ม'หาลัยS
เมื่อคืนทั้งคืนเทาเย่ต้องจมอยู่กับความรู้สึกผิด ที่ตัวเองไปปากเสียพูดกระแทกปมของหนูซัน จากเดิมที่น้องเมินหน้าเขายิ่งกว่าแมวเบื่อขนมแมวเลีย ตอนนี้กลายเป็นเกลียดขี้หน้าเขาไปเลยก็ว่าได้
ระยะทางจากเพ็นเฮ้าส์เขามาถึงมหา'ของหนูซัน มันไม่ได้ไกลกันเท่าไรเลย และเช้านี้รถก็ไม่ติดเลยสักนิด เขาใช้เวลามาที่มหา'ลัยหนูซันเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ทว่าคนตัวเล็กที่นั่งมองวิวนอกตัวรถตลอดการเดินทาง ทำให้เขารู้สึกว่ามหา'ลัยมันโคตรไกล! และใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมง! เขาอึดอัด บรรยากาศรอบตัวมันอึมครึมไปหมด ทุกอย่างเกิดขึ้นเพียงเพราะ…ใบหน้าคนสวยขาของหนูซันไม่ยิ้มให้เขาเลย
เมื่อรถยุโรปราคาแพงที่มีเพียงไม่กี่คันในประเทศจอดเทียบบันไดหน้าตึกคณะบริหาร หนูซันที่อยู่ในชุดนักศึกษาก็รีบเปิดประตูลงมาทันทีด้วยความรีบร้อน แม้แต่เทาเย่ที่ตั้งใจจะรั้งแขนเรียวเอาไว้ก็คว้าไว้ไม่ทัน
“จะกี่ปีกูก็ไม่เคยชินกับรถราคาแพงๆที่มาคอยรับส่งมึงเลย ยิ่งวันนี้ยิ่งโคตรอลังการอะ” ทีมพูดบอกคนที่เพิ่งเดินลงมาจากรถราคาแพง ปกติหนูซันเพื่อนตัวเล็กของเขาก็โดยสารรถราคาแพงหูฉี่มาตลอดอยู่แล้ว แต่วันนี้มันแพงและโคตรโอเวอร์กว่าทุกครั้งน่ะสิ! สมแล้วที่เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของท่านพิษณุผู้ทรงอิทธิพลด้านการคมนาคม
“มันก็ต้องอลังการดิ กูไม่ได้มาแค่คนเดียว”
หนูซันพูดยังไม่ทันจะจบประโยคด้วยซ้ำ คนที่เพิ่งเคยมาส่งเขาที่มหา'ลัยเป็นครั้งแรก ก็รีบเปิดประตูเดินตามเขามาติดๆ ทีมที่ได้เห็นใบหน้าหล่อของคนจอมเจ้าชู้ก็รีบยกมือไหว้ทำความเคารพ
“เย็นนี้เฮียจะมารับนะคะ ส่วนกระเป๋าเฮียให้แม่บ้านจัดให้หนูซันแล้ว เลิกเรียนแล้วเราจะไปกันเลย”
“.....”
“จะไม่พูดใช่ไหมคะ ได้ค่ะ เฮียจะไม่บังคับ หนูซันไม่อยากพูดเฮียก็ไม่ว่าอะไร เดี๋ยวเฮียไปทำงานก่อนนะคะ”
เทาเย่ทำแสร้งทำเป็นยอม ไม่บังคับหรือพยายามให้คนตัวสูงน้อยกว่าอกยอมหันหน้ามาคุย แต่กลับเลือกยื่นโครงหน้าได้รูปและจมูกโด่งจัด ก้มลงไปหอมแก้มนุ่มนิ่มฟอดใหญ่ เสียงสูดลมหายใจเต็มปอดเมื่อครู่ส่งผลให้หนูซันตลึงงันไปชั่วครู่
ฟอดด!!
“เฮีย!!”
“เรียกทำไมคะ อยากหอมเฮียคืนเหรอ” คนพี่พูดพร้อมกับเลิกคิ้วถาม ก่อนจะเดินกลับไปยังรถของตัวเอง “แล้วเย็นนี้เจอกันนะคะ”
“เฮียเทาเขาไปโดนอะไรมาอะ ปกติเขาไม่เคยมาส่งมารับมึงหนิ แล้วนี่มึงจะเก็บกระเป๋าไปไหนกัน ซ้อมฮันนีมูนเหรอ” ทีมรีบยิงคำถามด้วยความสงสัยร้อยล้านแปดในหัว
“ซ้อมอะไรละ เขาไล่ให้กูกลับบ้าน”
“บ้าบอ! สายตาหวานหยดย้อยเมื่อกี้มันไม่ได้สื่อว่าอยากไล่มึงเลยนะ แต่จะว่าไปมึงก็ไม่ได้กลับคฤหาสน์กิตติกูลนานแล้วนะ ถือซะว่าได้ใช้เวลาทบทวนความรู้สึกตัวเองไง ว่าจะหยุดจริงๆหรือแค่นอยที่เฮียเทายังเจ้าชู้ไม่เลิก”
“….” พอได้ยินคำพูดเสียดแทงความรู้สึกลึกๆในใจหนูซันก็นิ่งเงียบ
“เห็นไหมละ ลึกๆในใจของมึงอะก็ยังอยากแต่งกับเฮียเทาอยู่ มึงอะไม่ยอมยกเฮียเทาให้ใครหรอกกูรู้”
“ไม่อะ กูพอแล้วจริงๆ” คนตัวเล็กส่ายหน้ายืนยันคำตอบ ว่าเขาไม่เอาแล้ว ไม่แต่งกับเฮียเทาเป็นที่แน่นอน “มึงให้เวลากูหน่อยไม่ได้เหรอไงวะ จะให้กูตัดใจทันทีมันก็ยากไปหน่อยไหม กูรักของกูมาตั้ง6ปีนะ ขนาดมึงไม่ได้รักอาโปมึงยังยอมอยู่กับน้องมันเลย”
“กูไม่ได้อยากยอม!” ทีมปฏิเสธเสียงแข็งทันที “ถ้ากูไม่อยู่มันก็เป่าหัวกูดิ มึงก็รู้ว่าอาโปมันผีเข้าผีออกขนาดไหน สมกับเป็นน้องไอ้อิ้งฉิบหาย อยากได้อะไรก็ต้องได้ อยากทำอะไรใครก็ห้ามไม่ฟังแม่ง!...”
“ห้ามไม่ฟังหรือมึงเรียกร้องขอเพิ่มกันแน่ รอยที่มือเนี่ยชัดเชียวน้าาา”
คนถูกแซวหลุบตามองต่ำตามสายตาของคนตรงหน้า ก่อนจะรีบขยับข้อมือหนีไปไว้ด้านหลัง หลบซ่อนรอยแดงและรอยถลอกจากกุญแจมือตำรวจที่อาโปใช้พันธนาการตัวเขาไว้เมื่อคืน ไอ้เด็กบ้า! เขาก็บอกแล้วไงว่ามันจะมีรอย ห้ามก็ไม่ฟัง แถมยังทำท่าจะเอาโซ่มาล่ามเขาไว้อีก ถ้าหากเขาไม่ยินยอม
“มึงไม่ต้องมาแซว ถ้ามึงมาเจอกุญแจตำรวจล็อกข้อมือแบบกูมึงจะรู้สึก”
.
ซัน ดัสกร กิตติกูล อยากให้วันหนึ่งมี40ชั่วโมง เขาจะได้เลื่อนระยะเวลาที่จะต้องเจอหน้าเฮียเทา ให้มันห่างไปกว่านี้อีกหลายชั่วโมง ไม่ใช่เรียนแค่ไม่กี่วิชาก็ถึงตอนเย็น ที่เขาต้องนั่งรถกลับบ้านกับเฮียเทาแบบนี้ ทว่าทุกอย่างกลับไม่ใช่อย่างที่หนูซันคิด เฮียเทาไม่ได้มารับเขาอย่างที่บอก เจ้าตัวส่งคนขับรถมารับเขาแล้วให้พาไปส่งยังคฤหาสน์กิตติกูลที่อยู่ใจกลางเมืองเพียงลำพัง
@คฤหาสน์กิตติกูล
หนูซันจำไม่ค่อยได้แล้วว่าเขาไม่ได้กลับมาที่บ้านตัวเองนานแค่ไหนแล้ว 1ปี 2ปี หรือตั้งแต่เขาเกิดอุบัติเหตุวันนั้นกันแน่นะ แต่ที่แน่ๆทุกอย่างที่นี่ยังคงเหมือนเดิมทุกกระเบียดนิ้ว ยกเว้นก็แต่เจ้าของผู้ครอบครองคฤหาสน์หลังนี้ที่ไม่ได้อยู่ที่นี่หลายปีแล้ว คุณพ่อกับคุณแม่ของเขาต้องไปเจรจาและดีลงานสำคัญในประเทศฝั่งยุโรป จะได้คุยหรือได้เห็นหน้ากันทีก็ผ่านโทรศัพท์มือถืออย่างเดียว
ขึ้นชื่อว่าลูกชายเพียงคนเดียวของ ท่านพิษณุ กิตติกูล อำนาจและบารมีย่อมไม่ธรรมดา ทุกตำแหน่งของคฤหาสน์เต็มไปด้วยการ์ดฝีมือดีคอยยืนดูแลความปลอดภัย อย่าว่าแต่คนที่คิดร้ายจะเข้ามาเลย การ์ดแน่นหนาขนาดนี้มดเดินแทรกเข้ามาจะได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย เหล่าการ์ดชายฉกรรจ์ก้มศีรษะทำความเคารพคุณหนูของตระกูล เมื่อคนตัวเล็กก้าวขาเดินผ่านหน้า
หนูซันเดินขึ้นมาบนห้องส่วนตัวที่ถูกปล่อยร้างมานาน แต่สภาพข้าวของทุกอย่างยังสะอาด และจัดวางอยู่ในตำแหน่งเดิมไม่เคยเปลี่ยน สิ่งที่แปลกตาที่สุดที่หนูซันพบเจอในตอนนี้ คงหนีไม่พ้นกระเป๋าใบใหญ่สีแดงฉูดฉาดขนาดเท่าๆกับของเขา
“นั่นกระเป๋าใครครับ เราไม่เคยมีกระเป๋าสีนี้” หนูซันเอ่ยถามพี่แม่บ้านที่กำลังจัดเสื้อผ้าเข้าตู้ให้เขาอยู่
“ของคุณเทาเย่ค่ะคุณหนู”
“ห๊ะ!!?” คนตัวเล็กร้องตกใจ แล้วรีบเดินหนีออกมายังหน้าระเบียง จัดการเลื่อนกระจกหน้าระเบียงปิดให้สนิท ป้องกันไม่ให้คนอื่นมาได้ยินเขาคุยโทรศัพท์กับคนเจ้าชู้
ทว่าปลายสายยังไม่ทันจะได้กดรับ ร่างสูงกำยำของคนวัยกลางคนก็มายืนรอเขาที่หน้าระเบียง หนูซันจำใจต้องกดวางสายเทาเย่ทิ้ง แล้วเดินเข้าไปหาคนด้านใน พร้อมด้วยการรับไอแพดมาเปิดดูข้อมูล หนูซันเดินพร้อมกับก้มดูข้อมูลในไอแพดไปด้วยตลอดทางเดินลงมาที่ห้องรับแขก
“รูปล่าสุดนี่เมื่อไรครับ” หนูซันถามเสียงเรียบตึง ส่วนนิ้วมือเรียวก็เลื่อนดูรูปในไอแพดวนไปซ้ำๆ มันคือรูปของผู้หญิงสวยจัด 3-4 คน พร้อมกับประวัติอย่างละเอียดของพวกเธอ
“เมื่อตอนบ่ายโมงตรงครับคุณหนู คุณเทานัดเธอไปทานข้าวที่โรงแรมติดริมแม่น้ำ ก่อนจะพาไปที่คอนโดติดริมทะเลสาป”
เมื่อได้ยินคำกล่าวรายงานริมฝีปากบางก็อดเหยียดยิ้มสงสารตัวเองไม่ได้ ที่เฮียเทาไม่มารับเขาเป็นเพราะไปกับเธอคนนี้สินะ พาผู้หญิงไปขึ้นคอนโดเองหรอกเหรอ ถึงได้อยากให้เขากลับมาอยู่บ้านนักหนาแบบนี้
“คุณหนูจะให้ผมทำยังไงต่อไปดีครับ คนนี้คุณเทาพาไปหลายครั้งแล้วนะครับ ผมเกรงว่า…”
“ช่างเขาเถอะครับ ขอบคุณมากนะครับ เรารบกวนจัดการแบบเดิมให้ด้วย เราขอตัวก่อนนะครับ” หนูซันยกมือสั่งให้อีกฝ่ายหยุดเสนอความคิดเห็น ใบหน้าได้รูปมีรอยยิ้มมุมปากเล็กน้อยให้ดูน่ามอง ผิดกับภาวะข้างในจิตใจที่มันกำลังร้องไห้จากการกระทำแบบเดิมๆของอีกฝ่าย
นี่ขนาดเฮียเทารู้ตัวนะว่าเขาส่งให้คนคอยตามดูพฤติกรรม อีกฝ่ายก็ยังจะทำตัวมักมากไม่มีความเกรงใจกันเอาซะเลย นี่มันกี่ครั้งแล้วที่เขาต้องมารับรู้เรื่องฉาวโฉ่แบบนี้ แล้วนี่เป็นครั้งที่เท่าไรแล้ว ที่เขาต้องสั่งให้คนของตัวเองไปปิดข่าวความเจ้าชู้ของคนตัวสูง
โครม!!!!!
กระเป๋าเดินทางใบใหญ่สีแดงแสบตาถูกคนหนูของคฤหาสน์กิตติกูล ปล่อยทิ้งลงมาอย่างไม่ไยดีจากชั้น2 มานอนหมดราคาอยู่กลางทางเดินขึ้นบันได หนูซันยืนมองกระเป๋านิ่งๆ ก่อนจะประกาศกร้าวเสียงดังให้คนภายใต้การปกครองของกิตติกูลต้องทำตาม
“คืนนี้ห้ามทุกคนพูดกับเฮียเทา ห้ามเข้าไปช่วย ห้ามเข้าไปดูแลอะไรทั้งสิ้น ส่วนกระเป๋าใบนี้ปล่อยทิ้งไว้แบบนี้แหละ ห้ามขยับแม้แต่เซนเดียว”
คำสั่งของคุณหนูซันถือเป็นคำเด็ดขาดของคฤหาสน์แห่งนี้ ทุกคนที่อยู่ภายใต้การดูแลของกิตติกูลก้มหน้ารับคำสั่ง เมื่อคุณหนูผู้สูงศักดิ์เดินหายลับขึ้นไปบนชั้นสอง แม่บ้าน คนงาน และการ์ดทั้งหมดถึงค่อยแยกย้ายกันออกไปทำงานของตัวเอง
กว่าคู่หมั้นจอมเจ้าชู้จะกลับมาถึงคฤหาสน์กิตติกูลก็กินเวลาของอีกวันไปแล้ว คนกำลังเหนื่อยจากการเช็คความเรียบร้อยของในสต็อกที่ต้องนำจัดส่งในอีกไม่กี่วันรีบเดินเข้าคฤหาสน์ แต่แล้วเทาเย่ก็ต้องหยุดชะงักกลางห้องรับแขก เพราะกระเป๋าเดินทางที่มีเสื้อผ้าและของใช้ของเขา ถูกวางทิ้งระเกะระกะอยู่หน้าบันได พอเดินขึ้นมาถึงห้องหนูซันประตูก็ถูกล็อกจากด้านในอีก นี่หนูซันจะเล่นอะไรกับเขาอีกเนี่ย!(?)
“หนูซันคะ เปิดประตูให้เฮียหน่อยค่ะ”
“…..” คนตัวเล็กที่นั่งสัปหงกรีบตื่นเต็มตาเมื่อได้ยินเสียงคุ้นเคยจากด้านหลังบานประตู แต่ก็ยังไม่ส่งเสียงอะไรกลับไป นี่เขานั่งรอเฮียเทากลับบ้านจนเผลอหลับไปเลยเหรอเนี่ย…
“เฮียรู้นะคะว่าหนูยังไม่นอนน่ะ เปิดประตูให้เฮียหน่อยค่ะ เฮียเหนื่อย เฮียอยากพักผ่อน”
เสียงทุ้มแสนมีเสน่ห์ดังขึ้น แล้วตามมาด้วยเสียงเคาะประตูหนักแน่นสองสามที เทาเย่ทำแบบนี้สลับวนไปมาหลายรอบ เสียงรบกวนที่คนพี่สร้างขึ้นทำให้หนูซันไม่อาจนอนนิ่งอยู่บนเตียงได้อีกต่อไป ร่างเพรียวเดินเข้ามาใกล้บานประตู พร้อมกับตอบกลับไปด้วยเสียงดังฟังชัด
“เราไม่เปิดให้ขนาดนี้เฮียก็รู้ได้แล้วนะ ว่าเราไม่อยากให้เฮียเข้าห้องเรา เหนื่อยมากนักก็นอนหน้าห้องไปสิครับ หรือจะออกไปนอนคอนโดริมทะเลสาปของเฮียก็ตามใจ”
“หนูซันอย่ามาท้าทายเฮียนะคะ”
“เราไม่ได้ท้า เราพูดจริง ถ้าเฮียยังอยากนอนที่บ้านเราเฮียก็เลือกเอา ระหว่างนอนที่หน้าห้องกับโซฟาด้านล่างน่ะ เฮียจะนอนตรงไหน” พูดจบคนตัวบางก็สบัดตัวกลับไปนอนบนเตียงทันที ปล่อยให้คนตัวสูงยืนเครียดอยู่คนเดียวหน้าห้อง
“หนูซัน…หนูซัน..”
ปึง! ปึง! ปึง!
ไม่ว่าเทาเย่จะเคาะประตูหรือตะโกนเสียงดังขนาดไหน หนูซันก็ตอบกลับเขาด้วยความเงียบอย่างเดียว ได้! ท้าทายใครไม่ท้า มาท้า เทาเย่ ฉาง!