ตอนที่ 3 เลขาโดนลวนลาม

1677 คำ
ร่างสูงเดินเข้ามาในลิฟต์สำหรับลูกค้าVIP เเต่สายตายังคงจับจ้องไปที่ร่างบางของเลขาคนสนิท เขากำลังคิด เเละคิดมันอย่างหนักว่าเลขาเขาต้องการอะไรจากเขากันเเน่ ตึ้ง ลิฟต์มาหยุดอยู่ชั้นที่ 24 ซึ้งเป็นเพนต์เฮาส์ของเขาเอง พอหวนคิดไปถึงเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นเขาเองก็รู้สึกผิดขึ้นมาอยู่ไม่น้อย พรนับพันโดนด่าเพราะเขาเป็นต้นเหตุที่ดึงผู้หญิงอีกคนมาเป็นผู้ช่วย จนคนอื่นเข้าใจผิดว่าเธอเป็นเลขาของเขา พลอยทำให้คนที่อยู่ในตำเเหน่งจริงๆ โดนด่าไปด้วย เเต่คิดไปคิดมาเลขาเขาก็ใช่ย้อย ไม่ควรเป็นห่วงเธอหรอกเขาควรเป็นห่วงตัวเองมากกว่า ------------------------------ "น้องพราวคะ วันนี้ท่านประธานดูเครียดๆนะคะ"ฉันเงยหน้าออกจากกองเอกสาร จึงหันไปมองคนที่ทำงานอยู่ในห้องกระจก ใบหน้าหล่อเหลาดูเรียบตึงเหมือนอารมณ์ไม่ดีมาจริงๆ "สงสัยทางนั้นส่งงานมาให้เเก้อีกครั้งมั้งค่ะ"ฉันหมายถึงงานออกเเบบสวนของรัฐมนตรีท่านหนึ่งซึ้งเรื่องมากเป็นพิเศษทางบริษัทส่งเเปลนงานเเละรูปเเบบงานไปให้ดูมากกว่าสิบครั้ง เเต่ก็ยังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ บริษัท คาร์ติ สตูดิโอ เป็นบริษัทออกเเบบชื่อดังของประเทศไทย ผู้บริหารเเละคนที่ก่อตั้งขึ้นมาคือคุณ สิเชษฐา นิโคลอัล หนุ่มลูกครึึ่ง ไทย-อเมริกัน เขาสร้างบริษัทนี้ตอนอายุ 25 หลังจากเรียนจน ปริญญาโทจากฝรั่งเศส เขาเรียนสถาปัตย์โดยตรงเกียรตินิยมอันดับหนึ่งอีกด้วย ที่จริงเเล้วบริษัทเราไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมาย ถ้าเปรียบเเทบกับบริษัททางครอบครัวหลักๆของเขาเเล้ว เเต่ทุกวันนี้บริษัทออกเเบบที่ดังที่สุดในบรรดานักธุรกิจอายุน้อยก็เป็น คาร์ติ สตูดิโอ เจ้าของทั้ง เก่ง ทั้ง หล่อ เเละส่วนมากงานออกเเบบ บ้าน อาคาร สถาที่ต่างๆ เขามักได้รับรางวัลจากผู้ใหญ่ในวงการสถาปนิกอยู่เสมอ "พราวเข้าไปดูสักหน่อยดีกว่าค่ะ"ฉันหันไปยิ้มนิดๆให้พี่ที่ร่วมงานกัน ก่อนจะขอตัวเดินออกมา ก๊อกๆ "เข้ามา" ฉันเปิดประตูเข้าไปก็เห็นคนในห้องย้ายจากโต๊ะทำงานไปวาดเเปลนออกเเบบเเทน ฉันยกยิ้มนิดๆพร้อมกับก้าวขาเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่กลางห้อง เขาเป็นคนที่ผู้หญิงหลายๆคนหมายปองอยากครอบครองเขา รวมถึงฉันด้วย เเต่เป็นฉันมันคงยากหน่อยเพราะอะไรนะหรอ เพราะฉันสร้างวีรกรรมไว้เยอะมากไง "บอสคะ นมอุ่นๆค่ะ"ฉันยื่นถาดออกไปข้างหน้า เเต่สายตายังคงลอบมองใบหน้าชวนฝันของบอส เขาเป็นผู้ชายที่ดูดีมาก "ถ้าคุณไม่ร้าย คุณจะเป็นเลขาคนหนึ่งที่เฟอร์เฟ็กมากเลยคุณพรนับพัน"ฉันยิ้มเยาะ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมหยิบเเก้วออกไปฉันจึงเอาไปวางไว้ที่โต๊ะทำงานเขาเเทน "ผู้หญิงที่มีนิสัยเเรงๆ พูดตรงๆเเบบฉันออกจะจริงใจนะคะ"ฉันพูดออกไปสายตาก็ยังคงจับจ้องไปยังโครงหน้าฟ้าประทานของบอสฉัน "ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบผู้หญิงร้ายๆหรอก"ฉันกระตุกยิ้มมุมปาก ทำไมผู้ชายถึงมองไม่ออกนะว่าผู้หญิงที่ทำตัวใสๆวันๆคิดอะไรอยู่ มันไม่ใช่ทุกคนหรอกค่ะ เเต่ส่วนมากที่เข้ามาหาบอสฉันมีเเค่สองเรื่องเท่านั้น หน้าตา กับ ฐานะ ของบอสล้วนๆ ใช่ ฉันด้วยเเหละ เเต่ฉันหวังดีกับเขานะฉันนะอยากใช้ชีวิตร่วมกับเขาจริงๆ เเต่ทำไงได้ก็บอสฉันไม่ชอบฉันเลยสักนิด "วันนี้คุณเข้าไปคุยกับคุณอันนพให้ผมที ผมมีนัดกับท่านรับมนตรีช่วงค่ำ งานสำคัญมันเลื่อนไม่ได้"จู่ๆ เขาก็หมุนตัวหันมามองทางฉัน ฉันจึงตกปากรับคำไป ถึงเเม้ว่าฉันจะไม่ค่อยชอบคุณอันนพเท่าไหร่ก็ตาม พอถึงเวลานัดฉันจึงมายืนอยู่หน้าห้องอาหารของโรงเเรมชื่อดัง ฉันทำใจอยู่นานมือก็ถือเเฟ้มเอกสารกำมันไว้เเน่น ฉันพยายามพูดปลอบใจตัวเองตลอดเวลาที่เดินทางมาจากบริษัทเพื่อมาเจอเ*******ูที่ชื่อว่าอันนพ "อ้าวคุณเลขา"ฉันเงยหน้าหันไปมองตามเสียงที่คุ้นเคย พอเห็นคนที่เอ่ยทักตัวเองเท่านั้นฉันก็เหมือนคนโดนฟ้าผ่าลงกลางอก นี้มันท่านรัฐมนตรีหนิ ไม่ได้ไปคุยงานกับบอสหรอกหรือ? "ค่ะท่าน ท่านมาทานอาหารที่นี้เหมือนกันหรอคะ?"ฉันพยายามคุมเสียงตัวเองไม่ให้มันสั่น เเค่คิดว่าเขาโกหกใจฉันมันก็เหมือนมีคนมาสุมกองไฟใส่ "อืม ผมมากับภรรยานะ คุณก็มาคุยงานสินะเเล้วคุณสิเชษฐาล่ะไม่ได้มาด้วยกันหรอ?"ฉันนิ่งอึ้งไปสักพัก สมองเริ่มประมวลผลตามคำพูดของคนตรงหน้า นั้นสิเเล้วเขาไปไหน หรือว่า...เดต? "อ๋อ ไม่ค่ะพอดีว่าท่านประธานไม่ว่างเลยให้ฉันมาเสนอเเปลนงานให้ลูกค้าดูก่อน เชิญท่านรับมนตรีเลยค่ะ ดิฉันขอตัวไปคุยงานก่อน"ฉันผายมือให้ท่านรัญมนตรีพ่วงด้วยตำเเหน่งลูกค้าVIPของบริษัทด้วยท่าทางนอบน้อม พรึ่บ! ฉันรีบเงยหน้ามองมือหยาบที่คว้าหมับเข้าที่เเขนฉันด้วยความตกใจ พอตั้งสติได้จึงพยายามดึงออกเเต่มันก็ไม่เป็นผล "เป็นเลขาคงเหนื่อยน่าดูสินะหนูพริ้งพราว ผมมีงานอื่นมานำเสนอให้คุณนะ งานง่ายๆสบายๆ เเต่ได้เงินเยอะ ลองทบทวนดูหน่อยไหม"ฉันจุกอยู่ที่อกมันพูดอะไรไม่ออกกับสายตากระลิ่มกระเลียของคนตรงหน้า เมื่อกี้ยังบอกว่ามากับภรรยาไม่ใช่เรอะ? "เอ่อ ดิฉันขอตัวนะคะ"ฉันใช้เเรงทั้งหมดที่มีดึงเเขนตัวเองออกจากการจับกุม พอหลุดพ้นมาได้ฉันจึงรีบเปิดประตูเข้าไปในห้องอาหารทันที "สวัสดีครับคุณพราว วันนี้คุณเเต่งตัวถูกใจผมมากเลย"เสียงทักทายดังกึกก้องไปทั่วห้องอาหาร พร้มกับบริกรถยอยพากันเดินออกไปจากห้อง ซึ้งฉันก็มองตามไปอย่างงงๆ "ฉันหนีอะไรมาเจอกับอะไรเนี่ย!"ฉันได้เเต่ก้มหน้าพูดกับตัวเอง ไม่อยากหันไปมองคนที่เอาเเต่จ้องมายังฉันอย่างเปิดเผยเลยสักนิด เคร้ง! เสียงเเก้วกระทบกันดังไปทั่วห้องกระจก มือเรียวเเกร่งจับเเก้วเหล้าในมือไว้เเน่น ทั้งที่เขาควรมีความสุขสิ วันนี้เขาได้มาเดตกับผู้หญิงในสเป็คเธอเอาอกเอาใจเขาทุกอย่าง เเต่ทำไมเขาไม่รู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปด้วยเลยสักนิด "ฟางกินเหล้าไม่เก่ง เเต่ชงให้พี่คาร์ตินได้นะคะ"ผู้หญิงหน้าตาสะสวยเเถมเป็นลูกครึ่งเอ่ยออกมาเบาๆ หน้าตาจิ้มลิ้มปากเล็กๆอมชมพูมันชั่งดึงดูดบรุษเพศอย่างเขาได้เป็นอย่างดี ใช่มันควรเป็นเช่นนั้น เเต่ทำไมเขาถึงมีความรู้สึกกังวลเเบบนี้ "ขอโทษนะครับที่พามาเดตสถานที่เเบบนี้"เขาหันไปกระตุกยิ้มนิดๆให้คนข้างๆ ซึ้งเธอก็เผยยิ้มหวานตอบกลับมา ศรีษะเล็กๆเอนมาซบไหล่กว้างเหมือนกับอย่างบอกเขาว่าเธอไม่ไหวเเล้ว ถึงเเม้เธอพึ่งจะจิบไปเเค่นิดเดียวยังไม่ถึงครึ่งเเก้วด้วยซ้ำ เเต่ถ้าลองเป็นยัยเลขาผมสิ เหล้ามาทั้งร้านจะเมารึป่าวก็ไม่รู้ เเต่เดี๋ยวนะผมจะพูดไปถึงยัยนั้นทำไมก่อน? "คิดยังไงถึงนัดเดตกับฟางวันนี้คะ"เสียงหวานเอ่ยถามขึ้น ผมก้มหน้ามองนิ้วมือเล็กซึ้งกำลังลากวนไปวนมาบนหน้าท้องเเกร่งของผม "วันนี้ผมพึ่งว่าง เเละเราก็คบกันมาเป็นเดือนเเล้วไม่ใช่หรอ ผมเลยอยากพาคุณมาเที่ยวบ้าง"ใช่ครับ ผมเเอบคบกับฟางได้เป็นเดือนเเล้วซึ้งยัยเลขาผมไม่มีทางรู้เรื่องนี้หรอก เลขาผมฉลาดเเละเเน่นอนผมต้องฉลาดกว่า "อ้าว เมากันเเล้วหรอ?"ผมเงยหน้ามองบุคคลที่เข้ามาร่วมวงคนใหม่ ไม่ใช่ใครหรอกครับเพื่อนสนิทผมเอง ซึ้งสายตาที่มองมาของมันเปี่ยมไปด้วยคำถามจริงๆ "ร้านนี้จะไม่พังใช่ไหม?" ผมรู้ว่ามันหมายถึงอะไร ผมเลยส่ายหน้าไปมา นี้จะเป็นเดตที่ประสบผลสำเร็จของผลเเน่นอน ป่านนี้ยัยเลขาผมคงกำลังคุยงานกับลูกค้าอยู่ เธอตามเเผนของผมไม่ทันหรอก "สวัสดีครับผมเฟย"คนในอ้อมเเขนผมพยักหน้าให้เบาๆ ซึ้งเพื่อนผมก็ส่ายหน้าไปมานิดๆ ผมอ่านปากมันออกนะว่ามันพูดว่าอะไร 'คืนนี้พักที่ไหน' ติ้ง! มันหยิบโทรศัพท์มันออกมาดูสงสัยมีข้อความเข้า เเต่พอมันเปิดดูโทรศัพท์มันก็เงยหน้ามองผมสลับหน้าจอโทรศัพท์มันอยู่อย่างนั้น จนผมขมวดคิ้วสงสัย เหมือนมันมีอะไรอยากจะพูดเเต่มันไม่กล้าพูดออกมา "มีอะไร?"ผมตัดสินใจถามมันออกไป ยึกยักๆอยู่ได้มีอะไรก็ไม่พูดออกมา กลัวหนอนหลุดอกจากปากมันหรือไง "ไม่มีอะไร"มันตอบผมเเต่ตายังจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ ผมขี้เกียจรอมันพูดเลยเอื้อมมือไปดึงโทรศัพท์ของมันมาดู เเต่วีดีโอที่ผมเห็นมันทำให้ผมสตั้นไปหลายวิ! ยัยเลขาตัวร้ายผมโดนลวนลาม!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม