ปภัสสรสะบัดแขนที่ถูกเจ๊บาสจับไว้แน่น ก่อนจะกรุยกรายขึ้นไปบนเวที กระชากร่างของสาวม่อนจากด้านหลัง
“คิดดีแล้วหรือที่แย่งผัวคนอื่นเขา ทำงานในบ้านอยู่ดี ๆ แอบประเคนนายถึงบนที่นอนเพื่อเลื่อนตำแหน่งเป็นนายหญิง อีเด็กเปรต” คำปรามาสสาดเสียออกมาจากริมฝีปากของนางเอกยอดนิยม
ทุกคนในงานถึงกับส่งเสียงอื้ออึง แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
มือที่ถนัดของปภัสสรถูกง้างขึ้นเพื่อจะหมายทำร้ายม่อน ปฐพีคว้าหมับตรงข้อแขนของเธอไว้แน่น ก่อนจะบีบให้เธอได้เจ็บ
“ปภัสสร...” เขาเรียกชื่อเธอ สายตาที่ส่งออกมาไม่เหลือเยื่อใย
“ทำไมคะ... ทำไมพี่ดินทำกับปลาอย่างนี้” เธอมองหน้าคนรักหนุ่มอย่างตัดพ้อ น้ำตาเริ่มริน ม่อนเดินหลบไปอยู่ด้านหลังของนาย
“ถามตัวเองดีกว่าไหม” เขาถามออกมาเสียงลอดไรฟัน จ้องมองเธอกลับเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อ ภูผาที่ยืนนิ่งมาตลอดเริ่มขยับตัว แต่เปรี้ยวรีบกระชากเอาไว้ แล้วคล้องแขนพร้อมกับมองหน้าพี่ชายเหมือนห้ามปราม
“กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง” คำพูดเปรียบเปรยที่เขาจงใจพูดใส่หน้าของเธอ ไมค์ที่วางเอาไว้ตรงกลางเวที ทำให้ทุกคนในงานต่างเงียบ และนิ่งฟัง
“คะ? ปลาผิดอะไร” เธอถามออกมาด้วยความที่ไม่รู้ตัว หรือคิดว่าเขาไม่รู้กันแน่
ไฟสว่างดับ...พรึบ...ลงไปอีกครั้ง
จอภาพขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางงานฉายภาพเคลื่อนไหวอยู่บนนั้น แต่ได้เบลอหน้าตาของชายหญิงทั้งคู่เอาไว้
ปภัสสรหันหน้าไปดูแทบทันที ใครมองก็ต้องรู้ว่าผู้หญิงที่กำลังกอดจูบกับผู้ชายบนจอภาพใหญ่ ๆ นั้นก็คือ เธอเอง
“ไม่จริง...” เธอหันมาตะโกนใส่หน้าของปฐพีเสียงดัง ตัวสั่นไหว หน้าตาแดงก่ำ และเริ่มซีดเผือด ความละอายปรากฏในสายตาที่ส่งออกมา แต่ทิฐิความอยากเอาชนะนายดินและเด็กม่อนมีมากกว่า
“มีอะไรจะแก้ตัว” เขาพูดตอบโต้กลับไปทันที
คลิปวิดีโอฉายรูปนั้นซ้ำไปซ้ำมา ภูผาถึงกับหน้าถอดสี เขาหมุนตัวกลับออกไปจากงานด้วยความรวดเร็ว
“พี่ดอย...” เปรี้ยวรีบวิ่งตาม เธอแค่คิดว่าดอยรักปภัสสรเฉย ๆ แต่ไม่คิดว่าทั้งสองจะมีอะไรกันเกินเลยขนาดนี้ ภาพทั้งสองที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่ในห้องโถงบ้านปฐพี และเดินหายเข้าไปในห้องนอนของดอยในลักษณะที่เขาอุ้มเธอไว้ และดูออกว่ากำลังนัวเนียกันขนาดไหน
“พี่ดอย...” เปรี้ยวเรียกชื่อเขา ก่อนที่จะกระโจนขึ้นไปในรถของภูผา เขากระชากรถออกไปอย่างรวดเร็ว
“คลิปนี้มันเกิดขึ้นในบ้านของผม ไม่ต้องอยากรู้ว่ากับใคร ในบ้านของผม...”
เขาพูดประโยคนี้ซ้ำ ๆ ม่อนกระชับบีบมือของนายเพื่อปลอบใจ เสียงฮือฮาจากผู้คนในงานดังขึ้นมาอีกครั้งกับข้อมูลใหม่ที่ได้รับ
ปภัสสรถึงกับหน้าถอดสี
“พี่ดินคะ ถ้าไม่รักปลาแล้ว ก็อย่าใส่ร้ายกันแบบนี้” เธอยกมือขึ้นปิดหน้าร้องไห้ฟูมฟาย
“ตัดต่อค่ะ ภาพตัดต่อค่ะ” เจ๊บาสห่วงเพื่อนรุ่นน้องรีบเข้ามาประคองปภัสสรที่ตอนนี้ยืนแทบไม่อยู่เหมือนจะทรุดตัวลงไป รีบตะโกนออกไปด้วยเสียงอันดังให้ทุกคนในงานเข้าใจว่าเป็นภาพตัดต่อ เพื่อนร่วมวงรีบเข้ามาประคอง ทั้งหมดมองหน้าสองหนุ่มสาวเจ้าบ้านเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
“อย่าให้พี่ต้องพูดอะไรที่มันจะทำลายเกียรติของปลามากไปกว่านี้เลย ให้มันจบเพียงแค่นี้เถอะ พี่ขอโทษแล้วกันที่ทำไม่ดีกับเธอ แล้วอาจจะไม่ได้ดังใจของเธอ เราจบกันแล้ว” เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ความรู้สึกของเขาตอนนี้คือสะอิดสะเอียนผู้หญิงสวยแต่รูปคนนี้เต็มทน
“พาเพื่อนคุณกลับไปเถอะ เด็ก ๆ ส่งแขก” เขาหันไปออกคำสั่ง มีชายฉกรรจ์หนุ่มหลายคนออกมาจากทุกมุม
“เชอะ... Don’t care ค่ะคุณน้อง” เจ๊บาสก็พลอยเสียหน้าเสียความรู้สึกไปด้วย ปภัสสรแทบสิ้นสติ แรงจะกรี๊ดแทบไม่มี ได้แต่มองสบสายตาเย็นชาของเขา ไม่คิดว่าสายตานั้นทำให้รวดร้าวได้ขนาดนี้
บรรดาเพื่อนสาวประเภทสองต่างหิ้วปีกปภัสสรออกไป เธอได้แต่ร้องไห้อย่างไม่แคร์สายตาใคร ที่เจ็บสุด คือ การถูกนายดินหักหน้าเสียไม่มีชิ้นดี
“นายคะ” ม่อนเอ่ยเรียกนายเบา ๆ รู้แต่ว่ามือของนายปฐพีเย็นเฉียบ
“อืม...” เขาขานรับเธอ สาวน้อยกอดนายเพื่อให้ความอุ่นใจ เธอก็รู้สึกเสียใจไปไม่น้อยกว่านาย
“ผมต้องขอโทษทุกคนด้วยนะครับ ที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ผมเพียงอยากแค่ให้ความกระจ่างแก่ใจตนเอง ต่อไปผมไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับปภัสสรอีก และอีกอย่าง ผมรักม่อนด้วยความที่ม่อนเป็นเด็กน่ารัก และเธอเป็นคนที่รักผมด้วยความจริงใจ” เขามองหน้าทุกคนพร้อมพูดออกไปในสิ่งที่อยากพูดทั้งหมด
พิธีกรชายรีบวิ่งขึ้นมาบนเวที เพราะเรื่องดรามาก็จบลงไปแล้ว
“ขออนุญาตท่านผู้มีเกียรติทุกท่านด้วยนะครับ เดี๋ยวจะเสียฤกษ์เปล่า ๆ เชิญทุกท่านแสดงความยินดีกับคุณปฐพีและคุณลักขณาด้วยนะครับ” เสียงตบมือดังก้อง สองคนมองหน้ากันด้วยความจริงใจทั้งหมดที่มีให้แก่กัน
“ผมขอโทษทุกท่านด้วยตัวเองด้วยนะครับ” เขาหันหน้าไปยิ้มกับทุกคน เสียงเพลงที่เงียบไปเมื่อกี้กลับมาบรรเลงใหม่ และภาพในจอก็เปลี่ยนเป็นภาพของนายดินและม่อนในอิริยาบถต่าง ๆ
นายดินหยิบแหวนที่เตรียมไว้ตรงแท่นที่วางอยู่บนเวที เขาคุกเข่าลง ต่อหน้าของม่อน เธอถึงกลับทำหน้าเหลอหลา
“ม่อนแต่งงานกับนายนะ” ปฐพีถามสาวน้อย เธอน้ำตาเริ่มคลอหน่วย มองตานายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก ก่อนจะพยักหน้าให้ตอบรับคำขอแต่งงานของเขา เสียงเฮและเสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั้งงาน
ม่อนรีบคุกเข่าลงต่อหน้าเขา สวมกอดนายใหญ่ของบ้านทันที เขาดันตัวของเธอออกอย่างช้า ๆ ก่อนจะยกแหวนขึ้นมาสวมให้กับเธอ
“ขอบคุณค่ะ” เธอพูดได้แค่นั้น ก่อนที่จะพูดไม่ออก ได้แต่สะอื้นฮัก ๆ ผู้คนที่มาร่วมงานต่าง เข้ามาแสดงความยินดีด้วย ทั้งสองรีบลุกขึ้นยืน ก่อนจะก้มหัวลงขอบคุณทุกคน
“กระเป๋าของคุณปลาอยู่ไหน” เสียงเจ๊บาสแว้ดใส่ป้านา
“อ๋อคุณดินให้เก็บรวบรวมใส่กระเป๋าตั้งแต่เย็นแล้วค่ะ ไม่รู้ว่าจะกลับรถคันไหนกันหรือคะ” ป้านามองนางเอกสาวด้วยสายตาเหยียด ๆ
“ก็กลับรถของพวกฉันนะสิ” เจ๊บาสแผดเสียงดังเข้าไปอีก ทั้งสนและลุงอุ่นรีบยกกระเป๋าของแม่ปลาเน่าที่แอบไว้ออกมา รีบวิ่งเอาไปใส่ท้ายรถของสาวประเภทสองที่ติดเครื่องรออยู่
“โอ้ย... นี่มันอะไรกันเนี่ย” เจ๊บาสตะโกนใส่ป้านาอย่างขัดใจ เดินสะบัดตูดขึ้นรถไป
สภาพปภัสสรตอนนี้เหมือนลมจะจับ นอนหายใจระรวยอยู่ในรถ ร้องไห้แบบหมดสภาพ หน้าตายับเยิน
“โธ่เอ๊ย... น้องปลา” เจ๊พูดได้แค่นั้น ก่อนจะไล่ปิดฝากระโปรงรถ โดดขึ้นนั่งหน้าคู่คนขับสั่งให้คนขับรถออกรถไป