พวกของอูเลเดินกลับเข้ามาในหมู่บ้านท่าทางเหนื่อยอ่อนและอิดโรยแต่ก็ดีขึ้นเมื่อได้ทราบว่าพวกของนรินทร์กลับมาปลอดภัยรวมถึงพิมพลอยด้วย
"ไม่นึกเลยว่าพวกนายทหารจะพบกับหมอแล้วพากันกลับมาได้อย่างปลอดภัย"อูเลเอ่ยขึ้นกับนรินทร์ที่ใต้ถุนบ้านของตาเฒ่า
"ก็ไม่ปลอดภัยเท่าไหร่หรอกครับ เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยแต่ก็ทำเอาเกือบแย่อยู่เหมือนกัน คนที่หนักสุดเห็นจะเป็นพิมพลอยครับ"
"อ้าว หมอเป็นอะไรนายทหาร"
"ไม้แทงเข้าที่ตรงสะโพกครับแผลลึกเหมือนกัน"
"เวรกรรมอะไรของหมอนะถึงได้มาเจอเรื่องแบบนี้ ตอนที่โดนเจ้าผีดิบจับตัวไปก็ไม่รู้หนีรอดมาได้ยังไง"อูเลบ่นนึกสงสารหญิงสาว
"จริงสิผมลืมเรื่องนี้ไปเลย ไม่ได้ถามเหมือนกันครับว่าหนีมายังไง"นรินทร์ตอบเขาลืมคิดเรื่องนี้ไปจริงๆ
"แต่ก็ดีแล้วแหละที่เราทุกคนกลับมาปลอดภัย"
"พวกเรากลับมาครบทุกคนแล้วหรอครับ"นรินทร์ถามรู้สึกเหมือนขาดใครไปสักคน
"ครบสินายทหาร ก็มีอูเล ไอ้คะฉิ่น นายทหารปกรณ์ ผู้หมวดแล้วก็หมอที่เราออกไปตามหาครบแล้วไงจ๊ะ"
"ฉันว่าเราลืมไปคนนึงนะ อาเชไงกลับมาหรือยัง"
"ตายโหงล่ะ ตั้งแต่เห็นมันครั้งสุดท้ายตอนพิธีแตกป่านนี้ยังไม่เจอมันอีกเลย"อูเลอุทานตกใจเมื่อนึกย้อนกลับไป
"หรือว่ารอยเท้าที่เราตามวันนี้จะเป็นของอาเชพ่อ"คะฉิ่นพูดโพลงขึ้น อูเลคิดตามมีส่วนเป็นไปได้สูงที่จะเป็นรอยเท้าของอาเช
"แล้วอย่างนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ เราจะออกตามหาอาเชกันไหม"
"ออกตามกันไปมามีหวังหายไปทีละคนหมดพอดี อูเลว่าไอ้อาเชไม่น่าจะเป็นอะไรมากเพราะมันเข้าป่าล่าสัตว์อยู่บ่อยๆคงหาทางกลับหมู่บ้านมาได้เอง"
"แต่ถ้างันทำไมป่านนี้ยังไม่กลับมาล่ะ เขาอาจจะได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า"
"ไม่น่าใช่ จากรอยเท้าที่เห็นวันนี้ การเดินสม่ำเสมอไม่มีหยุดพักหรือแสดงอาการเจ็บป่วยเดินลากขาอะไร กลับดูเดินแบบรีบเร่งไปเหมือนมีจุดหมายปลายทางมากกว่า"
"ถ้าเป็นแบบนั้นอาเชก็คงไม่น่าเป็นห่วงเท่าไร งันพวกอูเลพักผ่อนเถอะเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว ขอบใจมากนะครับที่ออกไปตามหาพวกผมกัน"
"ไม่เป็นไรหรอกนายทหารพวกเราเต็มใจ"อูเลบอกยิ้มซื่อๆให้นรินทร์นึกนับถือตาเฒ่าแห่งพงไพรที่มีน้ำใจกว้างขวางสมกับที่คนนับหน้าถือตา ชื่อเสียงของแกเขาได้ยินตั้งแต่มาประจำการที่นี่ใหม่ๆ ชายหนุ่มเดินออกจากบ้านของตาเฒ่ากะว่าจะไปปรึกษาเรื่องของเถื่อนกับปกรณ์และทรงยศอีกแต่เห็นว่ามันดึกมากแล้วไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยอีกทีจะได้ไม่รบกวนเวลาของทั้งสอง
รุ่งเช้ามะเมียะรีบเช็ดตัวให้หญิงสาวแล้วขอตัวกลับไปทำอาหารเช้ามาให้ พิมพลอยนึกสงสารเด็กสาวที่ต้องวิ่งไปวิ่งมาระหว่างบ้านกับสถานีอนามัย เมื่อคืนมะเมียะก็มานอนเฝ้าเธอทั้งคืนโดยหญิงสาวไม่เห็นวี่แววของคนที่เคยนอนร่วมกันในไพรกว้างเลยแม้แต่เงา ร่างบางนึกน้อยใจชายหนุ่มผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของเธออย่างที่ใครๆรับรู้ แต่การกระทำของเขากลับตรงกันข้าม ตั้งแต่ออกจากป่ามาได้จนถึงเวลานี้เขายังไม่มาเยี่ยมเธอเลยสักครั้ง นายทหารหนุ่มคงยุ่งอยู่กับการดูแลแฟนสาวตัวจริงจนลืมภรรยาปลอมๆคนนี้ไปเสียแล้ว
"หมอดีขึ้นมากเลยนิ ลุกขึ้นนั่งได้แล้ว"อูซอนำร่างใหญ่ของตนโผล่มาให้พิมพลอยเห็นทุกเช้าก่อนใคร
"จ้ะ ดีขึ้นมากแล้ว"พิมพลอยตอบตามมารยาทเพราะเธอรู้ว่าชายหนุ่มวัยกลางคนผู้นี้คิดอะไรกับเธออยู่
"ถ้าหมอหายดีเมื่อไร จะได้ลองผ้าที่ฉันเอามาฝากจากฝั่งโน้นมีแต่ผืนสวยๆทั้งนั้นเลยจ้ะ"
"ไม่น่าต้องลำบากอูซอเลย ที่ขนมาให้ฉันคราวก่อนยังไม่ได้ใช้ งวดหน้าไม่ต้องเอาอะไรมาให้แล้วนะเปลืองเปล่าๆ"พิมพลอยคิดถึงของที่อูซอขนมาเมื่อเดือนก่อนยังว่างอยู่ในลังเหมือนเดิมโดยหญิงสาวไม่ได้แตะต้องมันสักนิด
"ฉันเต็มใจนิจ๊ะ ถึงหมอบอกว่าไม่รับแต่ฉันก็อยากจะให้อยู่ดี"อูซอตื้อไม่เลิกจนหญิงสาวพยักหน้ารับอย่างอ่อนใจ ต้องแสร้งล้มตัวลงนอนอยากพักผ่อนเพื่อหยุดบทสนทนากับอูซอ
เมื่อคืนนรินทร์นอนบนเตียงของหญิงสาวสูดกลิ่นกายของเธอที่ติดกับหมอนอย่างคำนึงหา เขาเฝ้านับวันรอให้ครบเจ็ดวันตามกำหนดที่บนบานแต่เวลาชังผ่านไปช้าเหลือเกิน ใจของชายหนุ่มอยากไปนอนใกล้ๆเฝ้าเธอใจจะขาดแต่กลัวจะหักห้ามใจตนเองไว้ไม่ไหวจึงได้แต่นอนกอดหมอนของหญิงสาวไปก่อน
ปกรณ์เดินเซโซออกจากชายป่าเวลาใกล้ย่ำรุ่งล้มตัวลงนอนบนแคร่หน้าบ้านแล้วหลับไปใบหน้าของชายหนุ่มซีดเซียว นรินทร์ที่ตื่นขึ้นมาพบพยายามปลุกอย่างไรก็ไม่เป็นผล ปกรณ์ยังคงหลับจากความอ่อนเพลีย
"ผู้หมวดครับ ปกรณ์ไปทำอะไรมาถึงได้ดูหมดเรี่ยวแรงขนาดนี้"ทรงยศที่เดินลงมาจากบ้านพักอีกหลังพร้อมลดาเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นสภาพของเพื่อน
"ไม่รู้สิ คงเอาตัวแลกรับใช้ชาติมามั้ง"นรินทร์พูดขำๆแต่คนฟังทั้งสองมองหน้ากันงงเป็นไก่ตาแตก
"นะพูดอะไรของนะลดาไม่เข้าใจ"ลดาพาซื่อถามต่อ
"มันก็ไปทำแบบที่ลดาทำกับไอัยศเมื่อคืนนั้นแหละ"นรินทร์พูดแกมหยอกลดาหน้าร้อนคิดถึงเรื่องเมื่อคืน ทรงยศแกล้งไอกลบเกลื่อนเปลี่ยนเรื่องคุย
"แล้วผู้หมวดมีอะไรหรือเปล่าครับปลุกปกรณ์แต่เช้าเลยให้ผมทำได้นะ"ทรงยศอาสานรินทร์เล่าเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับของเถื่อนและแผนการทั้งหมดที่วางไว้ให้ชายหนุ่มฟัง
"แล้วทำไมเราถึงไม่เข้าจับกุมพวกมันเลยล่ะครับแล้วค่อยสอบเค้นสอบว่าของที่ว่าคืออะไรอยู่ที่ไหน"
"พวกเรามีกำลังน้อยกว่าแถมพวกมันมีอาวุธครบมือถ้าเราจับไม่ได้คาหนังคาเขาพวกมันไม่ยอมรับหรอก ดีไม่ดีจะโดนชาวบ้านที่นี่เกลียดชังหาว่ายัดข้อหาให้ผู้บริสุทธิ์"ทรงยศคิดตามนรินทร์ ผู้หมวดหนุ่มรุ่นพี่รอบคอบรัดกุมเสมอเขาไม่เคยหละหลวมกับหน้าที่รัวของชาติเลยสักครั้ง
"แล้วผู้หมวดจะเอายังไงต่อไปดีครับ"
"ฉันว่าจะให้ปกรณ์ลงไปขอกำลังเสริมที่หน่วยพร้อมอาวุธ ส่วนฉันจะจับตาคอยดูการเคลื่อนไหวของพวกมันอยู่ทางนี้ ถ้าเราสามารถรู้ที่ซ่อนของในกล่องได้ก่อนก็จะทำให้งานง่ายขึ้น"ทรงยศเข้าใจในแผนการของนรินทร์ได้อย่างดีแต่ติดตรงที่ว่าคนที่จะให้ไปส่งข่าวขอกำลังเสริมยังไม่ฟื้นเลย
"ถ้างันให้ผมไปแทนปกรณ์นะครับ สภาพร่างกายตอนนี้ผมน่าจะดีกว่าและไปได้เร็วกว่าปกรณ์ครับ"ทรงยศรีบอาสา
"นายแน่ใจหรอว่าจะไปเองยศ"
"ครับ"
"งันก็เอาตามนี้นายลงไปส่งข่าวขอกำลังเสริมส่วนฉันจะอยู่ทางนี้เอง ฝากด้วยนะยศ"นรินทร์ตบไหล่ชายหนุ่มเบาๆอย่างภูมิใจ
"ผมขอฝากคุณลดากับผู้หมวดด้วยนะครับ ช่วงนี้เธอแพ้ท้องหนักเมื่อคืนก็อาเจียนไปหลายรอบ"ทรงยศจับมือลดาแน่น หญิงสาวบีบมือกลับอย่างเข้าใจในภาระหน้าที่ของฝ่ายชาย
"ไม่ต้องห่วง ฉันจะดูแลลดาเหมือนน้องสาวของฉันเองนายไม่ต้องเป็นกังวลรีบไปเถอะยศ เดี๋ยวสายกว่านี้จะเป็นที่ผิดสังเกตุของพวกมัน"ทรงยศรีบปฏิบัติตาม เขาแต่งตัวจัดกระเป๋าโดยมีลดาคอยช่วยอยู่ไม่ห่าง
"เดินทางดีๆนะคะยศ ลดาจะรอคุณอยู่ทีนี่"
"ครับคุณต้องดูแลตัวเองกับลูกให้ดีๆนะเสร็จเรื่องนี้แล้วผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย"ทรงยศพูดยกมือของหญิงสาวขึ้นมาจูบแล้วทรุดตัวลงจูบเบาๆที่ท้องของหล่อน
"ดูแลแม่ด้วยนะเจ้าตัวเล็ก"ลดามองภาพตรงหน้าน้ำตาคลอทรงยศรักลูกในท้องเธอมากกว่าพ่อจริงๆของเขาซะอีก
"ไปเถอะคะยศต้องเดินทางอีกไกล"ลดาฉุดตัวชายหนุ่มขึ้นกอดแน่น ทรงยศกอดตอบจุมพิศเบาๆที่ศีรษะก่อนตัดใจผละตัวออกหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นสะพายถือปืนในมือกระชับแน่น
"เดินทางปลอดภัยนะทางนี้ไม่ต้องเป็นห่วง"นรินทร์เอ่ยลาทรงยศเดินตัดเข้าป่าค่อยๆหายลับไป
"พี่นะผมรู้แล้วว่าของนั้นซ่อนอยู่ที่ไหน"ปกรณ์ลุกพรวดขึ้นจากแคร่รีบร้องบอก นรินทร์และลดาที่ยืนอยู่มองจ้องเขาเป็นตาเดียว
"ของมันอยู่ที่..."