ผ่านไปครบอาทิตย์ แผลบวมช้ำบนใบหน้าหญิงสาวดีขึ้นแทบจะหายดีแล้ว แต่ปัญหาคือ ใบหน้าขาวใสยังมีร่องรอยเป็นปื้นเขียวเหลือง ทำให้วิทย์มีสีหน้าไม่ชอบใจนัก เพราะสินค้าชิ้นนี้ เจ้านายย้ำแล้วให้ดูแลรักษา และต้องกลับมาสวยงามก่อนจะส่งมอบให้ลูกค้าวีไอพี
วิทย์ถอนหายใจแรง ๆ ด้วยความขัดใจ เป็นเพราะมือนายหนัก หรือเพราะผู้หญิงมันบอบบางเกินไป แล้วแบบนี้ถ้าส่งไปอยู่กับลูกค้า รับรองไม่เกินเดือนคงได้ขึ้นเตาเผาแน่
วิทย์หันไปพูดบางอย่างกับนที และเหลือบตามองหญิงสาว เห็นท่าทางนิ่งเงียบ สงบเสงี่ยม ไม่โวยวาย คงเพราะเมื่อวานเจอความโหดของเจ้านาย เลยทำให้ไม่กล้าหือ หรือไม่ก็คงยอมรับ ชะตากรรม ก็ดีจะได้ควบคุมง่าย
ก่อนเดินออกจากห้องไป วิทย์ไม่สนใจสั่งให้ลูกน้องมัดมือเธอเหมือนเดิม เพียงแต่ล็อคห้องและคล้องโซ่ไว้เท่านั้น และทิ้งเธอไว้เพียงลำพัง
สามวันที่ผ่านมา คนเอาข้าวเอาน้ำมาส่งหญิงสาวเป็นคนใหม่ไม่ใช่นที แม้จะแปลกใจ แต่เธอก็ยังทำตัวนิ่งเงียบ ไม่พูดคุยกับใคร เพราะเก็บข้อมูลได้มากพอแล้ว แต่ก็อดผิดหวังไม่ได้ เพราะใจคิดจะโน้มน้าวให้นายหนวดช่วยเธออีกครั้ง แต่ในเมื่อไม่เหลือใคร ก็คงต้องลองเสี่ยงดวงดูเอง
“ได้ข่าวว่านายส่งคนไปจัดการกับไอ้พินิจ แหมเสียดายมันหนีรอดไปได้” เสียงคนเฝ้าหน้าห้องพูดขึ้นมา
“ไม่น่าเชื่อนะว่าจะมีใครกล้าต่อกรกับเจ้านายได้” อีกคนก็โต้ตอบ ไม่ใช่เสียงของทีมนายหนวด เธอพอจำได้
“ใช่สิ ได้ข่าวว่ามีคนช่วยมัน ตอนนี้หนีไปกลบดานหาตัวไม่เจอ”
“แต่ลูกสาวมันยังอยู่ ทำเจ้านายเจ็บแสบขนาดนี้ ไม่รู้ว่าจะยังเก็บไว้ขายหรือจะจัดการเอง ถ้ายังไงเผื่อนายใจดีส่งเหลือ ๆ มาให้พวกเราบ้าง ก็น่าจะดี แกว่ามั้ย”
เสียงหัวเราะชอบใจของพวกมันก็ดังแทรกเข้ามาในห้อง อัญญาแอบฟังด้วยความตกใจ มือไม้สั่นด้วยความกลัว เหงื่อเย็นไหลซึมออกมาตามแผ่นหลัง พวกมันให้คนไปจัดการพ่อเธอ แล้วแม่ล่ะ คนโหดร้ายแบบนายพลทัต ถ้าจับตัวได้คงยากจะเหลือรอดชีวิต
เราเองคงอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว ต้องหนีไปตายเอาดาบหน้า
ตกดึกอัญญาจับตามองพวกมันที่ยืนยามเฝ้าหน้าประตูห้อง เธอสังเกตมาหลายคืนแล้ว พวกมันจะพลัดเปลี่ยนเวรกันช่วงตีหนึ่ง และจะเหลือคนเฝ้าอยู่เพียงหนึ่งคน ก่อนจะมีเพื่อนมาสมทบ ระหว่างนี้ใช้เวลาประมาณยี่สิบนาที หญิงสาวได้แต่ภาวนาของให้คืนนี้เป็นเหมือนเดิม และขอให้เธอหนีรอดสายตาพวกมันไปได้
การเฝ้ายามดูหละหลวม คงคิดว่าผู้หญิงคนเดียวไม่มีปัญญาหนีรอดไปได้ อีกอย่างท่าเรือก็มีเวรยามแน่นหนา ต่อให้พินิจอยากมาช่วยลูกสาว ก็คงเป็นไปได้ยาก เพราะที่นี่ต่อให้มีปีกก็หนีไปไม่ได้ อย่าว่าแต่เข้ามาช่วยเลย แค่เข้ามาใกล้เกาะก็ไม่รู้จะทำได้ไหม
หญิงสาวเฝ้ารออย่างใจเย็น หัวใจเธอเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นผสมความกลัว มือเย็นชื้นไปด้วยเหงื่อ โอกาสมีแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว หากเธอหนีออกไปได้ยังมีโอกาสรอด แต่ถ้าไม่ ก็จบทุกอย่างรวมทั้งชีวิตเธอด้วย มือบางลูบคลำอาวุธในมือ หลายคืนมานี้เธอพยายามเตรียมการ นอนคิดทุกคืน
ไม่รู้ว่านทีแกล้งลืมหรือลืมจริง จึงทิ้งเชือกมัดมือเส้นใหญ่และเหนียวไว้ในห้องเธอ หวังว่ามันคงจะใช้งานได้ อัญญาพยายามรำลึกถึงวิชาการต่อสู้ที่อุตส่าห์ไปร่ำเรียนมา ตอนนั้นกุลจิราชวนลงเรียนยูโด เธอตอบตกลงทันที เพราะคิดว่าเรียนยูโดมันเท่ห์และดูดี
อีกอย่างก็ว่างจนไม่มีอะไรทำ เพราะพ่อแม่ทำงานจนแทบจะไม่ได้เจอหน้ากัน ถึงแม้เธอจะเรียนจบแค่ขั้นพื้นฐาน แต่ถึงคราวจำเป็นก็ต้องลองดู ว่ามันจะช่วยให้รอดออกไปได้ไหม
เอาวะอย่างน้อยก็ได้เทคนิคท่าพื้นฐานมาบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ
“โอ้ย!...” อัญญาส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ท่ามกลางความเงียบสงัด
“เป็นอะไร” เสียงถามดังมาจากหน้าประตู
“มันมืด ฉันมองไม่เห็น โอ้ย...เจ็บ ๆ ไอ้โต๊ะบ้านี่ ดันล้มมาทับเท้าฉันได้ เลือดออกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฉันกลัวเลือด... ฮือ... ฮือ... นิ้วฉันจะแตกมั้ย มันปวด...ปวดจนเดินไม่ได้... ช่วยฉันด้วย”
“เดี๋ยวฉันวิ่งไปบอกพี่วิทย์ก่อน”
“แต่ตอนนี้ฉันปวดมาก นายเข้ามาดูก่อนได้มั้ย สงสัยนิ้วจะแตก...ฮือ ...ฮือ...เลือดแน่ ๆ ...เลือดไหลเต็มมือฉันเลย...”
“ยุ่งฉิบหาย” เสียงบ่นดังลอยมาจากหน้าประตู อัญญาจึงส่งเสียงร้องดังขึ้นไปอีก
“ฮือ...ฮือ...ช่วยห้ามเลือดให้ฉันหน่อย ฉันจะเป็นลมแล้ว...ถ้า...ถ้ามันไหลไม่หยุดแบบนี้ ฉันคงช็อคตายแน่เลย กว่านายจะวิ่งไปบอก กว่าจะเอายามา ฉันไม่ไหวแล้ว ช่วยด้วย”
แล้วเสียงหญิงสาวก็แผ่วลง จากทีแรกมันไม่สนใจมากนักก็แค่เลือดไหล เห็นมาจนชินตา แต่พอเสียงหญิงสาวเบาลง ก็เริ่มลังเล
“เรื่องมากจริงวะ เอาไงดี” มันบ่นพึมพำอยู่คนเดียว
“ช่วยด้วย ฉันไม่ไหวแล้ว”
รอไม่นานอัญญาก็ได้ยินเสียไขกุญแจ พร้อมกับเสียงดึงโซ่ออก แสงไฟส่องสลัวเข้ามาในห้องช่วยอำพลางให้เธอได้บ้าง หญิงสาวยืนนิ่งเตรียมพร้อม ไม่อยากทำร้ายใคร แต่ถ้าเธอไม่ทำแบบนี้ ก็จะไม่มีโอกาสรอดจากเงื้อมมือของพลทัต
เมื่อเสียงเปิดประตูเข้ามา เธอเฝ้ารอจังหวะ สายตาเพ่งมองชายรูปร่างผอม ความสูงพอ ๆ กับเธอ ก้าวเดินเข้ามา และกำลังจะผ่านหน้าเธอไป
“ทำไมไม่เปิดไฟ...”
อัญญาพุ่งเข้าไปประชิดด้านหลังโดยที่มันไม่ทันระวังตัว ก่อนจะใช้ท่อนแขนเล็กสอดรัดเข้าซอกคอของมัน อ้อมมาประสานกับแขนอีกข้าง เธอบีบแน่นสุดแรงเกิด
“อ๊อกกก...” เธอใช้เชือกเส้นใหญ่รัดคอช่วยอีกแรง ก่อนมันจะทันดิ้นรนขัดขืน เพราะแรงผู้ชายมากกว่าเธอหลายเท่า จึงต้องใช้เชือกดึงรัดคอแน่นขึ้นอีก ดึงจนมือสั่นไปหมดหญิงสาวก็ไม่ยอมปล่อย จนร่างนั้นแน่นิ่งไป