เจอกันวันแรก

1232 คำ
เรื่องราวของสาวเปรี้ยว เมื่อรักครั้งแรด เริ่มตอนที่ เปรี้ยว ลุลิตา เปี่ยมคุณ อายุยี่สิบปี หลังจากจบ ม. หก เธอก็ไม่ได้เรียนต่อ เพราะฐานะทางบ้านที่ไม่ค่อยจะมีกิน เธออยู่กับคุณย่าแค่สองคน (ทองสุข เปี่ยมคุณ) เธอเสียคุณพ่อตอนเธอเรียนจบ ม. หกได้ไม่นาน เพราะเมามายจนถูกรถชนเสียชีวิต คุณแม่หายสาบสูญไปนานแล้วตั้งแต่เปรี้ยวยังเด็ก ก็ได้ย่าทองสุขที่รักเธอปานดวงตาดวงใจ แต่จะเอาอะไรกับหญิงชราที่ไร้การศึกษา เปรี้ยวทำงานเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งจึงมาขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างได้วินหน้าปากซอยของชุมชนไม่เล็กที่เธออยู่ ชีวิตที่ทำงานไปวัน ๆ ให้พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ก็คนมันเกิดมาพร้อมกับความลำบากเธอก็ยอมรับสภาพ และกำลังดิ้นรนเพื่อปากท้อง ส่วนเพื่อน ๆ นะหรือ ตอนนี้ทุกคนก็คงไปตามทางของตัวเอง   “คุณ...คุณ...คุณ...เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ” เด็กสาวขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างเห็นชายหนุ่มหน้าตาดี นั่งเมาหมดสภาพ ตากฝนอยู่ใกล้ ๆ กับตู้โทรศัพท์สาธารณะที่ไม่ห่างจากคอนโดหรูหรามีระดับไม่มากนัก “เฮ้ย... หน้าคุ้น ๆ ว่ะ เหมือนเคยเห็นในทีวี” เธอยกมือขึ้นเชยคางเขาขึ้นมาดู มองจากสภาพไม่น่าจะเป็นคนเร่ร่อน “หรือว่าจะโดนอีตัวแถวนี้ตบทรัพย์วะ” คิดไปคิดมาก็พานนึกว่า ผู้ชายคนนี้คงโดนผู้หญิงอย่างว่าพามาตกทรัพย์แน่ ๆ คุณช็อกการีในคราบผู้หญิงไฮโซก็เยอะไป เธอรีบพยุงร่างใหญ่หนาของเขาขึ้น ก่อนจะพาตัวเองและเขาขึ้นรถจักรยานของเธอที่จอดอยู่ริมฟุตบาทอย่างลำบาก ภูผาได้สติ แต่ก็ยังเบลอ ๆ เหมือนเห็นเป็นภาพซ้อน เพราะเขาเมาหนัก เขาพยายามทำตัวเองให้เบาที่สุด แต่เธอก็พาเขาไปแบบถูลู่ถูกัง พาร่างใหญ่ยักษ์ของเขาซ้อนมอเตอร์ไซค์เธอกลับเข้าไปที่บ้านของเธอ   “อีเปรี้ยว มึงนี่ประจำเลยนะ หมาแมวเก็บมาได้ไม่เว้นแต่ละวัน แม่เอ๊ย... วันนี้มึงเล่นของใหญ่เลยนะ เก็บผู้ชายเข้าบ้านเลยนะมึง” คุณย่าของเธอแหกปากเสียงดังลั่นไปทั้งซอย “โอ๊ย... ย่าจ๋า ย่าก็ เบา ๆ สิ ตะโกนแบบนี้ชาวบ้านชาวช่องเขาก็รู้กันหมดหรอก เขาโดนตกทรัพย์มาเนี่ย ฉันดูในกระเป๋าสตางค์เขาแล้วไม่มีกระตังค์เลยสักบาท มีแต่บัตรอะไรไม่รู้เต็มไปหมด ขืนฉันปล่อยเขาเอาไว้ตรงนั้น ตากฝนทั้งคืน เขาพานจะตายเอาได้นะย่าจ๋า” ปากเธอก็ต่อล้อต่อขานกับผู้เป็นย่า พาร่างใหญ่ ๆ ของเขาเข้าไปในห้องนอนเล็ก ๆ ของเธออย่างทุลักทุเล ก่อนจะช่วยถึงทึ้งเสื้อผ้านอกของเขาที่เปียกโชกออก “กูละเหนื่อยใจกับมึงจริง ๆ แล้ววันนี้มึงไม่ไปวิ่งรถต่อแล้วรึ” ผู้เป็นย่ายังบ่นกระปอดกระแปด ถือทัพพีที่กำลังคนแกง เดินเข้ามาเท้าสะเอวตามาถามเธอถึงในห้องหับ “ย่าจ๋า ฝนเทยังกับฟ้ารั่ว จะให้ไปวิ่งอีกหรือ เปรี้ยวเป็นไข้ขึ้นมาไม่คุ้มเอานะสิ อ้าว ๆ... นี่เงินเป็นกะตักเลย วันนี้ฉันไปทำงานพิเศษ ฉันไปตัดหญ้าบ้านคุณตาอาชาเขาให้มาตั้งห้าร้อย วิ่งมอเตอร์ไซค์วันนี้ฟลุก ๆ ได้อีกสามร้อย อ้าว...ย่า แปดร้อย ฉันเอาให้ย่าหมดเลย เอ่อ... แต่ขอค่าเติมน้ำมันพรุ่งนี้ห้าสิบบาทนะย่า” เธอยื่นเงินส่งให้ก่อนจะชักกลับห้าสิบบาท แล้วเข้าไปกอดและหอมแก้มเหี่ยวของย่าแบบเอาอกเอาใจ “เออ... ต้องให้มันได้อย่างนี้สิ เปรี้ยวหลานรักของย่า เฮ้อ... เอ็งเก่งจริง ๆ บุญพาวาสนาเกื้อหนุนที่เอ็งกตัญญู เอ็งโปรดสัตว์ ให้เอ็งร่ำรวย ๆ หาเงินคล่อง ๆ นะเจ้าประคุณ” คุณย่ายกมือขึ้นลูบหัวของหลานสาวด้วยความรักที่เปี่ยมล้น สีหน้าของย่าเปลี่ยนเป็นหน้ามือเป็นหลัง ยิ้มพราวออกมาเต็มใบหน้า ยกเงินที่หลานส่งให้หอมฟอด ๆ หมุนตัวกลับไปทำอาหารต่อ นั่นก็อาชีพของย่าที่ทำอาหารใส่ถุงหิ้วขายตามซอยในหมู่บ้านนี่แหละ เปรี้ยวมองตามหลังผู้เป็นย่ายิ้มให้ด้วยความรัก ก็มีกันอยู่สองคนย่าหลาน เธอรักและเทิดทูนย่าสุดหัวใจ หญิงสาวทรุดนั่งลงอย่างหมดแรง แหงนหน้าขึ้นมองเพดานบ้านที่ทำท่าจะพังพาบลงมา “สงสัยมันรั่วแน่ ๆ ไว้ฝนแล้งค่อยให้ไอ้ต้นขึ้นไปดูดีกว่า เธอพึมพำอยู่คนเดียว นึกไปถึงเด็กรุ่นน้องข้าง ๆ บ้าน ที่พอได้เรียกใช้เวลาที่เธอต้องการความช่วยเหลือ ภูผาพยายามจะลุกขึ้นนั่ง เพราะได้ยินเสียงเอ็ดตะโร แต่ตอนนี้หัวสมองมันหนักอึ้งไปเสียหมด เปรี้ยวหันไปเห็นเข้าพอดี  “หา... พี่ ๆ นอนไปก่อน นอนไปก่อน ไม่ต้องเกรงใจ หายเมาแล้วค่อยกลับบ้าน” เธอผลักอกเขาที่พยายามยกตัวที่โงนเงนขึ้นนั่ง ก่อนจะทิ้งล้มลงไปบนฟูกเก่า ๆ ตามแรงผลักของเด็กสาว แล้วหลับตาลงไปหมดสติสัมปชัญญะไปในทันที      เช้าวันต่อมา ดอยตื่นขึ้นมาในสายของอีกวัน บนเนื้อตัวของเขาเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว นอกนั้นถูกถอดออกไปจนหมด เขาลุกขึ้นนั่งในมุ้งที่กางเอาไว้แบบง่าย ภูผาสะบัดหัวตัวเองแรง ๆ สองสามที ก่อนจะมุดหน้าออกมานอกมุ้ง เห็นเด็กสาวตัวบางร่างเล็ก ผิวขาว เธอกำลังหวีผม และถักเปียให้กับตัวเองอยู่หน้ากระจกบานไม่ใหญ่มากนัก เปรี้ยวได้ยินเสียงกุกกักจึงหันหน้ามาหาเขา ทั้งสองสบตากันอย่างจัง ด้วยหน้าตาที่โทรมและผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงของภูผา เธอจึงได้หัวเราะออกมาแบบร่าเริง   “สวัสดีค่ะ” เธอเอ่ยทักเขาเสียงใส รีบลุกขึ้นมาเก็บมุ้งที่ทำท่าจะม้วนไปกับนายตัวโต    “สงสัยจะไม่เคยนอนกางมุ้ง” เธอพูดไปหัวเราะไป มือก็ง่วนทำงานไป “อ้าว... ตื่นแล้วรึพ่อหนุ่ม” ย่าเดินเข้ามาในห้องที่ไม่มีประตูกั้น แหวกผ้าม่านเข้ามาถามภูผาถึงในห้อง “นอนสบายดีไหม” นางถามด้วยความเป็นมิตร “โธ่ย่า... พี่เขาก็นอนสบายนะสิ แต่ดูหนูนี่ ยุงกัดทั้งคืน” เธอบ่นกระปอดกระแปด ยกแขนที่โดนยุงกัดจนแดงอยู่หลายตุ่มให้ผู้เป็นย่าดู “อ้าว... ใครบอกให้เอ็งไม่ไปนอนกับย่าเองละ มานอนตากยุงอยู่ทำไม ฮึ...” ย่าพูดเสียงขึ้นจมูกจ้องหน้าหลานสาวพลางพยักหน้าไปด้วย “โอย... ไม่ไหวหรอก ย่าทั้งกรนเสียงดัง เผลอเป็นไม่ได้ทั้งถีบทั้งเตะ ครั้งก่อนย่ายังถีบหนูตกเตียงโครมเบ้อเร่อ หลาบเลย ฉันจำไม่ลืม หัวโนปูดไปหลายวัน” เธอต่อปากต่อคำย่ากลับไปทันที ย่าเริ่มมีอารมณ์เพราะหลานสาวยียวนตั้งแต่เช้า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม