5

1522 คำ
“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นรางวัลอีกได้ไหม”            ชายหนุ่มจิ้มแก้มตัวเองอีกครั้ง ทำแก้มป่องให้เธอหอม ภาคิดมักมีมุมน่ารักให้เธออมยิ้ม และเธอก็ประทับลงไปเต็มๆ เพื่อเอาใจ เขาหอมแก้มกลับ ทำท่าจะจูบ แต่เสียงขัดจังหวะดังขึ้นเสียก่อน            “เอาไว้คืนนี้พี่จะคิดทบต้นทบดอก” เขากระซิบบอก เธอหน้าแดงปั่นป่วนไปหมดทั่วช่องท้อง แทบก้าวขาไม่ออก แต่ต้องรวบรวมจิตใจเดินออกไปในงานเพื่อต้อนรับแขกคู่กับเขา            ภาคินจัดงานแต่งที่โรงแรมของเขา เจ้าบ่าวของเธอมีกิจการมากมาย เขาเป็นคนหนุ่มไฟแรงที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถและวิสัยทัศน์กว้างไกล ถึงแม้ว่ามรดกหลายหมื่นล้านของเขาจะทำให้เขาร่ำรวยมาตั้งแต่เกิด แต่เขาก็ไม่เคยงอมืองอเท้าเอาแต่ผลาญเงินพ่อแม่ไปวันๆ เขาเอาเงินไปลงทุนจนได้กำไรมาเป็นกอบเป็นกำ ซึ่งข้อมูลบางส่วนนั้น เธอได้มาจากคุณหญิงย่าที่มักสาธยายถึงความเก่งกาจของภาคินให้เธอฟัง            ราชาวดีพยักหน้าเข้าใจเมื่อพนักงานโรงแรมเข้ามากระซิบบอกว่ามีคนมาหาและรออยู่ข้างๆ โรงแรมจัดงาน เธอขมวดคิ้วเข้าหากัน แต่ยอมออกไปโดยดี ในขณะนั้นภาคินไปห้องน้ำ เธอจึงไม่ได้แจ้งให้เขาทราบ            “พี่ภาคย์” ร่างสูงที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร            “วดี” รัชภาคย์หันมา สายตาและสีหน้าของเขาบ่งบอกถึงความเศร้า เธอได้แต่สงสัยและรู้สึกผิด            “วดีขอโทษนะคะ” เธอเอ่ยออกมาแต่เขายิ้ม มองเธออย่างห่วงใยเช่นเดิมไม่เคยเปลี่ยน            “จะขอโทษทำไม วดีเป็นคนเลือก พี่เชื่อในการตัดสินใจของวดี วดีรักเขาจริงๆ ใช่ไหม” แม้ถามไปแล้วจะเจ็บปวดแค่ไหน แต่เขาก็อยากให้เธอยืนยันให้มั่น เขาจะได้ตอกย้ำกับตัวเองให้จำใส่สมองเอาไว้ ยอมรับว่าเสียใจกับการบอกเลิกของราชาวดี แต่เมื่อเธอรักผู้ชายคนนั้นจริงๆ และเขาก็เป็นคนดี จึงยอมถอยออกมา            คุณหญิงย่าของเธอเองก็พยายามขัดขวาง แต่ถ้าหากราชาวดีโดนบังคับให้แต่งงานหรือไม่ได้รักภาคินจริง เขาไม่หยุดแค่นี้แน่ ไม่ว่าจะมีใครขัดขวางแค่ไหนก็ตาม แต่นี่เธอมีใจให้ภาคินและดูเหมือนจะรักมาก เธอมีความสุขเมื่ออยู่กับผู้ชายคนนั้น เขาจึงไม่อยากจะฉุดรั้งเธอเอาไว้อย่างคนเห็นแก่ตัว            “ค่ะ วดีรักเขา พี่ภาคย์เป็นคนดี วดีเชื่อว่าสักวันพี่ภาคย์ต้องได้เจอกับผู้หญิงที่ดี วดีไม่ดีพอหรอกค่ะ ทำให้พี่ภาคย์เสียใจ” กับรัชภาคย์ เธอรู้สึกผิดเสมอเมื่อคิดถึงเขาหรือได้เจอหน้า            “อย่าพูดว่าวดีไม่ดีพอ วดีเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดในชีวิตของพี่” เขากอดรัดเธอเอาไว้แนบอก ราชาวดีกอดเขาตอบ            “ขอกอดเป็นครั้งสุดท้าย เพราะพี่คงไม่มีโอกาสทำแบบนี้อีก” เขาอยากกอดเธอแบบนี้ไปนานๆ แต่มันคงไม่เหมาะ            “แค่เห็นวดีมีความสุข พี่ก็มีความสุข ความรักของพี่ไม่ใช่การแย่งชิง แค่เขาคนนั้นเป็นคนดีจริงและรักวดีจริง พี่ก็ดีใจด้วยจริงๆ” เขายิ้มให้เธอด้วยสายตาอ่อนโยนแต่เศร้าสร้อยนัก            “วดีขอโทษ”            “ไม่ต้องขอโทษหรอก ความรักมันบังคับกันไม่ได้ พี่แค่อยากให้วดีมีความสุขกับคนที่รัก แต่อย่าพูดให้พี่เลิกรักวดีเลยนะ มันเป็นไปไม่ได้” แม้เธอจะแต่งงานไปแล้ว แต่เขายังลืมเธอไม่ได้อยู่ดี            “วดีเหมือนคนเห็นแก่ตัว” ราชาวดีพูดด้วยความรู้สึกเศร้าจริงๆ เธออยากให้เขารักผู้หญิงสักคน ไม่อยากให้เขาต้องมาคอยแต่จะรักเธออยู่แบบนี้            “ทำอะไรกันน่ะ” เสียงเข้มๆ ของภาคินทำให้ทั้งสองผละห่างจากกัน ราชาวดีหน้าเสียเมื่อเห็นสายตาที่เปลี่ยนไปของเจ้าบ่าว ภาคินไม่เคยมีสายตาเช่นนี้ และเขาหน้าบึ้งอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน            “ฝากดูแลเธอด้วย ถ้าเธอเสียใจวันไหน ฉันจะมาเอาคืน” รัชภาคย์พูดขึ้น แค่เห็นภาคินชัดๆ เขาก็รู้ว่าอีกฝ่ายทั้งหวงทั้งห่วงราชาวดีมากแค่ไหน            “ไม่มีวันที่เธอจะเสียใจ” ภาคินดึงร่างเจ้าสาวเข้ามายืนแนบข้าง รัชภาคย์มองหญิงสาวที่เขาหลงรักด้วยสายตาสื่อความหมาย “พี่ไปก่อนนะวดี อย่าลืมว่าวันใดที่วดีมีปัญหา ให้นึกถึงพี่เป็นคนแรก” ร่างสูงของรัชภาคย์หมุนกายเดินออกไปอย่างสง่า เขารักเธอก็จริง แต่เขาจะไม่แย่งชิง เขาถือว่าการตัดสินใจของผู้หญิงที่รักเป็นคำตอบที่ทำให้เขาควรถอยห่าง            ภาคินดึงร่างเจ้าสาวเข้างานแต่งอีกครั้ง เขานิ่งเงียบไป และนั่นทำให้เธอแทบจะทำตัวไม่ถูก เวลาอันสั้นเขากลับมาเป็นเหมือนเดิมที่อ่อนโยน ถามเธอว่าเหนื่อยไหม หิวไหม และซับเหงื่อให้เธอเบาๆ อย่างอ่อนโยน            “พี่คินคะ วดีอยากอธิบาย” เมื่อเห็นเขาคลายอารมณ์โกรธลง เธอก็อยากอธิบายให้เขาเข้าใจ            “เอาไว้หลังจากนี้ พี่เชื่อใจวดี” ภาคินพูดเท่านั้นแล้วบีบมือของเธอ ก่อนจะพาเธอขึ้นเวที ทำให้เธอใจชื้นขึ้นมาหน่อยที่เขาไม่ได้คิดอะไรในแง่ร้าย            “คุณแม่คะ ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ นังนั่นกอดกับผู้ชายในงานแต่ง แต่พี่คินไม่ว่าอะไรมันสักคำ” แพรพิมพ์หงุดหงิดที่พี่ชายทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น            “ปล่อยไปก่อน ดูเหมือนคุณคินจะรักมันมาก แต่ต่อไปเราต้องกระชากหน้ากากของมันออกมาให้จงได้” คุณพลอยประวีปรามบุตรสาว เพราะได้รับรู้เรื่องราวจากปากของบุตรสาวถึงการแต่งงานที่ไม่ปกติในครั้งนี้            “คอยดูนะคะคุณแม่ แพรไม่ยอมแน่ๆ ยังไงเจ้าสาวของพี่คินต้องเป็นไหมแก้วเท่านั้น” แพรพิมพ์ได้รับรู้เรื่องราวถึงการแต่งงานของพี่ชายในครั้งนี้จากเพื่อนสนิทอย่างไหมแก้ว นั่นทำให้เธอนึกโมโหที่พี่ชายโดนผู้หญิงคนนั้นหลอก            “แม่ก็คิดแบบนั้นล่ะ” คุณพลอยประวีเออออกับบุตรสาว เพราะเห็นไหมแก้วมานานหลายปี อีกฝ่ายเป็นคนดี อ่อนน้อมถ่อมตน ท่านเลยเอ็นดูเป็นพิเศษ แถมยังเป็นเพื่อนกับแพรพิมพ์อีก นั่นยิ่งทำให้เอ็นดูขึ้นไปอีก            พิธีส่งตัวเข้าหอทำให้ราชาวดีท้องไส้ปั่นป่วนอีกครั้ง หลังญาติผู้ใหญ่อวยพรและออกไปจากห้องหอ แม้จะตงิดใจกับสายตาไม่เป็นมิตรของแม่เลี้ยงของเจ้าบ่าวและน้องสาวของเขา แต่เธอก็ปัดมันทิ้งไป ทั้งสองอาจแค่ไม่คุ้นเคยกับเธอเท่านั้นเอง เพราะเธอเจอพวกเค้าแค่สองครั้ง คือวันที่ท่านมาทาบทามสู่ขอกับวันแต่งงานวันนี้เท่านั้น            “อุ๊ย!” เพราะลุกเร็วไปหน่อย ขาเลยเป็นเหน็บ เนื่องจากต้องนั่งพับเพียบอยู่กับพื้นเป็นนาน            “เป็นอะไรหรือเปล่า”            “ไม่เป็นอะไรค่ะ ขอโทษค่ะ” เธอตอบแล้วก้มหน้างุด อยากจะหนีเข้าห้องน้ำหรือหนีไปไหนสักที่เพราะสายตาของเขานี่แหละ เผลอสบด้วยทีไร ทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเองทุกครั้ง            “อุ๊ย!” เธอทำท่าจะล้ม เขาก็เข้ามารับร่างเงอะงะเอาไว้ ภาคินกดยิ้มที่มุมปากอดจะขบขันคนขี้อายไม่ได้            “ขอบคุณค่ะ” เธอตอบแล้วก้มหน้างุด มือบีบเข้าหากันด้วยความตื่นเต้น            “ไปนั่งหน้ากระจกเลย พี่แกะผมให้”            “เรื่องพี่ภาคย์น่ะค่ะ”            “ห้ามพูดถึงผู้ชายคนอื่นอีก” เขากดให้เธอนั่งลง            “พี่คินกำลังเข้าใจผิด”            “รู้ได้ยังไงว่าพี่เข้าใจผิด” เขาเลิกคิ้วแววตาอ่อนโยนขณะมองเธอผ่านกระจก            “ก็... วดีไม่ได้จะกอดกับพี่ภาคย์ พี่ภาคย์กำลังเสียใจ ขอกอดวดีเป็นครั้งสุดท้าย”            “คราวหลังห้ามกอดกับผู้ชายคนอื่นอีก ครั้งนี้ให้อภัยก็แล้วกัน”            เสียงของเขาเข้มงวดและหึงหวงอย่างชัดเจน เธอพยักหน้าคอย่น เขาจึงยิ้มให้ผ่านกระจก ก่อนจะค่อยๆ แกะผมให้อย่างเบามือ เธอมองเขาเพลิน ผู้ชายอะไรน่ารักแบบนี้ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อสบตากับเขาแล้วก้มหน้างุดอีกรอบเพื่อหลบตา            “อุ๊ย! พี่คินจะทำอะไรคะ” เธอเอ่ยถามใบหน้าเหลอหลาเมื่อเห็นเขาคุกเข่าลงตรงหน้า            “พี่จะเช็ดเครื่องสำอางให้” เขาบอกอย่างอ่อนโยน            “หลับตาสิครับ” เขาพูดก่อนจะวางสำลีลงบนเปลือกตาของเธอ ในขณะที่นวดครีมเข้มข้นไปบนผิวหน้าและเช็ดออกเบาๆ ด้วยสำลี คราบเครื่องสำอางก็ออกมาจนเกือบหมด            “พี่คินทำแบบนี้เป็นด้วยเหรอคะ” เธอเอ่ยถามเมื่อเห็นการกระทำที่ไม่ติดขัดของเขา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม