bc

เล่ห์รักสีทอง

book_age18+
304
ติดตาม
1K
อ่าน
จบสุข
รักต่างวัย
เจ้านาย
เศรษฐีนี
หวาน
ชายจีบหญิง
ฉลาด
เมือง
ปิ๊งรักวัยเด็ก
like
intro-logo
คำนิยม

ซีรี่ส์ Rushing into Love

เจอหน้าพี่ชายข้างบ้านทีไร…หัวใจเต้นแรงทุกที

“แต่ในรถดาวจูบพี่ก่อน พี่นึกว่าดาวอยาก…”

“นั่น… ดาวเมา” ฉันยอมรับอย่างเสียมิได้ ต่อให้ไม่ได้จูบปากอย่างที่พี่ทองทำ แต่ฉันก็หอมซอกคอเขาไปเต็มแรง แถมหลายรอบอีกต่างหาก เรียกได้ว่าเป็นฝ่ายเปิดฉากก่อนก็คงไม่ผิดนัก

“เมา… แปลว่าดาวทำเพราะเมา ไม่ได้ทำเพราะชอบพี่”

“ดาวบอกแล้วว่าไม่ได้ชอบ! ถ้าคบกับพี่ทองคนก็หาว่าดาวเป็นเด็กเสี่ยกันพอดี พี่ทองแก่กว่าดาวตั้งเยอะนะคะ!”

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทนำ หิรัณย์
เสียงไอโขลกดังแว่วออกมาจากห้องนอนที่ใหญ่ที่สุดของบ้านนันทปภากร หากคนไม่รู้ความก็คงจะรีบเดินหนีออกห่างเพราะคิดว่าหญิงชราวัยหกสิบปีเศษที่กำลังนอนซมอยู่บนเตียงกว้าง ป่วยด้วยโรคยอดฮิตที่กำลังระบาดหนัก ทว่าพอเห็นคนใช้คนสนิทที่อยู่กันมานานหลายทศวรรษ ปรนนิบัติพัดวีอยู่ข้าง ๆ ทั้งยังกระซิบกระซาบว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน บรรดาสาวใช้ต่างก็พากันส่ายหน้า เพราะทราบดีแล้วว่าอีกไม่นานต้องเกิดพายุใหญ่ในบ้านหลังงามนี้แน่ “คุณทองมาแล้วค่ะ” เสียงป้ามะลิดังขึ้น เตือนคุณแม่ของผมให้รู้ตัว ผมวางกุญแจรถคันหรูสีเทาควันบุหรี่ที่เพิ่งจะซื้อเป็นรางวัลให้กับตัวเองเมื่อสองเดือนที่แล้ว ก่อนจะค่อย ๆ หย่อนตัวนั่งลงข้างผู้หญิงที่ผมรักหมดหัวใจ รักจนยอมยกเลิกการประชุม ทั้ง ๆ ที่มั่นใจเกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์ว่าไม่จำเป็นต้องยกเลิก “คุณแม่ไม่สบายเหรอครับ” ผมยกยิ้มมุมปากทันทีที่คุณแม่ไอออกมา พร้อมทำท่าคล้ายกับปวดหัวเพิ่มด้วยอีกอย่าง ความจริงคุณแม่ของผมควรได้รางวัลตุ๊กตาทองสาขาด้านการแสดง แต่บังเอิญว่าผมเป็นหนึ่งในกรรมการ ท่านก็เลยต้องพลาดรางวัล เพราะว่าผมดูออกว่านักแสดงคนสำคัญกำลังแกล้งป่วย อาการไอเหมือนจริงจนน่าตกใจ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณแม่ใช้วิธีนี้เรียกผมกลับบ้านเพื่อคุยในเรื่องที่ผมไม่อยากคุย “ตาทอง แม่ปวดเมื่อยไปทั้งตัวตั้งแต่เช้า เหมือนจะเป็นไข้ยังไม่รู้” “ตั้งแต่เช้าเลยเหรอครับ” ผมทำท่าหนักใจ ก่อนจะหันไปบอกป้ามะลิว่าให้เตรียมรถ “จะให้แม่ไปไหนเหรอตาทอง” “ก็ไปหาหมอยังไงละครับ คุณแม่อาการแย่มาตั้งแต่เช้า ผมว่าไปให้หมอตรวจดูสักหน่อยน่าจะดี” ผมรู้ดีว่าแม่ไม่ชอบไปโรงพยาบาล แต่ในเมื่อเล่นละครมาในแนวทางนี้แล้ว ผมก็ต้องไปให้สุด แล้วหยุดที่แผนกอายุรกรรม “โธ่ ตาทอง แม่ไม่ได้เป็นอะไรมาก นอนอีกนิด มีอะไรหวาน ๆ กินให้ชื่นใจอีกหน่อยก็หายแล้ว” มาละ คำว่าชื่นใจ ถ้าผมเดาไม่ผิด คุณแม่จะต้องพยายามในเรื่องเดิม ๆ ที่ผมเองก็ให้คำตอบไปเป็นร้อยพันครั้งแล้วว่าผมยังไม่พร้อมที่จะแต่งงาน แค่แฟนยังไม่มีเวลาหา นับประสาอะไรกับการแต่งเมียเข้าบ้าน “แล้วคุณแม่อยากกินอะไรเหรอครับ ผมจะได้ออกไปซื้อมาให้” “ทองไม่ต้องลำบากหรอกลูก เดี๋ยวบ่าย ๆ น้องลูกตาล ลูกสาวคุณหญิงมรกตจะเอาขนมไทยร้านโปรดมาให้ที่บ้าน ทองอยู่กินขนมเป็นเพื่อนแม่กับน้องก่อนนะลูก” คุณหทัยรัตน์ของผม ไม่เคยย่อท้อเรื่องพวกนี้จริง ๆ “เอาเป็นว่าผมขอเบอร์ของน้องลูกตาลอะไรนั่นหน่อยได้ไหมครับ ผมจะได้โทร. ไปบอกว่าเธอว่าไม่ต้องมาแล้ว เพราะช่วงบ่ายมีประชุมที่บริษัท ผมคงไม่อยู่เป็นเหยื่อแน่ๆ  แต่ถ้าน้องอยากมาเจอแค่คุณแม่ก็แล้วไป” “หิรัณย์!” คุณแม่โกรธจนต้องเรียกชื่อจริงของผมเลยทีเดียว “แล้วคุณแม่ก็เลิกแกล้งป่วยเถอะนะครับ เดือนนี้ผมต้องเลื่อนประชุมเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องมาตั้งสามรอบแล้ว ผมกลัวว่าจะเสียงาน” ผมรีบต่อสายหาเลขา บอกว่าจะกลับเข้าไปทำงานในช่วงบ่ายเพราะคุณแม่ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว “ตาทอง อายุแกก็มากแล้ว เมื่อไหร่จะแต่งงานมีลูกสักที กลัวแม่จะมีความสุขเพราะได้หน้าหลานก่อนตายเหรอ ฮะ!” ผมอายุสามสิบห้าปี แก่เกินกว่าจะคิดเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ แล้วล่ะครับ แต่ถ้าเป็นเรื่องขาดทุนหรือกำไร นายหิรัณย์คนนี้ไม่มีทางพลาดแน่ ก็ผมนี่แหละครับที่ทำให้บริษัทยังมีกำไร ทั้ง ๆ ที่เศรษฐกิจกำลังตกต่ำเพราะสถานการณ์ไวรัสอันตรายนั่น “ผมไม่ว่างหาเมีย งานที่บริษัทยุ่งแค่ไหนคุณแม่ก็น่าจะรู้นะครับ” ผมทำหน้าที่ประธานบริษัทแทนคุณพ่อที่เสียไปตั้งแต่เมื่อเจ็ดปีก่อน เรื่องงานหนักเวลาพักผ่อนน้อยจึงไม่ใช่แค่ข้ออ้าง หากให้ผมเลือกระหว่างไปนั่งดื่มกับเพื่อน ๆ และเสียเวลาไปกับการจีบสาว ผมขอเลือกอย่างแรก “แม่ก็หาเมียให้แกอยู่นี่ไง แกจะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาจีบ ทำความรู้จักกันพอเป็นพิธีแล้วก็แต่งเลย” คุณแม่ของผมพูดง่ายอีกแล้ว “ถ้าคุณแม่ยังพูดแบบนี้อยู่ ผมไม่คุยด้วยแล้วนะครับ” “หิรัณย์! นี่แกจะทำตัวอกตัญญูกับแม่ตัวเองหรือยังไง! หรือว่าแกไปเลี้ยงต้อยเด็กเลาจน์ที่ไหนไว้!” “คุณแม่!” ผมมีไปเที่ยวบ้างตามประสาผู้ชาย แต่ก็ไม่ได้เลี้ยงใครเป็นตัวเป็นตน แต่จะว่าไปแล้ว ความคิดนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน หลอกคุณแม่ว่าผมมีคนอื่นอยู่ในใจน่าจะพอช่วยให้ท่านวางมือได้บ้าง อย่างน้อยก็จนกว่าจะจับได้ว่าไม่ใช่เรื่องจริง “นี่แกจะไปไหน กลับมาคุยกับฉันให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้นะ!” คุณแม่ลืมไปแล้วว่าตัวเองกำลังป่วย ขยับร่างพาสองขาแข็งแรง เดินตามผมมาอย่างกระฉับกระเฉง จากที่เรียกผมว่าตาทองและแทนตัวเองว่าแม่ คุณหทัยรัตน์ลืมไปหมดแล้วครับ หลังจากอดทนคุยกับคุณแม่อยู่เกือบยี่สิบนาที ผมก็ทนถูกกดดันต่อไปไม่ไหว โกหกคุณแม่ไปว่าผมมีคนที่รักอยู่แล้ว “ใครหรือตาทอง นี่ไม่ได้โกหกแม่ให้ดีใจเล่นใช่ไหม” คุณแม่ยังคงเดินตามผมมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงบริเวณที่ผมจอดรถทิ้งไว้ “ไม่ได้โกหกจริง ๆ นะครับ เอาไว้ผมพร้อมเมื่อไหร่จะพาเธอมาพบกับคุณแม่นะครับ” คุณแม่ของผมเป็นคนฉลาด ผมจึงทราบดีว่าไม่ควรเสียเวลาต่อปากต่อคำกับท่านและรีบก้าวขาออกจากบ้านให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เหมือนสวรรค์จะเข้าข้างที่ผมจะต้องมารับเคราะห์รับกรรมถูกบังคับให้แต่งงาน ทั้ง ๆ ที่ยังไม่พร้อม เพราะห่างจากโรงรถไปไม่กี่เมตร ผมเห็นเรือนร่างบอบบางปีนอยู่บริเวณกำแพง เนื้อตัวเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมด สองขาเขย่งสูงอยู่บนบันไดที่พาดอยู่อย่างหมิ่นเหม่ มือน้อย ๆ คู่นั้นพยายามจะเก็บมะม่วงลูกโตที่ยืนเข้ามาในบ้านของผม แต่จนใจว่ามันอยู่สูงจนเกินไป เธอจึงเก็บมันไม่ได้สักที และหากไม่ระวังให้มากสักหน่อย เธอคนนั้นก็คงจะต้องตกบันไดแน่ ๆ นับดาว ดาราธนกุล หรือ น้องดาว  สาวน้อยคนนี้ผมจำได้แม่น เธอเคยบอกรักผมเมื่อหลายปีก่อน เธอเพิ่งจะเรียนจบมัธยมปลายและสารภาพอย่างเขินอายว่าแอบชอบผมมานานมากแล้ว ตอนนั้นผมหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะใช้มือยีหัวเธออย่างเอ็นดู พร้อมกับบอกว่าเราสองคนอายุห่างกันมากเกินไปและเธอก็ไม่ใช่สเปกของผมด้วย ผมบอกน้องว่าชอบผู้หญิงหวาน ๆ  ส่วนเธอนั้นเป็นสาวน้อยผู้คงแก่เรียน เนิร์ดหนักจนไม่น่าสนใจ แถมยังซุ่มซ่ามจนคนระเบียบจัดอย่างผมทนมองไม่ไหว หากใครได้ยินก็คงจะคิดว่าผมเป็นคนใจร้าย แต่จริง ๆ แล้วผมแค่อยากให้เธอตัดใจจากคนที่ยังไม่พร้อมที่จะมีความรักอย่างผม มันก็เท่านั้นเอง อีกเรื่องที่สำคัญ ผมยังไม่อยากให้ใครว่าได้ว่าผมน่ะกินเด็ก น้องนับดาวอ่อนกว่าผมตั้งสิบสองปี! หลังจากที่น้องนับดาวบอกรักผมแล้วถูกปฏิเสธ เธอก็หายหน้าหายตาไปเลย ผมอดเป็นห่วงไม่ได้จึงไปถามแม่ของเธอ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านรั้วติดชิดใกล้กันมานาน ปรากฏว่าน้องนับดาวได้ทุนไปเรียนต่อที่เชียงใหม่ ทีแรกเธอก็ว่าจะไม่ไปและขอเรียนต่ออยู่ในกรุงเทพฯ แต่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนใจ ไม่อยากเรียนในกรุงเทพฯ ขึ้นมาเฉย ๆ ผมได้ยินแม่ของเธอบ่นว่าลูกสาวไม่ค่อยอยากจะกลับบ้าน บอกว่าติดอ่านหนังสือสอบ มีกิจกรรมให้ทำมากมาย ช่วงปิดภาคเรียนก็ไม่ยอมกลับและขอให้มารดาขึ้นไปเยี่ยมแทน จนกระทั่งเรียนจบแล้วก็ยังห่วงเที่ยว ขอขึ้นไปเที่ยวบนดอยกับเพื่อน ๆ อยู่เป็นเดือนกว่าจะยอมกลับมาอยู่บ้าน ไม่เจอกันตั้งสี่ปี นับดาวยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน “ว้าย!” ผมเดาไม่ผิด นับดาวซุ่มซ่ามไม่เปลี่ยนจริง ๆ พอน้องนับดาวคว้ามะม่วงลูกโตได้ก็ตกบันได แต่แทนที่จะหล่นลงไปในเขตบ้านของตัวเอง เธอกับร่วงเข้ามาในบ้านนันทปภากร และหากไม่ได้ผมที่วิ่งเข้าไปรับก็คงจะมีคนได้รับบาดเจ็บ หัวร้างข้างแตกจนต้องเรียกรถพยาบาลแล้ว นับดาวหลับตาปี๋ กอดคอผมไว้แน่น ดวงหน้าแดงก่ำบอกชัดว่าสาวน้อยตากแดดตากลมมาได้สักพักแล้ว ส่วนเสื้อผ้าเลอะเทอะ หน้าตามอมแมมนั่น ผมไม่แน่ใจว่าเธอไปทำอะไรมา “พี่ทอง...” ดวงตากลมโตของนับดาวเบิกกว้างมีประกายไหวระริก ผมไม่แน่ใจว่าเธอเจ็บตรงไหนหรือเปล่า จึงรีบหมุนซ้ายหมุนขวาตรวจดู เผื่อว่าจะมีแผลอะไรที่หลุดรอดไปจากสายตา ตอนเด็ก ๆ เธอมักจะมีแผลจากการเล่นซุกซนอยู่เสมอ ปรากฏว่าไม่มีอะไร นอกจากเศษดินเศษโคลนทั่วทั้งตัว “ตาทอง แกทำอะไรหนูดาว!” ผมโทษใครไม่ได้ เพราะสถานการณ์ในตอนนั้นชวนให้เข้าใจผิดจริง ๆ ผมถูกเนื้อต้องตัวนับดาวอยู่ คนนอกมองมาก็คงจะคิดว่าสนิทสนมกันอย่างมาก คงไม่ต้องเดาว่าคุณหทัยรัตน์ของผมจะคิดยังไง จริงสิ! นับดาวนี่แหละที่จะช่วยผมได้! ในเมื่อคุณแม่อยากได้ลูกสะใภ้นัก ผมก็จะจัดการให้ แต่จะให้เป็นแฟนจริง ๆ คงไม่ใช่ คนบ้างานอย่างผมคงทำได้เพียงการติดสินบนสาวน้อยให้มาเป็นแฟนชั่วคราวเท่านั้น “โธ่! คุณแม่ ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ ผมจะทำอะไรมันก็เรื่องของผม คุณแม่กลับไปพักผ่อนเถอะนะครับ เดี๋ยวจะไม่สบายเป็นลมเป็นแล้งไปอีก” “แกปล่อยมือหนูดาวเดี๋ยวนี้นะ ถ้าไม่งั้นฉันจะฟาดแกให้หลังลายจริง ๆ ด้วย” คุณแม่ออกคำสั่งเสียงแข็ง แต่มีหรือที่ผมจะยอมฟัง “แล้วทำไมผมต้องปล่อยมือน้องด้วยล่ะครับ” “อยากจะทำตัวเจ้าชู้ประตูดินก็ไปทำที่อื่น น้องยังเด็ก แกอย่าทำตัวรุ่มร่ามสิตาทอง!” “เรียนจบนี่ไม่เรียกว่าเด็กแล้วนะครับ ถึงเวลาเปิดตัวให้ผู้ใหญ่รู้สักทีนะนับดาวว่าเราสองคนแอบคบกันมานานแล้ว” “คะ!? พี่ทอง!” เสียงของนับดาวยังหวานใสอย่างที่ผมเคยจำได้ ผมมองเธอกดหัวคิ้วจนแทบชนกัน คงจะตกใจคำพูดของผมมาก ซึ่งมันก็น่าตกใจจริง ๆ นั่นแหละ มีอย่างที่ไหนไปหลอกผู้ใหญ่ว่าเราคบกัน “เราไม่ต้องปิดบังใครแล้วละดาว ไหน ๆ ในตอนนี้ดาวก็เรียนจบแล้ว สู้เราบอกผู้ใหญ่ไปเลยดีกว่าว่าคบหากันมาตั้งแต่เมื่อสี่ปีก่อน แต่ดาวขอเรียนให้จบแล้วค่อยเปิดตัว เพราะกลัวว่าคุณแม่จะว่า จำได้ไหมครับ” ผมจ้องมองเธอด้วยสายตากดดันที่สุดเท่าที่จะทำได้ สายตาที่พนักงานในบริษัทไม่ชอบ พอเห็นแล้วปฏิเสธอะไรไม่ค่อยได้และต้องทำตามคำสั่งอยู่เสมอ “จริงหรือหนูดาว!” เธอพยักหน้า ทว่าไม่กล้าประสานสายตากับคุณแม่ของผมที่กำลังดีใจอย่างออกนอกหน้า “ไม่นะคะ...” ผมกลัวว่าเธอจะทำแผนแตก จึงคว้าร่างนุ่มนั้นมากอด ก่อนจะหอมแก้มของเธอไปฟอดใหญ่ “ไม่ต้องปิดบังใครแล้วนะครับ... ดาวเออออตามน้ำไปก่อน เดี๋ยวพี่จะอธิบายให้ทีหลัง” ผมอาศัยจังหวะที่คุณแม่ทำท่าเหมือนจะเป็นลม รีบกระซิบข้างหูให้เธอเข้าใจ “ค่ะ คุณป้า ดาวคบกับพี่ทองมานานแล้วค่ะ...” น้องนับดาวว่านอนสอนง่ายไม่เปลี่ยนจริง ๆ

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.4K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
13.8K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.5K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.0K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
38.9K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook