บทที่1.กระต่ายน้อยหลงทาง
บทที่1.กระต่ายน้อยหลงทาง
เสียงสะอื้นดังกระซิกๆ แม้จะแผ่วเบา แต่มันกลับดังอยู่ท่ามกลางความมืดเสียงแผ่วๆ!! รามาน กลูซาคอฟ เดินผ่านมุมอับมาพอดี เขาได้ยินเสียงบางอย่างนั่นพอดี จึงหยุดเดินและตั้งใจฟัง เสียงคุ้นหู เขาจึงพยายามมองหาต้นตอของเสียง
เด็กสาววัยสิบสี่ปีกำลังร้องไห้น้ำตานองหน้า คงเพราะความหวาดกลัวเข้าจู่โจมหัวใจ เจ้าตัวสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะฝันร้าย!! ครั้นเมื่อเหลียวมองรอบตัวไม่พบใครสักคน ความกลัวจึงจู่โจมหัวใจ ความมืดเป็นตัวบีบบังคับให้หล่อนโผเผออกมาจากห้องนอน และมาซุกตัวอยู่ในพุ่มไม้ เพื่อให้ใบไม้รกทึบบดบังสายตาดุดันที่จ้องมองเธอจากในความฝัน!!
ชุดนอนขาวๆ สะท้อนแสง รามาน ก้มลงมอง ก่อนจะคลี่ยิ้มอ่อนๆ เด็กสาวคนนี้ คือน้องสาวนราบอดี้การ์ดส่วนตัวของเขา วณิชยา รวมอำไพ เด็กสาวที่มารดาขอมาอุปการะ ทั้ง นรา และวณิชยาเป็นเด็กกำพร้าทั้งคู่ มารดาของรามานติดใจหน้าหวานซึ้งของวณิชยา จนแหน็บไว้ข้างตัวตลอด เห็นรานีที่ไหน? ย่อมต้องเห็นหล่อนด้วย ส่วนเขารู้สึกเฉยๆ เมื่อหล่อนยังเด็กเสียจนไม่กล้าจะคิดเกินเลย
แม้จะถูกใจก็ต้องเก็บกดไว้ หล่อนเด็กเกินไปสำหรับหนุ่มไฟแรงอย่างเขา
คุกสิ!! จะอะไรสิบสี่ปีพรากผู้เยาว์ชัดๆ แถมมารดายังโปรดปรานหล่อน ไปแตะเข้าให้เป็นได้บ้านแตก แถมเขาอาจจะถูกจับคลุมถุงชน
ชายหนุ่มทรุดนั่งบนส้นเท้าหลังตรองอยู่ชั่วครู่ เขาเอื้อมมือแหวกพุ่มไม้ก่อนจะกระซิบถาม “เป็นอะไรไป ทำไมมาแอบร้องไห้อยู่ตรงนี้ คนเดียว?”
ดวงตากลมโตจ้องมองเงาทะมึนคุ้นตาผ่านม่านน้ำตาบางๆ พอได้สบนัยน์ตาคมดุของรามาน วณิชยารู้สึกว่าผีร้ายที่จ้องมองเธออยู่ในความมืด หายวับไปกับตา!!
“เปล่าค่ะ ชยาแค่กลัวผี” เสียงสั่นพร่ากระซิบตอบ แล้วก็รีบก้มหน้าหลบ
“ฮ่าๆ” รามานเงยหน้าหัวเราะเสียงดังก้อง จนวณิชยาช้อนสายตามอง เธอกะพริบเปลือกตาถี่ๆ หยุดร้องไห้โดยอัตโนมัติ
“โตจนหมาเลียก้นไม่ถึง ยังเชื่ออีกหรือว่าโลกนี้มีผี!!”
ชายหนุ่มพูดสลับกับหัวเราะร่า เขาเอื้อมมือฉุดข้อมือเล็กบางของเด็กสาว ออกมาจากพุ่มไม้มายืนในที่โล่ง แล้วก็ต้องเสียใจกับความคิดของตัวเอง เพราะทันทีที่แสงสว่างทาทาบร่างกายบอบบางตรงหน้า เขาต้องกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ หลายครั้งเพราะหล่อนอยู่ในชุดนอน!!
ไม่มีความเซ็กซี่!! ไม่ได้เย้ายวน แต่กลับปลุกความกำหนัดของเขาได้อย่างชะงัด
เวรแล้วไหมล่ะกู!!
รามานครางระส่ำกลิ่นแป้งกระป๋องหอมกรุ่น โชยออกมาจากร่างกายวณิชยา แถมผิวของหล่อนที่เขาแตะต้องก็นุ่มเนียนดั่งกำลังลูบไล้อยู่บนผืนผ้ากำมหยี่
ชายหนุ่มรีบปล่อยมืออย่างเร็ว เขารวบรวมสติที่แตกกระจัดกระจายกลับคืนมา…ก่อนที่จะขาดสติ หน้ามืด ‘ปล้ำ’ เด็ก
“อะแห้ม!”
รามานกระเอมเบาๆเขายกมือขึ้นเสยผมแก้เก้อ
“คุณเพิ่งกลับเหรอคะ?” เสียงสั่นๆ ร้องถาม
ชายหนุ่มหันกลับมามอง “อืม” แล้วก็ตอบเสียงแผ่วๆ ชักสายตากลับทันที เพราะแสงสว่างจากโคมไฟทาทาบผิวของวณิชยา มันเหมือนถูกชโลมด้วยผงทอง ’กูต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ มาเห็นยัยเด็กนี่สวย’ รามานคิดในใจด้วยความสับสน เขาอยากจะเดินหนี แต่ขาก็หนักจนอยากเกินกว่าจะขยับเดินได้ แต่ดันปักหลักยืนนิ่งเป็นหุ่นยนต์ และพยายามสำรวมมือของตัวเองไว้ ไม่ให้ยื่นออกไปแตะต้องเด็กสาวต้องห้าม…
“ชยาขอตัวไปนอนนะคะ” มีแต่ความเงียบโอบล้อม ถึงจะกลัวผี แต่เธอรู้ดีว่าการอยู่กับผู้ชายเสน่ห์แรงอย่างรามาน น่ากลัวมากกว่า เธอคงจะทานไม่ไหวเมื่อความหวามไหวกำลังเริ่มต้นขึ้น ในหัวใจดวงน้อยๆ
“เดี๋ยว!” อะไรไม่รู้ทำให้รามานรั้งเด็กสาวเอาไว้ “ไม่กลัวผีแล้วเหรอไง?” เขาถามต่อ จ้องหน้าหล่อนไม่วางตา พยายามไม่มองต่ำกว่าวงหน้า เขากลัวสติตัวเองจะหลุด!
หญิงสาวแหงนหน้าขึ้นมอง เธอส่งยิ้มแหยเกให้ หน้าหวานบิดเบี้ยวเพราะความกลัวยังรุมเร้า
“ฉันมีวิธี!” ไอเดียกระฉูดวิ่งพล่าน เขาอยากสัมผัสกลีบปากนุ่มนิ่มของหล่อน แบบที่ห้ามใจตัวเองไม่ได้ และคงต้องหาทางฉกฉวยเอามาครอง แม้จะรู้ว่ากำลังทำผิด
“คะ!” วณิชยายังไม่เข้าใจ เธอเอียงคอมองชายหนุ่ม พร้อมกับยิ้มกร่อยๆ
“ฉันมีวิธีทำให้เธอหายกลัวผี! รับรองได้” เสียงแผ่วปร่า กับลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ารดเหนือหน้าผากโหนกนูน ทำให้ความคิดจะแย้งของเธอหลุดลอยไปไกล
ไม่ทันได้ร้องห้าม! ไม่ทันได้คิดอะไร? ปากร้อนผ่าวก็เป่าลมพรวดๆ ลงบนหน้าผากของเธอ เขาโน้มตัวลงมาใกล้ๆ พร้อมกับกดปลายจมูกที่โค้งหน้าผากของเธอ พึมพำเสียงแผ่วๆ แต่เธอกลับจำแม่น
‘หากกลัวผีให้เธอนึกถึงฉัน ฉันจะอยู่ข้างๆ เธอ และจะปกป้องเธอเอง’
เป็นคำพูดที่วณิชยาจำไม่ลืม จำได้อย่างแม่นยำ พอๆ กับรส ‘จูบ’ ที่เขาบรรจงจูบเธอในคืนนั้น
ริมฝีปากร้อนผ่าวที่ทาบทับกลีบปากของเธอเบาๆทำให้ความหวาดกลัวหายไปจากใจ เธอหลงละเมอไปตามรสหวานละไม ตัวเบาลอยฟ่อง เหมือนนอนอยู่บนปุยเมฆเป็นเฟิร์สคิส! เป็น ‘จูบ’ แรกของเธอ กับคนที่เหมือนเป็นผู้ชายในฝันและต้องห้ามสำหรับเธอ
แม้จะผ่านมาสิบปี เธอก็ไม่เคยลืม ไม่เคยปริปากบอกความลับนี้ให้ใครรู้ เรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเธอกับเขา รามานอาจจะไม่คิดอะไรเลยก็ได้ เขาคงแค่อยากปลอบโยนเด็กสาวขี้กลัว ให้หายจากอาการหวั่นวิตก เธอหายกลัวเป็นปลิดทิ้งจริงๆ จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเดินกลับห้องตัวเองตอนไหน เธอหลงเข้าไปในวังวนเสน่หา ร่างกายล่องลอยเบาหวิวเหมือนปุยนุ่น เคลิ้มฝันจนไม่อยากลืมตาตื่น และจดจำไว้ในใจอย่างไม่มีวันลืม…มันสถิตแน่น จนยากที่จะลบเลือน
“นั่งเหม่ออีกแล้ว คิดอะไรอยู่จ้ะ”
เสียงหวานของรานีร้องถาม พร้อมกับเดินเข้ามาหาใกล้ๆ
“ปะ เปล่าค่ะ ชยาแค่คิดอะไรเพลินๆ” หญิงสาวรีบกล่าวแก้ เสหลบตาไม่ได้อยากพูดปด แต่บอกเรื่องที่กำลังคิดอยู่ในใจกับผู้มีอุปการคุณไม่ได้จริงๆ
สาวใหญ่ยิ้มกริ่ม นางเอ็นดูวณิชยาเพิ่มมากขึ้นทุกวัน เด็กสาวเติบโตใต้การดูแลของนาง ยิ่งกว่าการดูแลบุตรชายเสียอีก นางกล่อมเกลี้ยง สั่งสอนวณิชยามาด้วยสองมือ ทำไมนางจะไม่รู้ว่าเด็กสาวคิดอะไรอยู่ในใจ มันเป็นความลับที่นางกุมไว้อีกขั้น!! เรื่องบังเอิญที่นางแอบเห็น เมื่อสิบปีก่อน จนเกิดความคิดดีๆ ผุดขึ้นมาในหัวและวาดหวังถึงอนาคต
เพียงแต่ยังไม่ได้แย้มพรายให้บุตรชายหัวแข็งรู้
เพราะรามานดื้อแพ่ง!! เขาไม่ชอบถูกกะเกณฑ์หากรู้ตัวว่านางวางแผนคลุมถุงชนเขา มีหรือบุตรชายจะยอม ดังนั้นนางจึงวางเฉยและคอยจับสังเกตทีท่าของบุตรชายเหมือนรามานจะรู้ทันเขาพยายามเลี่ยงนางตลอด ไม่ค่อยอยู่ประจำที่บ้าน เหินฟ้าไปนั่นนี่ตลอด แต่นางไม่เคยท้อ สักวันบุตรชายก็จะยอมพ่าย เมื่อหัวใจของเขาถูกนางกุมไว้
นางทำใจแล้วกับการทำตัวเป็นคาสโนว่าของรามานแต่จะไม่ยอมรับคู่ควงของบุตรชายแน่ๆ หากรามานจะเอาใครสักคนที่ควงอยู่มาเป็นเมียภรรยาของบุตรชายจะต้องเป็นคนที่นางเลือก เท่านั้น!!
และคนๆ นั้น นางเตรียมเอาไว้แล้ว!!
รามานเอ็นเตอร์ไพรส์ เจริญก้าวหน้าเพราะความขยันขันแข็งของบุตรชาย นางไม่ใคร่ชอบใจตรงที่ รามานมักจะเดินทางไปตามที่ต่างๆ โดยไม่ยอมให้คนอื่นทำแทน ทั้งที่ตัวเองเป็นถึง CEO ไม่จำเป็นต้องออกไปด้วยตัวเอง
นางรู้ว่ารามานกำลังหนีใคร?
อีกไม่นานหรอก นางจะได้บุตรชายกลับมาอยู่ข้างตัว
“เรียนจบแล้วคิดไว้หรือยังจ้ะชยา ว่าจะทำงานอะไรดี?” นางถามไปอย่างนั้นเอง ตำแหน่งที่เหมาะสุดสำหรับวณิชยาคือ ภรรยาบุตรชายของนางให้กำเนิดทายาท กลูซาคอฟ ! มีหลานให้นางอุ้มชูหลายๆ คน
“ยังไม่รู้เลยค่ะคุณท่าน ชยาว่าจะลองถามพี่นราดู” หญิงสาวคลี่ยิ้มแหยๆ ไม่เคยต้องคิดหรือตัดสินใจเอง มีทั้งพี่ชายและรานีคอยจัดการให้ทั้งหมด พอถึงเวลาที่ต้องคิดเอง ผู้หญิงหัวอ่อนอย่างเธอ เลยมึนตึบ!!
“ไม่ต้องลำบากไปหางานให้วุ่นวายเลยชยา เดี๋ยวฉันจะให้ตารามานหาตำแหน่งเหมาะๆ ให้เอง”