06
เธอเป็นใครกันแน่
ปานรดานึกในใจพลอยสวยเธอเป็นใครกันแน่ทำไมเธอถึงไม่รู้จักชุดชั้นในและพลอยสวยที่เธอรู้จักทำไมเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
“เธอ ไม่รู้จักชุดชั้นในได้ยังไงกัน”ปานรดาเอ่ยอย่างสงสัย
“ที่บ้านเมืองของข้าไม่เคยมีผู้ใดเคยนุ่งอะไรอย่างนี้”วาดจันทร์พูดพร้อมกับทำหน้าตาใสซื่อ
“โอเคถ้าเธอไม่รู้จักเดี๋ยวฉันสอนให้ก็ได้ ใส่อย่างนี้นะดูดีๆล่ะจะได้จำได้”ปานรดาใส่ชุดชั้นในให้วาดจันทร์ดูเธอสวมทับชุดนอนให้วาดจันทร์ดู
“แค่นี้เข้าใจมั้ย”ปานรดาถามเพื่อความมั่นใจ
“ข้าน่าจะพอทำได้ ข้าขอไปลองนุ่งก่อนหนาแม่ปานรดา”วาดจันทร์หยิบชั้นในแล้วเข้าห้องแต่งตัวอย่างเขินอาย
“เธอเป็นใครกันแน่พลอยสวยฉันเริ่มจะไม่มั่นใจแล้วนะ เธอป่วยหรือเธอเพี้ยนหรือเธอเป็นใครทำไมทำตัวแปลกๆ ไม่หนำซ้ำยังบอกว่าตัวเองชื่อวาดจันทร์อีก เฮ้อ!!! ฉันล่ะงงไปหมดแล้วนะเนี่ย”ปานรดารู้สึกสงสัยไม่น้อยที่พลอยสวยมีท่ามีที่แปลกๆ
เมื่อเวลาผ่านไปได้สักพักปานรดาก็เข้าห้องน้ำไปอาบน้ำส่วนวาดจันทร์ก็เข้าไปใส่ชุดชั้นในจนเวลาผ่านไปได้ 30 นาที ปานรดาก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเอกำลังหาไดร์มาเป่าผมเธอก็เหลือบไปเห็นวาดจันทร์ที่นั่งอยู่ที่โซฟาห้องรับแขกปานรดาก็อดหัวเราะไม่ได้กับภาพที่เห็นตรงหน้า
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า นี่เธอใส่อะไรของเธอแบบนี้ ฮ่า ฮ่า เธอนี่มันตลกจริงๆเลยนะ ฉันหมายถึงให้เธอใส่มันไว้ข้างในที่ฉันใส่ข้างนอกฉันแค่ใส่ให้เธอดูเป็นตัวอย่างเฉยๆ ฮ่า ฮ่า ตลกจริงๆ เลยเธอเนี่ย” ปานรดาอดที่จะขำไม่ได้
“เจ้าอย่ามาขำให้ข้านะปานรดาก็ข้าไม่เคยนุ่งแล้วเหตุใดเจ้าต้องมาหัวเราะเยาะข้าด้วย”วาดจันทร์ทำหน้าบึ้ง
“โอเคๆ ฉันขอโทษเธอเข้าเปลี่ยนนะเราจะได้ไปข้างนอกกันฉันเริ่มหิวแล้วล่ะ”ปานรดาเอ่ยขอโทษวาดจันทร์ที่เผลอหัวเราะในความใสซื่อของเธอ
ถึงวาดจันทร์จะโกรธแค่ไหนเธอก็เข้าไปเปลี่ยนตามที่ปานรดาบอก ในระหว่างที่วาดจันทร์เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้านั้นปานรดาก็ใช้ไดร์เป่าผมรอ เวลาผ่านไปสักพักวาดจันทร์ก็แต่งตัวออกมาเธอใส่ชุดของปานรดาได้น่ารักสมวัยตามสาวๆ สมัยใหม่วาดจันทร์สวยมากหน้าหวานๆ ไทยๆ ดูแล้วละมุนไปหมด
“ว้าว!!! น่ารักจังเลยสวยมากๆเลย”ปานรดาเห็นเธอเดินออกมาในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกระโปรงยีนส์สั้นสีดำสุดน่ารักเธอจึงอาสาอแต่งหน้าให้วาดจันทร์
“แต่งตัวเสร็จแล้วเหลือหน้าผม มาๆฉันแต่งหน้าให้”ปานรดาไปจูงแขนเธอมานั่งแล้วเธอก็หยิบกล่องเครื่องสำอางเพื่อมาแต่งหน้าให้วาดจันทร์
ระหว่างที่ปานรดาแต่งหน้าให้วาดจันทร์เธอสังเกตเห็นว่าวาดจันทร์หน้าคล้ายพลอยสวยก็จริงแต่ทำไมเธอรู้สึกว่าเป็นคนละคนกับพลอยสวยที่เธอรู้จักเธอเลยชวนวาดจันทร์คุย
“พลอยสวยเราไม่ได้เจอกันนานเลย ตอนนี้เธอทำอยู่เหรอ”ปานรดาพยามยามชวนเธอคุยนั้นกลับยิ่งทำให้วาดจันทร์โมโห
“ข้าบอกเจ้าแล้วใช่หรือไม่ว่าข้าชื่อวาดจันทร์ข้าไม่ได้ชื่อพลอยสวยเอไรเจ้าจะเข้าใจข้าเสียที”วาดจันทร์รู้สึกโมโหมากที่พูดเท่าไรปานรดาก็ไม่เข้าใจเธอ
“ฉันขอโทษนะวาดจันทร์ฉันลืมน่ะก็หน้าเธอเหมือนกับหน้าเพื่อนฉันมากเลยนะฉันมีรูปด้วยนะถ้าเธอไม่เชื่อ”ปานรดาเอ่ยกับวาดจันทร์อย่างรู้สึกผิดที่ทำให้เธอโมโหอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรข้าจะไม่ถือโทษโกรธเจ้าแต่เจ้าจงจำไว้ว่าข้าชื่อวาดจันทร์ข้ามาจากอโยธยา”วาดจันทร์บอกกับปานรดาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
ปานรดารู้สึกแปลกๆ กับคำว่าอโยธยาเพราะคนสมัยนี้น่าจะพูดว่าอยุธยามากกว่า
“โอเคจ๊ะแต่งหน้าเสร็จพอดีเลยสวยมากแม่”ปานรดาหยิบกระจกส่งให้วาดจันทร์ดูหน้าตัวเองที่เธอแต่งให้ออกมาสวยหวานยิ่งกว่านางนพมาศในงานวันลอยกระทงเสียอีก
“สวยมั้ยพลอย เอ้ย!!! วาดจันทร์เธอชอบที่ฉันแต่งหน้าให้มั้ย”ปานรดาเอ่ยถามเธอ
“สวย สวยมาก เจ้าแต่งหน้าของข้าสวยมากแม่ปานรดา ที่บ้านเมืองของข้าไม่เคยเห็นผู้ใดแต่งหน้าสวยเหมือนเจ้าเลยถ้าท่านแม่เห็นข้าตอนนี้ท่านแม่ต้องเอ่ยชมฉันเป็นแน่”วาดจันทร์น้ำตาคลอเมื่อเอ่ยถึงแม่ของเธอ
“เธอเป็นอะไรวาดจันทร์ร้องไห้ทำไม”ปานรดาเอ่ยอย่างเป็นห่วง
“ข้าคิดถึงแม่ของข้าไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นอย่างไรข้าเป็นห่วงท่านเหลือเกินป่านนี้ท่านทั้งสองคงตามหาฉันทั่วอโยธยาเป็นแน่”ยิ่งพูดวาดจันทร์ยิ่งน้ำตาเอ่อ
“ไม่เป็นไรนะเดี๋ยวฉันจะพาเธอกลับไปหาแม่ของเธอนะฉันสัญญา”ปานรดาเอ่ยพร้อมกับกอดเธอเบาๆ
“เจ้าพูดแล้วอย่าลืมคำสัญญาของเจ้าหนาแม่ปานรดา”วาดจันทร์เอ่ยย้ำ
“ได้เลยฉันไม่ลืมแน่นอนแต่ตอนนี้เราออกไปซื้อของกันดีกว่าเนอะ ฉันหิวมากๆๆ เลย”ปานรดาพูดพลางลูบท้องตัวเอง
บริเวณหน้าลิฟต์คอนโดของปานรดา
วาดจันทร์รู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่เธอเห็นข้างนอกห้องเพราะตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยเห็นมาก่อนมันช่างยิ่งใหญ่อลังการในความรู้สึกของเธอ
“เข้ามาสิวาดจันทร์มัวยืนอยู่ตรงนั้นเดี๋ยวลิฟต์ก็ปิดก่อนหรอก”ปานรดาบอกกับวาดจันทร์
“ข้ากลัวข้าไม่กล้าเข้าไป”วาดจันทร์ทำท่ากล้าๆ กลัวๆ ที่จะเดินเข้าไปยังดีที่ยังไม่มีใครมาใช้ลิฟต์ในเวลานี้
“เข้ามาเลยไม่ต้องกลัวมีฉันอยู่ทั้งคนเธอจะกลัวอะไร”ปานรดาพูดพร้อมกับเดินไปจับมือเพื่อสร้างความมั่นใจให้เธอ ปานรดาจับมือวาดจันทร์เดินเข้าลิฟต์ไปพร้อมๆ กับเธออย่างอบอุ่นปานรดาเลิกหัวเราะให้กับความซื่อของเธอแต่กลับให้ความช่วยเหลือเธอเหมือนเพื่อนของเธอคนหนึ่ง