เกมของเขา
“ฟาเบียนนี่มันระเบียงนะคะ” ทิพย์ดาราปัดป้อง ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังผลักเธอให้หันหลังให้ ถลกชายกระโปรงของเธอขึ้นไปกองไว้ที่เอว เขาแค่รูดซิบกางเกงลง แล้วก็ใช้มือจับตัวใหญ่ของเขาฟาดไปกับเนื้อสะโพกเด้งที่เจ้าของรักษาหุ่นเป็นอย่างดี
“คุณมาหาผมก็เพื่อสิ่งนี้ไม่ใช่หรือ” ฟาเบียนพูดกระซิบที่หลังติ่งหู เขาใช้นิ้วกรีดขอบบิกินีขาวให้พ้นไปจากกลีบนุ่ม ๆ ชายหนุ่มใช้ขาแข็งแกร่งบังคับให้เธออ้าขากว้าง เธอหันมามองใบหน้าหล่อของเขาทันที
“หันไปมองข้างล่างสิ ดูให้ทั่ว ๆ ว่ามีใครแอบดูเราหรือเปล่า” เขาพูดพลางหัวเราะหึ ๆ เบียดหัวหยักแทรกเข้าไปในร่องหลืบที่แค่ได้ยินเสียงของเขาน้ำใสก็หลั่งริน
พรึบ... กึก... เขาดันตัวเองเข้าไปในร่องนั้นอย่างรวดเร็ว
“อู้...” เสียงร้องของทิพย์ดารา นักแสดงสาวมากชื่อเสียงของวงการบันเทิงเมืองไทย
“คุณชอบแบบนี้ใช่ไหม” เขาใช้ฝ่ามือสอดเข้าไปบี้ขยี้เม็ดรัญจวนที่อยู่ในพรูเนื้ออวบอุ่น
“อ๊า... ฟาเบียนขา... อย่าแกล้งดาด้าเลย กระแทกลงมาสิคะ” เธอหมุนตัวร้องครางครวญ สะโพกมนหมุนวนและอัดกระแทกเข้ากับหน้าขาของชายหนุ่ม
“ร่านนักนะ ได้เลย ปิดปากของคุณเอาไว้ อย่าครางดังมากนะ ผมไม่รู้ว่าห้องข้าง ๆ มีใครอยู่หรือเปล่า” คำพูดของเขาทำให้เธอหันหน้าเลิ่กลั่กมองไปมา
“อะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ...” ไม่ทันได้ตั้งตัว ชายหนุ่มโยกขยับชักท่อนเนื้อเข้าออกอย่างหนักหน่วง สองมือของทิพย์ดารายึดเกาะราวระเบียงเอาไว้แน่น น้ำกามาของเธออาบชโลมหัวมนและท่อนยักษ์จนมันเลื่อม
เธอกลั้นเสียงร้องอย่างสุดชีวิต น้ำหูน้ำตาไหลพราก ๆ มันช่างถึงอกถึงใจจริง ๆ
“ไม่ไหวแล้วค่ะ ฟาเบียนขา แตก ๆ แตกแล้ว อ้า...” เธอหวีดร้องขึ้นมาทันที เนื้อสะโพกเต้นระยิบ ร่องร้อนตอดขมิบท่อนใหญ่จนคนตัวโตครางอื้อ
เขาไม่รอช้าถอนตัวเองอย่างรวดเร็ว หมุนตัวเธอเข้าข้างฝา หลังของหญิงสาวกระแทกกระจกกั้นห้อง
สายตาที่เธอมองเขามันช่างหื่นกระหาย หญิงสาวชอบหนักหนากับบทรักของชายหนุ่มที่มันช่างดิบเถื่อนถึงขั้วหัวใจ ฟาเบียนยกขาเธอขึ้นพาดแขนเอาไว้ข้างหนึ่ง ก่อนจะสอดตัวเองเข้าไปในช่องทางที่น้ำใส ๆ ยังไหลริน
“น้ำเยอะจริง ๆ ผมเข้าลึกถึงใจคุณใช่ไหม” เขาก้มหน้าลงไปถามเธอ ทิพย์ดาราเงยหน้าขึ้นเผยอปากอ้าพะงาบ ๆ ด้วยอาการเหนื่อยหอบ
“อูย... อ้า... ไม่เคยเอากับใครแล้วมันเท่ากับคุณเลย ทั้งใหญ่ ทั้งยาว อะ ๆ ๆ ๆ...” เขาไม่ปล่อยให้เธอได้พร่ำรำพันมาก
ชายหนุ่มกระทุ้งท่อนใหญ่เข้าลึกให้ถึงใจของเธอ หัวหยักชนผนังภายในกึก ๆ เธอธาตุลมแตกซ่าน ยกมือขึ้นขย้ำหน้าอกของตัวเอง ห่อปากร้องสูดครางอยู่ตลอดเวลา
เสียงผนังกระจกนั้น หากทำไม่ดีราคาถูก ๆ คงพังครืนลงมาแล้ว เขาอัดโยกจนร่างบางหวีดร้องขึ้นมาอย่างสุดเสียงอีกครั้ง
ฟาเบียนถอนตัวเองออกมาอย่างรวดเร็ว ทิพย์ดารานั่งลงอย่างรู้งาน เธออ้าปากงับหัวหยักนั้นไปไว้ในปาก สองมือรูดลำใหญ่แค่เบา ๆ ชายหนุ่มร้องโอ้ฉีดความสุขสมใจเข้าไปในโพรงปากของเธอ
“กินมันลงไป” เขาออกคำสั่ง ทิพย์ดารากลืนมันลงคออย่างเอร็ดอร่อย
“น้ำคุณหวานมากนะคะ” เธอยกหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้เขา และบรรจงใช้ปากทำความสะอาดให้เขาจนหมดจด
ฟาเบียนเก็บเจ้าลูกชายของเขาให้เข้าที่ แล้วเดินกลับเข้าไปทำงานต่อ หญิงสาวก้มลงสำรวจร่างกายของตัวเอง เธอแทบเดินขาถ่าง ยังเจ็บจุกในท้องน้อย แต่นั่นไม่เท่าเขาพาเธอขึ้นลงสวรรค์ตั้งหลายรอบ
ฟาเบียนนั่งเขียนเช็คยิก ๆ ก่อนจะฉีกมันและส่งให้เธอ ทิพย์ดาราทำสีหน้าแบบไม่รู้เรื่อง
“อะไรคะ” เธอทำเป็นพูดจีบปากจีบคอ แต่ก็ยื่นมือไปรับเช็คนั้นมาถือเอาไว้ พอเห็นตัวเลขก็ยิ้มออกมาได้
“ขอบคุณค่ะ” เธอกล่าวขอบคุณเขา ยื่นหน้าเท้าแขนและทำปากจู๋
“จุ๊บ ๆ ๆ นะคะ” เธอคิดว่าตัวเองคงน่ารักที่สุด
“เช็คใบนั้น คุณคงซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมได้สักใบ” เธอยิ้มกว้างก่อนที่จะหุบยิ้มเพราะประโยคต่อไปของเขา
“ต่อไปคุณไม่ต้องมาที่นี่อีก ถ้าผมไม่เรียก” เขาทำเสียงเข้ม ทั้งแววตาและสีหน้าเอาจริง เธอผวาตกใจถลาเข้าไปหาเขาแทบทันที
“ทำไมคะฟาเบียน ดาด้าทำอะไรผิด หรือทำอะไรให้คุณไม่พอใจ” เธอกอดคอของเขาเอาไว้แน่น
ฟาเบียนหยิบมือถือขึ้นมาถือ ก่อนจะเปิดข่าวที่ทิพย์ดาราให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับตัวเขา
“ดาด้าขอโทษค่ะ” เธอทำท่าทางสำนึกผิด
“ผมไม่ชอบการผูกมัด และไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายในชีวิตของผม ผู้หญิงในเมืองไทยมีมากมาย ผมชี้จะนอนกับผู้หญิงคนไหนก็ได้ อย่างผมมีตังค์ซื้อกิน ถ้าผมหิว ผมจะซื้อกินเอง”
เขาดึงแขนของเธอที่โอบกอดให้พ้นไปจากร่างกาย
ทิพย์ดารายืนตัวสั่น เธอรู้สึกเสียหน้าไม่ใช่น้อย เขาควงเธอแบบเปิดเผย แต่ไม่ให้เรียกว่าแฟน
ชายหนุ่มใช้นิ้วกดโทรศัพท์ภายใน
“คุณมุกดา บอกการ์ดมาเชิญตัวคุณทิพย์ดาราออกไป แล้วต่อไปห้ามเธอเข้ามาในเขตบริษัทของเราอีก” น้ำเสียงพูดที่จริงจังของเขาทำให้เธอใจหาย
“ฟาเบียนอย่าทำแบบนี้กับดาด้านะ” เธอหวีดร้องขึ้นมาทันที
ชายฉกรรจ์สี่คนเดินเข้ามาประชิดร่างเธอ พวกเขาไม่ต้องรอคำสั่งของนายเป็นครั้งที่สอง ทั้งสี่ยึดทั้งแขนและขาของเธอ และหามเธอออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว ได้ยินแต่เสียงของทิพย์ดาราร้องวี้ด ๆ ด้วยความไม่พอใจ
ร่างของเธอถูกนำไปวางไว้ข้างรถเก๋งคันหรูของเธอเอง ทิพย์ดาราแหงนหน้าขึ้นไปมองบนตึกด้วยหัวใจที่เจ็บปวด
“คอยดูนะคะ คุณต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายมาง้องอนดาด้า” เธอปรามาสเขาเอาไว้ ใช้กุญแจเปิดรถ เข้าไปนั่ง แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
“อะ... จิล ฉันให้แก”
“อะไรอ่ะแก” ปองรักยกหน้ามองสุจิราเพื่อนสาวคนสนิท
“บัตรทำผมที่ร้าน........... พอดีมันจะหมดวันอาทิตย์นี้ ฉันก็ลืมเอาไปใช้ วันศุกร์ฉันต้องบินไปญี่ปุ่นกับคุณพ่อคุณแม่ เสียดาย แกเอาไปใช้เถอะ” สุจิราบอก
“ว้าว... ของร้านดังด้วย ว่าแต่ไม่ต้องจ่ายตังค์เพิ่มใช่ไหม” ปองรักดีใจสุด ๆ นานแล้วมั้งที่ไม่ได้เข้าร้านทำผม
“เออ... ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ทำอะไรทุกอย่างในร้านได้หมด”
“แหม... โชคดีจัง ขอบใจนะ” เธอพูดไปยิ้มไป
“ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อยนะ วันนี้เราเลี้ยงเธอเอง” สุจิราบอกกับปองรักเพื่อนรัก เพราะเธอรู้ว่าช่วงนี้ที่บ้านของปองรักมีปัญหาด้านการเงินทำให้เธอต้องกระเบียดกระเสียร
ปองรักทำท่าจะปฏิเสธ สุจิราจับมือเธอและลากขึ้นทันที หญิงสาวจำใจต้องเดินตามเพื่อน
“ให้เลี้ยงทุกวัน เกรงใจ” เธอบอกสุจิราเสียงแผ่ว
“เกรงอกเกรงใจอะไรกัน แกช่วยฉันเรื่องเรียนตั้งหลายเรื่อง อีกอย่างแกก็ไม่ได้กินอะไรเยอะ ขนหน้าแข้งจิราไม่ร่วงหรอกนะ” สุจิราเป็นลูกเจ้าของร้านจิวเวลรี่ที่ดังที่สุดในเมืองไทยตอนนี้
“ขอบใจนะเพื่อน” ปองรักและสุจิรายิ้มให้กันอย่างจริงใจ