ตอนที่ 7

1370 คำ
“สมน้ำหน้า” พอผู้จัดไปแล้วฐานิศรก็หันมาสมน้ำหน้าคนชอบหาเรื่อง ก่อนจะพาพิรุณนภาเดินออกไป ที่เจ้าตัวก็ยอมโดนหักเงิน เพราะอยากให้เรื่องจบๆ เนื่องจากไม่อยากถูกไล่ออก และเห็นทีเธอต้องอยู่ห่างๆ โรสิตาเสียแล้ว ไม่งั้นจะเกิดเรื่องขึ้นมาอีก “แป้ง! ไอ้แป้ง!” ฐานิศรที่เดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยและเตรียมตัวกลับบ้านเดินออกมาเจอเพื่อนที่ยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม “ศร เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเหรอ” “เสร็จแล้ว แล้วแกเป็นอะไร ทำไมยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าอีก ไปเร็ว วันนี้ฉันจะเลี้ยงข้าวต้มแกเอง ดีใจที่ยัยโรสิตาโดนหักเงิน” “ฉันก็โดนหักนะศร” “แต่ก็น้อยกว่ายัยโรสเยอะ เพราะงั้นแกไม่ต้องคิดมาก” “เธอก็รู้ว่าฉันต้องการเงิน แต่ก็ช่างเถอะ เรื่องมันเกิดไปแล้ว” พูดแล้วพิรุณนภาก็ถอนหายใจเบาๆ เพราะจะให้ไปบอกผู้จัดการว่าอย่าหักเงินก็คงไม่มีทางเป็นไปได้ ในเมื่อผู้จัดการพูดแล้วก็ต้องเป็นตามนั้น “ใช่! เรื่องมันเกิดไปแล้ว อย่าเก็บมาคิดรกสมองเลย ว่าแต่แกหางานเสริมได้หรือยัง” “ยังเลย จะทำขนมขายก็ไม่มีเวลา” เพราะทำไปขายแล้วก็กลัวจะไปทำงานสาย เธอเลยคิดว่าจะหางานเสริมอย่างอื่นทำ แต่ก็ยังหาไม่ได้ “ถ้างั้นฉันหาให้เอาไหม” ฐานิศรบอก แต่ไม่ได้คิดจะให้เพื่อนทำงานแบบนี้เลย แต่ถ้าไม่ทำก็ไม่มีเงินไปรักษาแม่ “งานอะไรเหรอ” “แกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไป แล้วไปกินข้าวต้มกัน กินเสร็จแล้วฉันจะบอกว่าแกเอง” “อืม” พิรุณนภาขานรับแล้วเดินเข้าไปเปลี่ยนชุด ก่อนจะออกมาแล้วไปร้านข้าวต้มกับเพื่อนรัก แต่ยังไม่ทันได้พูดคุยเรื่องงานกันเลย ฐานิศรก็ต้องรีบกลับ บอกว่ามีธุระด่วน หลังจากเพื่อนรับโทรศัพท์แล้วก็คุยไม่กี่คำก็หันมาบอกเธอว่าต้องรีบกลับ พิรุณนภาจึงเดินออกมาเรียกรถมอเตอร์ไซด์รับจ้างเพื่อไปโรงพยาบาล แต่ไม่ทันได้เรียกรถก็เจอกับโรสิตาและธนิสาที่เดินเข้ามาหาด้วยท่าทางหาเรื่อง “นังแป้ง!!” “อย่าหามาเรื่องอีกนะโรส” “ฉันจะหา แล้วแกจะทำไม แล้วก็เป็นเพราะแกนั่นแหละ ทำให้ฉันต้องโดนหักเงินสามพัน” “แต่เธอเป็นคนหาเรื่องฉันเองนะโรส แล้วไม่ใช่แค่เธอที่โดนหักเงิน ฉันก็โดนด้วย ทั้งที่ฉันก็ทำงานของฉันดีๆ แต่เป็นเพราะเธอนั่นแหละที่มาหาเรื่องฉัน” “แล้วใครใช้ให้แกไปออเซาะผู้จัดการล่ะ ฉันจะบอกให้ว่าผู้จัดการเป็นของฉัน แกอย่าสะเออะมายุ่ง ไม่งั้นแกโดนหนักกว่านี้แน่” “ฉันไม่เคยทำอย่างที่เธอกล่าวหา” “ไม่ทำน้อยไปสิ วันก่อนผู้จัดการก็เรียกเข้าไปในห้อง ทำไม! แกไปอ่อยอีท่าไหนเหรอ ผู้จัดการถึงได้เรียกแกไปพบบ่อยๆ” “เธอนี่ความคิดสกปรกจริงๆ นะโรส” “แกสิสกปรก คิดจะจับผู้จัดการเป็นผัว!” “หลีกทางฉันด้วย” พิรุณนภาเอ่ยปากขอทางเพราะไม่อยากต่อปากต่อคำด้วย แต่โรสิตากับธนิสาไม่หลีกทางให้ เธอจึงเลือกที่จะเดินลงไปที่ถนนแล้วรีบเดินหนีสองสาวไป แต่โรสิตาและธนิสากลับเดินตามมาหาเรื่อง กระชากแขนเธอแล้วก็ตบหน้าไปหนึ่งที “โรส!!” “แกจะทำไมฉัน นังแป้ง” “ปล่อยฉัน!” “ฉันไม่ปล่อย” จบคำสองสาวก็ยื้อยุดกันอยู่พักหนึ่งโดยมีเสียงของธนิสาบอกให้ตบพิรุณนภา ท่ามกลางสายตาคนบริเวณนั้น ที่บางคนก็เดินผ่าน บางคนก็หยุดห้ามปราม แต่โรสิตากลับตวาดกลับใส่ว่าอย่ายุ่ง! “โรส! แกตบมันอีกสิ ฉันอยากเห็น” ธนิสาเชียร์ไม่เลิก เพราะเพื่อนสนิทของตนหาจังหวะตบพิรุณนภาไม่ได้สักที “ปล่อยฉันนะโรส” “ปล่อยให้แกไปออเซาะผู้จัดการน่ะเหรอ แกฝันไปเถอะ!!” โรสิตาผลักพิรุณนภาออกไปกลางถนนทั้งที่มีรถวิ่งอยู่แต่โชคดีรถเบรกได้ทัน สักพักคนในรถก็ออกมา ส่วนสองสาวเผ่นหนีไปแล้ว ขณะที่พิรุณนภาก็พยายามลุกแต่ปวดที่ข้อเท้าเลยลุกไม่ถนัด “เป็นอะไรมากหรือเปล่าคุณ” ธีรินทร์ที่กำลังขับรถกลับบ้านลงมาดูและสอบถามอาการ “เจ็บข้อเท้านิดหน่อยค่ะ เอ่อ...ขอบคุณนะคะที่คุณเบรกรถทัน” เพราะถ้าไม่ทัน ป่านนี้เธอคงหมดลมหายใจอยู่ใต้ท้องรถไปแล้ว “ก็เกือบไม่ทันเหมือนกัน ว่าแต่สองสาวผลักคุณออกมาทำไม” “เอ่อ...” “ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก แต่เดี๋ยวผมจะพาคุณไปหาหมอ” “ไม่ต้องค่ะ แค่พยุงฉันออกจากถนนก็พอค่ะ แล้วเดี๋ยวสักพักฉันจะกลับบ้าน” “เจ็บจนลุกเองไม่ได้ ยังจะไม่ไปหาหมออีกเหรอคุณ” “ก็ฉัน...ฉันไม่อยากรบกวนคุณ” “ไม่รบกวน” ธีรินทร์จัดการอุ้มหญิงสาวเข้าไปในรถ โดยไม่ฟังเสียงคนเจ็บเลย พิรุณนภาก็เลยถูกพามาที่โรงพยาบาลก็เข้าไปทำแผลแล้วก็ให้ยา โดยที่คนใจดีก็ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดก่อนจะพาเธอมาส่งที่บ้าน และทันที่รถจอดสนิทพิรุณนภาก็เปิดกระเป๋าหยิบเงินออกมาส่งให้คนใจดี “อะไรของคุณ” “เงินค่ายาค่ะ” “เก็บไว้เถอะ ผมไม่รับ” “แต่ว่า...” “ถ้ายังดื้อ ผมจะคุณโยนออกจากรถ” คำขู่ได้ผล พิรุณนภาปิดปากเงียบสนิท ก่อนจะหันมาเปิดประตูทว่าอีกคนกลับยื่นมือมาจับแขนไว้ไม่ยอมให้ลง “คุณมีอะไรเหรอคะ” ถามพร้อมขยับแขนออกจากมือใหญ่ “ชื่ออะไร” “พิรุณนภาค่ะ” “ชื่อเล่นล่ะ” “แป้งค่ะ” “ชื่อน่ารักดี” “ขอบคุณค่ะ” พิรุณนภาขอบคุณเบาๆ แล้วหันมาจะเปิดประตูรถ แต่ไม่ทันได้เปิดเสียงแตรรถก็ดังลั่น พอหันไปดูก็เห็นรถของพ่อเลี้ยง “คุณขับรถไปด้านหน้าสักหน่อยนะคะ พ่อเลี้ยงฉันกลับมาแล้ว” “ได้” ธีรินทร์ขยับรถเลยรั้วบ้านไปพอประมาณแล้วหันมาจ้องหน้าหญิงสาว “เมื่อกี้คุณบอกว่าพ่อเลี้ยงงั้นเหรอ” “ค่ะ” ได้คำตอบแล้วธีรินทร์ก็หันไปมองพ่อเลี้ยงของหญิงสาว ดูจากสภาพแล้วคงจะเมาไม่น้อยเลย เพราะเดินเซไปเซมา แต่ก็ยังดีที่ขับรถกลับมาบ้านได้แต่ระหว่างทางไม่รู้ไปชนรถใครบ้างหรือเปล่า “แป้งขอบคุณอีกครั้งนะคะที่มาส่ง” พิรุณนภายกมือไหว้แล้วเปิดประตูออกไป แต่ธีรินทร์ห้ามไว้แล้วถามหามารดาของหญิงสาว แต่พอรู้ว่าอยู่โรงพยาบาลเขาก็ยิ่งรู้สึกเป็นห่วงหญิงสาวที่ต้องเข้าไปในบ้าน “แน่ใจว่าจะเข้าไปในบ้าน พ่อเลี้ยงของคุณเมานะ” “เขาก็เมาประจำค่ะ แล้วฉันก็ดูแลตัวเองได้ คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” “คุณแน่ใจว่าดูแลตัวเอง” “ฉันแน่ใจค่ะ” พูดจบก็ล้วงเอามีดพกออกมาให้เขาดู “ก็ดีนะ พกมีดด้วย” “งั้นฉันไปนะคะ” “อืม” ธีรินทร์ยอมให้ไปเมื่อเจ้าตัวยืนยันว่าดูแลตัวเองได้ แต่เขาก็อาสาเข้าไปส่งถึงประตูบ้าน ก่อนกลับก็ส่งนามบัตรให้ พิรุณนภารับมาแบบงงๆ เพราะไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม จากนั้นก็เดินเข้าไปในบ้าน เปิดประตูเข้าไปก็เห็นพ่อเลี้ยงนอนไม่รู้เรื่องไปแล้ว เธอจึงหันมาขอบคุณคนมาส่ง ก่อนจะรีบเข้าห้องปิดประตูลงกลอนอย่างดี ผิดกับอีกคนที่แม้จะกลับถึงบ้านแล้ว แต่ใจก็ยังกระวนกระวายเป็นห่วงหญิงสาวจนนอนไม่หลับ

เริ่มอ่านเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมได้ที่นี่

ดาวโหลดโดยการสแกนรหัส QR เพื่ออ่านเรื่องราวมากมายฟรี และหนังสือที่ได้รับการอัปเดตทุกวัน

อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม