“เอ่อ… คุณรู้จักชื่อผมด้วย แล้วผม… เอ่อ… ผมไปทำอะไรให้คุณเจ็บแค้น… บอกผมที… ”
กันย์ยอมรับว่ารู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ…
แต่ต้องพยายามทำใจดีสู้เสือ ยิ่งในมุมที่ตัวเองกำลังนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น เงยหน้ามองพ่อเลี้ยงเดชยืนจังก้าเต็มความสูงใหญ่
ยิ่งทำให้กันย์รู้สึกราวกับว่าร่างของตัวเองกำลังถูกบีบให้ลีบเล็กลงทุกที ส่วนพ่อเลี้ยงเดชนั้นดูตัวใหญ่ตระหง่านและทรงอำนาจน่าเกรงขาม อีกทั้งดวงตาคมกริบคู่นี้ยังมีประกายของสัตว์นักล่าสุดเหี้ยมโหดแผ่ออกมาให้เห็น
“มึงทำเหี้ยอะไรไว้… ตัวมึงย่อมรู้ดี”
พ่อเลี้ยงสาดน้ำเสียงใส่
“ผมคิดว่าคุณกำลังเข้าใจผิดอย่างแรง ผมขอโอกาสอธิบายได้ไหมครับ… และถ้าคุณปล่อยผมออกไปโดยไม่ทำอันตรายผม… ผมสัญญาว่าจะไม่แจ้งความเอาผิดเรื่องที่คุณลักพาตัวผมมา… ”
แม้เสียงของกันย์จะอ่อนลงด้วยความกลัว หากสุดท้ายก็ยังกล้าต่อรองกับพ่อเลี้ยงเดช หวังให้ตัวเองรอดไปจากสถานการณ์บ้าๆ นี้เสียที
“ไอ้เวร… นี่มึงยังกล้ามาต่อรองกับกู”
พ่อเลี้ยงเดชปรี่เข้ามากระชากคอเสื้อของชายหนุ่มจนร่างน้อยแทบลอยขึ้นจากพื้นพร้อมกับง้างหมัด
ทว่ายังไม่ทันได้กระแทกหน้าคนปากดี ก็มีเสียงกังวานของใครบางคนดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“เดช… อย่าถึงกับต้องลงไม้ลงมือ ปู่บอกแกแล้วใช่ไหมว่าให้เลิกจองเวร… ให้ลืมเรื่องนี้ไปซะ… ”
เสียงของชายชราวัยเจ็ดสิบปีที่ร้องห้ามพร้อมกับเดินเข้ามายืนหน้าประตูห้อง ทำให้หมัดของพ่อเลี้ยงที่ง้างพร้อมจ้วง… ต้องชะงัก
“แล้วปู่คิดว่าไอ้ผู้ชายคนนี้ไม่สมควรได้รับกรรมยังงั้นหรือ… ”
เดชหันมามองหน้าผู้เป็นปู่…
ชายวัยเจ็ดสิบปี… จ้องมองหน้ากันย์อย่างพินิจพิจารณา เคาะปลายไม้เท้ากับพื้นเป็นจังหวะ แต่ก็ไม่เห็นลักษณะของความชั่วร้าย
“ใจเย็นน่ะ… อันที่จริงเรื่องมันก็ผ่านมาปีกว่าแล้ว… ตื้นลึกหนาบางเท็จจริงอย่างไรเราก็ยังไม่รู้โดยกระจ่าง ปู่ว่าเราค่อยๆ พูดจากันดีกว่า… ”
ปู่ ‘กำพล’ หรือที่คนในบ้านเรียกกันว่า ‘นายท่านกำพล’ กล่าวกับพ่อเลี้ยงเดชซึ่งเป็นหลาน
ด้วยไม่อยากให้หลานชายของตนมุทะลุใช้ความรุนแรงกับคนที่ถูกจับตัวมา นี่คือการกักขังหน่วงเหนี่ยวอิสรภาพ กลัวว่าเหตุการณ์จะบานปลายไปกันใหญ่
อันที่จริงปู่กำพลพอจะรู้เรื่องนี้มาบ้าง เคยรู้ว่าพ่อเลี้ยงคิดจะอุ้มกันย์เพื่อแก้แค้น แต่ไม่คิดว่าจะลงมือทำจริง
“โธ่… แล้วปู่คิดว่าการที่ผมต้องลงทุนไปซุ่มดักถึงเชียงใหม่เพื่อลากตัวมันมาถึงเชียงราย… เพราะว่าจะเอามานั่งคุยกันดีๆ ยังงั้นหรือครับ… ”
พ่อเลี้ยงเดชย้อน…
หากแต่ผู้เป็นปู่ก็ชินเสียแล้ว กับบุคลิกบุ่มบ่ามห่ามโหด ดื้อรั้นและเอาแต่ใจตัวเองของชายผู้เป็นหลานรักคนนี้
“ให้เขากินข้าวกินน้ำก่อนเถอะ… จะเอายังไงต่อเดี๋ยวค่อยว่ากัน… ”
ปู่กำพลสรุป จากนั้นหันไปหาไอ้ดำที่ยืนอยู่ข้างหลัง
“ไอ้ดำ… มึงแก้มัด หาข้าวหาน้ำมาให้ที แล้วเฝ้าเอาไว้อย่าให้คลาดสายตา… ”
ปู่กำพลกำชับ
“ครับนาย… ”
ไอ้ดำค้อมศีรษะ…
พยักหน้ารับด้วยท่าทางนอบน้อม ส่วนปู่กำพลเรียกพ่อเลี้ยงเดชให้เดินออกมาคุยกันข้างนอกอยู่ครู่สั้นๆ เป็นการส่วนตัว เหมือนตกลงอะไรกันบางอย่าง จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในบ้านหลังใหญ่
ส่วนพ่อเลี้ยงเดชก้าวยาวๆ เข้าไปในไร่ส้มอย่างอารมณ์เสีย เดินเรื่อยเปื่อยเข้าไปในสวนเพื่อลดพลังงานและความโกรธที่แล่นริ้วอยู่ในดวงตา
อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา
“นายครับ… รถพร้อมแล้วครับ”
แปดโมงเช้า เมื่อถึงเวลาตามที่นัดหมายกันไว้ ไอ้ดำเดินเข้ามาตามพ่อเลี้ยงเดช กำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ในห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่
“ไอ้กันย์ล่ะ… ”
พ่อเลี้ยงถามถึงคนที่โดนจับตัวมา
“ผมเอาตัวมันไปขึ้นรถแล้วครับ… ”
ไอ้ดำตอบแล้วเดินไปที่รถตู้สีขาวคันใหญ่ ไม่นานพ่อเลี้ยงก็ตามไปขึ้นรถ
พากันเดินทางเข้ามายังสวนกุหลาบที่อยู่ลึกเข้ามาด้านหลังไร่ส้มเนื้อที่กว้างใหญ่หลายพันไร่
ในเวลาต่อมา
กันย์ก้าวช้าๆ ลงจากรถตู้คันใหญ่โดยมีไอ้ดำจูงมือเดินนำหน้า รู้ว่าตัวเองกำลังถูกพามาที่ไหนสักแห่ง ที่มองไม่เห็นก็เพราะว่าดวงตาทั้งสองข้างมีผ้าผูกตาเอาไว้
“นั่งลง… ”
พ่อเลี้ยงเดชสั่งเสียงเหี้ยม เอาเท้าถีบน่องของกันย์จนร่างน้อยทรุดลงนั่งคุกเข่าบนลานหญ้า
“เปิดตามัน… ”
พ่อเลี้ยงเดชสั่ง ไอ้ดำรีบแก้ผ้าที่ผูกตาของกันย์เอาไว้ตั้งแต่ตอนที่พาออกมาจากห้อง
และพลันนั้นเอง…
ภาพที่เห็นทำเอาชายหนุ่มตกใจ เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังนั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าหลุมฝังศพของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่รู้ว่าเป็นผู้หญิงก็เพราะว่ามีรูปขาวดำติดอยู่ที่โคนไม้กางเขนทำขึ้นจากหินอ่อนสีขาว
“อร… คุณพระช่วย อย่าบอกนะว่าอรตายแล้ว”
กันย์ร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ…
แม้ตอนแรกที่มองรูป ยังไม่แน่ใจว่าใช่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ตัวเองเคยรู้จัก แต่ชื่อที่สลักไว้บนหินอ่อนใต้ฐานของไม้กางเขน ก็ช่วยยืนยันชัดเจน… ว่านี่คือหลุมศพของ ‘อรนรินทร์’ ผู้หญิงที่กันย์เคยรู้จัก
“อรเสียไปตั้งแต่เมื่อไรครับ… ”
กันย์หันมาถามพ่อเลี้ยงทั้งน้ำตาคลอ เสียงสั่นเครือ
“ก็ตั้งแต่วันวาเลนไทน์ปีที่แล้ว… วันที่มึงทำให้น้องสาวของกูต้องตาย… ”
พ่อเลี้ยงขบกรามตอบ เงยหน้าขึ้นมองฟ้าเพื่อข่มกลั้นหยาดน้ำตาที่ทำท่าว่ากำลังจะไหล
“อะไรนะ… คุณหมายความว่ายังไง ที่ว่าผมทำให้อรตาย… ”
กันย์ถามด้วยความสงสัย…
พ่อเลี้ยงเดชล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง เปิดคลิปเสียงสั่งเสียสั้นๆ ที่ได้มาจากโทรศัพท์ของน้องสาว
กันย์ตะลึง… จ้องมองภาพบนหน้าจอมือถือ เป็นภาพของอรนรินทร์กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตาแดง หล่อนค่อยๆ ยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาแล้วพูด