ขอความโสดจงสถิตกับท่าน
“ป้าศรี เอ่อ...พี่ท็อปเขา มีแฟนหรือยัง” เด็กฝึกงานกลุ่มหนึ่งอยากทราบสถานะของใครบางคนที่อยู่ในห้องผู้บริหาร รูปร่างหน้าตาเอาเป็นว่าอปป้าชิดซ้ายก็เป็นไปได้
“รายนั้นน่ะเหรอ...” ป้าแม่บ้านยักคิ้ว ลิ่วตากำลังจะอ้าปากพูด
“โสดใช่มั้ยป้า ดูเป็นพี่ใหญ่ กันเองกับลูกน้อง”
“แต่งงานแล้วมีลูกชายหนึ่งคนชื่อออดี้ อายุ...น่าจะสี่ขวบกว่าแล้ว” สมศรีข่าวสี่มิติรายงาน
ทุกคนถอนหายใจกรอกตามองบนโดยมิได้นัดหมาย เป็นเรื่องปกติของเหล่ารุ่นน้องที่อยากจะชูป้ายไฟตามกรี๊ดกร๊าด รุ่นพี่หน้าตาดี...แต่มันจบลงด้วยความผิดหวัง เมื่ออีกฝ่ายมีสถานะไม่โสด
“แต่ว่านะน้องชายคุณท็อปแกโสดนะ ป้าน่ะเป็นคนเก่าคนแก่ของที่นี่ ตั้งแต่คุณท็อปกับคุณแท็ปมารับช่วงต่อ ป้าไม่เคยเห็นคุณแท็ปพาใครมาเที่ยวออฟฟิศนะ วัน ๆ ทำแต่งาน ไปกลับก็แต่บ้านกับที่ทำงานเนี่ยแหละ”
“พี่แท็ปที่เป็นบรรณาธิการน่ะหรอ จะว่าไป...มองผ่าน ๆ นึกว่าแฝดกับพี่ท็อป” แน่ล่ะพี่น้องห่างกันไม่กี่ปีหน้าจะละม้ายคล้ายคลึงคงไม่แปลก
“ก็เพราะขลุกอยู่แต่กับงานไงล่ะ ป้าแอบได้ยินมาว่าที่บ้านเตรียมจะจับคู่ดูตัวให้แล้ว ตามธรรมเนียมบ้านคนจีนเขาอะนะ บอกเลยไม่รอดแน่งานนี้” ว่าแล้วชายร่างสูงคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกล
“ป้าศรีครับ” เขาเรียกพลางดีดนิ้วกลางอากาศสองครั้งส่งสัญญาณบางอย่างที่รู้กันสองคน หญิงสูงวัยยิ้มกว้างพยักหน้ารับจัดแจงเทกาแฟจากเครื่องชงกาแฟ
“เอส-ซา-เปส-โซ่ กาแฟดำไม่ครีมไม่น้ำตาลตามสั่งค่ะคุณแท็ป” แม่บ้านพยายามออกเสียงเลียนสำเนียงฟังดูน่ารักไปอีกแบบ
“ขอบคุณครับป้าแล้วเมื่อกี้ชวนน้อง ๆ คุยอะไรกันน่าสนุกเชียว”
“ก็เรื่องดินฟ้าอากาศ เรื่องงาน เรื่องตีเลขหวย เรื่องทั่วไปนั่นแหละค่ะ แต่ขอบอกไว้ก่อนป้าไม่ได้คุยเรื่องคุณแท็ปทำงานจนไม่มีเวลาหาแฟนนะคะ” นั่นไง! หลุดปากจนได้
“ว้ายตายแล้ว เอ่อ...ขอโทษค่ะคุณแท๊ป ป้าไม่ได้ตั้งใจจะตอกย้ำนะคะ คือป้า...แค่เป็นห่วง” แม่บ้านสูงวัยยิ้มเจื่อนกลบเกลื่อนประเด็นที่แอบซุบซิบลับหลังเจ้านายหนุ่ม
คนโดนพาดพิงได้แต่กระพริบตาถี่ คลี่ยิ้มแห้ง ลอบถอนลมหายใจเบา ๆ อย่าถือสาแกเลยเพราะป้าสมศรีเป็นคนน่ารัก คุยเล่นคุยหยอกได้ทุกเรื่อง ทุกคนให้ฉายาแกว่า สมศรีซีเอ็นเอ็นหรือสมศรีรู้โลกรู้ นี่ถ้าขาดแกไปสักคนพื้นออฟฟิศคงไม่สะอาดเงาวับขนาดนี้และบรรยากาศการทำงานคงเงียบเหงาวังเวงชอบกล
“ไม่มีอะไรแล้ว ป้าขอตัวก่อนนะคะ” แกปิดประตูห้องทำงานที่มีชื่อเจ้าของห้องที่บานประตู
ชยันต์ เอกสิทธิ์ธนา
‘สมัยนี้โสดก็ผิด...ไม่โสดก็ผิด!’ มีแววโดนล้อยันลูกบวชแหง ๆ ไม่สิ! หาคนมาเป็นแม่ของลูกให้ได้ก่อนเถอะ
หนุ่มนักเรียนนอกผู้คว้าปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ กว่าเดินทางจะมาในวันนี้ แรกเริ่มเดิมทีก็เกิดจากโรงพิมพ์เล็ก ๆ ที่ต่างจังหวัด จนกระทั่งสุขสวัสดิ์ เอกสิทธิ์ธนา พ่อของเขาได้ต่อยอดจากกิจการโรงพิมพ์ให้เป็นสำนักพิมพ์ด้วยการบริหารจัดการที่ดีและนวนิยายรักที่เขาเป็นคนประพันธ์ได้โด่งดังเปรี้ยงป้างขึ้นมา ทั้งนี้ด้วยโอกาสและจังหวะที่ลงตัว สำนักพิมพ์เอกตราก็ถือกำเนิดขึ้น
ชยันต์และพี่ชายเติบโตมาท่ามกลางกองหนังสือนานาชนิดกับนิสัยรักการอ่าน เขาเห็นบิดานั่งก้มหน้าก้มตาปั่นต้นฉบับ ตอบจดหมายแฟนหนังสือ มีความคุ้นเคยกับขั้นตอนการผลิตหนังสือเป็นอย่างดี เขาและพี่ชายกลายเป็นมือซ้ายและมือขวาของบิดาไปโดยปริยาย ในเวลาต่อมาสุขสวัสดิ์นั่งแท่นบรรณาธิการชื่อดังควบคู่กับผู้บริหารสำนักพิมพ์ จนมันถูกส่งต่อในรุ่นลูก
ชวัลวิทย์นั่งเก้าอี้ประธานฝ่ายบริหาร ส่วนชยันต์รับหน้าที่บรรณาธิการ
ทุกคนเรียกเขาว่า‘บก. แท็ป’
ชายหนุ่มวัยสามสิบเอ็ดปีผ่อนลมหายใจเฮือกใหญ่ กดปลายนิ้วนวดวนบนขมับไล่ความตึงเครียด ผลจากการโหมงานหนักหลายวันเพื่อคัดเลือกต้นฉบับที่ดีที่สุดเพื่อให้ทันงานสัปดาห์หนังสือฯ ที่กำลังใกล้เข้ามา ทั้งตัวหนังสือยุกยิกลายตา มันน่าหงุดหงิดยิ่งนักที่ไปสะดุดเข้ากับสารพัดคำสะกดผิด ไวยากรณ์พิลึก ๆ ภาษาวิบัติ การจัดย่อหน้าที่ไม่เป็นระเบียบ รวมทั้งการเคาะวรรคที่ไม่จำเป็นและอื่น ๆ มากมาย
มาตรฐานและแนวทางที่ชัดเจน ชยันต์ต้องใช้สมาธิและความอดทนเพียงใดจึงจะคัดเลือกต้นฉบับที่เข้าตาออกมาได้
เขาเพิ่งพิจารณาต้นฉบับฉบับหนึ่งจบไปนามปากกาชื่อ ‘ศุภฤกษ์’ เนื้อหาแปลกน่าสนใจ
แต่... ตัวเอกมีพฤติกรรมสุดโต่งติดไปทางหัวรุนแรงกลาย ๆความแข็งกระด้างในอารมณ์และความรู้สึกของคนเขียน การดำเนินเรื่องน่าสนใจแต่บีบคั้นหัวใจคนอ่านพอดูและที่สำคัญ...ตอนจบที่ไม่แฮปปี้เอนดิ้งเลยแม้แต่น้อย นอกจากนี้นักเขียนผู้นี้ทำตัวลึกลับเพราะจดหมายแนะนำตัวที่เลี่ยงการแสดงเพศสภาพใช้ครับบ้าง ใช้ค่ะบ้างสลับกันในทุกการส่งมาพิจารณาในแต่ละครั้ง ชยันต์ไม่ลังเลที่จะตอบปฏิเสธ นาย-นาง-นางสาว ศุภฤกษ์รายนี้ไปเสีย
‘แปลกคน ทำไมไม่เลือกสักเพศ’
ทว่า...ณ จุด ๆ นี้ทั้งความเบลอ ความเหนื่อยล้าสะสมที่เริ่มสำแดงฤทธิ์ ชยันต์เผลอส่งอีเมล์แจ้งผลการพิจารณาออกไปในเวลา เที่ยงคืนสามสิบนาที! สงสัยต้องทำเรื่องเบิกโอทีเป็นกรณีพิเศษ
นอกเหนือจากหน้าที่การงานแล้ว ประเด็นเรื่องหัวใจเคยถูกยกขึ้นมาหารือครั้งสุดท้ายก็เมื่อสามปีที่แล้วระหว่างอาหารมื้อเย็น เนื่องจากเพิ่งเรียนจบมาจึงต้องการเรียนรู้งานเพื่อการสานต่อและแตกแขนงกิจการของครอบครัวก่อนเป็นอันดับแรก
‘แท็ปเอ๊ย! อากงกับอาม่าถามว่า แกจะมีเมียเมื่อไหร่ ป๊ากับม้าก็รออยู่นะปีนี้ก็ยี่สิบแปดแล้วใช่มั้ย’
‘เรื่องแฟนจะหาเมื่อไหร่ก็ได้ ทุกคนไม่ต้องห่วงแท็ปนะ’ สูงยาวเข่าดีอาตี๋อินเตอร์ อปป้าชิดซ้าย
‘ระวังจะท่าดีทีเหลวนะมึง’ ชวัลวิทย์หาได้ปักใจเชื่อ สมาชิกครอบครัวหัวเราะร่วนอย่างมีความสุข
หนึ่งปีให้หลังอาม่าก็ถึงคราวได้เข้าเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้โดยไม่มีโอกาสอุ้มเหลนจากจากหลานชายคนเล็ก ทว่าจวบจนนาทีนี้งานที่รัดตัวแน่นหนา ความรับผิดชอบสูงเกินจะละทิ้งมามันเบียดบังชีวิตส่วนตัว ทีนี้จะเอาเวลาที่ไหนไปตามหาหัวใจล่ะ จะดีแค่ไหนหากได้พบคนที่ถูกใจยังสามารถเดินร่วมทางเดียวกันได้...เขาไม่อาจลบคำสบประมาทของพี่ชาย
‘เนื้อคู่ฉันยังไม่เกิด’
เวลาจวนเจียนตีสอง ชยันต์ทรุดร่างสูงเบาหวิวลงบนฟูกนอนกว้าง เวลานี้เสมือนวางก้อนหินที่เรียกว่าความรับผิดชอบลงจากบ่าชั่วคราว อีกหกถึงแปดชั่วโมงหลังจากนี้...เขาก็ต้องแบกมันขึ้นหลังอีกรอบ ชยันต์ผล็อยหลับไปอย่างไม่ทันรู้ตัวทุกวินาทีในแต่ละวันถูกใช้อย่างรู้คุณค่า
วันต่อมาชยันต์สะดุ้งตื่นขึ้น...จะเรียกว่าเช้าหรือสายก็ไม่เชิงนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงตรงเข้าไปแล้ว
พระเจ้าช่วย สายยิ่งกว่าสายแล้ว!
เขาดีดตัวขึ้นจากเตียงดูดวิญญาณเข้าห้องน้ำจัดแจงทำธุระส่วนตัวให้เสร็จสรรพ วิ่งกระหืดหระหอบลงบันไดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
“ไอ้แท็ป! ไอ้แท็ปบ้านพังกันพอดีจะรีบไปไหนวะ”
“เที่ยงครึ่งแล้วสายมากแล้วนะไม่เห็นเหรอ อ้าว! เฮียไม่ไปทำงานหรือไง” ชวัลวิทย์กับลูกชายวัยซนกำลังนอนเหยียดบนเก้าอี้เอนหลังดูหนังอย่างสบายอารมณ์
“ไปทำหอกอะไร วันนี้วันเสาร์โว้ย วันหยุด”
“วันเสาร์ วันเสาร์ ออดี้ตื่นมาดูการ์ตูน อากู๋ไปทำงานวันเสาร์” หลานชายช่วยยืนยันอีกเสียง
“อ้าว! วันนี้ วันเสาร์แล้วเหรอ” ชยันต์ยืนเหรอหราในเสื้อโปโลบริษัทกับกางเกงขายาวพร้อมเข้างานพลางกลบเกลื่อนความเบลอด้วยรอยยิ้มเจื่อน
“ช่วงนี้หยุดยาวนะเสาร์ อาทิตย์ จันทร์ หยุดสามวันนะกาปฏิทินไว้ด้วย ไม่ใช่โทรตามงานไปเรื่อย เดี๋ยวได้จ่ายโอทีกันบาน”
ถ้าถูกตามงานวันหยุดเป็นใครก็เคืองด้วยกันทั้งนั้น สำหรับชวัลวิทย์เรื่องเงินเรื่องใหญ่!
“ครับผม ไอ้เฮียท๊อป!”
“พักผ่อนบ้างนะ หาแฟนได้แล้ว เดี๋ยวเจอเซียนประจำบ้านหาให้ เฮียไม่รู้ด้วยนะ” เซียนประจำบ้านหมายถึงอากงผู้บัญชาการสูงสุดของครอบครัวแทบจะชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้
“มันง่ายอย่างงั้นก็ดีสิ วัน ๆ เราทำงานไม่ได้นั่งว่างดูจอหุ้น เซ็นเอกสาร เรียกหาแต่ยอดขาย เอะอะตีกอล์ฟ!” ชยันต์ยักไหล่บ่นพึมพรำขณะสืบเท้าเลี่ยงออกมา
“บ่นไร! กรูได้ยินนะเว้ย” เกินคาดคนโดนพาดพิงหูไวกว่าที่คิดไว้
ชยันต์ขับมินิคูเปอร์คันคู่ใจมุ่งหน้าไปย่านชานเมือง จุดหมายปลายทางคือร้านหนังสือเก่าแก่ร้านใหญ่แห่งหนึ่งที่ซึ่งเขากับพี่ชายชอบแวะเวียนมาดูหนังสือออกใหม่เป็นประจำตั้งแต่เรียนชั้นมัธยม ปัจจุบันมันถูกปรับปรุงให้โอ่งอ่าง สวยงาม ทันสมัยเชิญชวนให้เหล่านักอ่านทั้งหลายเข้ามาค้นหาโลกใบเล็กที่ตนเองชื่นชอบ ท่ามกลางหนังสือนับร้อยนับพันเรียงกันเป็นกำแพงหนังสือที่สูงเกือบจรดเพดานจนอยากใช้วิชาตัวเบาปีนขึ้นไปเลยทีเดียว
ผลงานการเขียนของสุขสวัสดิ์วางเด่นเป็นสง่าที่อับดับหนึ่ง จอมใจไออสูร ถูกจัดให้เป็นนวนิยายรักที่ขายดีตลอดกาล มันถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างละครรีเมคมาแล้วหลายครั้งกับนักแสดงระดับแถวหน้าของวงการบันเทิง เขากวาตามองลำดับหนังสือขายดีอย่างสนอกสนใจเพราะมีผลงานเรื่องอื่น ๆ ของสำนักพิมพ์เอกตราติดอันดับขายดีด้วยเช่นกัน
มาแค่เดินเล่นแต่สายตาอันเฉียบคมยังไม่ลืมสำรวจตลาดในคราวเดียวกัน
‘เพราะการตลาดต้องควบคู่กับคุณภาพ’
ชายหนุ่มยืนหลังพิงเสาต้นใหญ่กลางร้านระหว่างกวาดตาอ่านตัวอักษรในมือสลับกับมองบรรยากาศรอบข้างเป็นระยะ แต่จะว่าไปหลายวันมานี้คนรอบข้างพร้อมใจทักเรื่องคู่ตุนาหงันของเขา...อย่างกะเป็นลางบอกเหตุบางอย่าง
ว่าจะพบคนที่ถูกใจ!
จนกระทั่งมีบางสิ่งดึงดูดสายตาเขา หญิงสาวเรือนผมเป็นลอนยาวสยาย เอวบางร่างน้อยคนหนึ่งคล้องตะกร้าหนังสือเดินผ่านหน้าไป หล่อนเยื้องย่างช้า ๆ มองหนังสือบนชั้นวางอย่างสนใจ ด้วยรูปร่างสะโอดสะองน่ามอง กลิ่นน้ำหอมหอมฟุ้งจากเรือนกายบอบบางในทุกอิริยาบถ
ความสูงประมาณร้อยหกสิบต้น ๆ ผิวขาวเหลือง ดวงตาโตสีเรียวยาวเหมือนเมล็ดอัลมอนด์ ม่านตาสีสนิมอ่อนรับกับแพขนตางอน สันจมูกโด่งคม เรียวปากเล็กกระจับแดงระเรื่อ โครงหน้ามนรูปไข่รับกับผมหน้าม้าสั้นเต่อครึ่งหน้าผาก
ทรงที่น้อยคนนักจะตัดแล้วรอด
ชยันต์ก็เหมือนผู้ชายทั่วไปต้องแอบชำเลืองมองสาว ๆ บ้างล่ะ หล่อนสวมเสื้อแขนยาวปักลายเก๋ไก๋เข้ากันดีกับกางเกงขาบาน หน้าท้องแบนราบกระชับบนสัดส่วนโค้งเว้าเหมือนนาฬิกาทราย สาวเจ้าจะรู้ตัวมั้ยว่ากำลังทำให้ชายคนหนึ่งหัวใจเต้นแรงแทบหลุดจากขั้วเลยทีเดียว
เขาไม่อาจละสายตาจากหล่อนได้เลย เธอคงยังไม่รู้ตัวเป็นแน่เพราะมัวแต่หันซ้ายหันขวาดูอะไรไปเรื่อย คนแอบมองก็มองเพลินเลยสิทีนี้ จะมาหาหนังสืออ่านกลายเป็นมาส่องสาวแทน
จังหวะเดียวกันนั้นเธอเงยหน้าเชยคางขึ้นมา บังเอิญดวงตาคมสวยคู่นั้นก็ประสานเข้ากับสายตาของคนแอบมองพอดี ชยันต์โปรยยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปากเป็นการทักทายแรกเริ่ม สาวผมหน้าม้าเต่อมีอาการงุนงงเล็กน้อยพลางกระพริบตาถี่เรียกสติ ก่อนจะส่งรอยยิ้มแสนเอียงอายตอบกลับพอเป็นพิธี สางเรือนผมลอนคลื่นด้วยเรียวนิ้ว เธอห่อไหล่เล็กน้อยแล้วก้มหน้าก้มตาเลือกหนังสือต่อไป ปฏิกิริยาเขินอายขโมยหัวใจ!
หนอนหนังสือสาวพราวเสน่ห์ เธอสมควรได้รับฉายานี้
นี่อย่าบอกนะว่า...ชยันต์เจอนางเอกนิยายชีวิตของตนเองเข้าแล้ว หล่อนยังคงเดินวนเวียนแถบนวนิยายรัก-โรแมนติกเงยหน้าขึ้นลงคล้ายกำลังหาสักเล่มที่หมายตา
สักพักคนร่างบางก็หยุดตรงหน้าชั้นหนังสือของสำนักพิมพ์เอกตรา เหลียวซ้ายแลขวาคล้ายต้องการความช่วยเหลือจากพนักงาน หล่อนวางตะกร้าลงบนพื้นแล้วเขย่งปลายเท้าพยายามเอื้อมมือเกือบสุดแขนเพื่อหยิบเล่มที่ต้องการ แต่มันก็อยู่สูงเกินไป!
ใครบางคนวางหนังสือในมือลงแล้วเดินจ้ำอ้าวตรงเข้ามาให้การช่วยเหลือ หลบหน่อยพระเอกมา!
“ต้องการเล่มนี้เหรอครับ!” สุ้มเสียงนุ่มลึกจากคนร่างสูงรอยยิ้มโปรยเสน่ห์
นางเอกนวนิยายเบิกตาโพลง อ้าปากค้างเล็กน้อย ตอบรับด้วยน้ำเสียงขาดช่วง “เอ่อ...อ๋อ...คือ...ชะ...ชะ...ใช่ค่ะ” หน้าสวยแดงระเรื่อเปื้อนรอยยิ้มระหว่างรับจอมใจไออสูรมาไว้ในมือ
เลือกได้ดี...นวนิยายรักโรแมนติกพาฝันเหมาะกับสาวช่างฝัน
“ขะ...ขอบคุณนะคะ...”
“ไม่เป็นไรครับ พอดีไม่เห็นพนักงานอยู่แถวนี้ แล้วคุณ...”ชยันต์จงใจลากเสียง ทว่าอีกฝ่ายดูยังไม่เข้าใจ
“คือผม...แท็ปนะครับ แล้วคุณล่ะครับ”
“อ๋อ...เอ่อ ตี้ค่ะ อินฟินิตี้...ค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ...คุณอิน...ฟิ...นิ...ตี้” ชยันต์พยายามเรียกชื่อเล่นของเธอ
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ” หญิงสาวอมยิ้มพลางดูนาฬิกาข้อมือตัวเอง “อุ๊ย! ตี้ขอตัวก่อนนะคะคุณแท็ป” เธอคล้องตะกร้าหนังสือเดินจากไป
ชยันต์แน่นิ่งดั่งต้องมนต์สะกด แข้งขาหนักอึ้งเหมือนถูกถ่วงด้วยลูกตุ้มเหล็ก หัวสมองขาวโพลนและกลิ่นน้ำหอมจากเรือนกายหล่อนยังคงหอมละมุนฟุ้งบนตำแหน่งที่เธอยืนเมื่อครู่ ทว่ากว่าจะรู้สึกตัวอีกครั้งเป้าหมายก็ไม่อยู่ในร้านเสียแล้ว ชยันต์นึกโมโหตัวเอง...ถึงขนาดหาจังหวะรู้จักชื่อได้ น่าจะลองชวนคุยต่ออีกสักหน่อยแล้วขอแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ไว้ก็ยังดี
แล้วจะไปตามหาเขาได้ที่ไหนล่ะทีนี้
อีกอย่าง... นอกจากรอบเอวคอดกิ่ว หน้าท้องแบนราบ เธอเจาะสะดือด้วย ชยันต์บอกตัวว่าไม่ได้ตั้งใจจะมองนะ...มันบังเอิญเห็นเอง!