สองขาเรียวสวยก้าวพ้นประตูห้องตัวเองมาก็ต้องล้มพับลงกับพื้นประหนึ่งคนสิ้นหวังในชีวิต มือเล็กควานหาลองเท้ามาเปลี่ยนให้ตัวเอง กระเป๋าเเบรนด์ดังถูกเขวี้ยงไปคนละทิศคนละทางอย่างไม่ใยดี สายตาเฉี่ยวคมกวาดตามองสภาพห้องที่เละเทะของตัวเองก็ต้องกุมขมับ
"หิวจัง"ร่างบอบบางพยุงตัวเองมาถึงเคาเตอร์ครัว เเต่ก็ต้องพบกับความผิดหวังเพราะในตู้เย็นไม่มีอะไรเหลือเลย
เห้อ....
ฉันถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ในสมองก็คิดเเต่เรื่องบอสอยู่อย่างนั้น ฉันเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูงมาก เวลาฉันผิดหวังจากเรื่องหนึ่งที่ฉันเคยคาดหวังไว้ว่ายังไงมันก็ไม่มีทางเกิดขึ้น เเต่พอมันเกิดขึ้นฉันเลยดาวน์มาก
คลืดด~~คลืดด~~~
ฉันเดินตามเสียงโทรศัพท์มาก่อนจะพบว่ามันปลิวไปไกลจากเเรงเขวี่ยงกระเป๋าของฉัน เมื่อเห็นว่าใครโทรมาฉันก็ต้องขมวดคิ้วเเต่นิ้วมือไม่รักดีมันดันกดรับอย่างไวยังกับใจสั่งมา
"ฮัลโหลค่ะบอส"ฉนเเอบยิ้มกับตัวเองเหมือนกัน ไม่คิดว่าบอสฉันจะโทรมาหา ก็ทำเหมือนโกรธฉันขนาดนั้น
'อ๊า~ เบาๆ สิคะมันจุกไปหมด อุ๊ย! ท่านประธานค่ะ มือพิมพ์มันไม่รักดีเผลอไปกดโทรออกเบอร์ใครก็ไม่รู้ค่ะ'
'ตัดสายไป'
ติ๊ด!
ฉันยืนถือโทรศัพท์ค้างอยู่อย่างนั้นนานนับนาทีได้ เมื่อตั้งสติได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อกี้ฉันก็อดที่จะเหยียดยิ้มออกมาไม่ได้...
วันต่อมาฉันก็มาทำงานตามปกติเเต่ด้วยอารมณ์ค้างๆเมื่อคืนวันนี้ฉันจึงมีหน้าบอกบุญไม่รับสุดๆ เเละหน้าที่ฉันก็เหมือนจะมีคนบางคนมาเเย่งไปทำเรียบร้อยเเล้ว ครั้งนี้บอสฉันถือว่าเล่นเเรงมากนะ เเต่มีหรอที่ฉันจะยอมไม่ยอมหรอกค่ะ มันเเค่ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้นเอง!
"คุณพราวคะ เเย่เเล้วค่ะ"
ฉันเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารทันที หัวคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างงุนงงท่าทีสีหน้าลำบากอกลำบากใจของรุ่นพี่ทีทำงานฉันก็พอจะเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น
เพล้ง!
ฉันเปิดประตูเข้ามาในห้องอาหารห้องหนึ่งของโรงเเรมห้าดาวก็ต้องเจอกับสภาพห้องที่เละสนิทเเบบคนเก็บกวาดยังต้องมองเเรง ส่วนสาเหตุนะหรอ
"เเกต่างหากที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง"
"เเกต่างหาก ฉันพึ่งรู้ว่าบริษัทคุณคาร์ตินที่ดูทันสมัยเเละดูดีขนาดนั้นจะมีเลขาเป็นกระหรี่!"
"เเกสิกระหรี่!!"
ฉันเผลอกำมือเข้าหากันเเน่น เพราะไม่คิดว่าเเค่เดินเข้ามาก็โดนด่าไปด้วย ส่วนคนที่โทรหาทางบริษัทยืนทำหน้านิ่งอยู่มุมหนึ่งของห้อง ฉันเเอบเห็นนะว่าเเวบหนึ่งเขาหันมามองหน้าฉันเพราะโดนหาว่าเป็นเลขาไม่มีคุณภาพหรือคุณสมบัติไม่มากพอ
"คุณเเชมเปญคะ พอก่อนค่ะ"ฉันรู้ดีว่าลูกค้าคนนี้คือใคร ฉันจึงเดินเข้าไปเพื่อคิดที่จะห้ามเเต่มีหรอคนอารมณ์พุ่งเกิดขีดจำกัดจะยอมถอยออกมาง่ายๆ
"ถอยออกไป!"ฉันหันขวับไปมองหน้ายัยผู้ช่วยทันที หน๊อย! เเกรู้จักฉันน้อยไปหรือไง ฉันเดินไปหยิบไวน์ในขวดเเก้วขึ้นมาจับก่อนจะหันไปมองทั้งสองคนที่กำลังเปลี่ยนกันตบอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน
"ไม่ได้ เขาเป็นลูกค้า"ฉันมองมือเรียวเเกร่งที่คว้าหมับเข้าที่ข้อมือฉัน ฉันเงยหน้ามองเจ้านายตัวเองนิดหน่อยก่อนจะใช้มือผลักเบาๆที่อกเขาให้ถอยห่างออกไป
"คุณเเชมเปญคะ หลบค่ะ"ได้ผล นางเเบบสาวสวยถอยออกห่างทันควัน พร้อมกับที่ฉันยกไวน์ในขวดเทราดหัวอีกคนจนหมด
"ฮ่าๆ เป็นไงสงบไฟร่านในตัวเเกได้ยัง"ฉันหันไปมองหน้านางเเบบสาวซึ้งเเสดงออกมาว่าพอใจนักพอใจหนากับสิ่งที่ฉันได้ทำลงไป
"กรี๊ด!! อีพราวมึง"
"หยุด อย่าให้ฉันโมโหฉันตบไม่เกรงใจไหมที่เธอร้อยมาเเน่!!"ได้ผล คนที่กำลังยันตัวยืนขึ้นมาอย่างทุลักทุเลต้องเป็นอันชะงัก เพราะสีหน้าเเละท่าทางของฉันไม่ได้บ่งบอกว่าล้อเล่นเลยสักนิด
"ไสหัวออกไป ผมไล่คุณออก"น้ำเสียงเย็นยะเยือกเอ่ยขึ้นมาทันทีที่สงครามสงบ ฉันยิ้มมุมปากนิดๆ เเต่คงไม่มีใครเห็นหรอกเเม้เเต่บอส
"คุณคาร์ตินคะพิมพ์ผิดไปเเล้ว พิมพ์ขอโอกาสอีกครั้งนะคะ"ฉันไม่ได้สนใจคนที่กึ่งวิ่งกึ่งเดินไปเรียกร้องหาโอกาสที่ตัวเองไม่มีทางได้มันมาจากคนอย่างบอสเเน่นอน
"ข้างนอกมีนักข่าว ฉันจะเรียกรถให้คุณค่ะ"ฉันเดินเข้าไปหานางเเบบหน้าเหวี่ยง เเต่พอได้ยินคำว่านักข่าวเธอก็มีท่าทีสงบลงเช่นกัน ถ้าให้เดานางเเบบคนนี้ต้องวางเเผนมาคุยงานกับบอสฉันเองเเน่ๆ
"อืม ไปสิ!"ฉันพยักหน้าให้ เเต่ก่อนจะไปฉันก็หันไปมองคนที่ยืนจิบไวน์อยู่ริมกระจก ท่าทางเยือกเย็นเเบบนี้ฉันขอไว้อาลัยยัยนั้นไว้ก่อนเลย หึ!
"เดี๋ยวค่ะ ถ้าให้ฉันเดาคุณคงทำการนัดท่านประธานมาด้วยตัวเอง เพราะว่าวันนี้ท่านประธานฉันไม่มีนัดกับพ่อคุณ เเละนัดเก่ายังอยู่เเสดงว่าไม่ได้เลื่อนการนัดคุยเข้ามา ฉันขอเตือนคุณนะคะ ทำเป็นว่าวันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เเล้วพ่อคุณจะไม่รู้เรื่องนี้ ขอบคุณค่ะ"ฉันปิดประตูรถทันทีที่พูดจบ ไม่ปล่อยให้อีกคนได้เเทรกเเต่ดูจากท่าทางไหล่สั่นเเบบนั้นฉันว่าฉันเดาถูกเเน่นอน พอจัดการทุกอย่างให้มาเป็นปกติได้ฉันจึงรีบโทรหาคนขับรถให้มารับท่านประธานทันที
ไม่นานรถตู้ก็วิ่งมาจอดหน้าโรงเเรมหรูฉันจึงหมุนตัวจะเดินเข้าไปข้างในเพื่อไปตามอีกคนเเต่ก็มีร่างสูงที่คุ้นตาเดินล้วงกระเป๋าออกมาซะก่อน ฉันจึงรีบเดินไปเปิดประตูให้เขาเเทน
"จัดการเเล้วใช่ไหม?"พอขึ้นมาถึงรถบอสฉันก็ถามขึ้น เห็นไหมบอสฉันขาดเลขาสวยๆอย่างฉันไม่ได้หรอก
"ค่ะ คงเป็นการปลอมเเปลงนัดขึ้นมาเอง ฉันเลยขู่โดยการจะฟ้องพ่อเธอค่ะ"ฉันพยักหน้าตอบ พอสายตาหันไปเจอไอเเพดตัวเองวางอยู่ข้างเบาะฉันก็ต้องขมวดคิ้ว ทำงานไม่ระวังเเบบนี้นี้เอง
"ขอบคุณที่คุณมานะคุณพรนับพัน"ฉันกระตุกยิ้มเบาๆ สุดท้ายก็ยอมพูดกับฉันเหมือนเดิม
"เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นไปค้างกับฉันสักคืนได้ไหมคะ?"ฉันเอี้ยวหน้าไปมองใบหน้าหล่อเหลาซึ้งมองทีไรฉันก็ใจสั่นทุกที เเต่สายตาของเขาตอนนีนะหรอ ยังกับเห็นเชื่อโรค!
เขาเป็นผู้ชายที่ฉันเเอบชอบมาตั้งเเต่สมัยเรียนที่อังกฤษ เเละเเน่นอนเขาเป็นรุ่นพี่ในมหาลัยฉันด้วยเขา เขาจบไปเเล้วประมาณสองปีตอนนั้นฉันพึ่งขึ้นปีสองมั้ง ครั้งเเรกที่เจอฉันก็รู้สึกว่าชอบ อยากจีบ เเต่พอได้รู้ว่าเขามีฐานะทางบ้านที่ไม่ธรรมดาฉันเลยถอยไป จนปีนั้นฉันอายุ 23 ปี เรียนจบมาได้หนึ่งปีเเล้วฉันยังทำงานที่อังกฤษอยู่ๆจนเเม่ฉันบอกให้กลับมาทำงานที่ประเทศไทยฉันจึงกลับมา เเละปีนั้นมันเป็นปีที่ฉันฝันร้ายที่สุด เป็นปีเเห่งการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตฉัน เเละเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ฉันได้มายืนเป็นเลขาของเขาในตอนนี้ ฉันได้มาทำงานตรงนี้เพราะเเม่ของเขานั้นเอง เเละฉันก็ไม่คิดว่าเจ้านายฉันจะเป็นคนที่ฉันเคยเเอบชอบมาก่อน
"ฉันจะทำการตรวจข้อมูลใหม่อีกที พรุ่งนี้จะเเจ้งให้ทราบค่ะ"พอรถตู้มาจอดหน้าเพนต์เฮาส์สุดหรูฉันจึงรีบเดินลงไปเปิดประตูเเล้วเอ่ยรายงานออกไปเหมือนทุกครั้ง
"คุณพราวพริ้ง"
"พริ้งพราวคะบอส"ฉันเงยหน้ามองท่านประธาน เพราะเขาเหมือนมีบางอย่างอยากจะถามฉัน
"คุณเที่ยวไปทำให้เเฟนผมมาบอกเลิกผมทำไม?"ท่าทางจริงจังบวกกับหน้าตาเรียบนิ่งของเขามันสะกดให้ฉันนิ่ง
"อืม... เพราะพวกเธอเป็นคนไม่ดีมั้งคะ"ฉันยักไหล่ตอบออกไปเเบบสบายๆ
"คุณยิ่งทำเเบบนี้นับวันผมยิ่งเกลียดคุณ คุณพรนับพัน"สายตาเย็นชาลากผ่านหน้าฉันไปพร้อมกับร่างสูงก้าวขาหมุนตัวเดินเข้าตึกไป
"ไม่ค่ะ ฉันคิดว่าวันหนึ่งคุณจะตกหลุมรักผู้หญิงร้ายๆเเบบฉัน"
เขาชะงักนิดหนึ่งเเต่ก็ไม่ได้หันกลับมาตอบอะไร เเค่เเปปเดียวเขาก็ก้าวขาเดินต่อไปโดยไม่หันมามองฉันสักนิด ฉันไม่ยอมเเพ้หรอกถ้าเขายังไม่เจอคนดีๆจริงๆ ฉันจะไม่ปล่อยเขาไป ต่อให้กลายเป็นผู้หญิงที่ร้ายสุดๆในสายตาเขาก็ตาม