งท้องลี่ลี่ขึ้นมา แม้ว่าจะไม่ได้รักใคร่ในตัวภรรยา แต่เหวินหยวนต้ากลับดูแลและใส่ใจลูกในท้องมาก หลังจากที่ชายหนุ่มกลับไปที่ค่ายทหาร เขาไม่ค่อยได้กลับบ้านแต่เพียงส่งเงินมาให้ภรรยาเพื่อบำรุงลูกน้อยในท้องทุกเดือน แต่กลายเป็นเงินที่เขาส่งมานั้นไม่เคยถึงมือภรรยาเลยสักเหมาเดียว และยิ่งเหวินหยวนต้าไม่เคยกลับมาบ้านหลังจากที่เธอเกิดลี่ลี่ ทำให้เธอยิ่งตรอมใจคิดว่าสามีนั้นรังเกียจเธอและลูก สุดท้ายจึงตรอมใจตายในที่สุด “แต่เดี๋ยวนะ ทำไมระยะเวลาตรอมใจของร่างนี้จึงห่างจากในนิยายล่ะ ในนิยายคือตรอมใจตายตอนเหวินฟางลี่อายุห้าขวบไม่ใช่เหรอ แต่นี่แม่หนูน้อยลี่ลี่เพิ่งจะเจ็ดเดือนกว่า หรือว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปหลังจากที่ฉันทะลุมิติมา โอ๊ย! มึนจ้า คนสวยมึน” ระหว่างที่กำลังทะเลาะกับตัวเองที่หน้าห้องกลับมีเสียงเคาะเรียก ทำให้หญิงสาวต้องเดินมาเปิดประตู... ก๊อก ๆ ๆ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น เมื่อเปิดออกมาจึงพบกับพี่สะใภ้ จากความทรงจำบ้านเหวินคงจะมีเพียงพี่ใหญ่เหวินและพี่สะใภ้ใหญ่ที่ดีและจริงใจกับร่างนี้ “สะใภ้รอง พี่จะมาพาลี่ลี่ไปกินนม ลี่ลี่ทำอะไรอยู่” กวนชิงอ้าย สะใภ้ใหญ่ของบ้านเหวิน มีลูกไล่เลี่ยกับร่างนี้ เลยมีน้ำนมเหลือพอที่จะป้อนหลาน เพราะตู้เซียงเหมยนั้นมักจะไม่ค่อยให้ลูก ดูดนมของตัวเอง เพราะกลัวว่าหน้าอกจะหย่อนคล้อย ตั้งแต่เกิดมาเหวินฟางลี่ หรือลี่ลี่ตัวน้อยจึงอาศัยน้ำนมของสะใภ้ใหญ่คนนี้ประทังชีวิต “ลี่ลี่หลับไปแล้วจ้ะพี่สะใภ้ ฉันให้เจ้าตัวน้อยกินนมฉันแล้ว ที่ผ่านมาต้องขอบคุณพี่มากนะ แต่หลังจากนี้ฉันไม่รบกวนแล้ว พี่เองก็มีชิงชิงต้องดูแล” ตันหยงในร่างตู้เซียงเหมยบอกด้วยรอยยิ้ม แม้เธอจะสงสัยว่าทำไมเธอยังมีน้ำนมทั้ง ๆ ที่ภาพความทรงจำ ร่างนี้แทบจะไม่เคยให้นมลูกเลย อาจจะเป็นเพราะทะลุมิติมาก็ได้ แต่กลายเป็นสะใภ้ใหญ่อย่างกวนชิงอ้ายเหมือนมีไม้ใหญ่ฟาดลงมากลางกระหม่อม นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับสะใภ้รอง หรือว่าเธอป่วยจนสมองเลอะเลือนแล้ว จากที่ไม่เคยสนใจลูกกลับกลายเป็นรักลูกขึ้นมา ยังให้ลูกน้อยกินนมจากเต้าของตัวเองอีก แล้วเรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นห่วงเธออีกล่ะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน “ถ้าอย่างนั้นพี่กลับไปดูชิงชิงก่อนนะ รับนี่ไว้ ไข่ต้มสองฟอง พี่แอบแม่สามีเอามาให้ สะใภ้รองไม่สบายอยู่พี่เลยแอบเอามา รีบกินนะ อย่าให้ใครเห็น โดยเฉพาะกับสะใภ้สาม” กวนชิงอ้ายรีบยัดไข่ต้มสองฟองใส่มือของตู้เซียงเหมย จากนั้นจึงรีบเดินกลับห้องไปดูลูกตัวเองก่อนที่ใครจะมาเห็นและไปฟ้องแม่สามี ไม่อย่างนั้นเธอคงโดนด่าจนลืมบ้านเดิมอีกแน่ ตู้เซียงเหมยก้มมองไข่ต้มในมือและมองตามแผ่นหลังของพี่สะใภ้ บุญคุณครั้งนี้เธอจะจดจำไว้ เมื่อมีโอกาสเธอต้องตอบแทนแน่นอน เมื่อเดินกลับเข้าไปในห้องของตัวเองและมานั่งทบทวนเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้ง “เอ๊ะ! นี่มันกำไลหยกที่เธอได้รับมาจากยายคนหนึ่งที่เยาวราชไม่ใช่เหรอ ทำไมจึงติดมาที่ร่างนี้ด้วยล่ะ หรือว่าจะเป็นกำไลมิติเหมือนกับนิยายหลาย ๆ เรื่องที่เธออ่านมา ยายตันหยง” แม้จะเป็นนักธุรกิจมือทอง แต่ความมโนนั้นไม่มีใครเกินจริง ๆ แม้ว่าจะมโนไปเองแต่ก็ขอลองสักครั้งเถอะ จากนั้นจึงลองตั้งจิตและเพ่งเข้าไปในมิติ สิ่งที่ได้เห็นนั้นหญิงสาวต้องอุทานด้วยความตกใจ “แม่เจ้าโว้ย! นี่มันอะไรกัน” ทำไมในนี้มีทั้งคฤหาสน์ที่เธอเคยอยู่ ห้างสรรพสินค้าที่เธอเป็นเจ้าของรวมทั้งธุรกิจอื่น ๆ อีกมากมายและยังมีโรงงานของเธออยู่ในนี้ ด้วยล่ะ “นี่เธอเป็นลูกรักของสวรรค์จริง ๆ นะตันหยง ในเมื่อมีกลโกง ติดตัวมาแบบนี้ ไม่ยากที่แกจะได้รับฉายานักธุรกิจมือทองอีกครั้ง ว่าแต่ ต่อให้มีของมากมายในมิติ ถ้าแกไม่มีเงินซื้อร้านค้า แกก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เฮ้อ...ต้องหาวิธีปล่อยของออกไปและเก็บเงินสักก้อนแล้ว ถ้าเกิดฉันมีเงินเมื่อไหร่ ฉันจะขอหย่าสามีหน้าน้ำแข็งให้ดู เชื่อสิ หลัวที่ดีคือหลัวใหม่จ้า” เมื่อคิดถึงอนาคตอันเจิดจ้าของตัวเอง ตู้เซียงเหมยจึงยิ้มแป้นเหมือนคนบ้า ก่อนใช้นิ้วเกลี่ยแก้มและก้มมองลูกสาววัยเจ็ดเดือนของตัวเองด้วยความรัก “แม่คนนี้จะเปลี่ยนชะตาให้ลูกเองนะลี่ลี่ ใครไม่รักลูก แต่แม่รักหนูก็พอ เราสองคนจะฝ่าฟันและเดินหน้าไปด้วยกันนะลูกรัก ไม่สิ ยังมีครอบครัวตู้ ตาจ๋ายายจ๋าและลุงของหนูทั้งสองคนด้วย แม่จะทำให้คนอิจฉาและจะทำให้ครอบครัวตู้เป็นเศรษฐีให้ได้ คอยดูสิ แม่คนนี้สัญญา” เธอไม่รู้ว่าทำไมจึงรักเด็กน้อยคนนี้ตั้งแต่แรกเห็น อาจจะเป็นเพราะจิตใต้สำนึกส่วนลึก ๆ ของร่างนี้ด้วยล่ะมั้ง เมื่อนอนเต็มอิ่ม ลี่ลี่ตัวน้อยได้เวลาตื่น พอเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยของคนเป็นแม่เด็กน้อยจึงส่งเสียงเรียก “แอ๊ ๆ” “ตื่นแล้วเหรอคนเก่งของแม่ มาจ้ะเราเข้าไปอาบน้ำเช็ดตัวในมิติดีกว่านะ” ตู้เซียงเหมยคิดว่าพาลูกน้อยเข้ามิติตอนนี้ไม่เป็นไร พอโตกว่านี้เธอคงไม่กล้าพาเข้าเพราะเด็กมักจะไม่โกหก เธอกลัวว่าความลับของตัวเองจะเปิดเผย หลังจากสองแม่ลูกอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จแล้ว หญิงสาวจึงเอาชุดของทั้งสองคนออกมาจากห้างสรรพสินค้า ดูแบบที่เข้ากับยุคสมัยนี้มากที่สุดเพื่อไม่ให้ตัวเองนั้นผิดแปลกไปจากคนอื่นมาก “เอาล่ะ สวยแล้ว เราสองคนแม่ลูกนี่สวยเหมือนกันเลยนะ เหมาะแล้วที่จะเป็นแม่กับลูก ไปเถอะไปหาตายายกันดีกว่า”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม