14

1476 คำ
พชรอึ้ง บทจะยอมรับก็รับง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ ไม่ให้เขาตั้งตัวเลย ‘แต่ตอนนี้เขากลายเป็นพ่อคนแล้ว’ “ลูกผม ขนมชั้นเป็นลูกผมจริงๆ” เขาพึมพำในลำคอ ไม่มีอะไรจะชัดเจนเท่ากับเซนส์ของคนเป็นพ่ออีกแล้ว “แสดงว่าคุณตั้งท้องก่อนผมไปเมืองนอก แล้วทำไมคุณถึงไม่บอกผม” เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ระงับความโมโหที่กำลังพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ วราลีทำให้เขากลายเป็นคนไร้ความรับผิดชอบมานานหลายปี แล้วยังสูญเสียโอกาสในการอยู่กับลูกไปนานหลายปีเช่นกัน “เป็นบ้าอะไรเหรอลีถึงทำแบบนั้น แล้วเรื่องคุณกับไอ้ ‘หมอจอมพล’ นั่น อย่าบอกนะว่าคุณสร้างเรื่องโกหกผม เพื่อให้ผมตัดใจจากคุณ” แต่ทำไมตอนนั้นวราลีถึงเล่นละครได้เนียนจนเขาเฟลหนักรู้สึกเหมือนเกลียดเธอไปเลย เขาดึงวราลีเข้ามาหาตัว มือหนาเผลอวางบนสะโพกหนั่นแน่น กล้ามเนื้อมือของเขาสัมผัสถึงความแน่นตึง ไม่ยวบยานเหมือนคนที่ผ่านการมีลูกมาถึงสามคน “ปล่อยฉันนะคะ” เขาจำได้ว่าขนมชั้นแกบอกว่าตำแหน่งพ่อยังว่าง ไม่เคยมี ถ้าขนมชั้นเป็นลูกเขา แล้วน้องๆ ของขนมชั้นลูกใครอีกล่ะ “ขนมชั้นบอกว่าแกมีน้องอีกสอง ชื่อทองหยิบกับทองหยอด แล้วอีกสองคนนั่นลูกใคร” “ไม่รู้” วราลีส่ายหน้าหวือ “จะไปรู้ได้ไงว่าเป็นลูกใคร” เธอเบือนหน้าหนีเขาที่ขยับเข้ามาใกล้จนจมูกโด่งอยู่ห่างจากใบหน้าแค่ครึ่งฝ่ามือ “อะไรกันลี ไม่รู้ว่าท้องกับใคร ทำไมคุณถึงได้ปล่อยตัวแบบนี้” นี่หรือแม่ของลูกเขา! เธอขยับริมฝีปากจะแย้งว่าจะรู้ได้ยังไง เธอเจอเจ้าทองหยิบกับทองหยอดในกล่องกระดาษที่คนใจร้ายเอาแมวแฝดน่ารักสองตัวมาทิ้งไว้ในสวนสาธารณะของหมู่บ้านตอนพาขนมชั้นไปวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า ขนมชั้นบอกว่าน้องๆ น่าสงสารจนวราลีใจอ่อนต้องพากลับมาเลี้ยงดู แต่เสียงฝีเท้าหนักๆ พร้อมกับเสียงผลักประตูหลังบ้านเข้ามา ทำให้คนทั้งคู่รีบผละออกจากกัน “แม่ลีขา คุณลุงขา น้องๆ คงหิวจัด ฟัดกันนัวเลยค่ะ ทองหยิบถีบทองหยอด ทองหยอดลุกขึ้นมาได้เอาหัวชนทองหยิบ แต่ก็ดีกันแล้วค่ะ” พอพูดจบแม่หนูก็เห็นว่าลุงพชรกับแม่ลีช่วยกันปั้นลูกชุบด้วยสีหน้าแปลกๆ สองคนมีเหงื่อเต็มหน้า เด็กหญิงเลยเดินไปกดพัดลมทรงสูงเบอร์สาม “ปั้นลูกชุบแล้วร้อนเหรอคะ คุณลุงกับแม่ลีหน้าแดงเลย” พชรหน้าแดงเพราะอายที่ไปต่อว่าวราลีเมื่อครู่ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทองหยิบ ทองหยอด มันคงเป็นลูกของแมว ส่วนวราลีอายที่ถูกเขาดึงไปกอด เมื่อครู่ทำอะไรไม่ถูกเพราะลูกวิ่งเข้ามาเกือบจะเห็นภาพนั้นแล้ว เลยก้มหน้าปั้นลูกชุบไปเงียบๆ อีกฟากหนึ่ง ธีรกานต์ไม่ได้คิดจะเอาตัวรอดทิ้งน้องสาวกับหลานไว้ แต่เขามองว่าโกหกต่อไปก็คงถูกจับได้อยู่ดี เรื่องนี้น้องสาวกับพ่อของหลานคงต้องเปิดอกคุยกันเอง แล้วรู้ดีว่าวราลีเป็นคนเข้มแข็งพอ เธอจะจัดการกับเรื่องนี้ได้เอง เขาถอยออกมาคอยดูการตัดสินใจของวราลีจะดีที่สุด ปกติแล้วเขาจะต้องอยู่จนคลินิกเลิกเป็นเวลาสองทุ่ม ธีรกานต์เป็นคนละเอียดรอบคอบ เขาจะต้องมั่นใจว่า ‘ธีรกานต์คลินิก’ ปิดเรียบร้อย ไม่มีช่องทางให้โจรขโมยเข้าไปงัดแล้วจึงกลับเข้าบ้านนอน ทว่าเมื่อเย็นเขารีบออกมาจากคลินิก หลังออกจากบ้านวราลีแทนที่เขาจะขับรถกลับบ้าน ธีรกานต์จึงนึกห่วงเกรงว่าลูกน้องจะปิดคลินิกไม่เรียบร้อย เพราะเคยพลาดลืมล็อกประตูจนมีโจรเข้าไปขโมยเวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ที่มีราคาแพงไปแล้ว โชคดีมีกล้องวงจรปิดที่หน้าร้านกับกล้องวงจรปิดจากร้านทองฝั่งตรงข้ามทำให้จับคนร้ายได้ ธีรกานต์ตัดสินใจดับเครื่องยนต์พลางนึกในใจว่าใครมาด้อมๆ มองๆ อยู่หน้าร้าน พอเขาเพ่งมองไปในความมืดที่มีเพียงแสงสลัวจากไฟนีออนที่สั่งให้เปิดทิ้งเอาไว้ตลอดคืนทำให้เห็นเพียงด้านหลัง รูปร่างอ้อนแอ้นอรชร สวมเดรสสีน้ำตาลทองความยาวแค่เข่า ทิ้งผมยาวสลวยยาวถึงกลางหลัง ให้ตายเถอะ เห็นแค่ด้านหลังเขาก็จำได้ไปถึงใบหน้า แม้ว่าจะไม่ได้เจอกันมาหลายปีก็ตาม เขากำลังคิดถึงเธออยู่เชียว ทายาทเจ้าของโรงพยาบาลเพื่อสุขภาพและความงามอย่างครบวงจร ทำไมถึงได้เลือกมาเปิดคลินิกส่วนตัวในย่านนี้ ธีรกานต์จอดรถเสร็จก็ผลักประตูเดินออกมาแล้วเห็นว่าหญิงสาวคนนั้นมองไปทางป้ายหน้าร้านที่เขียนว่าปิดบริการเวลา 20.00 น. ใบหน้าสวยออกอาการผิดหวัง ครั้นฝ่าการจราจรมาถึงที่นี่ได้คลินิกกลับปิดอีก “คลินิกปิดแล้วครับ” หญิงสาวสวยหันมาตามเสียง มองดูร่างสูงที่หน้าตาดีมาก ผิวขาว สวมชุดออกกำลังกาย “ขอบคุณค่ะ” ‘พะนอขวัญ’ เงยใบหน้าทั้งสวยทั้งน่ารักตอบขอบคุณด้วยน้ำเสียงหวานใส ชนิดที่ธีรกานต์ไม่อยากจะเชื่อหูว่าสาวสวยตรงหน้าคือ ‘พะนอขวัญ’ อดีตซี้วัยเยาว์ของเขาจริงๆ “ไม่เคยมาคลินิกนี้ล่ะสิท่า” “ใช่ค่ะ ไม่เคย ว่าจะลองรักษาดู หมอที่นี่รักษาดีไหมคะ” คนเจ็บข้อเท้ามาหลายวันแต่ไม่มีเวลาไปโรงพยาบาลได้ยินว่าคลินิกแห่งนี้แม้จะเปิดใหม่ได้ไม่นาน แต่ชาวบ้านลือกันว่ารักษาดี “รักษาดีไหม ผมไม่กล้าการันตี แต่หมอหน้าตาดีนะ อยากจะให้หมอที่คลินิกนี้เขาดูอาการให้ไหมล่ะ” “อ้าว ก็คลินิกปิดแล้วนี่” “ปิดแล้วก็เปิดได้” ธีรกานต์ล้วงหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋ากางเกง พะนอขวัญประหลาดใจ “คุณทำงานที่นี่เหรอคะ” ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีกุญแจ “แต่คลินิกปิดแล้ว หมอก็ต้องกลับไปแล้วสิ อย่าบอกนะคะว่าคุณเป็น...” ธีรกานต์ที่กำลังเปิดคลินิกทำการตรวจรอบพิเศษ หันใบหน้าหล่อกลับมายิ้มพร้อมเลิกคิ้วสูง “ผมหมอธีครับ เจ้าของคลินิกแห่งนี้ ถ้าอยากรู้ว่ารักษาดีไหม เดี๋ยวลองให้ผมดูอาการให้คุณก่อน มาเป็นคนไข้ของผมดู แล้วคุณก็จะรู้ว่ารักษาดีหรือไม่ดี” เขาหันกลับไปเปิดประตูจนเสร็จ พะนอขวัญประหลาดใจที่เขาเปิดคลินิกให้เธอเข้าไปทั้งที่ปิดไปแล้ว แต่เวลานี้เธอก็ปวดข้อเท้าจนเดินลำบากมาหลายวัน รักษาดีหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ ‘คลินิกนี้หมอหน้าตาดี’ พชรมองดูสองแม่ลูกนำผลไม้จิ๋วที่ลงสีแล้วจนดูเหมือนจริงไปชุบกับผงวุ้นที่ละลายกับน้ำแล้ว จากนั้นก็ตากไว้ให้แห้งก่อนนำไปชุบอีกสองครั้ง ขั้นตอนดูยุ่งยากสำหรับพชร แต่สำหรับสองแม่ลูกดูเป็นงานง่ายและทำกันไวมาก “สิบสอง สิบสาม สิบสี่ สิบห้า” ขนมชั้นนำลูกชุบมาจัดใส่กล่องที่นำใบตองมาวางรองก่อนกล่องละสิบห้าชิ้น พชรอยากจะช่วยเหลือเกิน แต่เขายังทำช้ากว่าขนมชั้นอีก ส่วนวราลีไปตัดใบเตยเตรียมจะทำขนมชั้นใบเตยอยู่หลังบ้าน เพราะไม่อยากอยู่เผชิญหน้ากับคนที่ไล่เท่าไรก็ไม่กลับ บอกว่าจะรอรับลูกชุบกลับไปเอง “นับเลขเก่งจังครับ” เขามองลูกชุบถูกเรียงในกล่องอย่างสวยงาม “ขนมชั้นขายกล่องเท่าไรครับ” ขนมน่ากิน คนทำน่ารัก แล้วคนทำยังเป็นลูกสาวอีกด้วย คนเพิ่งเป็นพ่อได้วันแรกก็ต้องเห่อเป็นธรรมดา คิดจะเหมาลูกชุบทั้งหมดนี้เอาไปตักบาตรเช้าและแจกเพื่อนบ้านเป็นการผูกสัมพันธไมตรี แม่หนูวางมังคุดลงในกล่องเป็นลูกสุดท้ายแล้วเงยหน้ามองพชรก่อนจะส่งยิ้มเผล่ “ขนมชั้นขายเป็นถาดค่ะ ไม่ได้ขายเป็นกล่อง ถาดละสี่สิบบาท” พชรมองแม่ตัวกลมคนช่างจ้อแล้วตะลึง คำพูดที่ขนมชั้นตอบมา ถ้าเป็นลูกชาวบ้าน เขาจะบอกว่าถูกเด็กกวนใส่ เพราะที่เขาถามหมายถึงลูกชุบที่ขนมชั้นทำ แม่หนูตาใสก็ดูเข้าใจนะว่าเขาถามถึงลูกชุบ แต่ดันตอบกลับว่าขนมชั้นขายเป็นถาด ทำเอาพชรแทบจะไปไม่ถูก ‘พ่อถามผิดเอง’ “เอ่อ พ่อ...”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม