จิ้งทัวร์ขอผัว l 03.3 l พลุ

1186 คำ
จิ้งทัวร์ขอผัว l 03.3 l พลุ “จิ้ง ไปยัง?” ไอ้เปาเอ่ยขึ้นมาก่อนจะลุกพรวด ทุกคนเตรียมพร้อมที่จะออกไปข้างนอก ในขณะที่ฉันกำลังง่วนอยู่กับการสมัครวีแชท “ฮะ เออๆ” ฉันเลิ่กลั่กนิดหน่อย แล้วลุกตาม พลางกดปิดมือถือไปก่อน เอาไว้ค่อยสมัครก็ได้ เพราะถ้ากดไป เดินไป มันจะค้างๆ คาๆ ด้วยความที่ไอ้เปาเป็นคนศึกษาเส้นทางมา รอบนี้มันจึงเป็นคนนำทาง “มึงจะพากูหลงทางเหมือนไอ้นุ่นอีกปะเนี่ย?” ฉันดักทางมันก่อน แถมเปลี่ยนเป็นรองเท้าผ้าใบแบบเหมาะสำหรับการวิ่งมาด้วย ขืนฉันอยากสวยแต่ซวยในวันที่เพื่อนหลงทาง ฉันคงไม่สนุก “โห ระดับกู” ไอ้เปาหัวเราะแล้วไหวไหล่ “หลงชัวร์” ไอ้นุ่นเติมให้ “ตามมาเหอะน่า กูไม่ใช่มึง” ไอ้เปาจิ๊จ๊ะ ไม่พอใจที่เพื่อนดูถูกความสามารถ ก่อนจะเอามือเสยผมแล้วหรี่สายตาใส่พวกเรา มือข้างนึงท้าวประตูไว้ “เดินตามพี่ให้ดีๆ แล้วกันนะจ๊ะน้อง แล้วน้องจะรู้ว่า GPS กูลเกิ้ลก็ไม่สู้พี่” “กูเตรียมรองเท้าวิ่งแล้วนะ เผื่อมึงพากูหลง กูจะได้ไม่เจ็บตีน กูใส่วิ่งมาแล้วรอบสนามราชมังคลา” ฉันยกเท้าขึ้นมาให้มันดู มันจะได้รู้ว่าฉันเชื่อใจมันมากแค่ไหน “วิ่งหน้ามึงดิ ไอ้จิ้ง เชื่อใจกูหน่อยจ้า” มันยกมือขึ้นมาทำท่าจะฟาดฉัน ฉันรีบเอี้ยวตัวหลบแล้วทำหน้ากวนประสาทให้มันโมโหเล่นๆ “เก็บตีนไว้วิ่งหาผัวเถอะ” “ไม่ต้องหา เดี๋ยวเขามาเองงงง” ฉันตอบด้วยความมั่นอกมั่นใจ “จ้า จ้า” อีนุ่นกลอกตาหมั่นไส้ก่อนจะเดินนำ เพราะไม่อยากจะฟังฉันหลงตัวเองอีกต่อไป พวกเราสามคนเดินวนๆ ออกจากโรงแรมที่เหมือนห้องเช่าที่อยู่ในตึกอีกที ไม่รู้จะเรียกมันว่าอะไรดีอะนะ แต่ในขณะที่พวกเรากำลังเดินไปทางลิฟต์ อีนุ่นก็พลันหันไปเห็นห้องอะไรบางอย่างที่ทำเอามันสะดุ้งตัวโยนก่อนจะเกาะไหล่ไอ้เปาแล้วถอยกรูด “เชี่ย!” มันร้องเป็นคนแรกตามด้วยฉันที่หันไปเจอพอดี “เชี่ย!!!” ฉันถอยป่าราบอีกคน ส่วนไอ้เปาผู้หันเป็นคนสุดท้ายมันสะดุ้งนิดหน่อยแล้วทำหน้าอึ้งๆ “นี่คือเหี้ยไรวะ” มันย่นคิ้ว เมื่อเห็นห้องที่ใส่แสงไฟประหลาดๆ ออกไปทางแดงๆ ม่วงๆ ด้านในมีทางเดินเข้าไปอีก พวกเรายืนเกาะไหล่กันนิ่งๆ แล้วมองกันเลิ่กลั่ก “มึงว่ามันคือโรงแรมปะวะ” ฉันเปิดประเด็น แต่ถ้าเป็นโรงแรม ฉันว่ามันก็น่ากลัวมากกับการใส่แสงไฟสีประหลาด เห็นแล้วเหมือนชวนเข้าไปตายมากกว่าชวนเข้าไปนอน ถ้าเปิดเพลงสวดมนต์แล้วตั้งหัวกะโหลกไว้หน้าประตู คือฉันวิ่งป่าราบแล้ว ไอ้เปาค่อยๆ ย่องทำท่าเหมือนจะโผล่หัวเข้าไปดูก่อนที่จะโดนไอ้นุ่นดึง “เปา มึงอย่าเข้าไป มึงยังมีที่บ้านต้องดูแล” “นุ่น มึงโคตรเว่อร์ มันก็แค่ห้องสีม่วงๆ แดงๆ เปล่า” ไอ้เปาหันไปว่าคนข้างๆ “มันคือห้องเล่นของปะวะมึง” ฉันดึงแขนไอ้เปาไว้ แล้วตั้งสมมติฐาน ฉันเคยได้ยินบทสวดประหลาดๆ จากบ้านใกล้ๆ แล้วตั้งไฟสีแบบนี้แถมมีหัวกะโหลกแหละเทียน เปิดเสียงสวดมนต์ไว้ทั้งวัน ดูยังไงก็คุณไสย ฮ่องกงมีคุณไสยด้วยเหรอ “ที่นี่ไม่ใช่ไทยนะโว้ย” ไอ้เปาผู้ไม่เชื่ออะไรใดใดในเรื่องลี้ลับ ทำท่าจะเข้าไปดู “มันอาจจะเป็นแบบแหล่งท่องเที่ยว” “เที่ยวแบบไหนวะ สีไฟน่ากลัวมากมึง เหมือนชวนกูไปตาย” ฉันส่ายหัว “อีจิ้ง ปากโคตรเหี้ย มึงเป็นงี้ไงเลยไม่มีผัว” ไอ้นุ่นหัวมาด่าฉัน คือฉันก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร มันเอาแต่ย้ำว่าฉันสันดานเสียเลยไม่มีผัวมาหลายทีแล้ว มันต้องมีปัญหาในใจกับฉันแน่ๆ “มึง เงียบๆ ดิ๊ กูได้ยินเสียงคนเดิน” ไอ้เปายกนิ้วชี้ขึ้นมาจุ๊ปาก ก่อนที่พวกเราทั้งสามคนจะกลืนน้ำลายแล้วหันไปมองตามเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินมา ตึก ตัก ตึก ตัก ตึก ตัก พวกเราสนอกสนใจกันมาว่าคนแบบไหนพักที่นี่ ทำไมต้องจัดไฟให้ดูน่ากลัวขนาดนี้ ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่พวกเราค่อยๆ ย่อตัวลงอัตโนมัติทุกครั้งที่เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา ใจฉันเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ฉันเห็นเสี้ยวรองเท้าสีแดงมันปลาบโผล่ออกมาจากกำแพง ก่อนที่สายตาจะไล่ขึ้นไปมองเจ้าของรองเท้าสีแดงนั้น และสติฉันก็หลุดเพราะเสียงกรี๊ดไอ้นุ่น “กรี๊ดดดดดด!” “กรี๊ดดดดดด!” ฉันกรี๊ดตาม “อ๊ากกกกก” ไอ้เปาตกใจไปด้วย “**!!?!?!? (พระเจ้า!!)” คนที่เพิ่งเดินออกมาสะดุ้งโหยงจนเกือบล้มแล้วมองพวกเราด้วยสายตางงๆ ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันกรี๊ดทำไม ฉันแค่ตกใจตามไอ้นุ่น เสียงพวกเราค่อยๆ สงบลงก่อนจะดึงสติได้ว่าข้างหน้าไม่ใช่ผีสางนางไม้ “******!พวกคุณเป็นอะไรเนี่ย!” ฉันอ้าปากค้างอยู่ ก่อนจะค่อยๆ ยิ้ยแหยๆ ส่งยิ้มตอแหลไทยสไมล์ไปให้ หันไปจิกไอ้นุ่นเพราะมันทำฉันตกใจเลยกรี๊ดตาม! “ไอ้เหี้ยนุ่นมึงแหละ กรี๊ดทำไม” ฉันกระทุ้งข้อศอก พูดเสียงลอดไรฟัน “กูตกใจ” ไอ้นุ่นยกมือกุมอกแล้วฉีกยิ้ม “Sorry We are foreigner. We can’t understand Chinese. (ขอโทษ เราเป็นต่างชาติ เราฟังภาษาจีนไม่เข้าใจ)” ไอ้เปาผู้ตั้งสติได้ไวที่สุดก่อนจะก้มโค้งขอโทษที่ทำให้คนที่เพิ่งออกมาตกใจ “Okay, Fine…(โอเค...)” ผู้หญิงที่เพิ่งออกมาพยักหน้าแล้วตอบกลับด้วยภาษาอังกฤษที่ค่อนข้างดี เธอใส่เดรสสีดำ หน้าตาค่อนข้างสะสวย “ Do you wanna get in? (อยากเข้าไปไหม)” “No (ไม่)” ฉันปฏิเสธเป็นคนแรก “It’s hotel,isn’t it? (มันเป็นโรงแรมรึเปล่าน่ะ)” “Nope…” เธอชายสายตามองไอ้เปาแล้วยิ้มให้ “Do you want to try? (คุณอยากลองไหม?)” ไอ้เปาย่นคิ้วเหมือนมันจะฟังไม่ทัน มันเลยหันมามองหน้าฉัน “มึง เค้าถามกูว่าไรนะ” “กูรู้ๆ” ไอ้นุ่นว่าแล้วดึงไอ้เปาให้ถอยมาข้างหลัง “กูว่าเจ๊แม่งต้องโกรธแน่ๆ เลยว่ะ เค้าถามมึงว่า มึงอยากตายไหม” [3] อีแก๊งนี้จะได้ดูพลุไหม 55555555555 กว่ามันจะออก มันซ่ากันเหลือเกิน อยากรู้อยากเห็นไปหมด ขำมาก คนนึงก็ฟังไม่ทัน อีกคนฟังทันก็แปลมั่ว 555555555555555555555555555
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม