อินฟินิตี้แต่ถ้าชื่อสั้นกว่านี้ เดี๋ยวโลกไม่จำ!

2224 คำ
ไก่ย่างชิ้นโตบนรถเข็นแผงลอยส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย พ่อค้าโบกพัดเร่งไฟกระตุกมุมปากแอบแฝงเลศนัยพลางหรี่ตามองลูกค้าสาวนัยน์ตาคม จมูกโด่งเป็นสัน ผิวขาวเนียน ไว้ผมทรงแปลก ๆ ตรงหน้า เธอกำลังมองไก่ย่างอย่างสนใจ ถ้าไม่ใช่ชาวตะวันออกกลางก็พวกยุโรปเป็นแน่ ‘ได้เวลาฟันกำไรแล้วสิ’เขานึกในใจแต่ยังไม่ทันจะอ้าปากโชว์ทักษะภาษาอังกฤษ... “อ้าว! เย็นนี้กินอะไรล่ะ” แม่ค้าแผงข้างเคียงทักทายเป็นภาษาไทย “ไก่ย่างแหละป้าหอมน่ากินเชียว ป้ากินข้าวยังล่ะ” ลูกค้าสาวก็ตอบเป็นภาษาไทย...ชัดแจ๋ว ชายวัยกลางคนสะดุ้งเฮือก ยิ้มแห้งเจื่อน ขณะหยิบไก่ใส่ถุงและคิดราคาคนไทย รอกระทั่งลูกค้าสาวที่ใบหน้าไม่ได้ละม้ายคล้ายคนไทยจากไปจนลับตา "เพิ่งมาแถวนี้ใช่มั้ยล่ะ ฉันรู้นะว่าแกคิดอะไรอยู่ ฉันเลยต้องรีบเตือนแกก่อน” “ขนาดนั้นเลยเหรอป้า” “ปากมันตระไกอย่างกะอะไรเคยมีคนคิดว่ามันเป็นฝรั่ง แล้วดั๊น...คิดราคาฝรั่งกับมัน มันยืนท้าวเอวชี้หน้าด่าไฟแลบเลยโก่งราคาทำแบบนี้ใครจะมาเที่ยวบ้านเราช่วยไม่ได้ก็ลูกครึ่งอะนะ” “ลูกครึ่งงั้นเหรอ โอ๊ะ! นึกว่าฝรั่งแท้” “จะบอกให้รู้ไว้รายนั้นน่ะเป็นเจ้าของโฮสเทลในซอยข้างหน้านั่นแหละ อยู่ย่านถนนพระอาทิตย์นี่มานานแล้ว”   ยามพลบค่ำของกรุงเทพฯ มหานครที่ไม่เคยหลับใหล เขตพระนครย่านเมืองเก่าสุดคลาสิก ป้อมพระสุเมรุอันเป็นแลนด์มาร์คสำคัญ ถนนพระอาทิตย์ยามเย็นที่อุ่นหนาฝาคั่งไปด้วยชาวไทยและเทศเดินขวักไขว่บนทางเท้า ยามราตรีก็เป็นช่วงเวลาของร้านเหล้า บรรยากาศดี ดนตรีสดทั้งหลายแหล่ อินฟินิตี้ สวีทดรีม โฮสเทล แฝงตัวอยู่ในซอยย่อยไม่ห่างจากถนนสายหลัก มันถูกดัดแปลงจากห้องแถวไม้โบราณให้กลายเป็นที่พักสุดฮิปขนาดกะทัดรัดไว้รองรับนักท่องเที่ยว หลายครั้งมีนักท่องราตรีเดินเมามายหลงผ่านมาแล้วคิดว่าที่นี่คือผับหรือบาร์ที่เปิดยี่สิบชั่วโมง ทีนี้ก็เดือดร้อนลุงยามวัยจวนเจียนแซยิดต้องทำหน้าที่ขับไล่พวกขี้เมาหัวราน้ำเหล่านั้นไปให้พ้น ๆ ทำไงได้ที่พักดันอยู่ในแหล่งร้านเหล้านั่งชิลล์เสียอย่างงั้น ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...ลุงยามก็ยินดีปฏิบัติหน้าที่เสมอเพราะแกมีนายจ้างที่น่ารัก “อีหมวย! เดี๋ยวคืนนี้จะแวะมานอนค้างนะ ขอห้องเดิมนะชอบเงียบดี” หน้าฝรั่งแต่เพื่อนเรียกหมวย “จัดการให้แล้วย่ะ แล้วจะหิ้วใครมาด้วยหรือเปล่าล่ะชุนหลี” “หิ้ว...บ้าบออะไรฉันไม่เคยหิ้วนะแค่ไปแฮงค์เอ้าท์กับแก๊งเพื่อนสาว เออจริงสิ แกจะไม่ไปจริงเหรอไม่ได้ไปร่อนกลางคืนนานแล้วนะชะนี” “ไม่ดีกว่า ช่วงนี้ฉันต้องเฝ้าเคาน์เตอร์ น้องคนหนึ่งลาไปต่างจังหวัด ฉันเลยต้องอยู่ก่อน” “จะว่าไป...แกก็ไม่ได้ออกไปไหนมาไหนนานแล้วนะ ทำแต่งานกลัวจนหรือไงอีหมวย” “อ้าวอีนี่! คนทำมาหากินก็ผิด แต่ช่างเถอะฝากทักทายสาว ๆ ด้วยนะ” “แหม...ขนาดแฟนไม่มียังเทเพื่อนได้ ไปดีกว่าวันนี้ไปสวยที่ทองหล่อ” เพื่อนชายที่ไม่ใช่ชายแท้ หุ่นล่ำกล้ามปู ใบหน้าเกลี้ยงเกลา ทรงผมสุดเนี๊ยบมาพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่ฉุนจนแสบจมูกจากไป เธอคือผู้หญิงที่มีชื่อเล่นยาวเท่ากับชื่อจริง ‘อินฟินิตี้’ ‘อีหมวย’ และอีกสารพัดฉายาที่เรียกกันในกลุ่มเพื่อน ปาราวตี สาวลูกครึ่งวัยยี่สิบเจ็ดปีโบกมือไหว ๆ ขับไล่ปนอำลาเพื่อนสนิท ก่อนจะทิ้งตัวพิงหลังกับเก้าอี้นวมคอยขยับเมาส์เช็คอีเมล์แจ้งเตือนจองห้องพัก ค่ำคืนนี้ยังอีกหลายชั่วโมงที่ต้องประจำแผนกต้อนรับ เธอใช้เวลาที่มีไปกับการอ่านหนังสือแล้วเป็นคนไม่ชอบดูละครหลังข่าวและไม่ค่อยรู้จักดารานักแสดงไทยเท่าไหร่นัก ทั้งยังไม่ชอบนิยายรักพระเอกเย็นชา นางเอกแสนดี นางร้ายสายกรี๊ด ครอบครัวกีดกัน ตบจูบ ๆ อะไรทำนองนั้น หญิงสาวพลิกหน้านวนิยายแปลฆาตกรรม-สืบสวนเล่มหนาในมือสลับกับจิบไวท์แดงเป็นระยะ สาวช่างฝัน...ฝันว่าเป็นนักสืบเพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว นอกจากนี้เธอยังมีงานอดิเรกที่สร้างรายได้เพิ่มอีกทางคือการสะบัดฝีแปรงปลดปล่อยอารมณ์บนผ้าใบขึงตึง ภาพสีน้ำมันแบบนามธรรมคืองานถนัด ภาพบางภาพถูกประมูลในอินเตอร์เน็ต บางส่วนแขวนประดับผนังตามห้องพัก ไม่น่าเชื่อว่ามันก็ขายออกได้เรื่อย ๆ เวลาใกล้เที่ยงคืนสัญญาณเตือนข้อความเข้าดังขึ้น ข้อความตื้องอนง้อ ปากหวานจากบุคคลน่ารังเกียจแห่งปีที่อ่านแล้วอยากจะทุบหน้าจอโทรศัพท์ให้แหลกละเอียดคามือเสียจริง “โอ๊ย! นี่ก็ตื้อไม่เลิกเลยเว้ย” ‘ตี้ทำอะไรอยู่’ ‘กินข้าวยัง’ ‘พี่ปิงคิดถึงตี้นะคะ’ ‘อยากเจอจัง’ ‘ไม่ตอบพี่แต่เปิดอ่านก็ยังดีนะคะ’ “กินไม่กินก็เรื่องของฉันโว้ยไอ้ปิง” เธอก่นด่าเขาลำพัง ไม่ตอบกลับคือไม่แคร์ ลภัทร์ อดีตแฟนหนุ่มผู้เป็นทายาทกิจการห้างทองร้อยล้าน ความรักของทั้งคู่เรียกว่าหวานน้ำตาลเรียกพี่แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อปาราวตีตั้งใจจะทำเซอร์ไพรส์วันเกิดจึงแสร้งว่าต้องไปธุระด่วนต่างจังหวัดกะทันหัน ช่วงค่ำวันเดียวกันเธอย่องไปที่คอนโดหรูของเขาพร้อมของขวัญกล่องโต มันคือคัพเค้กหลายสิบชิ้นประดับหน้าด้วยตุ๊กตาที่ปั้นจากฟอนดองน่ารักน่าทาน ทุกอย่างควรเป็นไปตามแผนหากลภัทร์อยู่ห้องตามลำพัง รองเท้าส้นสูงที่ถูกถอดวางไว้ตั้งแต่หน้าประตูห้อง กระเป๋าถือที่ไม่ใช่ของของเธอวางกระจัดกระจายอยู่ทั่วห้องรับแขกรวมถึง...ชุดเดรสสีปักเหลื่อมทองอร่ามอยู่บนโซฟาตัวนั้น ไม่จริงใช่มั้ยพี่ปิง! เสียงร้องครางกระเส่าเขย่าโสตประสาทของคนสองคนดังมาจากห้องนอน ประตูปิดไม่สนิทเผยให้เห็นภาพอันอุจาดสายตา ร่างเปลือยเปล่าของผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งกำลังออกลีลาโยกเอวพลิ้วในท่าวูแมนออนท็อปโดยที่เนินอกสวยคู่งามถูกลูบไล้ด้วยฝ่ามือยาวของแฟนหนุ่ม หล่อนหลับตาพริ้ม ดวงหน้าเคลิบเคลิ้มไปกับสิ่งแปลกปลอมที่ฝังอยู่ในร่างของเธอ ปาราวตีผู้ยอมปิดหูปิดตาไม่เคยฟังคำตักเตือนจากคนรอบข้างด้วยความเชื่อที่ว่าความรักอันบริสุทธิ์กับความไว้วางใจจะเปลี่ยนหนุ่มกะล่อนเป็นหนุ่มผู้แสนดีได้ น้ำใสอุ่นคลอขอบตาคู่งามไหลรินอาบแก้มที่กำลังระอุด้วยความโกรธ เขาคือผู้มาเติมเต็มชีวิตเหงา ๆ ของเธอให้เบ่งบานงดงาม ตอนนี้...หัวใจแหลกสลายไปตามด้วยเสียงหวีดร้องอย่างบ้าคลั่ง กรี๊ดดดดดดด ‘ฉิบหายแล้ว!!!’ แฟนหนุ่มผละร่างจากคนแปลกหน้า สวมกางเกงขาสั้นอย่างร้อนรน หญิงปริศนาชะงัก ‘ตี้! ตี้กลับมาเร็วจัง! เอ่อ...พี่ปิงว่าเราต้องคุยกันนะ มีการเข้าใจผิดกันนิดหน่อย’ ถูกจับได้คาหนังคาเขา ยังทำไม่รู้ไม่ชี้อ้างโน้นนี้นั้นไปเรื่อยเปื่อย ‘ยังไงเนี่ยปิง ไหนปิงบอกว่าเขาไปต่างจังหวัดไง’ ผู้หญิงคนนั้นถามแทรกขึ้นมาเลิกผ้าห่มขึ้นมาบังเรือนร่างพลางส่งเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจ ทุกอย่างกับตาลปัตรไปหมดคนตั้งใจทำเซอร์ไพรส์กลายเป็นโดนเซอร์ไพรส์เสียเอง เปลวไฟบนเทียนรูปตัวเลขอายุเจ้าของวันเกิดดับวูบลง โกหก! ปลิ้นปล้อน! กะล่อน! ตอแหล! มันแฝงในสันดานของผู้ชายอย่างลภัทร์ หญิงสาวกัดฟันกรอด ใบหน้าแดงก่ำ มือสั่นเทาโกรธแค้น ‘เข้าใจผิดเหรอแอบกินกันมานานแค่ไหนแล้วล่ะ ไอ้บ้า! ไปตายซะไอ้ผู้ชายสารเลว! ไอ้คนสำส่อน!’ ปาราวตีตวาดลั่นขว้างกล่องคัพเค้กใส่คนที่สวมเขาให้เธอแล้วเดินออกมาจากชีวิตเขาทันที ทั้งคู่เลิกรากันไปได้ปีกว่า แต่กลับหนีชายคนนี้ไม่พ้นจนได้เพราะพี่สาวของเขามาแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องเธอ นั่นแปลว่าปาราวตีกับอดีตแฟนหนุ่ม...มาเกี่ยวดองเป็นญาติกันไปโดยปริยาย ลภัทร์ไม่รอช้ารีบใช้โอกาสนี้ขอคืนดี ข้อความง้องอนยังกระหน่ำส่งมาไม่หยุดหย่อน ‘มีปัญญาส่ง...ก็ส่งไปเถอะ ไอ้บ้า’   กลางดึกคืนนั้นรถยนต์ยี่ห้อเมอร์ซิเดสเบนซ์ทรงสปอร์ตสีบลอนด์เงินป้ายแดงคันหนึ่งชะลอความเร็วเคลื่อนตัวช้า ๆ ผ่านไป สักพักก็วนกลับมาแล้วจอดสนิทหน้าโฮสเทล บุคคลผู้ไม่น่าจดจำปรากฏโฉมขึ้นลภัทร์คนเดิมเพิ่มเติมคือความน่ารังเกียจเดียดฉันท์ เขาส่งรอยยิ้มกระล่อนอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวพยายามจะผลักประตูกระจกเข้ามาแต่มันถูกล็อกนิรภัยไว้ อดีตคนรักไม่ลดละความพยายามจึงยกโทรศัพท์ขึ้นกดโทร.ออก “จะมาทำไมตี้ไม่มีธุระอะไรด้วย!” ปาราวตีกระแทกเสียงส่งสายตาดุจนางมารร้ายให้คนหลังประตู “ก็บังเอิญผ่านมา พอดีคิดถึงวันเก่า ๆ เลยจะชวนไปนั่งรถเล่นด้วย รถใหม่นั่งคนเดียวมันเหงานะ” “เหรอ! แต่ฉันไม่ไปจะไปเอาใครมานั่งจะพาไปทำอะไรก็เรื่องของแกสิ เลิกกันไปตั้งนานแล้วจะเสนอหน้ามาหาพระแสงอะไรอีก!” “คิดถึงนี่นา อยากเจอหน้าคนที่พี่รัก ตอนนี้ก็รักอยู่นะ” “เชอะ! เก็บแต้มจนเบื่อแล้วเหรอ นึกจะกลับมาเมื่อไหร่ก็กลับบอกไว้ก่อนนะ ฉันเกลียดแก! จะไปหาใครที่ไหนก็ไปให้พ้นซะ” “ไม่เอาน่า อดีตก็อดีตสิ คนเราสมควรได้โอกาสพิสูจน์ตัวนะ พี่อยากพิสูจน์ใจกับตี้ อยากเริ่มต้นใหม่กับตี้นะคะ ให้โอกาสพี่หน่อยสิจ๊ะคนสวย” ลภัทร์คุมสถานการณ์ด้วยสารพัดคำหว่านล้อมกับเสียงนุ่มนวล ถ้าผู้หญิงอารมณ์ร้ายก็อย่างร้อนตามเป็นพอ “ถ้าไม่รีบไสหัวออกไป ฉันจะเรียกตำรวจนะ” ปาราวตีคว้าหูโทรศัพท์บนเคาน์เตอร์เตรียมกด 191 “โอเค ๆ สงสัยวันนี้ตี้คงอารมณ์ไม่ดี ไว้อารมณ์ดีเมื่อไหร่ค่อยคุยกันให้นะคะ กู๊ดไนท์ค่ะ” อดีตแฟนหนุ่มเป็นฝ่ายยอมถอนทัพเขาส่งยิ้มหวาน ขยิบตาก่อนจากไป ไร้ซึ่งการติดต่อใดๆ หลังยุติความสัมพันธ์ เหมือนโลกทั้งใบพังพินาศเป็นฝุ่นผงไปพร้อมหัวใจดวงนี้ ปาราวตีจำได้ว่าช่วงเวลานั้นบีบคั้นหัวใจชวนจิตตกถึงเพียงไหน ถึงขั้นคิดจะฆ่าตัวตายเสียด้วยซ้ำ โชคยังดีที่เธอมีญาติและเพื่อนสนิทคอยเคียงข้าง ดังนั้นไม่มีทาง...ไม่มีเหตุผลที่จะให้โอกาสคนพรรค์นั้น ไม่รู้จะสรรหาคำนิยามแบบไหนมามอบให้ผู้ชายคนนี้สารเลว เฮงซวย!   ปาราวตีส่ายหน้า ถอนหายใจแรงระบายอารมณ์ขุ่นเคือง ต้องหาวิธีไล่เสือผู้หญิงตัวนี้ให้จงได้ เธอทรุดนั่งลงบนเก้าอี้พลางคิดอะไรเงียบ ๆ คนเดียวแล้วเหลือบไปเห็นนวนิยายรักเล่มหนึ่งที่ปะปนมากับเล่มอื่นๆ‘จอมใจไออสูร’ มันน่าสนใจนะ เพราะเธอไม่ได้ตั้งใจจะหยิบมันตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก ปาราวตีเคาะปลายนิ้วบนปกหนังสือเบา ๆ พลางนึกถึง...ผู้ชายที่ร้านหนังสือคนนั้น หน้าตาอย่างกะพระเอกซีรีส์จีน ผิวขาวเหลืองบ่งบอกว่ามีเชื้อสายชาวจีน ดวงตาโตสองชั้นอ่อนโยนแฝงความจริงจัง มาดนิ่งสุขุมแบบผู้ใหญ่แต่อบอุ่น ลางสังหรณ์ของผู้หญิงแม่นยำเสมอหากมีเพศตรงข้ามกำลังให้ความสนใจ ฉะนั้นจึงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อพิสูจน์ หนอนหนังสือสาวมีหรือจะไม่รู้ว่าชายคนนั้นคือใคร ดังนั้นเธอจึงเดินไปหยุดที่หน้าชั้นหนังสือของเขา เผอิญว่าจอมใจไออสูรที่เป็นผลงานขายดีวางไว้สูงเกินเอื้อม จังหวะที่ไม่มีพนักงานอยู่แถวนั้นเลย ตามคาดเขาคนนั้นก็ตรงปรี่เข้ามาให้การช่วยเหลือทันที อุตส่าห์เปิดฉากแนะนำตัวเสียอย่างดิบดี...หลังจากนั้นทุกอย่างก็จบลงแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ จอมใจไออสูร นวนิยายรักชื่อดังตีพิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่านับครั้งไม่ถ้วน นวนิยายรักโรแมนติ๊ก....โรแมนติกของสำนักพิมพ์นี้ไม่ใช่รสนิยมของเธอผู้ชื่นชอบ...ความตื่นเต้น เร้าใจ หักมุมหน้าหงายสามตลบ ปาราวตีได้แต่กลับมานั่งเซ็งเพียงลำพัง โบราณว่าปรบมือข้างเดียวมันไม่ดัง ขนาดทอดสะพานให้แล้วก็ยังไม่เดินข้ามมาอีก ‘เห้อ! จะบ้าตายทำไมไม่เดินตามตี้มาล่ะคะคุณแท็ป’
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม