เขมณัฏฐ์ตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวพร้อมไปทำงานแต่เช้า และในมือก็มีแก้วกาแฟดำหนึ่งแก้วถืออยู่ วันนี้เขามีเวรเช้า เขมณัฏฐ์มองเอกสารในมืออีกข้างที่เพิ่งแกะออกจากซองสีน้ำตาลที่วางไว้ที่หัวเตียงเมื่อกี้ ใบหน้าเรียบเฉยเย็นชาที่ยากจะคาดเดามองไปยังข้างนอกระเบียงห้องแล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้อง นำแก้วกาแฟในมือไปวางไว้ที่เคาน์เตอร์ครัวของห้อง ก่อนจะถือเอกสารในมือพร้อมกับหยิบปากกาที่โต๊ะทำงานข้างนอกเข้ามาด้วย พอเข้ามาแล้วก็มองหน้าของคนที่หลับสนิทบนเตียงนุ่มของตัวเอง เขาหลุดยิ้มออกมากับภาพที่เห็น จงกลนีนอนน้ำลายไหล และพอไหลจะถึงหมอนก็ยกมือขึ้นมาเช็ดแก้มพร้อมแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตัวเอง
“เด็กน้อยของพี่” เขาพึมพำกับตัวเองแล้วดึงลากเก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกลมานั่งลงข้างเตียงที่เธอนอนอยู่ ก่อนจะเขย่าปลุกเธอ เขาต้องฉวยโอกาสนี้เพื่อให้เธอเซ็นเอกสารในมือ และหลังจากนี้เธอก็จะเป็นสิทธิ์ขาดของเขาเพียงคนเดียว และไม่รู้หรอกว่าพอตื่นมา เธอจะโวยวายไล่ฆ่าตัวเองไหม แต่ก็อยากปลุกมาเพื่อเธอจะยอมเซ็นเอกสารในมือให้
“ตื่นมาเซ็นเอกสารให้ฉันหน่อย” มือหนาเขย่าปลุกสาวน้อยไร้เดียงสาที่เขาตักตวงความหวานตลอดคืนให้ตื่นในตอนเช้า
อือ
หล่อนครางพึมพำลืมตาตื่นขึ้น แต่ก็ยังไม่ค่อยมีสติเท่าไหร่
“เอ้า...ปากกา เซ็นเอกสารแล้วค่อยนอนต่อก็ได้”
“ค่ะ” เธอรับปากกาที่เขายื่นให้พร้อมกับเซ็นชื่อตรงที่เขาชี้มือ
“เรียบร้อย ตอนนี้เธอเป็นเมียฉันแล้วนะ”
“ยังไงคะ?” ถามทั้งๆ ที่นั่งหลับ
“ก็เราจดทะเบียนสมรสกันแล้ว” พูดแค่นั้นหมอหนุ่มก็ขยับแว่นลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปทันที พร้อมกับเสียงกรีดร้องของภรรยาตีทะเบียนของตัวเองที่เพิ่งหลอกให้เซ็นไปเมื่อกี้
กรี๊ด!
เธอตื่นเต็มตาทันทีเมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดทิ้งท้าย พอจะลุกขึ้นไปตามก็ตกใจ เพราะเจ็บกลางหว่างขา แถมยังเปลือยอีก นั่นทำให้หล่อนร้องกรี๊ดอีกรอบ
กรี๊ด!
“หมอเข้ม! อาจารย์หมอกลับมาคุยกันเดี๋ยวนี้นะ คนเจ้าเล่ห์” เธอเป็นลูกศิษย์ของเขาและเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทของแม่เขาด้วย เขาทำแบบนี้ได้ยังไง มอมเหล้าเธอจนเมาไม่พอยังข่มเหงเธออีก เขามันร้าย...ร้ายหน้าตายด้วย เธอมองสำรวจร่างกายของตัวเองที่เต็มไปด้วยร่องรอยของคนตัวโตที่เดินจากไป แล้วก็ต้องมุดหน้าเข้าไปในผ้าห่ม เมื่อประตูห้องเปิดเข้ามาอีกรอบพร้อมกับเขา
“ไหวรึเปล่า ถ้าไหวอาบน้ำแต่งตัวไปทำธุระกัน” เขาบอกเธอแล้วปิดประตูห้องออกไปอีกครั้ง
“สั่งๆ สั่งอยู่นั่นแหละ แล้วเขาคิดอะไรของเขาอยู่กันแน่” หน้าของเขามันไร้อารมณ์เหลือเกิน จนเธอไม่รู้เลยว่าเขาทำแบบนี้ทำไมกัน ทำไมต้องหลอกให้เธอจดทะเบียนสมรสด้วย แล้วเรื่องเมื่อคืนล่ะ ภาพทุกอย่างมันเหมือนฝัน แต่มันไม่ใช่ฝัน เธอรู้ดีว่าตอนนี้ร่างกายตัวเองไม่เหมือนเดิมแล้ว
“คนเลว...” เธอตัดพ้อเขาแล้วล้มตัวลงนอน ไม่ยอมทำตามที่เขาบอก
เวลาผ่านไปนานเกือบยี่สิบนาที คนตัวเล็กก็ไม่ยอมออกมาจากห้องนอนสักที เขาจึงเปิดประตูเข้ามาอีกครั้งก็เห็นเธอนอนหลับอยู่ แล้วก็ต้องอมยิ้มกับภาพตรงหน้า แล้วก็ปิดประตูเบาๆ ด้วยกลัวว่าเธอจะตื่น ในเมื่อร่างกายเธออ่อนเพลีย เขาจึงจะปล่อยให้เธอได้พักผ่อน ค่อยพาไปทำบัตรประชาชนเปลี่ยนนามสกุลวันหลังก็ได้ แถมตอนนี้ก็เริ่มสายแล้ว เขาจึงรีบไปทำงาน เพราะวันนี้มีผ่าตัดด้วย
วรณิกามองรุ่นพี่ของตัวเองที่กำลังเดินออกมาจากห้องตรวจแล้วก็รีบสาวเท้าเดินตามอีกฝ่ายไปทันที ตลอดเวลาหลายปีที่มาทำงานที่โรงพยาบาลของเขา เธอทำเรื่องย้ายมาจากโรงพยาบาลเดิมเพื่อมาอยู่ใกล้ชิดคนที่ตัวเองแอบรัก เท้าเล็กก้าวสาวเท้าเร็วๆ มาจนถึงตัวของอีกฝ่ายพร้อมเอ่ยทักทาย
“สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ”
“อือ...เรียกปกติก็ได้หมอกา มีอะไรรึเปล่าครับ” เขาถามกลับพร้อมกับก้มมองนาฬิกาบนข้อมือของตัวเอง เขมณัฏฐ์รู้ว่าแพทย์สาวรุ่นน้องคิดอย่างไรกับตนเอง เขาจึงพยายามหลีกเลี่ยงหล่อนตลอดเวลา แต่บางครั้งก็จนทางไปเหมือนตอนนี้
“ค่ะรุ่นพี่ เย็นนี้ว่างไหมคะ”
“เย็นนี้ต้องกลับไปกินข้าวเย็นกับเมียน่ะ” เขาตอบหน้าตายเหมือนกับว่าเรื่องที่พูดเป็นเรื่องปกติ และทำให้คนฟังอย่างวรณิกาถึงกับอึ้งและไม่อยากเชื่อหูตัวเองจนต้องถามซ้ำ
“รุ่นพี่แต่งงานแล้วเหรอคะ ทำไมกาไม่รู้เลย” ใช่...เธอไม่รู้เลย เพราะเธอไม่เคยเห็นเขามีแฟนที่ไหนและควงผู้หญิงที่ไหนเลย แม้จะรู้ว่าเขมณัฏฐ์ไปดูตัวบ่อยๆ ก็ตาม
“แต่งเมื่อคืนน่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวนะหมอกา ต้องไปเตรียมตัวผ่าตัดน่ะ” เขาพูดตัดประโยคความแล้วเดินจากไปทันที โดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้ซักถามตัวเอง และพอเดินพ้นสาวเจ้ามาก็กระตุกยิ้มมุมปากด้วยความตลกตัวเอง ส่วนวรณิกาก็หน้าเศร้าหมุนตัวเดินกลับไปทางเดิมและในหัวก็เต็มไปด้วยความสงสัย