บทที่ 1 นางร้ายพ่ายรัก...
บทที่ 1 นางร้ายพ่ายรัก...
ปีศตวรรษที่ 22
"วันนี้ฉันจะเมา..." เสียงหญิงสาวในร้านเหล้าหรูใจกลางเมืองเอ เขตปกครองเศรษฐกิจพิเศษที่ขึ้นชื่อว่าร่ำรวยที่สุด ณ เวลานี้ เธอนั่งคนเดียวกับแก้วเหล้าพร้อมเสียงเพลงอะคูสติกจังหวะช้าๆ ขับกล่อม
แก้วที่หนึ่ง...
ตามด้วยแก้วที่สอง..
แก้วที่สาม...สี่...ห้า... และนับสิบ
ดั่งว่ารสขมฝาดเปล่งที่ไหลรินลงลำคออาจจะช่วยชโลมจิตใจที่บอบช้ำของหญิงสาว
"เหมือนเดิมอีกแก้ว..."หญิงสาวเอ่ยสั่งบาร์เทนเดอร์อีกครั้ง หลังจากที่สั่งนับไม่ถ้วน
มือบางหยิบโทรศัพท์กดเข้าแอปธนาคารที่มีเงินในบัญชีมากกว่าพันล้านหยวนจากการทำงานที่เธอภาคภูมิใจที่สุด นิ้วเรียวยาวกดโอนเงินบริจาคเข้ามูลนิธิเด็กและคนชราไร้ที่พึ่งที่ที่นางเติบโตมา...
"คุณหวังครับ ผมว่าคุณเมาแล้วนะครัขับรถกลับอาจอันตรายนะครับ" บาเทนเดอร์เอ่ยกับดาราสาวอย่างสุภาพ
เมื่อหญิงสาวได้รับคำเตือน ใบหน้างดงามแต่งหน้าสีฉูดฉาดตามฉบับนางร้าย มือเท้าค้างยกยิ้มเล็กน้อย
ใช่แล้ว...
เธอชื่อ อริส หวัง นักแสดงตัวร้ายดาวรุ่งพุ่งแรงที่กวาดรางวัลมานักมาเกือบทุกเวที ทั้งที่หน้าที่การงานของเธอนั้นก้าวหน้ามีเงินทองมากมายมหาศาลยิ่งกว่าใครๆๆ แต่ความรักกลับ...
กลับบอบช้ำยิ่งกว่าผู้ใด
ทุกครั้งที่มีความรักนางมักเจ็บช้ำ
ไม่ว่าทุ่มเทไปเท่าไหร่ สุดท้ายมักจะมีหญิงสาวที่อ่อนโยน น่าทะนุถนอมยืนอยู่ข้างๆ ชายคนรักเสมอ
กับคำพูดเดิมๆ ซ้ำๆๆ
'ผมทิ้งเค้าไม่ได้'
แล้วเห็นเธอเล่า...เธอก็เจ็บเป็น...เธอก็มีหัวใจเหมือนกันนะ...
"บางทีถ้าหากว่าดื่มอีกแก้วแล้วหลับไปอาจเจอใครสักคนก็เป็นได้ ที่ไม่ว่าฉันจะร้ายจะอัปลักษณ์เท่าใดก็ไม่มีวันทิ้งกันไป อยู่คู่กันทุกชาติภพ"ร่างบางพูดอย่างพร่ำเพ้อสายตาล่องลอย สายตาเหม่อมองกับรูปชายผู้หนึ่งในชุดนักรบจีนโบราณสีดำทมิฬที่ติดอยู่ข้างพนังของร้าน ใบหน้าดูเย็นชาเก่งกาจและหล่อเหลาเป็นที่สุด
"ว่ากันว่าคู่แท้แม้ต่างชาติ..ต่างภพ...ย่อมพบเจอกันในสักวันนะครับ"บาเทนเดอร์วัยกลางคนเอ่ยขึ้น พลางมองไปที่รูปภาพที่หญิงสาวเหม่อมองอยู่นาน
"คู่แท้หรือ..."นางร้ายทวนคำของบาเทนเดอร์ที่ใบหน้าคุ้นเคยแต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ใดกันนะ
ร่างบางพลางนึกอย่างจิตใจล่องลอย
'หรือเพราะคนคู่แท้ของนางนั้นไม่มีอยู่จริง'ร่างบางหลับตาลงช้าๆ ฟุบหลับหมดสติไป
"ขอให้คุณหนูสมหวังในเร็ววันนะขอรับ..."
อึก!! อึก!!
อึดอัด หายใจไม่ออก เหมือนจะขาดอากาศหายใจลงแล้ว
ใครก็ได้ช่วยที ช่วยด้วย!!!
"คุณหนู คุณหนูเจ้าคะ"เสียงหญิงสาวเอ่ยกระซิบข้างๆหู ทำให้ความอึดอัดค่อยๆจางลงช้าๆ
เสียงใครกันนะ!!ทำไมถึงพูดได้ภาษาเก่าแก่แต่นางฟังแล้วกลับเข้าใจได้
อืม...เหมือนกับว่าใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน
อลิสค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆกลับมีอาการปวดหัวจนแทบเหมือนระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ
"เจ็บ เจ็บมากเลย"มือบางยกขึ้นกุมหัวเอาไว้พลางสบถออกมาเบาๆ
"คุณหนูเจ็บตรงไหน เดี๋ยวบ่าวไปตามหมอก่อนนะเจ้าค่ะ"เสียงหญิงสาวที่อยู่ด้านข้างเอ่ยขึ้นอีกครั้งแล้วจากไปทันที
ปล่อยร่างบางที่นอนอยู่ พยายามลืมตาขึ้นแม้ว่าจะเจอกับแสงแยงตาจนสายตาพร่ามัวไปหมด
นี่เมื่อคืนคงดื่มไปเยอะจริงๆ ถึงได้ปวดหัวหนักขนาดนี้ ร่างบางพยายามลุกขึ้นนั่งด้วยความสะลืมสะลือ
"คุณหนู อย่าพึ่งลุกเจ้าค่ะบ่าวให้คนไปตามท่านหมอแล้วอีกเดี๋ยวก็คงมา"หญิงสาวที่เอ่ยกระซิบเมื่อครู่กลับมาแล้วพร้อมพยุงตัวในอลิสลงนอนอีกครั้งซึ่งอริสเองก็ไม่มีแรงขัดขืนแม้แต่น้อย
"เธอ เรียกใครว่าคุณหนู??"ทันทีที่นอนลงเรียบร้อย อลิสตัดสินใจเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย
"คุณหนูไงเจ้าค่ะ "หญิงสาวในชุดจีนโบราณเอ่ยตอบพร้อมใบหน้าใสซื่อ
"คุณหนูหรือ..."ร่างบางพยายามทวนคำซ้ำๆช้าๆๆ มองไปดูรอบกายที่เต็มไปด้วยการตกแต่งจีนโบราณคล้ายซี่รี่ย์ฟอร์มยักษ์ที่นางกำลังถ่ายทำอยู่
วงการบันทึกก็แบบนี้สินะ
อืม...หรือว่าพวกเขาแอบถ่ายนางอยู่เป็นแน่ ต้องให้สมบทบาทให้แนบเนียนหน่อยเสียหน่อยแล้ว
"ข้ารู้สึกปวดหัวยิ่งนัก เหมือนจะจำอะไรไม่ค่อยได้"มือบางยกมือขึ้นบีบขมับเล็กน้อยพร้อมเอ่ยยตามที่คุณครูสอนการแสดงสอนไว้อย่างแนบเนียน
ตอแหลมา..ตอแหลกลับไม่โกง...
"โถ่...คุณหนูของบ่าว เคราะห์ซ้ำกรรมซัดแท้ๆๆ"หญิงสาวในชุดจีนโบราณน้ำตาคลอพลางเอ่ยซ้ำไปซ้ำมา
"ข้าหรือ..."มองหญิงสาวในชุดสาวใช้ที่เอ่ยขึ้นพร้อมน้ำตาคลอ
แสดงได้เก่งกาจนักหากว่าเสร็จงานแล้วชวนไปกินข้าวสักมื้อดีหรือไม่
ร่างบางคิดในใจ
"เจ้าค่ะ คุณหนูรองเป็นบุตรีแม่ทัพใหญ่นามจินเลี่ยงเฟิ่ง มีบิดาเป็นท่านแม่ทัพใหญ่แคว้นโจวนามเหวินเทียนกับฮูหยินเอกอวี้หลันเจ้าค่ะ"
"เจ้าเล่ามีชื่อหรือไม่...คุณหนูรองแปลว่าข้ามีพี่สินะ" ร่างบางเอ่ยถามต่อเมื่อเห็นท่าทีเอาจังของนักแสดงที่สวมบทสาวใช้คนสนิทของเธออยู่
ดูสิจะเล่นกันถึงไหนกัน...
"ข้าชื่ออิงอิงเจ้าค่ะ คุณหนูมีพี่สาวที่เกิดจากอนุในจวน นามจินอ้ายเซียงเจ้าค่ะ"ร่างบางพยักหน้ารับฟังอย่างเข้าใจ ดูจากที่เล่ามาเป็นตุเป็นตะไม่น้อย
ทันใดนั้นสายตาก็เป็นประกายทันที....
จินอ้ายเซียงนางเอกเรื่องดวงใจข้ามภพ นั่นเอง
ถึงว่าชื่อ พี่สาวคนโตช่างคุ้นหูนัก
ไม่ทันได้เอ่ยถามต่อ มีบุรุษชราผู้หนึ่งก้าวเท้าเข้ามาในห้องอย่างรีบร้อน
"เชิญท่านหมอเจ้าค่ะ คุณหนูอยู่นิ่งๆให้ท่านหมอตรวจก่อนนะเจ้าค่ะ"สิ้นเสียงอิงอิง
ท่านหมอแต่งชุดขาวทั้งตัวพร้อมย่ามสะพายถุงใหญ่เดินเข้ามานั่งพร้อมจับชีพจรข้อแขนของอริสเอาไว้
"อืม คงต้องฟังเข็มดื่มยาสักสามสี่หม้อย่อมหายขาด"ท่านหมอเอ่ยช้าๆๆ
ทางด้านอริสใบหน้าซีดเผือด
แฟนคลับต่างรู้ทั่วทั้งวงการต่างรู้อริสหวังกลัวเข็มเป็นที่สุด
"หมอ ฝังเข็มอะไรไม่เอานะอย่ามาใกล้ข้า"ร่างบางเอ่ยอย่างร้อนรน
"คุณหนูอยู่นิ่งๆนะเจ้าค่ะ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว"อิงอิงที่อยู่ด้านข้างเอ่ยปลอบเมื่อเห็นผู้เป็นนายสีหน้าซีดเผือด
"ไม่เอาแล้ว ไม่ถ่ายแล้วออกไป ออกไปให้หมด ออกไป"เมื่อเห็นหมอเปิดกล่องไม้ออก ด้านในเรียงรายไปด้วยเข็มน้อยใหญ่อริสโวยวายไม่ยินยอมอีกครั้ง
เกินไปแล้วเกินไปจริงๆ...
"จับคุณหนูของเจ้าเอาไว้..."
"ใครอยู่ด้านนอกมาช่วยจับคุณหนูรอง..."อิงอิงเอ่ยเรียกเพียงครู่เดี๋ยวเหล่าสาวใช้กรูกนมาช่วยจับให้เจ้านายนิ่งเพื่อฝังเข็ม
"จะเริ่มแล้วนะ เพียงสองจุดเท่านั้นจับคุณหนูรองเอาไว้ให้มั่น"
"มากไปแล้ว ฉันจะฟ้อง!!ฟ้องทุกคน!!ฮือๆๆๆ"
อริสยังคงโวยวายไม่ยินยอม
เมื่อเข็มจิ้มลงกลางฝ่ามือร่างบางกรีดร้องดิ้นพล่าน
"ม่ายยยยยยยยยยยย"ความเจ็บถาโถมทำให้ร่างบางหมดสติไปอีกครั้ง
พร้อมสบถ
พวกบ้าจะฆ่ากันให้ตายเลยหรือไง...
อริสตื่นขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางม่านหมอกสีขาวไกลสุดลูกหูลูกตาไร้ผู้คน
"ที่นี่ที่ไหนกัน..."อริสเอ่ยออกมาเบาๆด้วยความไม่คุ้นเคย เมื่อครู่ยังตื่นขึ้นบนเตียงเซตฉากซี่รีย์จีนโบราณอยู่แท้ๆ
โผล่มาที่นี่ได้ยังไงกัน...
"ที่นี่ไม่ใช่โลกมนุษย์..."เสียงชายแปลกหน้าเอ่ยขึ้น
"คุณเป็นใครกันคะ?? ..."ร่างเอ่ยถามชายแปลกหน้าในชุดจีนโบราณงดงามสีทองอร่ามนั่งจิบชาอยู่
"อย่ารู้เลย ต้องขอโทษด้วยที่คนของเราทำงานผิดพลาดทำให้เจ้าไปอยู่ในที่ที่มิควรอยู่ ไม่เจอคู่ครองที่มีชะตาด้ายแดงพันผูกมาหลายชาติหลายภพ"ชายแปลกหน้าเอ่ยขึ้นอย่างจริงใจ
"คุณพูดอะไรค่ะ ฉันไม่เข้าใจ"
"อย่างที่บอก เจ้าไปอยู่ในภพภูมิที่มิควรอยู่ เราจะส่งเจ้ากลับคืนชะตาเดิม"
"??? ..."ใบหน้างดงามตามแบบฉบับนางร้ายสีหน้ามึนงงไม่เข้าใจแม้แต่น้อย นี่..พูดภาษาเดียวกันใช่หรือไม่
"ที่เรียกมาพูดคุย เจ้าจะได้ปรับตัวได้ทันและจะให้พรหนึ่งข้อ"
"พรหรือคะ เช่นนั้นฉันขอให้ได้แต่งงานกับคู่แท้ของฉันในเร็ววันได้ไหม"แม้ไม่เข้าใจที่ชายแปลกหน้าเอ่ยมากนัก
แต่อลิสมีคำขอเดียวที่อยากจะขอ...
คู่แท้...
"ได้.."
เพียงชายแปลกหน้าตอบรับเท่านั้น
ไม่นานสติของอลิสก็ดับวูปอีกครั้ง