บทที่ 7 สืบข้อมูล

1203 คำ
“แก้มัดสิ แล้วฉันจะกินข้าวยังไง หรือนายจะป้อน” น้ำเสียงยั่วกวนประสาท ทำให้นทีหันกลับไปมองด้วยความแปลกใจ ภาพที่คิดไว้กับสิ่งที่เห็น ตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง สภาพของหญิงสาวไม่ได้มีทีท่าหมดอาลัยตายอยาก หรือนอนร้องไห้ฟูมฟายแม้แต่น้อย กลับนั่งนิ่ง สายตาจ้องมองเขาอย่างโกรธเกลียด และคำพูดคำจาก็กวนประสาท ใบหน้าที่เคยสวยงาม บัดนี้กลับบวมเปล่งจนแทบจะลืมตาไม่ขึ้น นทีเดินเอาข้าวไปวางบนโต๊ะ ก่อนจะเดินเข้าไปแก้มัดมือหญิงสาว โดยไม่พูดอะไรสักคำ มีสายตาของอัญญามองตามเขาไปทุกฝีก้าว หากคิดจะหลบหนีจากที่นี่ เธอจะต้องมีข้อมูล แล้วจะหาจากใครได้ เพราะไม่มีใครเฉียดเข้าใกล้เธอเลยสักคน อีกอย่างที่นี่ก็ไม่มีใครน่าไว้ใจ คงมีแต่นายหนวดนี่ล่ะ ที่ดูชั่วน้อยกว่าคนอื่น ในเมื่อไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้ ก็คงต้องช่วยเหลือตัวเอง งานนี้ถ้ารอดออกไปได้ก็ถือว่าเป็นบุญ แต่ถ้าไม่...เธอก็แค่ต้องไปเกิดใหม่อีกครั้ง แต่จะไม่ยอมตกเป็นเหยื่อให้พวกมันใช้ประโยชน์แน่ อัญญาหย่อนสะโพกลงตรงหน้าโต๊ะที่นทีวางจานข้าวไว้ให้ มือเรียวจับช้อนเตรียมจะตักข้าว แต่ความเจ็บตึงบนใบหน้า ทำให้เธอต้องสูดปาก ใบหน้าเหยเก แต่ก็ต้องฝืนกิน เพื่อจะได้ถ่วงเวลานายหนวด และจะได้มีเรี่ยวแรงด้วย “นาย” “...” “นายหนวด ฉันถามไรหน่อยดิ” เธอเงยหน้าขึ้นมองชาย ร่างสูงใหญ่ ที่ยืนนิ่งจับตามองเธอกินข้าว คงจะเป็นคำสั่งของหัวหน้ามัน ดู ๆ ไปบางทีนายหนวดก็ดูฉลาด แต่บางทีก็ดูเป็นคนไม่รู้สึกรู้สมอะไร ทำตามคำสั่งอย่างเดียว แต่ยังไงเขาก็เป็นความหวังเดียว ที่จะพาเธอให้รอดไปจากที่นี่ “อะไร?” “ที่นี่ห่างจากฝั่งไกลแค่ไหน” เธอลองเลียบเคียงถาม เผื่อได้ข้อมูลอะไรบ้าง “5 ไมล์ทะเล” “แล้วไอ้ 5 ไมล์ มันคือกี่โล ... เอ่อ .... คือ ฉันแค่อยากรู้ เพราะปกติก็รู้จักแต่ระยะทางกิโลเมตร” “ประมาณ 10 กิโล” “10 ก็ไม่ไกลนี่นา” อัญญาพึมพำออกมาเบา ๆ กำลังใช้ความคิด และวาดภาพแผนที่ในอากาศ “ไกล...บนบกกับทะเลไม่เหมือนกัน” “อ้อ...เหรอ” เธอแกล้งทำหน้าใสซื่อ ไม่รู้เรื่อง “ถ้าคิดจะหนีก็เลิกคิดไปได้เลย ถ้าไม่มีเรือ ส่วนท่าเรือมีจุดเดียวคือด้านหน้า มีคนเฝ้ายามไว้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ด้านหลังเกาะเป็นป่าทั้งหมด ถ้าหลบหนีออกจากห้องนี้ไปได้ ก็อาจจะตายเพราะถูกสัตว์ป่าบนเกาะกัดตาย หรือไม่ก็...ถูกยิงตาย ก่อนจะทันได้ว่ายน้ำหนีลงทะเล” นทีรู้ว่าหญิงสาวกำลังหลอกถามข้อมูลจากเขา อะไรที่บอกได้ และไม่อันตราย เขาก็แกล้งหลุดปากพูด เชื่อว่าต่อให้บอกรายละเอียดชัดเจนแค่นไหน ก็คงไม่ช่วยให้หญิงสาวหนีรอดไปได้ ในเมื่อที่นี่คือเกาะส่วนตัว อาณาเขตของพลทัต ไม่มีใครกล้าเฉียดเข้าใกล้ อีกอย่างเขาก็มีงานสำคัญต้องรีบจัดการ จึงไม่มีเวลามานั่งคิดช่วยเหลือใคร ถ้าหญิงสาวไม่โชคร้าย ถูกขายไปก่อน หรือส่งไปให้ไอ้เสี่ยพวกนั้น บางทีอาจจะเกิดปาฏิหาริย์กับเธอก็ได้ งานนี้ก็แล้วแต่บุญเก่าของเธอละกัน “เปล่า!! … ฉันไม่ได้คิดจะหนี ก็แค่ลองถามดูไว้เป็นความรู้” นทีชายตามองหญิงสาว ที่กำลังพยายามเคี้ยวข้าวข้างเดียวอย่างยากลำบาก บางครั้งก็สูดปากด้วยความเจ็บแสบจากแผลบนใบหน้า ขนาดทำแผลแล้วยังบวมเปล่ง ไม่รู้ว่าหนึ่งอาทิตย์ที่วิทย์กำหนดไว้ ใบหน้าขาวนี้จะหายช้ำหรือเปล่า แต่อย่างน้อยก็เป็นผลดีกับเธอ จะได้ยืดเวลาให้มีชีวิตยาวขึ้นอีก ครั้งนี้อัญญาไม่เล่นตัว ไม่โวยวาย ยอมนั่งลงกินข้าวโดยที่เขาไม่ต้องบังคับหรือข่มขู่เหมือนทุกครั้ง นทีแอบมอง เห็นท่าทางครุ่นคิดและกำลังใช้สมองอย่างหนักของหญิงสาวแล้ว ก็ทำให้เขาคลี่ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว บางครั้งคนที่ดูไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ก็ดูมีเสน่ห์น่ารักดีเหมือนกัน “แล้วคนงานที่นี่พักไหนกัน” หญิงสาวหันมาถามเขาต่อเมื่อคิดว่าข้อมูลนี้ก็สำคัญ “ทำไม ที่นี่มีแต่ผู้ชาย ขอแนะนำว่าให้อยู่แต่ในห้องดีกว่า แล้วจะปลอดภัย” “ฉันแค่อยากรู้ นายก็ตอบ ๆ มาเถอะ” “ด้านหน้า กับด้านข้างบ้านใหญ่”         วันนั้นเธอเห็นเพียงแว๊บเดียว ก่อนจะถูกลากมาขังไว้ที่บ้านหลังนี้ แต่ก็จำได้คร่าว ๆ ว่าบ้านหลังใหญ่หันหน้าออกทางท่าเรือ ด้านหลังก็ลึกเข้าไปในป่าอีก แล้วด้านข้างล่ะ น่าจะอยู่ตรงข้ามกับบ้านที่เธอถูกขัง เพราะฝั่งนี้ไม่เคยได้ยินเสียงใครแม้แต่คนเดียว เงียบมาก นอกจากเธอถูกขังอยู่คนเดียว แสดงว่ามีโอกาส         “นาย”         นทีหรี่ตามองหญิงสาว เมื่อเธอเริ่มส่งคำถามมามากเกินไป หากเกิดอะไรขึ้น แล้วเธอเปิดปากว่ารู้มาจากใคร บางที นี่ก็ไม่ใช่เรื่องดีนัก และอาจจะไม่ปลอดภัยกับเขาเช่นกัน นทีถอนหายใจออกมายืดยาว เพราะความสงสาร จึงทำให้เผลอลืมตัวคุยกับหญิงสาวมากเกินความจำเป็น ทำไมเขาเพิ่งมาคิด ทั้งที่เรื่องแบบนี้ไม่ควรพลาด         “...” นทีไม่ขานรับ อัญญาจึงถามขึ้นอีกครั้ง         “นายชื่อไร?” คราวนี้อัญญาจ้องหน้าเขาอย่างต้องการรู้คำตอบจริง ๆ ไม่ใช่ถามเพื่อกลบเกลื่อนอย่างที่ชายหนุ่มเข้าใจ แต่เมื่อจ้องประสานสายตากันอยู่นาน แล้วเขาไม่ตอบหญิงสาวจึงแอบมองสำรวจเขาอย่างละเอียด ดู ๆ ไปเขาก็หน้าตาดี หน้าผากกว้าง คิ้วเข้ม ดวงตาใหญ่เข้มดุ จมูกเป็นสัน ริมฝีปากหนาเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเครา แล้วอัญญาก็ต้องหน้าแดงขึ้นมา เมื่อเผลอจ้องริมฝีปากเขานานเกินไป จนเห็นภาพตัวเองกับนายหนวดกำลังจูบกันเมื่อเช้านี้ ความรู้สึกร้อนผ่าวกระจายไปทั่วใบหน้า         “นที”         “หะ?...โอ๊ย... อะไรนะ” อัญญาสูดปากเบา ๆ เมื่อเผลออ้าปากกว้างถามเขาเสียงดัง         “เธอถามชื่อไม่ใช่เหรอ”         “เออ... เออ... ใช่ ๆ นทีเหรอ แล้วนาย... เอ่อ..พี่นที แล้วไม่ถามเหรอว่าฉันชื่ออะไร หรือรู้อยู่แล้ว”         “ไม่อยากรู้” พูดเสร็จชายหนุ่มก็เดินเข้าไปรวบเอาจานข้าวที่หญิงสาวกินเรียบร้อยแล้ว แล้วก้าวดุ่ม ๆ เดินออกจากห้องไป ปล่อยให้อัญญาอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้าง ไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบแบบนี้ ก็ไม่ได้อยากบอกหรอก แค่ชวนคุย แต่โคตรเสียเซลฟ์ชะมัด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม