ตลอดบ่ายผมทำงานแบบคนไร้สมาธิและผมเกลียดที่ตัวเองไม่สามารถโฟกัสกับงานตรงหน้าได้ ยิ่งนับดาวเดินเข้าเดินออก ยกเอกสารกองโตมาให้เซ็นเรื่อย ๆ ผมยิ่งหงุดหงิดจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่
“จะเดินเข้าออกอะไรนักหนา! ฉันไม่มีสมาธิ!” นับดาวกดหัวคิ้วจนแทบจะชนกันและบอกว่าจะเข้ามาอีกทีตอนบ่ายสาม ผมจะได้กลับไปมีสมาธิตามเดิม
สุดท้ายผมก็ไม่มีสมาธิ รู้ตัวอีกทีก็ห้าโมงครึ่งแล้ว
ผมขยับตัวลุกออกไปยังประตู ปรากฏว่าโต๊ะเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ห่างจากโต๊ะของคุณสุภาพนั้นว่างเปล่า นับดาวคงจะกลับบ้านไปแล้ว ไม่ได้รอกันอย่างที่ผมสั่ง ซึ่งผมเองก็ไม่มีสิทธิ์บ่นอะไรเพราะตัวเองช้าเอง
ผมตั้งใจแล้วว่าจะเว้นระยะห่างจากนับดาว เธอยังเด็กและสมควรได้คบหากับคนรุ่นราวคราวเดียวกัน แน่นอนว่าไม่ใช่ไอ้กะล่อนก้อง แต่เป็นผู้ชายที่เหมาะกับน้อง คนที่สุขุม ใจดี เป็นผู้ใหญ่ และมีความรับผิดชอบ
ผู้ชายอย่างผม…
ผมถึงกับกลืนน้ำลายเมื่อนึกถึงดวงหน้าหวาน ๆ แค่คิดถึงหน้าของน้องนับดาว หัวใจผมก็เต้นแรงแล้ว
‘ไอ้ทอง! แกจะมาเสียคนตอนแก่ไม่ได้!’
ผมพร่ำบอกกับตัวเองอยู่อย่างนั้น ก่อนจะเก็บของลงกระเป๋า เตรียมตัวกลับบ้าน พอตรงไปถึงที่จอดรถ ผมก็เห็นนับดาวยืนรออยู่ ความตกใจทำให้ผมยกนาฬิกาขึ้นมอง ปรากฏว่าเกือบจะหกโมงเย็นแล้ว
นับดาวโบกมือลาพนักงานรักษาความปลอดภัย เธอยิ้มหวานอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน แต่จะว่าไปแล้ว ผมไม่เคยทำอะไรที่ทำให้เธอยิ้มกว้างได้เลย
“น่าจะเลยเวลามื้อเย็นของคุณแม่แล้ว”
“ดาวแจ้งคุณป้าแล้วค่ะว่าพี่ทองติดงาน คุณป้าบอกว่ารอได้ค่ะ” ผมขับรถออกจากบริษัท โดยไม่ยอมขอโทษนับดาวที่ทำให้เธอต้องรอ ใช้เวลาเกือบชั่วโมงก็มาถึงบ้าน
ปรากฏว่าคุณแม่ทานข้าวไปแล้ว
“ตาทองกินข้าวกับหนูดาวเถอะ แล้วค่อยไปส่งน้อง”
“ครับคุณแม่” คุณแม่คงเห็นว่าผมเหนื่อย เลยไม่เซ้าซี้กวนใจกันให้มากความและปล่อยให้ผมกับน้องดาวนั่งรับประทานอาหารกันเงียบ ๆ
บทสนทนาของนับดาวและผู้ชายที่ชื่อก้องดังซ้ำ ๆ อยู่ในหัวของผม ทำยังไงก็สลัดไม่หลุดสักที พอกินข้าวเสร็จผมก็เดินออกไปส่งน้องกลับบ้าน ตัดสินใจแล้วว่าจะตีตัวออกหากสักพัก จนกว่าความรู้สึกสับสนวุ่นวายจะสงบลง
“พี่ทองส่งดาวตรงนี้ก็พอแล้วค่ะ เดี๋ยวดาวเรียกแท็กซี่กลับคอนโดเอง” เกือบสองทุ่มแล้ว แม่ตัวดียังอยากจะออกไปข้างนอกอีก
“ถึงบ้านแล้วจะกลับคอนโดทำไม”
“วันนี้ไม่มีคนอยู่บ้านค่ะ”
“คงจะอยากหนีเที่ยวมากกว่า เธอรีบกลับเข้าบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ” ผมออกคำสั่งเสียงเข้ม ก่อนจะลากนับดาวกลับเข้าบ้านโดยไม่รอช้า
“พี่ทองปล่อยดาวนะคะ!”
“อย่าดื้อ!”
“พี่ทองไม่มีสิทธิ์เข้ามาในบ้านดาว!”
“พูดมาก ไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนได้แล้ว ฉันจะนั่งรออยู่ตรงนี้จนกว่าเธอจะหายดื้อ!”
“พี่ทอง…” ผมดึงเสื้อออกนอกกางเกง ก่อนจะถือวิสาสะทิ้งตัวลงบนโซฟาในห้องรับแขก ผมไม่สนใจนับดาวที่กำลังยืนเคว้งอยู่กลางห้อง เธอพึมพำอะไรอยู่สองสามคำ ก่อนจะกลับเข้าห้องนอนไปอาบน้ำตามคำสั่งของบอสใจร้ายอย่างผม
พอได้อยู่ตามลำพัง ผมก็หัวเราะให้กับความปัญญาอ่อนของตัวเอง นับดาวอาบน้ำอยู่ข้างบน ผมนั่งโง่อยู่ข้างล่าง พลางจินตนาการว่าสาวน้อยกำลังอาบน้ำท่าไหนอยู่บ้าง
สมองของผมวาดภาพหวามจนเบื้องล่างแข็งขึ้นมา
“พี่ทองคะ…”
นับดาวกลับลงมายืนอยู่ข้างล่างตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบได้ เนื้อตัวของเธอหอมน่ากิน และพอผมหัวกลับไปมอง หัวใจไร้ความรู้สึกของผมก็พลันรู้สึกอะไรต่อมิอะไรขึ้นมา
นับดาวสวมเสื้อคลุมสีขาวด้านนอกและสวมชุดนอนลูกไม้สีเดียวกัน เธอดูเซ็กซี่จนผมหายใจลำบาก แต่สิ่งที่ทำให้ผมหายใจไม่ออกคือดวงตาแดงก่ำของสาวน้อยหน้าหวาน
“พี่ทองให้ดาวกลับคอนโดเถอะนะคะ ดาวอยู่บ้านคนเดียวไม่ได้จริง ๆ” เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตา โดยที่ยังไม่ยอมมองหน้าคนใจร้ายอย่างผม
“ดาว หรือว่า…”
ผมนึกเรื่องอะไรบางอย่างออกได้ในทันที
“พี่ทองให้ดาวกลับไปนอนที่คอนโดนะคะ ดาวกลัว…”
“ไม่ต้องกลัวหรอก เดี๋ยวดาวรอพี่สักสิบห้านาทีนะ แล้วพี่จะรีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อน” ผมสั่งให้เธอล็อกบ้านให้ดี ก่อนจะวิ่งกลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัว พอคุณแม่ถามก็รีบอ้างว่ามีงานเร่ง ต้องให้นับดาวช่วยจัดการเป็นการด่วน
ผมไม่สนใจคำของแม่ที่ร้องห้าม รีบขนข้ออ้างอันได้แก่แล็ปท็อปและแฟ้มเอกสาร กลับเข้าไปในบ้านของนับดาวทันที
“พี่ทอง…” เธอยิ้มกว้างดีใจและรีบวิ่งเข้ามากอดกัน ส่วนผมรีบขอโทษที่มาช้าไปเกือบสิบนาที พร้อมกับกอดตอบและลูบหัวจนกระทั่งเธอหายตกใจ
ผมเผลอตัวจูบหน้าผากเธอไปครั้งหนึ่ง…
“ดาวไปนอนเถอะ เดี๋ยวคืนนี้พี่จะอยู่เป็นเพื่อนเอง”
ผมหมายความว่าผมจะนอนอยู่ที่โซฟา ไม่ไปไหนไกลให้เธอต้องคิดมาก
“ความจริงพี่ทองแค่อนุญาตให้ดาวกลับไปนอนที่คอนโดก็พอแล้วนะคะ” ใบหน้าของนับดาวแดงจัด เธอยังคงยืนยันคำพูดเดิม แต่ผมไม่ฟังและทิ้งตัวลงบนโซฟากว้าง ก่อนจะเริ่มสะสางงานที่คั่งค้างทันที
นับดาวชงชาลาเวนเดอร์ให้ผม จัดเตรียมนู่นนี่ให้ผมอีกหลายอย่าง ก่อนจะขอกลับขึ้นไปนอนบนชั้นสองของบ้าน โดยไม่ลืมกล่าวขอบคุณซ้ำ ๆ อีกหลายครั้ง
ราวหกปีก่อน สาวน้อยนับดาวของผมถูกขโมยขึ้นบ้าน วันนั้นคุณรุ่งทิวาไม่อยู่ ส่วนป้ามาลีก็ไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัด โชคดีที่เธออ่านหนังสือทำการบ้านอยู่จนดึกจึงรู้ว่ามีคนพยายามงัดแงะเข้ามาในบ้าน
นับดาวโทร. หาผมเป็นคนแรก ก่อนจะวิ่งไปซ่อนตัวในห้องน้ำตามที่ผมสั่ง วันนั้นผมจำได้แม่นว่าโทร. หาทั้งตำรวจและคุณแม่ แต่สุดท้ายผมกลับเป็นคนแรกที่ไปถึงบ้านของเธอ
สาวน้อยถูกมัดมือมัดเท้า ใบหน้าบวมแดงเพราะถูกตบ ผมทราบจากตำรวจในภายหลังว่าน้องถูกขโมยสองผัวเมียทำร้ายร่างกายทันทีที่ทราบว่าแอบติดต่อหาผม
พวกมันเตะนับดาวอย่างแรง หลังจากได้ยินเสียงรถตำรวจและจากไปก่อนที่ผมจะวิ่งเข้าบ้านไปหาน้องไม่ถึงห้านาที
นับดาวไม่อยากอยู่บ้านตามลำพังจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
เป็นผมที่ไม่เข้าใจนับดาว…