ใกล้ๆ เที่ยงวันต่อมา พรรณฤดีเดินทางมาพบหลานชายที่บริษัท เพื่อสอบถามถึงธัญสินีที่ไม่ยอมกลับมาหลายวัน โทรหาก็ไม่รับสายทำเอาตนร้อนใจเลยมาหาหลานชายถึงบริษัท แต่พอมาถึงก็เจอกับอดีตแฟนสาวของหลานชายที่เดินหน้าบึ้งออกมาจากห้องหลานชาย
“อรัญญา!”
“คุณป้า! สวัสดีค่ะ” อรัญญายังหงุดหงิดไม่เลิกทักทายผู้อาวุโสเสียงหวาน สีหน้าก็ยิ้มแย้มผิดกับเมื่อครู่ลิบลับ
“หล่อนมาทำอะไร”
“เซญ่าก็มาเยี่ยมเยียนคนคุ้นเคยไงค่ะ ว่าแต่คุณป้ามาหาธีเหรอคะ”
“ก็ที่นี่บริษัทของหลานชายฉัน ฉันก็ต้องมาหลานชายของฉันน่ะสิ แล้วหล่อนล่ะ สามีไม่ได้มาด้วยหรือไง”
“เซญ่ามาคนเดียวค่ะ ว่าแต่คุณป้ายังโกรธเซญ่าอยู่เหรอคะ”
“ฉันจะไปโกรธหล่อนทำไม ฉันดีใจซะอีกที่หล่อนไปแต่งงานกับคนอื่น ก่อนจะแต่งงานกับหลานชายของฉัน! แล้วก็ถือเป็นบุญของตาธีจริงๆ ที่ไม่ได้แต่งงานกับหล่อน เพราะผู้หญิงนิสัยอย่างหล่อนไม่คู่ควรกับหลานชายของฉัน”
“คุณป้า!”
“หล่อนกลับไปได้แล้ว แล้วอย่ามายุ่งวุ่นวายที่นี่อีก” พูดจบผู้อาวุโสที่ไม่ค่อยชอบหน้าอดีตแฟนสาวของหลานชายคนนี้มาแต่ไหนแต่ไร ก็เดินตรงไปยังห้องทำงานของหลานชาย ด้านอรัญญาก็มองตามพร้อมเบ้ปากตามหลัง ในขณะที่ผู้อาวุโสเมื่อเข้าไปในห้องทำงานของหลานชายแล้วก็ถามถึงการมาของอรัญญาทันที “ว่ายังไงตาธี แม่นั่นมาหาแกทำไมอีก” คนเป็นป้าถามย้ำ เมื่อหลานชายเอาแต่นิ่ง
“แค่มาทักทายครับ”
“แกแน่ใจนะตาธี”
“ผมแน่ใจครับคุณป้า แล้วคุณป้าก็สบายใจได้เลย เพราะผมไม่มีวันกลับไปคบกับเซญ่าอีก”
“แกหมดรักแม่นั่นจริงๆ ใช่ไหมตาธี”
“หมดตั้งแต่ผมรู้ว่าเธอนอกใจผมแล้วครับ”
“ก็ดี! เพราะป้าไม่ชอบแม่คนนี้เลย หน้าตาดูไม่น่าไว้ใจ แต่ป้าว่าแกรีบหาแฟนซะเถอะ แล้วมีหลานให้ป้าเร็วๆ ด้วย ป้าเบื่อจะไปเที่ยวแล้ว อยากอยู่บ้านเลี้ยงหลานมากกว่า”
“ผมยังไม่เจอคนถูกใจเลยครับคุณป้า”
“ก็หาเข้าสิ”
“ผมจะพยายามครับ”
“ป้าว่าป้าคงรอแกหาแฟนจนแก่หง่อม หมดหมดแรงอุ้มหลานแน่ๆ กว่าแกจะหาแฟนได้ ให้ป้าให้ดีไหม” คนเป็นป้าเสนอตัว เพราะตนก็มีเพื่อนที่มีลูกสาวอยู่หลายคน แต่ละคนก็สวยๆ การศึกษาก็ดี เหมาะสมกับหลานชายของตนทุกประการ
“ไม่เป็นไรครับคุณป้า ผมว่าผมหาเองดีกว่า”
“กลัวไม่ถูกใจล่ะสิ”
“ก็...”
“ไม่ต้องพูดหรอก ป้ารู้ว่าแกเป็นคนเลือกมาก แต่ถ้าจะมีแฟนจริงๆ พามาให้ป้าดูก่อนนะ เดี๋ยวจะเจอคนหลายใจอย่างแม่อรัญญา แฟนเก่าของแก”
“ครับคุณป้า”
“แล้วหาดีๆ ล่ะ อย่าไปเอาคนแบบแฟนเก่าแกมาเชียวนะ”
“ครับคุณป้า”
“แล้วแกรู้หรือเปล่าว่าพี่ของแกหายไป ทำไมไม่กลับบ้าน”
“ไปอยู่คอนโดครับ”
“บ้านช่องก็มี ไม่รู้จะไปอยู่ทำไมคอนโด แล้วแกติดต่อพี่แกได้หรือเปล่า”
“ไม่ครับ แต่วันที่พี่นีจะไปอยู่คอนโด พี่นีบอกจะไปเที่ยวต่อด้วยครับ”
“แล้วไปกับใคร” ถามเพราะเป็นห่วงหลานสาว กลัวจะไปโดนผู้ชายที่ไหนหลอก
“คงเป็นเพื่อนๆ แหละครับ” ตอบไปแล้วธีรินทร์ก็ไม่รู้หรอกว่าพี่สาวไปกับเพื่อนคนไหน แล้วพี่สาวก็เป็นคนมีเพื่อนน้อยด้วย
“แกก็ดูๆ พี่สาวแกหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวนี้ป้าอ้าปากจะพูดอะไรนิดพูดอะไรหน่อย พี่แกก็หน้าบึ้งใส่ป้าแล้ว ก็มีแต่แกคนเดียวนี่แหละ ที่ยัยนีพอจะฟังบ้าง”
“ผมขอโทษแทนพี่นีด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอก ป้าไม่ถือสา แต่จะเที่ยงแล้ว แกพาป้าไปกินอาหารญี่ปุ่นหน่อยสิ เพื่อนๆ ป้าบอกว่าร้านนี้อร่อย”
“ได้ครับ” ธีรินทร์รับปาก แล้วก็อยู่เซ็นเอกสารต่ออีกสามแฟ้ม จากนั้นก็พาป้าไปทานอาหารกลางวันในร้านอาหารญี่ปุ่น แต่ระหว่างที่พนักงานเอามาเสริฟ์ให้นั่น จู่ๆ พนักงานสาวก็ทำถาดอาหารหล่น ฐานิศรที่คอยสังเกตดูอยู่ เพราะรู้ดีว่าโรสิตาชอบกลั้นแกล้งพิรุณนภา จึงรีบเข้ามาช่วยเพื่อนเก็บอาหาร แล้วขอโทษลูกค้า
“ดิฉันต้องขอโทษด้วยนะคะ”
“ไม่เป็นไร หล่อนรีบไปเอาอาหารมาเถอะ เร็วๆ ด้วยล่ะ” บอกแล้วผู้อาวุโสก็หันไปทางหลานชายแล้วถามว่าเห็นอะไรหรือไม่
“เห็นครับ”
“แย่กันจริงๆ เด็กสมัยนี้ ทำไมถึงได้กลั้นแกล้งกันแบบนี้นะ”
“คราวก่อนเด็กคนนี้ก็โดนแกล้งไปหนหนึ่งแล้วครับคุณป้า”
“แกเคยมาแล้วเหรอ”
“ครับคุณป้า”
“ถ้างั้นแกก็ไปเรียกให้ผู้จัดการมาพบ แล้วบอกเรื่องนี้ซะ ทางร้านจะได้จัดการ ปล่อยให้คนแบบนี้มาทำงานแบบนี้ได้ยังไง นี่ดีเท่าไหร่แล้วที่ถ้วยซุปไม่หล่นใส่หัวป้า”
“เอาไว้ใกล้กลับ ผมจะคุยกับผู้จัดการครับ”
“ดีแล้วหลานป้า คนดีๆ จะได้ไม่ถูกรังแก” พูดจบสองป้าก็รออาหารครู่หนึ่ง พนักงานก็เอามาเสริฟ์แต่ไม่ใช่เด็กสาวหน้าตาน่ารักคนเมื่อครู่ ที่ตอนนี้กำลังถูกผู้จัดการสอบถามเรื่องราวอยู่ในห้องพักพนักงานที่พิรุณนภาก็ตอบไปตามตรงว่าโรสิตาจงใจเดินชน
“ผู้จัดการอย่าไปฟังมันพูดนะคะ มันใส่ร้ายโรส!”
“ใครใส่ร้ายใครกันแน่นังโรส” ฐานิศรที่เห็นกับตาว่าโรสิตาแกล้งย้อนถามอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“อีศร! หุบปากไปเลย”
“หยุด!” เสียงผู้จัดการห้ามทัพแล้วมองสามสาว “อย่ามาหยาบคายกันที่นี้ พี่ไม่ชอบ”
“ถ้างั้นผู้จัดการก็ต้องจัดการยัยแป้งด้วย มันใส่ร้ายโรส โรสทำงานของโรสอยู่ดีๆ มันก็เดินมาชน ทำข้าวของพังเสียหาย แล้วดีเท่าไหร่แล้วที่ถ้วยซุปไม่โดนลูกค้า แกต้องรับผิดชอบ ยัยแป้ง!”
“แต่ศรเห็นกับตาว่ายัยโรสแกล้งแป้งนะคะผู้จัดการ” ฐานิศรแย้งเสียงเขียว
“พอทั้งคู่! พี่จะหักเงินเราทั้งสองคน”
“โรสไม่ยอมนะ!” โรสิตาบอกแต่ผู้จัดการเดินออกไปแล้ว พอดีกับที่พนักงานชายมาบอกว่ามีคนต้องการพบ ผู้จัดการหนุ่มจึงออกไปพบลูกค้าแล้วก็ได้รับทราบความจริงว่าโรสิตาแกล้งพิรุณนภา ผู้จัดการจึงเดินกลับมา และบอกจะหักเงินโรสิตาเพิ่มและคาดโทษไว้ หากมีอีกครั้งจะไล่ออก