“ไม่ต้องเกร็งหรอกครับ พี่ชอบวดีตั้งแต่เห็นหน้า เลยไปสมัครเป็นหลานเขยคุณหญิงย่า พี่เองก็ไม่มั่นใจว่าวดีจะรังเกียจพี่หรือเปล่า พี่เลยยังไม่ให้ผู้ใหญ่ไปพูดอะไรอย่างเป็นทางการ แต่พี่เป็นเฒ่าแก่ให้ตัวเองไปพูดกับคุณหญิงย่าของวดีก่อน ถ้าวดีรังเกียจหรือยังไม่พร้อม พี่ก็เข้าใจ”
“เอ่อ... วดีไม่ได้รังเกียจค่ะ” ราชาวดีอยากจะกัดลิ้นตัวเองนัก นี่เธอพูดอะไรออกไป เธอกับเขาเพิ่งรู้จักกันเมื่อครู่เองนะ เธอจะใจง่ายไปไหน หญิงสาวตำหนิตัวเองในใจ
“พี่ไม่ได้รีบร้อนหรือบีบบังคับ แต่ถ้าวดีไม่ขัดข้อง เดือนหน้ามีฤกษ์ดี”
“พี่คินคะ คือว่า...” ราชาวดีถึงกับตกใจ แต่เธอพูดไม่ทันจบ อาหารก็ทยอยมาเสิร์ฟ
“พี่อาจจะดูใจร้อน แต่ก่อนแต่งงานเดือนนึง เราก็ศึกษากันได้”
“ถ้าเราไปด้วยกันไม่ได้ล่ะคะ”
“ไม่ต้องเครียดไปหรอกครับ เราลองคบกันก่อน พี่ให้โอกาสวดีได้เลือก”
“จริงๆ วดีเอง เอ่อ...” เธออึกอัก
“พูดมาได้เลย พี่ยินดีรับฟัง”
“ครอบครัวของวดีมีปัญหา...”
แล้วเธอก็พูดตรงๆ เรื่องบริษัทและสถานะการเงิน ก่อนจะลอบสังเกตสีหน้าของเขา ภาคินตั้งใจฟังและเขาก็ไม่มีท่าทีดูถูกให้เห็น เธอแค่ลองใจเขา แต่กลับกลายเป็นว่าเขาส่ายหน้า ยิ้มบางๆ กุมมือเธอเอาไว้
“พี่รู้แล้วครับ เอาเป็นว่าถ้าเป็นเรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา”
“ทำไมถึงอยากแต่งงานกับวดีค่ะ วดีไม่มีอะไรเลย”
“พี่บอกไปแล้วว่าพี่ชอบวดี และพี่ก็มองวดีมานานแล้ว”
“นานแล้ว หมายความว่ายังไง”
“ก็มองมาหลายปี รอให้วดีโตกว่านี้”