“อย่าพูดเรื่องนั้นเลย พี่อยากจะลืม... มานี่กลับบ้านได้แล้ว พี่จะไปส่ง” ร่างใหญ่ช้อนใต้ขาอุ้มร่างอรชรที่ไม่ได้ตัวเบาราวกับนุ่นเหมือนกับที่ตาเห็นขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน ศีรษะได้รูปก้มต่ำลงมองใบหน้าผุดผาดของพราวฟ้าอย่างพิจารณา ท่ามกลางแสงจันทร์แบบนี้ พราวฟ้าช่างไม่ต่างอะไรจากเทพธิดาตัวน้อยแม้แต่นิดเดียว รามิลเผลอจ้องมองนิ่งอยู่นาน จนสาวน้อยในอ้อมแขนซุกหน้าลงกับแผงอกกว้างอย่างเอียงอายนั่นแหละจึงรู้ตัว “พี่ราม... พราวเดินเองได้ค่ะ...” “พี่อยากอุ้มพราวนี่...” รามิลจ้องมองสตรีในอ้อมแขนอย่างเอ็นดู พยายามจะลืมเรื่องของแพรวดาวไปให้หมดจากใจ “แต่พราวตัวหนักนะ พึ่งกินข้าวมาอิ่ม ๆ ด้วย...” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเกรงใจ จนรามิลอดยิ้มไม่ได้ “เบายังกะนุ่น อุ้มทั้งคืนยังไหวเลย ไม่เอาแล้ว เลิกพูดสักที พี่จะพาไปส่งบ้าน...” เท้าแกร่งก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง พราวฟ้าเชื่อฟังแต่โดยดี โดยการตวัดมือบางโอ