เจ้านายคนสวยส่งแฟ้มให้ฉันแล้วโบกมือไล่ ฉันเดินออกมาจากห้องนั้น พยายามรวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงกลับมา ไม่คิดว่าการเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง จะทำให้ฉันว้าวุ่นได้ขนาดนี้
ดวงตาสีฟ้าอ่อนเหมือนน้ำทะเลของเขาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เป็นสีตาสีเดียวที่ทำให้ฉันอดเปรียบเทียบกับผู้ชายทุกคนที่เดินเข้ามาในชีวิต ผู้ชายพวกนั้นถูกฉันปัดตกทุกคน คงเป็นเพราะฉันหลงใหลกับดวงตาสีนั้นเข้าให้ เลยพยายามหาเหตุมาหักล้างและในที่สุดความรักที่ฉันพยายามเริ่มก็จบลง...
ฉันพยายามสงบใจและทำงานในหน้าที่ต่อ แม้บางครั้งฉันอยากจะหาเรื่องเดินเข้าไปด้านในเพื่อได้เห็นหน้าเขาอีกสักครั้ง แต่มันเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยทำ เจ้านายฉันไม่ชอบให้ใครก็ตามวุ่นวายในห้องทำงานนั่น ฉันยึดปฏิบัติได้ดีมาตลอด แล้วฉันจะแหกฎเกณฑ์นั่นเพราะการปรากฏตัวของเขาทำไม
ปึง....
“แพรเลิกงานแล้วกลับได้เลยนะ ฉันไม่กลับเข้ามาอีกแล้ว ส่วนพรุ่งนี้เช้า รบกวนหน่อยสิ ช่วยไปเอาสูทที่ร้าน...ไปส่งที่นี่ให้หน่อย”
กระดาษแผ่นเล็กมีลายมือเป็นระเบียบของเจ้านายระบุสถานที่ปลายทางกับคำสั่งที่กำชับหลายรอบ ฉันยื่นมือออกไปรับแล้วก็รีบเสหลบตา ฉันไม่ได้คิดไปเองผู้ชายที่เดินตามหลังเจ้านายฉันมาเอื่อยๆ กำลังมองหน้าฉันแบบพินิจพิเคราะห์ ฉันภาวนาในใจ ขออย่าให้เขาจำฉันได้...
พอทั้งสองคนเดินผ่านฉันไป ฉันถึงกับสูดลมหายใจแรงๆ เพราะฉันกลั้นลมหายใจไว้แทบจะหมดลม...
มีบางอย่างสะกิดใจผม ผู้หญิงตรงหน้าไม่ได้มีอาการสะเทิ้นอายเหมือนผู้หญิงหลายคนที่ผมเคยเจอ...หล่อนหลบตาและพยายามก้มหน้าลง เหมือนไม่ต้องการให้ผมมองหน้าหล่อนตรงๆ ผมไหวไหล่ ใช่ว่าอยากจะสนใจเมื่อไหร่ล่ะ ผมเคยได้ยินคำพูดจากเพื่อนในกลุ่มเกี่ยวกับเลขานุการคนใหม่ของราเชลมาบ้าง คนพวกนั้นชื่นชมและแอบเหน็บราเชลเสมอ ผู้หญิงเก่ง บางทีก็น่าสงสัย ราเชลยังไม่คบใครเป็นตัวตน ความชอบของญาติคนนี้อาจจะแปลกจากเพศหญิงทั่วไป
มันเป็นเรื่องธรรมดาของคนสมัยนี้
ความรักไม่แบ่งเพศ และเกิดขึ้นได้ทุกเพศและทุกวัย
ผมเลยพยายามจับสังเกตจากทั้งสองคน ผมไม่พบอะไรที่ผิดปกติในตัวญาติของผม และผู้หญิงคนนั้นก็เช่นกัน
แต่ผมก็ไม่สามารถสลัดความสงสัยเล็กๆ ในใจทิ้งได้
ผมคุ้นหน้าหล่อนพิกล...ซึ่งมันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะผมสนใจหล่อนแน่ๆ
ผู้หญิงผิวคล้ำไม่เคยอยู่ในความคิด ต่อให้หล่อนสวยคมแค่ไหน แต่หากมีผิวสีซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ผมไม่ชอบ มันมองแล้วไม่สบายตา ผมชอบผู้หญิงผิวขาวราวกับน้ำนมมากกว่า...
ผมเลยขอทดสอบ อย่างน้อยหากพ่อ หรือลุงของผมถามจะได้ให้คำตอบทั้งสองท่านได้ ผมแก่กว่าราเชลสองปีมีคู่ควงนับไม่ถ้วน แต่ราเชลกลับยังไม่เคยควงใครออกนอกหน้าสักคน ดังนั้นไม่น่าแปลกใจหรอก หากผู้ใหญ่จะพุ่งความสนใจมาที่ญาติของผมคนนี้
“นี่คิดว่าไอชอบแพรแบบชู้สาวอีกคนสินะ” เสียงราเชลบ่นพึมพำ
“แล้วจริงไหมล่ะ”
ราเชลมองหน้าผมแล้วยิ้ม “ความจริงแพรก็น่าสนนะ แต่ยัยนั่นไม่เล่นด้วยนี่สิ เลยไม่อยากเสียเลขาฯ ดีไป”
“จริงหรืออำแน่หะ ไอตามยูไม่ทันแล้วนะราเชล”
“บ้าเหรอ ไอชอบผู้ชาย แพรเองก็ชอบผู้ชายด้วย”
“รู้ได้ไง ไหนยูบอกว่ายัยนั่นไม่มีแฟนไง” ผมแย้ง
“รู้แล้วกันน่า ไม่ต้องห่วงไอหรอก ยูห่วงตัวเองเถอะมิเลี่ยน”
ราเชลหันมามองผม พร้อมกับยิ้มรู้ทัน ใช่เลย... ผมกำลังปวดหัว สิบปีที่ผมพยายามหนีดานิก้า ผมไม่เคยทำได้สำเร็จ แม้ความสัมพันธ์จะลดระดับเหลือแค่ความเป็นเพื่อน ดานิก้ายังพยายามไล่ตามผมและเปิดเผยความรู้สึกของหล่อน หากผมไม่ขัดข้อง ไม่ว่าตำแหน่งไหนหล่อนยินดีรับ
แต่สำหรับผม...มันจบไปนานแล้ว
ถ้าดานิก้าคิดเหมือนผม เรื่องคงไม่วุ่นวายจนถึงทุกวันนี้ ทันทีที่ผมคิดจะเริ่มต้นกับใครสักคนแบบจริงจัง ดาริกาก็จะโผล่เข้ามาป่วน จนความหวังของผมพังลงต่อหน้าต่อตา
“คราวนี้หนีมากี่เดือนล่ะ”
ผมหนีดานิก้ามาจริงๆ หลังหล่อนก่อเรื่องให้ผมปวดหัว แด๊ดวางมือและปล่อยให้ผมบริหารกิจการหลายปีแล้ว ถึงผมจะไม่ชอบนัก แต่การรักษาภาพพจน์มันก็จำเป็น ผมเลยใช้วิธีเดียวกับที่แม่ทำครั้งก่อน ผมเลือกที่จะหลบและปล่อยให้ข่าวฉาวๆ ซาลง
แม่อยากมาด้วยใจแทบขาด แต่บังเอิญว่าแด๊ดที่อายุเยอะแล้วสุขภาพไม่ดี แม่เลยทิ้งแด๊ดมาไม่ได้...ผมเลยฉายเดี่ยว แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะเป็นอิสระหรอกนะ ผมยังอยู่ในสายตาของแม่ตลอด แม้ปีนี้ผมจะมีอายุสามสิบปีเต็ม
แม่ส่งคนตามประกบผมสองคน
การ์ดฝีมือดีที่ถูกคัดมา จัดการได้ทุกอย่าง และซื่อตรงกับแม่ผมแค่คนเดียว ผมชินเสียแล้วกับการดูแลประหนึ่งไข่ในหิน ผมเลิกรำคาญความจุ้นจ้านของแม่มาหลายปีแล้ว พอทำใจได้ มันก็เป็นการดีเหมือนกัน ผมไม่ต้องเคลียร์ปัญหาที่ตัวเองก่อสักนิด แม่จัดการเคลียร์และกำจัดปัญหากวนใจผมได้เป็นอย่างดี
ความทรงจำเก่าๆ
ผมเกือบลืมไปด้วยซ้ำว่าวางแผนอะไรไว้ จนกระทั่งหล่อนมาเยือนถึงที่ เสียงกริ่งหน้าประตูกวนประสาทผม จนทนนอนอยู่บนเตียงไม่ได้อีก ผมงัวเงียลุกจากที่นอนพกความหงุดหงิดมาเต็มหัวใจ ผมเกือบตวาดทันทีที่ดันประตูให้เปิด แต่แล้วผมก็ต้องเปลี่ยนใจ ผู้หญิงตรงหน้าไม่ใช่มนุษย์หินนี่ หล่อนสะเทิ้นสะเทือนเพราะผมเหมือนผู้หญิงคนอื่น ขนาดผิวหล่อนคล้ำผมยังเห็นว่าผิวแก้มหล่อนแดงจัดเลย
ท่าทางเงอะงะนั่นทำให้ความหงุดหงิดผมลดลง
ผมลุกมาจากที่นอนนี่ครับ และผมชอบนอนโดยไม่สวมอะไรเลย โชคดีที่ผมฉวยชุดคลุมมาสวมไว้ ไม่อย่างนั้นผู้หญิงตรงหน้าอาจจะแตกตื่นกว่านี้
ผมยืนอิงกรอบประตู ก้มมองชายชุดคลุมที่แหวกสูงถึงขาอ่อนด้วยความรู้สึกขำๆ
มือหล่อนสั่นระริกตอนที่ยืนสูทที่แขวนอยู่ในถุงผ้ามันวับให้ผม
ผมส่ายหน้าเบี่ยงตัวหลบ บุ้ยปากไปที่ตู้ติดผนังใกล้เตียงนอนยับย่น หล่อนเดินผ่านผมไป ท่าทางหล่อนหวาดกลัวจนเห็นได้ชัด ผมกัดริมฝีปากล่าง ข่มใจไม่ให้กระชากหล่อนมา ‘จูบ’ แทบแย่ ผมเตือนตัวเองในใจ ผมไม่เคยมีนิสัยแบบนั้น แต่ท่าทางระแวงระวังของหล่อนทำให้ผมอยากลองดี
ความมั่นใจในตัวเองล้นปริ่ม ผมแน่ใจว่าจะเปลี่ยนท่าทางหวาดระแวงนั่นได้
‘อย่ายุ่งกับแพรเลยไอขอร้อง’
คำเตือนของญาติผู้พี่ดังขึ้นในหัว ผมแค่สนุกและอยากอวดความสามารถ ไม่เคยคิดจริงจังกับใคร ผมหรี่ตามองท่าทางลุกลนนั่นด้วยความขัดใจ
เกือบสิบปีที่ผมหว่านเสน่ห์ใส่ผู้หญิง ไม่มีสักรายที่ผมพลาด
“เสร็จแล้วค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” หางเสียงหล่อนสั่นจนผมจับได้ ผมยังคงปักหลักยืนอยู่ที่เดิม และไม่คิดขยับไปจากตรงนี้
“หาอะไรให้กินหน่อยสิฉันหิว” ผมเปรยลอยๆ แสร้งเดินผ่านไปแบบเฉียดฉิว หล่อนถอยหลังหลบทัน เหมือนคอยจับสังเกตผมอยู่ตลอดเวลา หล่อนก้มหน้าต่ำเพราะเหตุนี้นี่เอง
“สั่งรูมเซอร์วิสดีกว่าไหมคะ”
ผมทิ้งตัวนั่งตวัดปลายขาขึ้นไขว้ทบกัน ชายชุดคลุมทิ้งตัวตกลงไปด้านข้าง เผยให้เห็นเรียวขายาวและเต็มไปด้วยมัดกล้าม ผมอยากหัวเราะ ท่าทางหล่อนประสาทสั่นอย่างเห็นได้ชัดนอกจากผิวแก้มแดงจัดนั่นตอนนี้เหงื่อหล่อนไหลอาบหน้าทีเดียว
“ไม่ล่ะ ของ่ายๆ ฉันขี้เกียจรอ” ผมเปรย และหลุบเปลือกตาหลุบลงเป็นการตัดบทและไม่อยากให้หล่อนหาข้ออ้างได้
ท่าทางหล่อนลังเลไม่น้อย หล่อนใช้เวลาตัดสินใจนานกว่าที่ผมคาดไว้และเมื่อได้ยินเสียงหล่อนขยับตัวผมก็กดยิ้มมุมปาก นี่แค่ก้าวแรกสำหรับทดสอบผู้หญิงคนนี้