ตัวช่วย

1287 คำ
“อ้าว... ตื่นแล้วก็กลับบ้านกลับช่องสิจ๊ะ จะอยู่ให้เดือดร้อนเจ้าของบ้านเขาอีกเหรอ” ย่าพูดแบบไม่เกรงใจ เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อกี้ก็ยังดี ๆ แต่ตอนนี้ออกปากไล่เขาเสียดื้อ ๆ ก่อนจะหมุนตัวออกจากห้องไปแบบอารมณ์ขุ่นเคือง เปรี้ยวส่ายหน้าแล้วมองตามแต่ก็ยิ้มออกมาด้วยความเข้าใจ เพราะคุณย่าของเธอปากร้ายแต่ใจดีมาก ๆ ภูผานั่งตัวลีบ ๆ ยกผ้าห่มมาคลุมตัวเองที่โป๊เหลือแต่กางเกงใน สอดส่ายสายตามองไปรอบ ๆ ห้องเล็ก ๆ เท่ารูหนูของหญิงสาว “เสื้อผ้าพี่ชายละหนู” เขาเอ่ยถามเธอเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงสุภาพออกอาการเกรงใจอย่างเห็นได้ชัด “โอ๊ยตาย... ลืมไปเลย เดี๋ยวเปรี้ยวไปหยิบให้ อุตส่าห์ไปหยอดเหรียญที่เครื่องซักผ้าปากซอย ตั้งยี่สิบบาท ปั่นแห้ง กลัวว่ามันจะไม่แห้งอะดิ” เธอบอกเขาพลางพาตัวเองเดินออกไปเอาเสื้อผ้าให้เขาที่ตากพาดไว้อยู่ข้างนอกแต่ก็อยู่ในร่ม ภูผานั่งมองไปรอบ ๆ ห้องหับที่เล็กยิ่งกว่าห้องเก็บของ และห้องน้ำที่คอนโดของเขาเสียอีก แต่เด็กสาวก็เก็บข้าวของเป็นระเบียบเรียบร้อย ในห้องไม่มีตู้เสื้อผ้า มีแต่ที่นอนเล็ก ๆ ที่เขานอน และเหลือที่ให้เด็กคนนั้นนั่งห้อยขาส่องกระจก ‘เมื่อคืนเด็กที่เรียกตัวเองว่าเปรี้ยวคงนอนตรงนี้สินะ’ เขามองพื้นที่ว่างที่เหลือประมาณศอกกว่า และมีหมอนสี่เหลี่ยมใบเล็ก ๆ วางอยู่ “อ้าว... พี่ เสื้อผ้าของพี่ แห้งแล้ว ใส่ ๆ ไปก่อนค่ะ” เธอยื่นเสื้อผ้าของเขาไปตรงหน้า ชายหนุ่มรีบคว้าเอามาถือไว้ในทันที “เปรี้ยวว่า หน้าพี่คุ้น ๆ นะ เปรี้ยวเหมือนเคยเห็น เอ... ไม่รู้เคยเห็นที่ไหน” เธอยืนพิศพิเคราะห์หน้าตาของเขา ยืนจ้องไม่ยอมขยับทำท่าคิด คิดอย่างไรก็ไม่ออก “หน้าแบบพี่มันโหลนะ เออ... ว่าแต่พี่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า เราจะไม่ออกไปก่อนเหรอ” เขาพูดทำหน้าเขิน ๆ ขยับปากบอกหญิงสาวไปตรง ๆ “โธ่เอ๊ย... พี่ ของพี่นะเปรี้ยวเห็นหมดแล้ว เปรี้ยวเนี่ยเป็นคนถอดเสื้อผ้าของพี่ออกเอง ทำเป็นอายไปได้” เธอพูดแบบไม่เคอะเขินมองเป็นเรื่องปกติ แต่พอเห็นหน้าดอยที่ออกแดง ๆ เธอจึงหัวเราะร่วนคิกคัก (แรดนะนางเปรี้ยว) “โอเค ๆ เปรี้ยวไปก็ได้ พี่แต่งตัวเสร็จแล้วตามออกไปนะ เดี๋ยวเปรี้ยวจะไปส่งพี่ที่บ้านเอง กะตังค์ก็ไม่มีสักบาท จะกลับบ้านได้ยังไง” เธอว่าเขา พร้อมกับหยิบกระเป๋าสตางค์ที่เธอเก็บเอาไว้โยนไปเบา ๆ ใกล้ ๆ ที่เขานั่ง ดอยมองตามหลังเด็กสาวบอกตัวเองว่าจะขอบคุณหรือว่าจะอย่างไรดี  ‘ละลาบละล้วง ดูกระเป๋าสตางค์ มันคิดจะปล้นกันหรือเปล่าเนี่ย’ ใจก็คิดแต่ก็นุ่งเสื้อผ้าให้กับตัวเองอย่างรวดเร็ว  ------------------ “เข้าก่อนสิเปรี้ยว” ดอยเรียกเธอให้ความเป็นกันเอง เด็กสาวอ้าปากค้างตั้งแต่เห็นตัวอาคารหรู และลานจอดรถที่กว้างสุดลูกหูลูกตา เธอก้าวขาเข้าไปข้างใน แล้วทำตาโต “ฮู้... ห้องพี่ดอยหรือ กว้างมาก ๆ เปรี้ยวนึกว่าคอนโดจะมีแต่ห้องแคบ ๆ เหมือนในทีวี” เธอพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ก่อนจะวิ่งปรู๊ดไปที่หน้าต่างที่เป็นกระจกทั้งบาน เห็นไปทั่วเมืองกรุงด้วยความตื่นตา “สวยมากค่ะ แต่เริ่มขาสั่นแล้ว” เธอพูดพลางถอยหลังกรูดจนชนเข้าไปร่างของดอยที่กำลังเดินเข้ามาหา เธอสะดุดขาตัวเอง ดอยรับเธอเอาไว้ทั้งตัว “โอ๊ะ / อุ้ย” ทั้งสองอุทานขึ้นพร้อมกัน ก่อนที่จะล้มลงไปนอนกับพื้น เธอทิ้งน้ำหนักทั้งตัวลงบนตัวเขา แผ่นหลังของสาวน้อยปะทะกับหน้าอกกว้างที่มีกล้ามเนื้อสวยงามเป็นมัด ๆ “โป๊ก...” เสียงหัวของดอยกระแทกเข้ากับขอบโต๊ะรับแขกที่อยู่ใกล้ ๆ “โอ๊ย...” เขาอุทานด้วยความเจ็บ เปรี้ยวยังคงนอนนิ่งไม่กล้าเคลื่อนไหว เธอใจเต้นแรงตึก ๆ อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน รู้สึกหวั่นไหวพิกล “จะลงไปได้ยัง ฮึ... ยายเปรี้ยว” เขาพูดออกมาเพราะเธอนิ่งไม่ไหวติง “โอ้... จ๊ะจ๊ะจ๊ะ” เธอรีบหมุนตัวลงมานั่งจุมปุ๊กอยู่ข้าง ๆ เขา ดอยยกมือขึ้นลูบศีรษะที่เจ็บอยู่ รีบลุกขึ้นนั่ง ทำสีหน้าเหยเกด้วยความเจ็บ “หัวโนหรือเปล่าคะ มะ...เปรี้ยวดูให้” เธอวิสาสะแบบไม่ประสา พยุงตัวเองยกมือขึ้นจับบนหัวของนายดอยทันที สำรวจว่าเขามีบาดแผลอะไรไหม “อึ๋ย... ปูดเลยอะ โธ่... แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หายโอม...เพี้ยง...” เธอพูดงึมงำ ก่อนจะเป่าคาถาลงบนหัวนายดอยไปด้วย “โห... น้ำลายปนมาด้วยหรือเปล่าเนี่ย” เขาว่าเข้าให้ ก่อนที่ทั้งสองจะมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมาเสียงดังพร้อม ๆ กัน   ดูเหมือนสองคนจะสนิทกันเร็วมาก ดอยถามถึงความเป็นอยู่และประวัติของเด็กสาว เปรี้ยวก็เปิดเผยเหมือนรู้จักกับเขามาแสนนานแล้ว เปรี้ยวอยู่กับคุณย่าเพียงลำพัง พ่อกับแม่ของเธอเลิกกัน พ่อก็เอาแต่ทำตัวเมาหยำเป แม่ก็หายไปตั้งแต่เธอได้แค่สองขวบ ทิ้งเธอให้เป็นภาระให้กับผู้เป็นย่า ดีหน่อยที่ทั้งย่าทั้งหลานขยัน จนเปรี้ยวเรียนจบ ม. หก เลยเอาเงินที่ตัวเองสะสมมาซื้อมอเตอร์ไซค์คู่ชีพ เป็นวินรับจ้างอยู่ไม่ไกลจากสลัมนัก ดอยฟังเรื่องราวของสาวน้อย รู้สึกทึ่ง ตัวเขาเกิดมาบนกองเงินกองทอง ครอบครัวไม่เคยปล่อยให้ลำบาก ได้ไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนา ไปไกลถึงลอนดอน ตอนนี้จะว่าไปเขายังขอเงินพี่ดินใช้ไปวัน ๆ อายุก็มากกว่าเด็กสาว เขานึกไปถึงหน้าพี่ชายที่ลอยเข้ามาในหัวสมอง เสียงพี่ชายก็ยังก้องอยู่ในหัวสมองนั้น นึกถึงสิ่งที่เขาและปภัสสรได้ทำลับหลังของพี่ชาย ทั้ง ๆ ที่หญิงสาวเป็นแฟนของพี่ชาย แต่เขากับเธอกลับมีอะไรกันนับครั้งไม่ถ้วน ช่างเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะให้อภัยเลย ‘ดอย ฉันยังเป็นพี่แกอยู่นะ ไม่รู้แกยังจำได้หรือเปล่า’ ‘แกจะกลับมาที่นี่วันไหน พี่มีเรื่องจะคุยกับแกเยอะมาก’   “พี่ดอย พี่ดอย ไอ้คุณพี่ดอย” สาวน้อยตะโกนใส่หน้าของเขา ชิดใบหน้าเข้ามาเกือบชนใบหน้าหล่อของภูผา “อะไร... อะไรกันเปรี้ยว ตกใจหมด” เขาสะดุ้งทำท่าตกใจออกมาจริง ๆ “พี่ดอยเป็นคู่สนทนาที่แย่มากค่ะ นึกว่าจะตั้งใจฟังเปรี้ยวพูด ไม่เอาแล้ว เปรี้ยวกลับบ้านไปทำงานต่อดีกว่า” เธอบอกเขาก่อนจะทำหน้าย่นเข้าใส่ แล้วกระชับกระเป๋าทำท่าจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ ใบหน้าวงรีรูปไข่ที่ลอยเด่นขาวใสไร้เครื่องสำอางปกปิด จัดว่าอยู่ในกลุ่มคนสวยหน้าตาดี กำลังทำสีหน้างอน ๆ ทำให้เขายิ้มกว้างออกมาได้ “เดี๋ยว ๆ เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งรีบกลับ อยู่กินข้าวเป็นเพื่อนพี่ก่อน นะ นะ นะ อีกอย่างวันนี้เราว่างไหม ไปเป็นเพื่อนพี่เดินเที่ยวชอปปิงหน่อยนะครับ” เขาเอ่ยชักชวนทำท่าทีออดอ้อน 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม