15

1408 คำ
“ฮึ” แม่หนูเงยหน้าขึ้นมอง พชรจึงนึกได้ว่าคนเพิ่งเป็นพ่ออย่าเพิ่งใจร้อน “โทษที ลุงพูดผิด ลุงหมายถึงขนมลูกชุบที่ขนมชั้นทำขายกล่องเท่าไรครับ ลุงอยากซื้อ” ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดูอบอุ่นทั้งยังดูใจดีขึ้นอย่างประหลาดยามมองไปที่แม่หนูน้อย เขาเอื้อมไปหยิบลูกชุบที่วางอยู่บนใบตอง แม่ค้าตัวน้อยยิ้มหวาน “กล่องละห้าสิบบาทค่ะ มีสิบห้าชิ้นค่ะ” พอเห็นพชรเอาแต่มองขนม ไม่บอกว่าจะซื้อกี่กล่อง แม่หนูก็รีบพูดต่อ “ห้าสิบบาท ไม่แพงนะคะ แม่ค้าใส่ใจทุกกล่องเลยค่ะ” พชรได้ฟังก็หัวเราะชอบใจ เขาอยากกินลูกชุบเหลือเกิน แต่ก่อนไม่เคยอยากกินเพราะรู้ว่ากินไม่ได้ นี่เป็นครั้งที่สองมั้งที่เขาเกิดความอยากกินขนมชนิดนี้ “งั้นลุงขอเหมาลูกชุบทั้งหมด” “อุ๊ย!” แม่หนูตกใจ ไม่คิดว่าจะถูกเหมา แม่ค้าน้อยแอบคำนวณราคาอยู่ในใจ ลูกชุบของเธอขายเป็นกล่อง ราคากล่องละห้าสิบบาท มีสิบห้าชิ้น รวมในถาดน่าจะได้ประมาณยี่สิบกล่อง “ไม่ต้องเหมาหรอกค่ะ ปกติเราก็ขายหมดทุกวัน” พอนึกถึงคำพูดของแม่ที่บอกว่าคุณลุงใจดีแพ้ถั่ว คนตัวเล็กก็รู้สึกเกรงใจเขาขึ้นมาทันที ถ้ากินไม่ได้จะซื้อไปทำไม อีกอย่าง เธอกับแม่มีช่องทางการขายขนมทางไลน์กลุ่มในหมู่บ้าน แค่พิมพ์และโพสต์รูปขนมลงไป มีขนมเท่าไรก็ถูกจองจนเต็ม เพราะคนในหมู่บ้านรู้รสมือดีว่าขนมบ้านนี้รสชาติต้นตำรับไทยแท้ ถึงเครื่อง สะอาด รสชาติถูกปาก แถมแม่ค้ายังน่ารักอีก ข้อสุดท้ายขนมชั้นจำได้ดี เพราะเวลาขี่จักรยานไปส่งขนมตามบ้านลูกค้า ผู้ชายที่สั่งขนมจะชมเธอแต่มองหน้าแม่ลี จนเธอสงสัยว่าเขาชมใครกันแน่ “แต่ลุงพชรชอบลูกชุบของขนมชั้น ขายให้ลุงนะครับ” แม่หนูมองเขาอย่างลังเล ถอนใจนิดหน่อยที่วันนี้ถูกลูกค้าตื๊อขอซื้อขนม “หนึ่งพันบาทค่ะ” แม่ค้าน้อยแอบคำนวณราคาให้ว่าที่ลูกค้าเรียบร้อยแล้ว พชรอึ้ง ลูกสาวเขาคิดเลขไวชะมัด แล้วรีบควักกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาหยิบธนบัตรสีเทาออกมาวางบนโต๊ะ มือป้อมๆ วางจากการจัดขนมลงกล่องแล้วรอให้แม่มาปิดฝากล่อง ที่เด็กหญิงยอมให้เหมาเพราะเมื่อมีใครมาสั่งหรือซื้อขนม แม่ลีไม่เคยปฏิเสธการขายสักครั้ง ซื้อน้อยซื้อมากแม่ลีบอกว่านั่นก็คือเงิน มือป้อมๆ จึงรีบหยิบเงินใส่กระเป๋าสะพายใบน้อย วราลีร่อนแป้ง เตรียมอุ่นกะทิและน้ำใบเตยที่ใช้ใบเตยไปปั่นกับกะทิแล้วกรองด้วยผ้าขาวบางสองชั้นเสร็จเรียบร้อยก็รีบเดินกลับมาดูขนมชั้น เพราะประมาณเวลาได้ว่าแม่หนูคงจัดขนมลงกล่องหมดแล้ว เธอจะหาถุงใส่แล้วไล่พชรกลับเสียที หญิงสาวเดินมายังไม่ถึงตัวลูก แม่หนูก็รีบดึงเงินจากกระเป๋าแม่ค้าน้อยของตัวเองส่งให้แม่แทน “ค่าลูกชุบค่ะแม่ลี คุณลุงใจดีจ่ายเงินแล้ว” “ทำไมเยอะจัง” วราลีมองธนบัตรสีเทาในมือป้อมๆ ที่กำลังยื่นมาให้ “คุณลุงเหมาหมดค่ะ” วราลีมีสีหน้าอึดอัด แล้วเลื่อนสายตาไปมองเขา “เหมาไปทำไมคะ กินก็ไม่ได้ คุณแพ้ถั่ว” พชรอมยิ้ม “ตอนนั้นแพ้ถั่ว แต่ตอนนี้แพ้ทาง” เขามองดูลูกสาว นึกชื่นชมที่แม่หนูขยันและเก่งมาก แต่พอนึกอีกทีก็สงสารเหลือเกิน หลายปีมานี้กว่าขนมชั้นจะโตขึ้นมา สองแม่ลูกคงลำบากไม่น้อย อะไรกันที่ทำให้วราลีเลือกจะปิดบัง หลอกเขา เขาจะต้องใช้ทุกอย่างง้างปากเมียเพื่อหาคำตอบให้ได้ แม่หนูที่ถูกชะตากับพชรอย่างแรงส่งยิ้มหวานเห็นฟันซี่ขาวราวไข่มุกเรียงตัวสวยงาม เพราะอารมณ์ดีมากที่วันนี้ขายขนมลูกชุบหมดก่อนที่แม่ลีจะถ่ายรูปโพสต์ลงไลน์กลุ่มหมู่บ้านเสียอีก ขนมชั้นเห็นลูกชุบเหลือจากกล่องหนึ่งลูก ปกติเมื่อมีเศษเหลือ เธอจะหยิบเข้าปากกินเอง แต่วันนี้ด้วยความดีใจที่ได้เงินมาแล้ว จึงลืมไปว่าคุณลุงใจดีแพ้ถั่ว มือป้อมๆ ยื่นลูกชุบที่ปั้นเป็นรูปแคร์รอตไปที่ริมฝีปากของพชร “คุณลุงขา ชิมดูสิคะ ขนมลูกชุบบ้านขนมชั้น ฮ้อม หอม นุ้ม นุ่ม อร๊อย อร่อย นะคะ” แม่ค้าน้อยชวนชิมแบบนี้ พชรจึงเตรียมอ้าปากจะรับลูกชุบที่ลูกสาวหยิบยื่นให้อย่างไม่รีรอ แม้ว่าวราลีจะรีบส่งเสียงเตือนว่า “อย่าค่ะ! คุณแพ้ถั่วเหลือง เดี๋ยวก็ผื่นขึ้นเต็มตัว!” เธอเคยเห็นอาการแพ้ถั่วของเขาแล้วดูน่ากลัวมาก ตอนนั้นเขาไม่บอกว่าแพ้ถั่วแล้วยอมชิมถั่วกวนที่เธอหัดทำเป็นครั้งแรก หลังกินเข้าไปก็ถึงกับต้องพาส่งโรงพยาบาล เพราะชายหนุ่มปากคอบวมเจ่อ เป็นผื่นเต็มตัว ส่วนขนมชั้นไม่รู้หรอกว่าอาการแพ้ถั่วเป็นยังไง รู้แต่ว่าตอนนี้แคร์รอตถูกลุงใจดีกินไปแล้วครึ่งหนึ่ง แต่พอนึกขึ้นได้ว่าคุณลุงใจดีไม่ควรกินถั่วเพราะแพ้ถั่ว เด็กหญิงก็รีบดึงลูกชุบอีกครึ่งชิ้นออกห่าง “อย่ากินเลยค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ขนมชั้นทำลูกชุบจากเผือกกวนให้คุณลุงใจดีกินนะคะ” แม่หนูจำได้ว่าแม่เคยทำลูกชุบที่ข้างในเป็นไส้เผือกกวนให้กับลูกค้าที่บอกว่าไม่ชอบกินถั่วกวน แม่ต้องทำเม็ดขนุนเผือกบ่อย และพรุ่งนี้ก็มีคนสั่งเม็ดขนุนเผือกไปทำบุญอีกด้วย พชรรู้สึกปลื้มปริ่ม เขาจับมือป้อมๆ ที่ถือชิ้นขนมอีกครึ่งหนึ่งให้ป้อนเขา ตั้งแต่เกิดมาถูกสาวน้อยสาวใหญ่ป้อนขนมให้กินถึงปากก็บ่อย แต่ไม่มีขนมชิ้นไหนอร่อยเท่าลูกชุบในมือของแม่หนูคนนี้เลย ต่อให้กินแล้วรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนเป็นพ่อวันแรกก็อยากกินขนมที่ลูกทำและป้อนให้กิน วราลีมองอย่างยอมใจเขาเลย คิดจะทำคะแนนกับขนมชั้นถึงขนาดเอาตัวเองมาเสี่ยงเลยหรือ วราลีเห็นขนมชั้นทำหน้าที่ของแกเสร็จแล้วก็ได้ทีออกปาก “ขนมเสร็จแล้ว จ่ายเงินแล้ว หิ้วขนมกลับบ้านคุณไปได้แล้วมั้งคะ” เธอยิ้มเนือยๆ ให้เขา ดูซิว่าจะหาข้ออ้างอะไรได้อีก แล้วรีบหันไปบอกลูกสาว “ขนมชั้นคะ ไปล้างมือ กินข้าว แม่เตรียมอาหารให้แล้ว หลังจากนั้นก็อาบน้ำ อ่านดรุณสองบทแล้วขึ้นห้องนอนได้แล้ว” “ค่ะแม่ลี” เด็กหญิงรับคำอย่างว่าง่าย เพราะเป็นกิจวัตรที่ต้องทำอยู่ทุกวัน และช่วงเวลาก่อนกินข้าว คนเป็นแม่จะปล่อยให้เล่นกับแมวได้พักหนึ่ง เด็กหญิงจึงรีบบอกคนใจดีที่เหมาลูกชุบไปแจกเพื่อนบ้านจนหมด “ขอบคุณนะคะคุณลุงใจดี ขนมชั้นไปเล่นกับน้องๆ ก่อนนะคะ จะรีบไปบอกน้องๆ ว่ามีค่าอาหารแล้ว” พชรอยากรวบร่างกลมมากอดนัก แต่พอกำลังจะวาดแขนไปโอบแม่หนูมากอด เขาก็ต้องลดมือลง เพราะลูกสาวคงตกใจมากที่จู่ๆ ตนก็มีพ่อ ทุกอย่างต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป “ครับ” เขาตอบสั้นๆ เพราะพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองร่างกลมที่ทำให้โลกนี้มันสดใสไปหมดวิ่งออกไปทางประตูหลังบ้าน แล้วได้ยินเสียงแว่วๆ บอกให้น้องๆ ของเธอเตรียมตัวเล่นซ่อนแอบกัน ขนมชั้น ทองหยิบ และทองหยอด ชอบเล่นซ่อนแอบด้วยกัน ส่วนใครจะเป็นคนหานั้นมีวิธีง่ายๆ ที่แม่หนูคิดเองไว้เล่นกับน้องๆ นั่นคือการหลับตาจับลูกบอลสามลูก สีเขียวแทนตัวขนมชั้น สีแดงแทนทองหยิบ และสีเหลืองแทนทองหยอด ซึ่งขนมชั้นจะเป็นคนจับเอง พอเปิดตามา สีหน้าคนจับก็ออกอาการผิดหวัง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม