07
สมองเธอได้รับการกระทบกระเทือน(หรือเปล่า)
ปานรดากำลังพาวาดจันทร์ไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ตเพื่อมาทำอาหารเช้าแต่ตอนนี้วาดจันทร์เธอรู้สึกตื่นๆ กับสถานที่ที่เธอไม่คุ้นเคยเช่นเดียวกับตอนนี้ที่เธอกลัวรถยนต์ก่อนลงจากห้องเธอก็กลัวการขึ้นลิฟต์ยิ่งมาตอนนี้เธอได้เห็นรถยนต์วิ่งไปวิ่งมาบนท้องถนนนั่นยิ่งทำให้เธอกลัวไปอีกเท่าตัว
“นี่คือที่แห่งใดกันเหตุใดมีแต่สิ่งวิปลาสเช่นนี้ข้ากลัวเหลือเกินแม่ปานรดา”วาดจันทร์บอกกับปานรดาอย่างสั่นๆ
“ที่นี่ก็กรุงเทพมหานครไงเธอเคยมาเหรอนี้”ปานรดาเริ่มสงสัยอีกครั้งว่าเธอเป้นใครทำไมถึงกลัวในสิ่งที่มันก็เป็นเรื่องปกติของผู้คนในสมัยนี้
“กรุงเทพมหานครงั้นรึเหตุใดข้าไม่เคยรู้จัก”วาดจันทร์เอ่ยออกมานั่นยิ่งทำให้ปานรดางงเป็นไก่ตาแตกอีกรอบ
ปานรดาได้แต่คิดในใจว่าพลอยสวยต้องได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองแน่นอนแต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยออกมาและไม่กล้าถามเธอจึงเก็บความสงสัยไว้ภายในใจของเธอ
“เอาเถอะวาดจันทร์ไม่เป็นไรหรอกนะไม่ต้องกลัวมาๆ ขึ้นรถดีกว่าจะได้รีบไปซื้อของเดี๋ยวรถติด”ปานรดาพูดจบเธอก็ก้าวขึ้นรถไปโดยที่เธอลืมเปิดประตูอีกฝั่งให้วาดจันทร์ วาดจันทร์จึงได้แต่ยืนตัวแข็งไม่กล้าขยับเขยื้อนตัวไปไหนเหมือนรูปปั้น
“ขึ้นมาสิวาดจันทร์”ปานรดาเรียกให้วาดจันทร์ขึ้นมาอีกครั้ง
วาดจันทร์ก็ยังไม่กล้าที่จะขยับอยู่ดีจนปานรดานึกขึ้นได้ว่าสงสัยสมองกระทบกระเทือนจนเปิดประตูรถไม่เป็น
“อ๋อเธอเปิดประตูรถไม่เป็นใช่มั้ยได้ๆ เดี๋ยวฉันเปิดให้นะแป๊บหนึ่งนะ”ปานรดาอมยิ้มก่อนที่เธอจะลงจากรถเพื่อไปเปิดประตูให้วาดจันทร์
“เชิญค่ะแม่หญิงวาดจันทร์”ปานรดาพูดพร้อมกับเปิดประตูให้วาดจันทร์ขึ้นไปนั่งในรถแต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นระดับแม่วาดจันทร์แห่งอโยธยาหญิงสาวผู้เรียบร้อยของตระกูล
“ไม่!!! ข้ากลัวข้าไม่กล้าขึ้นไปนั่งดอกแม่ปานรดา”วาดจันทร์พูดเหมือนจะร้องไห้เสียให้ได้
“จะไปกลัวอะไรล่ะขึ้นไปนั่งเลยเมื่อกี้ไม่เห็นหรือไงฉันยังขึ้นไปนั่งเลย”ปานรดาพูดโน้มน้าวให้วาดจันทร์หายกลัวแต่เธอก็ยังกล้าๆ กลัวๆ ที่จะก้าวขาขึ้นไปปานรดาจึงจำเป็นที่จะต้องจูงมือเธอไปขึ้นรถเพราะถ้าช้ากลัวนี้เธอต้องหิวไส้กิ่วอย่างแน่นอน
ปานรดาจูงมือวาดจันทร์ขึ้นรถสำเร็จวาดจันทร์ก้าวขาอย่างสั่นตามฉบับแม่หญิงแห่งอโยธยาแต่เธอก็กล้าขึ้นมานั่งรถเป็นที่เรียบร้อย
“เห็นมั้ยไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เธอคิดเลยสักนิด”ปานรดายกนิ้วโป้งเป็นการชื่นชมว่าเธอเก่งมากแต่วาดจันทร์ก็คงไม่เข้าใจความหมายของมัน
“เอาล่ะก่อนอื่นต้องคาดเข็มขัดก่อนนะเพื่อความปลอดภัย”ปานรดาเอื้อมมือไปหยิบสายคาดมาคาดให้วาดจันทร์เพราะเธอรู้แล้วว่าถ้าบอกวาดจันทร์ทำเองโรคกระเพาะถามหาแน่นอนเพราะตอนนี้เธอเริ่มหิวขึ้นมาแล้วเล็กน้อย
“เจ้าเอาอะไรมารัดตัวข้าเจ้าจะทำร้ายข้ารึ”วาดจันทร์ทั้งงงทั้งหวาดกลัวไปหมด
“ใครจะร้ายเธอกันล่ะ นี่เขาเรียกเข็มขัดนิรภัยใช้คาดรัดตัวเราเวลานั่งรถเผื่อเกิดอุบัติเหตุเราจะได้ไม่กระเด็นไปไกลไงล่ะ”ปานรดาอธิบายยาวเหยียดแต่คนที่นั่งข้างๆ คงไม่เข้าใจเป็นแน่
“ข้าไม่เคยเห็นที่บ้านเมืองข้ามีแต่เรือเท่านั้นที่ข้าเคยนั่งก็ไม่เห็นต้องคาดอะไรเยี่ยงนี้”วาดจันทร์บอกกับปานรดา
‘นั่งเรือนี่เธออยู่ที่ไหนของประเทศไทยถึงเคยนั่งแต่เรือ เฮ้อ!!! สงสัยสมองเธอได้รับการกระทบกระเทือนจริงๆ แล้วล่ะพลอยสวยฉันต้องพาเธอกลับบ้านไปเจอพ่อกับแม่แล้วล่ะเดี๋ยวท่านเป็นห่วงเธอยิ่งเธอเป็นแบบนี้อยู่ด้วยน่าสงสารจริงเพื่อนเอ๊ย!!! แค่ชื่อตัวเองยังจำผิด, ปานรดาคิดในใจอยู่คนเดียวพร้อมกับเหยียบคันเร่งเพื่อมุ่งหน้าไปที่ซุปเปอร์มาเก็ต
ซุปเปอร์มาเก็ตชื่อดังแห่งหนึ่ง
ปานรดาจูงมือวาดจันทร์เข้ามาในซุปเปอร์มาเก็ตอย่างดีใจที่เธอใกล้จะได้หาอะไรอร่อยๆ กินสักที
“เธออยากกินอะไรหยิบเลยนะเดี๋ยวฉันเลี้ยงเองนะ”ปานรดาหยิบของใส่รถเข็นรัวๆ เหมือนไม่ได้กินอะไรมาหนึ่งเดือน
“ที่บ้านเมืองนี้เหตุใดถึงยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ผู้คนก็แต่งตัววิปลาสหรือนี่ข้าฝันไปกันนะ”วาดจันทร์คิดว่าตัวเองฝันจึงลองหยิกตัวเองดูผลที่ได้เจ็บตัว
“อุ้ยเจ็บ”วาดจันทร์เผลอร้องออกมาเมื่อหยิกตัวเอง
“นี่เธอเป็นอะไรวาดจันทร์ร้องทำไม”
“ข้าไม่ได้เป็นอะไร ข้าอยากกินน้ำพริกกะปิกับผักลวกเจ้าซื้อให้ข้าด้วยนะข้าไม่มีอัฐ”วาดจันทร์บอกวาดจันทร์อย่างซื่อซื่อใสๆ ซึ่งปานรดาไม่เคยเห็นแววตาแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิตเพราะพลอยสวยที่เธอรู้จักออกจะแก่นแก้วมากๆ ไม่ได้เรียบร้อยขนาดนี้แน่นอน
“อัฐอะไรของเธอก็บอกแล้วไงไม่ต้องห่วงฉันจ่ายเอง เธออยากกินอะไรนะน้ำพริกกะปิกับผักลวกใช่มั้ยได้เลยฉันจัดให้แต่เธอต้องทำเองนะเข้าใจมั้ยเพราะถ้าให้ฉันทำเธอต้องท้องเสียแน่นอน ฮ่า ฮ่า”ปานรดาพูดไปเลือกของไปส่วนวาดจันทร์ก็ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เห็นในยุคปัจจุบัน
หลังจากที่ทั้งสองเดินเลือกของจนเหนื่อยเมื่อถึงเวลาคิดเงินปานรดาจึงเข็นรถเข็นพาวาดจันทร์ไปที่ช่องจ่ายเงินแต่ปานรดาคิดได้ว่าเธอลืมซื้อของบางอย่างเธอจึงทิ้งรถเข็นไว้กับวาดจันทร์เพียงลำพัง
“วาดจันทร์เธอรอฉันที่นี่แป๊บนะพอดีฉันลืมหยิบผ้าอนามัยรอตรงนี้นะโอเคนะ”ปานรดาเห็นว่าคิวที่รอจ่ายเงินมีอยู่หลายคิวเธอจึงวางใจว่าให้วาดจันทร์ยืนรอเฉยๆ คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง