ตอนที่ 3 รู้สึกผิดในใจ

1256 คำ
          แชะ! แชะ! แชะ!             เสียงลั่นชัตเตอร์ดังขึ้นในระหว่างการถ่ายภาพนิ่ง ผู้เป็นนายแบบสวมกางเกงยีนแบรนด์ดัง เข้าคู่กับเสื้อแจ็คเก็ตหนังขนาดพอดีตัวสีดำนิล ทรงผมเปิดข้างปล่อยตรงกลางให้ยาวจนมัดได้ ถูกเซ็ทปาดขึ้นเบี่ยงซ้ายเล็กน้อย ช่วยเพิ่มความเท่ให้ชายหนุ่มอีกเป็นกอง ทุกการเคลื่อนไหวเปี่ยมล้นไปด้วยความมีเสน่ห์ จากที่เคยหล่อดูดีอยู่แล้วยิ่งหล่อเข้าไปใหญ่             พู่กันมองซุปตาร์หนุ่มผ่านเลนส์กล้อง ปากก็ออกคำสั่งให้อีกฝ่ายขยับร่างกายตามที่เห็นสมควร ดูเหมือนว่าความเป็นมืออาชีพของดินแดนจะลดดีกรีลง เพราะต้องการยั่วให้ตากล้องหนุ่มหงุดหงิด เขาอยากจะรู้เหมือนกันว่าจะแสร้งทำเป็นไม่รู้จักกันได้นานแค่ไหน             “ยิ้มหน่อยครับคุณแดน”             ได้ยินอย่างนั้นชายหนุ่มก็แสร้งทำเป็นยิ้มแหย ๆ เหมือนไม่เต็มใจ นั่นทำให้พู่กันถึงกับถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาแสดงพฤติกรรมขัดใจ มันเกิดขึ้นหลายครั้งจนทำให้การทำงานไม่ลื่นไหล ไม่ใช่แค่ตากล้องที่ไม่ปลื้มกับความเหลาะแหละของซุปตาร์หนุ่ม แต่ผู้จัดการอย่างปราด้าเองก็ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ปกติดินแดนไม่เคยเป็นอย่างนี้ ทุกครั้งจะตั้งใจทำงานจนทุกอย่างฉลุยในครั้งเดียว             “ขอเวลาสักครู่นะคะคุณพู่กัน” ปราด้าเดินเข้ามาหาตากล้องหนุ่ม เพราะหวังจะไปจัดการเด็กในสังกัดให้ตื่นตัวขึ้นมาบ้าง             “ได้ครับ ผมเองก็คิดว่าคุณแดนต้องการคุณเหมือนกัน” เขากล่าวขณะจ้องมองซุปตาร์หนุ่มที่เอาแต่ยืนลอยหน้าลอยตา เหมือนไม่ได้สำนึกอะไรเลย                  “ขอบคุณค่ะ”             กล่าวแล้วจึงเดินเข้าไปหากลางสตูดิโอ ซึ่งมีฉากหลังเป็นสีขาว พร้อมทั้งจัดแสงไว้เสร็จสรรพ             “ไอ้แดน! วันนี้แกเป็นอะไรยะ ทำตัวไม่มืออาชีพเลย ไม่สบายหรือเปล่า”             “ผมสบายดี” เจ้าตัวตอบอย่างไม่ยี่หระ             “สบายดีแล้วทำไมไม่ให้ความร่วมมือกับคุณพู่กันเลย รู้ไหมมันเสียเวลา แกเป็นอะไรก็บอกมาฉันจะได้หาทางแก้ไขให้”             “ถ้าผมบอกพี่จะทำได้จริง ๆ นะ” อีกฝ่ายยิ้มร้ายราวกับมีแผนในใจ             “ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงฉันจะทำให้” เธอกล่าวอย่างจำยอม เพราะหากไม่ยอมรับปากมีอันต้องกระทบกับงานที่รับไว้เป็นแน่             “ขอเบอร์ตากล้องมาให้ผมหน่อยดิ แล้วผมจะไม่งอแง”             “เอาอีกแล้ว…แกคิดจะทำอะไร หรือว่าแกเปลี่ยนรสนิยมแล้วนั่นไมใช่ผู้หญิงนะแดน หากเป็นข่าวขึ้นมาจะเป็นยังไง อีกอย่างคนนี้ฉันว่าอย่าไปยุ่งดีกว่า ดูท่าทางคุณธาราจะสนใจเป็นพิเศษนะ ถ้าเกิดเขาชอบพลอกันขึ้นมาจริง ๆ แกยังจะกล้าแย่งแฟนของเจ้าของค่ายอีกงั้นเหรอ” ปราด้าเตือนด้วยความหวังดี เพราะเธอสังเกตได้ว่าธารามักจะแอบส่งสายตามองตากล้องหนุ่มอยู่ตลอดเวลา แถมยังยิ้มราวกับคนกำลังมีความรักเสียอย่างนั้น             “ผมไม่สนว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ขอแค่สนใจก็พอ อีกอย่างสองคนนั้นยังไม่ได้แต่งงานกันสักหน่อยทำไมจะแย่งไม่ได้ คนระดับผมใครก็อยากเข้าหาอยู่แล้ว แค่ขยิบตาก็วิ่งตามเป็นพรวน” เจ้าตัวพูดอย่างมาดมั่นในความหล่อของตัวเองซะเต็มประดา นั่นทำให้ผู้จัดการสาวมองด้วยสายตาที่หมั่นไส้เหลือทน             “หลงตัวเองเข้าไป ฉันมั่นใจว่าคนอย่างคุณพู่กันไม่มีทางพิศวาสแกแน่ เพราะไม่อย่างนั้นคงจะเล่นหูเล่นตาตั้งแต่แรกแล้วล่ะ”             “เหอะน่า…ขอมาให้ผมนะ พี่สัญญาแล้ว”             “เออ ๆ เดี๋ยวเสร็จงานแล้วจะเข้าไปขอมาให้”             “ถ้าพี่ไม่ทำตามล่ะก็ เสร็จงานนี้ผมจะรีบกลับบ้านเลยคอยดู”             “ไม่ต้องมาขู่ฉันหรอก ฉันรู้สันดานแกดีว่าเอาแต่ใจแค่ไหน”             ปราด้าสะบัดบ๊อบใส่แล้วเดินตรงมาหาพู่กัน เพื่อบอกว่าตอนนี้เธอได้เคลียร์กับซูเปอร์สตาร์หนุ่มเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ให้ทำงานได้อย่างเต็มที่             การถ่ายภาพวันนี้เป็นงานที่พู่กันรู้สึกอึดอัดมากที่สุด เพียงแค่เห็นรอยยิ้มกระชากใจของดินแดนก็ทำให้นึกถึงเรื่องราวในอดีต เจ้าตัวต้องใช้ความพยายามขั้นสูงเพื่อต่อสู้กับความอ่อนแอในใจ ไม่ให้มันออกมาเพ่นพ่านจนแสดงออกให้อีกฝ่ายรับรู้             “ผมขอดูภาพที่ถ่ายได้ไหมครับ” ลั่นชัตเตอร์ครั้งสุดท้ายแล้ว ดินแดนก็เดินตรงมาหาตากล้อง จงใจเดินเข้ามาในระยะประชิดจนพู่กันต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว จ้องหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ             “เข้าไปดูในคอมฯดีกว่าครับ เพราะภาพที่ถ่ายถูกส่งเข้าไปในนั้นหมดแล้ว” ตอบแล้วถือกล้องจะเดินออกไปจากเขา             หมับ!             ดินแดนรั้งแขนเรียวอย่างถือวิสาสะ แสยะยิ้มร้าย ยักคิ้วท้าทายอย่างน่าหมั่นไส้             “ปล่อย! ผมไม่สนุกด้วยนะ”             “แต่ฉันสนุก ยอมรับมาเถอะว่าเราเคยรู้จักกัน…พู่กัน”             “ผมไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน รู้เพียงแค่ว่าคุณคือซูเปอร์สตาร์ชื่อดังเท่านั้น อย่าพยายามเลยเพราะถ้ายังไม่หยุดผมคงคิดว่าคุณชอบเพศเดียวกัน ถ้าเกิดใครรู้เข้าชื่อเสียงที่คุณสั่งสมมาจะต้องย่อยยับลงในพริบตา คนอย่างคุณคงไม่กล้าเอาชื่อเสียงของตัวเองมาเสี่ยงหรอกจริงไหมครับ” เขากล่าวเน้นเสียง ตบท้ายด้วยการฉีกยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน แกะมือหนาออกจนสำเร็จ             “คิดว่าตัวเองดูดีขึ้นเลยกล้าต่อปากต่อคำสินะ แต่ก่อนยังครางใต้ร่างให้ฉันฟังอยู่บ่อย ๆ เลย ถ้าฉันอยากได้อะไรก็ต้องได้ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น” ก่อนหน้านี้เขาตั้งใจว่าหากเจอพู่กันอีกครั้งจะเอ่ยคำขอโทษ แต่พอมาเห็นท่าทีเมินเฉย ทำเป็นไม่รู้จักกัน กลับทำให้ดินแดนอยากจะเอาชนะ อยากจะกำราบให้อยู่ในโอวาทอีกครั้งเสียอย่างนั้น คำขอโทษคงไม่มีประโยชน์ในสถานการณ์อย่างนี้แน่นอน             “ผมไม่รู้ว่าคุณพูดอะไร ขอตัวนะครับ” คนพูดหมุนตัวจะเดินออกไปจากตรงนั้น ดินแดนจะเดินตามหลังไปแต่ทว่าผู้จัดการส่วนตัวกลับเดินมาขวางทางไว้เสียก่อน เจ้าตัวจึงจิ๊ปากอย่างไม่พอใจ             “แกจะทำประเจิดประเจ้ออย่างนี้ไม่ได้เด็ดขาด อยู่ตรงนี้เดี๋ยวฉันจะไปขอเบอร์คุณพู่กันให้ แล้วก็อย่าแผลงฤทธิ์จนทำให้เสียการเสียงานเด็ดขาด” ปราด้าชี้หน้าเตือนด้วยคำเด็ดขาด จากนั้นเดินตามหลังพู่กันไปทันที             ดินแดนได้แต่ยืนพรูลมออกจากปากเบา ๆ เมื่อถูกเตือนสติก็ทำให้เจ้าตัวคิดอะไรได้บ้าง บางทีพู่กันอาจจะเกลียดเขามากจนไม่อยากคบค้าสมาคมด้วย ไม่รู้ทำไมความผิดในใจถึงยังไม่เคยจางหายไปเสียที ทั้งที่พู่กันไม่ใช่ผู้หญิงและไม่ใช่รายแรกที่โดนเขากระทำอย่างนี้ อาจเป็นเพราะความใสซื่อและความจริงใจของพู่กันในตอนนั้น ที่ยังคิดติดตราตรึงใจไม่รู้ลืม แต่ด้วยความมักมากทำให้เขามองผ่านคนคนนี้ไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม