“ข่าวดีอะไรลูกนั่งยิ้มไม่หุบ” แม่ถาม
“ก็หนังสือที่หนูส่งไปขอฝึกงานเขาตอบกลับมาว่ารับหนูเข้าไปทำงานด้วยค่ะ” เธอพูดด้วยอาการดีใจ สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ที่ไหนลูก”
“สัตหีบค่ะ” เธอบอกแม่
หลังจากนั้นทั้งสองก็เริ่มปรึกษากันว่าจะเอายังไง เพราะจากบ้านไปทำงาน เธอคงไปกลับไม่ไหว
“แม่จ๋า วันที่จิลไปเริ่มงาน จิลจะขอทำเรื่องอยู่หอพักพนักงานก็ได้ค่ะ” เธอพูดให้แม่สบายใจ เพราะทางอาจารย์ก็แจ้งว่ามีสวัสดิการอะไรให้บ้าง
“ดีลูก ตั้งใจฝึกงาน จบมาจะได้หางานทำดี ๆ”
“จ้ะแม่” เธอรับปากแม่อย่างแข็งขัน ปองรักเอื้อมมือไปแตะมือของพ่อที่นอนไม่ไหวติงอยู่บนที่นอน
“พ่อจ๋า จิลจะหาเงินให้ได้เยอะ ๆ เลย จะเอามารักษาพ่อค่ะ พ่อต้องเข้มแข็ง และรีบหายนะคะ” สองแม่ลูกกอดกันกลมอยู่ที่หน้าเตียงของพ่อ
“น้องปองรัก เชิญที่ห้องท่านประธานค่ะ” เลขานุการของฟาเบียนเดินเข้ามาตามเธอถึงห้องเล็ก ๆ ที่จัดเอาไว้ให้สำหรับผู้ที่มาติดต่องาน
เธอสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างช้า ๆ และจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้ดูดี ไม่วายหันไปมองกระจกสีดำที่ข้างผนัง ยกมือขึ้นจัดผมเผ้าให้เข้าที่เข้าทาง
‘ตื่นเต้นจัง’ เธอพูดกับตัวเอง ยกมือขึ้นมาจับกันเอาไว้แน่น
ก๊อก... ก๊อก... ก๊อก... เลขานุการเคาะห้องท่านประธานไปสามครั้ง
‘ฟาเบียน ฟรองซัว ประธานและกรรมการผู้จัดการ’ เธออ่านชื่อเขาอีกครั้งที่หน้าห้อง วันนี้ท่องทั้งชื่อของเขา และชื่อของบริษัทเป็นร้อย ๆ รอบ
“เข้ามา” เสียงทรงอำนาจดังขึ้น เลขานุการผลักประตูเข้าไป และหันมาพยักหน้าให้หญิงสาวเดินตาม
“คุณปองรัก นักศึกษาฝึกงานของ มหาวิทยาลัย................ มาแล้วค่ะ”
คุณมุกดายืนน้อมรายงานนาย ก่อนจะวางแฟ้มของปองรักตัวจริงลงไปบนโต๊ะของเจ้านาย ฟาเบียนหยิบแฟ้มนั้นขึ้นไปถือ แล้วโบกมือไล่มุกดาโดยไม่ออกเสียง เธอรีบเดินกลับออกไปทันที
ปองรักพยายามยืดตัวตรง สูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ เธอรู้สึกประหม่ามาก ชายหนุ่มดูดีกว่าในคลิปเสียอีก
พอทั้งสองได้สบตากัน ปองรักรีบพนมมือยกมือไหว้เขาอย่างอ่อนช้อย และกล่าวคำว่า “สวัสดีค่ะ” อย่างชัดถ้อยชัดคำ
“นั่งก่อนสิ” เขาพูดมาเป็นประโยคแรก และผายมือให้เธอนั่งลงที่เก้าอี้ข้างหน้า
“ขอบคุณค่ะ” ปองรักกล่าวขอบคุณเบา ๆ แล้วนั่งลง
หญิงสาวนั่งตัวตรงและเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา ฟาเบียนรู้สึกถูกใจเธอตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว ผู้หญิงสวย รูปร่างผอมบาง ตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ ทั้งผม และสีปากของเธอตรงใจ แล้วเวลาที่เธอเผยอปากพูดก็ดูเซ็กซี่ไม่เบาเขาหัวเราะขึ้นมาหึ ๆ
“เกรดเธอก็ใช้ได้นี่ อยู่ในระดับดีมาก ๆ ด้วย” เขาเอ่ยชม เธอยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน
ฟาเบียนนึกแกล้งจึงสัมภาษณ์เธอต่อเป็นภาษาฝรั่งเศส ปองรักออกอาการเหวอในตอนแรก
“เธอพูดภาษาฝรั่งเศสได้เหรอ”
“ค่ะ ฉันพูดภาษาฝรั่งเศสได้” เธอปรับอารมณ์และหัวใจของตัวเองที่เต้นแรง ตอบคำถามของเขาเป็นภาษาฝรั่งเศสอย่างตั้งใจ
“ฝันเอาไว้ใช่ไหมว่าอยากไปฮันนีมูนที่ประเทศฝรั่งเศส แล้วคิดเอาไว้หรือยังว่าจะไปกับใคร” เขาถามตามความคิด ยิ้มมุมปากนิด ๆ
“ตอนนี้ดิฉันยังไม่มีคนรักค่ะ เป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งมันก็เป็นแค่ความฝัน”
“เธอชอบสีส้มเหรอ” เขาต้อนเธอเขาไปอีก
“ค่ะ สีส้มเป็นสีของดอกพวงแสดที่คุณพ่อปลูกเอาไว้ที่หน้าบ้าน ช่วงเดือนมกราคมก็จะออกดอกบานสะพรั่ง สวยมาก ๆ ค่ะ” เธอนึกไปถึงคุณพ่อเวลาที่ท่านรดน้ำต้นไม้ เธอก็จะเก็บดอกพวงแสดที่ตกอยู่ตามพื้นมาเป่าแล้วบีบให้แตก มันก็เสียงดัง แปะ...
สีหน้าของปองรักฉายแววความรักและความคิดถึงพ่อออกมาอย่างชัดเจน
เขาอึ้งไปกับคำตอบของเธอ ฟาเบียนไม่เคยสนใจสิ่งรอบข้างของตัวเองด้วยซ้ำไป เขาไม่รู้ด้วยว่าคนสวนที่บ้านซื้อต้นอะไรมาปลูกบ้าง แค่ให้มีสีเขียวและดอกไม้แซมบ้างเขาก็ว่าดีแล้ว
ฟาเบียนปรับเปลี่ยนสีหน้า เขาลุกขึ้นยืน แล้วเดินอ้อมมานั่งบนโต๊ะต่อหน้าเธอ กลิ่นน้ำหอมของเขาโชยเข้ามาในจมูก เล่นเอาปองรักถึงกับใจสั่นมากยิ่งขึ้น
เขาใช้นิ้วมือจับปลายคางของเธอขึ้น ก่อนจะใช้มืออีกข้างแตะริมฝีปากของเธอเบา ๆ เขาถามเธอเป็นภาษาไทยบ้าง
“ทำผมแบบนี้ ทาลิปสีนี้ ต้องการบอกอะไรผมหรือครับ” เขาพูดจาแบบไม่อ้อมค้อม เล่นเอาคนฟังถึงกับพูดไม่ออก
‘เขารู้ด้วยเหรอ’ เธอคิดในใจ แต่ความประหวั่นส่งออกไปทางสายตา มือไม้ของเธอเริ่มไม่รู้จะเอาวางไว้ที่ไหน
“จะเอาทุนการศึกษาไหม” เขาถามออกมาตรง ๆ
ปองรักถึงกับหน้าแดง เธอรู้สึกโกรธความกักขฬะไม่น่ารักของเขาเอาเสียเลย เหมือนที่ทิพย์ดาราพูดเลยแต่เมื่อเธอนึกไปถึงคุณพ่อที่นอนป่วยอยู่บนเตียงกับสายระโยงระยางนั้น เธอก็ต้องปั้นสีหน้าอย่างเสียไม่ได้
“เคยนอนกับผู้ชายหรือยัง” คำพูดตรง ๆ ที่ฟังแล้ว คนฟังแทบกรี๊ด เธอหลบสายตาเบือนหน้าหนีเขาทันที ฟาเบียนหัวเราะหึ ๆ
“มันก็ต้องทดลองงาน วัดสมรรถภาพกันก่อนนะ ฉันถึงจะตกลงราคา”
ปองรักตกใจสุดขีด เขารวบรั้งตัวเธอขึ้นทันที โอบกอดรัดรอบเอวเธอเอาไว้แน่น จนหน้าอกของเธอเบียดชิดกับแผงหน้าอกของเขา ชายหนุ่มก้มหน้าลงมาสบตากับเธอที่ตอนนี้มองเขาด้วยดวงตากลมโตอ้าปากกว้าง
ฟาเบียนไปประเทศจีนตั้งอาทิตย์ เขาทำแต่งาน แล้วก็ขาดเรื่องบนเตียงจนหิวโหย
แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เขาฉกริมฝีปากลงมาแทบทันที ชายหนุ่มสอดปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเธอ ดูดดุนและตวัดรัดโคนลิ้นของเธอ เขายกตัวเธอขึ้นไปนั่งบนโต๊ะทำงานของเขา ปลายลิ้นยังดูดดุนอยู่ในโพรงปากของเธอไม่หยุด เขาไล่มือกวาดทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะให้ตกลงไปข้างล่าง
ปองรักแทบลืมหายใจ เธอยกมือทั้งสองข้างจับเอวของเขาเอาไว้แน่น จุมพิตที่ดูดดื่มและหนักหน่วง เล่นงานให้เธอแทบละลาย หลังของเธอแตะพื้นโต๊ะที่เย็นวาบ ตามติดมาด้วยร่างหนาใหญ่ที่จู่โจมเธอไม่หยุด หญิงสาวได้แต่ครางอื้ออยู่ในลำคอ
สองมือของเขาดึงชายเสื้อที่เธอใส่เข้าไว้ในกระโปรงให้หลุดออก สองมือสอดเข้าไปใต้เสื้อของเธออย่างรวดเร็ว ก่อนจะคลำจนเจอเต้างามที่สู้มือ อวบอัดอยู่จนล้นฝ่ามือหนาใหญ่ เขาขย้ำลงไปอย่างไม่ปราณี ริมฝีปากก็ดูดดึงให้คนใต้ร่างแลกลิ้นกับเขาไปด้วย
หญิงสาวครางตอบเขาอย่างลืมตัว ตอนนี้ได้แต่นึกถึงใบหน้าของคุณพ่อคุณแม่ ‘พ่อจ๋า แม่จ๋า อย่าโกรธลูกนะ จิลไม่มีทางเลือก’
“อ๊า...” หญิงสาวผวาร้องดังขึ้นมาทันทีที่ริมฝีปากร้อน ๆ ของฟาเบียนครอบครองยอดสีชมพูที่อยู่บนหน้าอกอวบเด้ง อีกมือของเขาเขย่าถันอีกข้างอย่างสนุก และชายหนุ่มดูดกินมัน ทำเสียงดังจ๊วบ ๆ เธอน้ำตาซึม ตอนนี้มันอื้ออึ้งไปหมด สัมผัสของเขามันเร่าร้อนมาก ๆ เธอลืมตัวขยุ้มผมของเขาและจับกดศีรษะของเขาให้แนบชิดหน้าอกตูม ๆ ของเธอไปด้วย
ฝ่ามือหนาเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ เขาล้วงมันไปใต้กระโปรงสีดำสนิทนั้น แล้วสอดนิ้วเข้าไปหาส่วนอ่อนนุ่มที่ตอนนี้เปียกโชกแฉะไปหมด
“อยากเหรอ จะลองดูนะ ว่าสดหรือไม่สด” คำพูดของเขาช่างหยาบโลนและบาดหัวใจของเธอเหลือเกิน หญิงสาวอายจนจะแทรกแผ่นดินหนี ร่างกายที่ไม่ภักดี ปล่อยความสุขเป็นน้ำใส ๆ ไหลออกมาจนเขาคิดว่าเธอร่าน
เขารูดซิปกระโปรงของเธอ และรูดมันออกไปทันที ผิวขาว ๆ ที่เนียนนุ่มปรากฏแก่สายตาของชายหนุ่ม ฟาเบียนแตะมือสัมผัสเบา ๆ ไปบนกางเกงในตัวจิ๋วลูกไม้สีชมพูดอ่อนที่ปิดอะไรแทบไม่มิด เธอมีแพรขนนุ่มปกคลุมพองาม
“สวยมาก” เขากล่าวชม ก่อนจะรูดรั้งกางเกงในจิ๋ว ๆ นั้นออกไปให้พ้นปลายขาเช่นกัน
ปองรักหลับตานิ่ง ยกมือขึ้นปิดปากตัวเองสนิท เธอนอนกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล