ตอนที่1 เจ้าสาวสำรอง
ภายในห้องพักโรงแรมหรูชื่อดังกลางใจกรุงเทพฯ รัตติกาลที่เพิ่งลงเครื่องเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว เพื่อเดินทางมาร่วมงานแต่งของน้องสาวต่างมารดา แต่ที่ไหนได้เธอกลับถูกจับแต่งหน้าสวมใส่ชุดเจ้าสาวแทนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้คุณพงศกรที่กำลังยืนกอดอกจ้องมองลูกสาวคนโตผ่านกระจกเงาบานใหญ่ ถึงกับต้องส่ายหัวให้กับสีหน้าบึ้งตึงที่ได้เห็น
"จะทำหน้าตาบูดบึ้งแบบนั้นทำไมนะดาว ก็แค่เข้าประตูวิวาห์แกควรจะดีใจซะอีกที่ว่าที่สามีหล่อและรวยมากขนาดนั้น"
"มันใช่งานแต่งดาวไหมคะ ไหนพ่อบอกว่าเป็นงานแต่งของยัยลินไง แล้วทำไมต้องเป็นดาวที่ต้องมาสวมใส่ชุดแต่งงานบ้า ๆ แบบนี้คะ"
"ก็น้องแกมันไม่อยากแต่ง ฉันไปรับปากคุณกรกฎเขาไว้แล้ว งานก็จัดออกซะใหญ่โตขนาดนี้ ในเมื่อน้องแกมันหนีไปตามตัวไม่ได้ แกจะให้ฉันผิดคำพูดกับคุณกรกฎงั้นสิ?"
"ถ้าพ่อบอกความจริงกับเขาไป เขาก็คงจะรับได้ไหมคะ พ่อก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าดาวมีคนรักของดาวอยู่แล้ว"
"ถ้าแกจะจริงจังกับไอ้หมอนั่น ถ้าไอ้หมอนั่นมันจะจริงจังกับแก แล้วทำไมตั้งแต่คบกันมาถึงไม่เคยพามาให้ฉันได้เห็นหน้าบ้างเลย แกคบกับมันแบบไหน แบบไม่ผูกมัด ไม่คิดจะมีอนาคตร่วมกัน คบแบบที่ต่างชาติมันคบกันน่ะเหรอ แต่แกเป็นคนไทยนะ แกมีพ่อ แกมีแม่ ฉันมีหน้ามีตาในสังคม ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งแกท้องป่องขึ้นมาล่ะ มันจะรับผิดชอบแกหรือเปล่า?"
"ไม่เคยพามาไม่ใช่ว่าเราไม่คิดเรื่องอนาคตร่วมกันนะคะพ่อ แค่ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้น"
"แกอย่ามาพูดให้ฉันอารมณ์เสียหน่อยเลย รีบ ๆ แต่งหน้าให้มันเสร็จซะ เดี๋ยวว่าที่เจ้าบ่าวของแกเขาก็จะเดินขึ้นมารับที่ห้องนี้แล้ว ทำหน้าตาให้มันดี ๆ ด้วยนะ ตาสิงห์เขาจะได้เอ็นดูแก"
"อีตาบ้านั่นแก่แต่ตัวซะเปล่านะคะ ไม่คิดจะคัดค้านการแต่งงานในครั้งนี้เลยหรือยังไง ทั้งที่ก็รู้ว่าผู้หญิงเขาไม่อยากจะแต่งด้วย แต่นี่อะไรยังดั้นด้นจัดงานใหญ่โตให้สิ้นเปลืองเงินทองแบบนี้อีก"
"แล้วแกจะบ่นทำไม ยังไงเขาก็ไม่ให้เราเสียสักบาท จัดงานใหญ่โตเอิกเกริกเขาก็เป็นคนจ่ายทุกบาททุกสตางค์อยู่แล้ว คุยกับแกทีไรฉันอารมณ์เสียทุกที ขนาด 3 ปีกลับบ้านทีนะก็ยังทำให้ฉันปวดหัวเหมือนเดิมอีก"
"ใครจะดีเหมือนลูกรักของพ่อล่ะ ลูกเมียใหม่มันก็ดีกว่าลูกเมียเก่าอย่างดาวอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ"
สองพ่อลูกไม่เคยจะพูดคุยด้วยกันดีเลยสักครั้ง ตั้งแต่บิดาแต่งงานมีครอบครัวใหม่ รัตติกาลก็รู้สึกว่าความรักที่บิดามีให้ลดน้อยถอยลงไปในทุก ๆ วัน เป็นแบบนี้มาตั้งแต่อายุ 5 ขวบจำความได้ หลังจากที่มารดาเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็งบิดาก็แต่งงานใหม่ภายในสองปีหลังจากนั้น หญิงสาวแทบจะไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยเลย พอเข้าไฮสคูลก็ถูกส่งไปเรียนที่ต่างประเทศตลอดมา เรียกได้ว่าถ้าไม่มีเหตุจำเป็นอันใดเธอก็ไม่อยากจะกลับมาที่ประเทศไทยเหมือนกัน ไม่ได้รู้สึกโกรธเกลียดภรรยาใหม่หรือน้องสาวต่างมารดาแม้แต่นิด เพียงแต่รู้สึกว่าเป็นส่วนเกินของครอบครัวใหม่ของพ่อมานานแล้ว เธอจึงพาตัวเองออกไปอยู่ในที่สบายใจ แม้จะไม่ได้สุขสบายเหมือนกับอยู่ที่บ้านเลยก็ตาม
ประตูห้องพักถูกผลักเข้ามา พร้อมกับร่างสูงสง่าในชุดสูททักสิโด้ ดวงตาคมที่จ้องมองแผ่นหลังของว่าที่เจ้าสาว เขาเพิ่งจะรับรู้จากคุณพงศกรว่าต้องถูกเปลี่ยนตัวเจ้าสาวกะทันหัน ทำให้ต้องรีบมาดูว่าที่เจ้าสาวคนใหม่ที่ไม่เคยเห็นหน้าตากันมาก่อน
"อ้าวตาสิงห์มาแล้วเหรอ ยายดาวยังแต่งหน้าไม่เสร็จเลยนะ"
ทำให้รัตติกาลต้องรีบหันหน้ากลับไปดูคนที่บิดาพูดคุยด้วยอย่างเร็ว หญิงสาวที่ใบหน้าบึ้งตึงจับจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มอย่างไม่พอใจอยู่เช่นนั้น
สิงหนาทจ้องมองเจ้าสาวคนใหม่ ใบหน้าสวยที่เพิ่งแต่งแต้มเครื่องสำอางเบาบางทำให้หญิงสาวแลดูเหมือนเจ้าหญิงผู้เลอโฉม ดวงตาคมประดุจเหยี่ยวจับจ้องมองด้วยความพอใจอยู่ไม่น้อย ผู้หญิงคนนี้เองเหรอที่เขาจะต้องแต่งงานด้วย ชีวิตมีเรื่องสนุก ๆ ให้ทำแล้วสินะ
"ยายดาวนี่สิงหนาทว่าที่เจ้าบ่าวของแก สวัสดีพี่เขาซะสิ"
หญิงสาวลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ ก่อนจะเดินเข้าไปประจันหน้ากับชายหนุ่มรูปงามที่ตัวสูงอย่างกับชาวตะวันตก
"ในเมื่อคุณรู้ว่าเจ้าสาวของคุณไม่ได้อยู่ที่นี่ ทำไมคุณถึงไม่ประกาศยกเลิกงานแต่งล่ะคะ แล้วทำไมต้องลากฉันเข้าพิธีวิวาห์ไปกับคุณด้วย"
สิงหนาทยืนกอดอกจ้องมองหน้ากับเจ้าสาวคนสวยที่กำลังจ้องหน้าเขาอย่างท้าทายเช่นกัน
"ก็ฉันเสียเงินไปกับงานนี้เยอะ เธอจะให้ฉันเสียหน้าด้วยงั้นสิไม่มีทาง!"
"หน้าบอบบางเหลือเกินนะคะ คุณเป็นผู้ชายประเภทไหนถึงยอมให้ผู้ใหญ่คลุมถุงชน ถึงยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาไม่ได้รักคุณจนต้องหนีไป หาตัวไม่เจอแบบนี้ด้วย"
"วาสนาน้องเธอไม่ถึงฉันนะสิไม่ว่า คิดว่าฉันอยากจะแต่งกับน้องเธองั้นสิ เปลี่ยนมาเป็นเธอก็ดีเหมือนกันนะ ชีวิตคงมีสีสันกว่ากันเยอะเลย"
"แต่ฉันมีแฟนแล้วนะ ฉันไม่ได้อยากแต่งงานกับคุณ"
"มีแฟนแล้วก็ช่างเธอสิ มันไม่ใช่ปัญหาของฉันซะหน่อย แต่หลังจากที่แต่งงานกันเธอเป็นสมบัติของฉันจำเอาไว้ด้วย"
"พ่อคะ พ่อบอกเขาไปเลยนะว่าดาวแต่งงานแค่ในนาม ดาวไม่ใช่สมบัติของใครทั้งนั้น"
รัตติกาลหันไปมองหน้าบิดา พร้อมกับหันกลับไปมองจ้องหน้ากับว่าที่เจ้าบ่าวอีกครั้ง ชายหนุ่มยืนกอดอกจ้องมองหน้าท้าทายกับดวงตากลมโตคู่สวยที่จ้องมองเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อเขา ผู้หญิงคนนี้ที่กำลังคบหากับน้องชายต่างมารดาแต่กลับต้องมาแต่งงานกับเขาในค่ำคืนนี้ช่างน่าตลกดีแท้ นฤเบศร์จะรู้หรือเปล่าว่าแฟนสาวของตัวเองกำลังจะถูกเขาย่ำยีไม่เหลือชิ้นดีในค่ำคืนนี้ อยากจะรู้นักถ้าพรุ่งนี้นฤเบศร์มาถึงประเทศไทยจะรู้สึกอย่างไรบ้าง ถ้ารู้ว่าแฟนสาวกลายมาเป็นเมียในทะเบียนสมรสของพี่ชายต่างแม่อย่างเขาแล้ว แค่คิดก็รู้สึกสะใจ แค่คิดก็รู้สึกว่าเวลาที่ผ่านมาแก้แค้นสิบปีก็ไม่มีคำว่าสายอย่างที่คนเขาว่า นฤเบศร์จะได้รับรู้รสชาติของคำว่าเจ็บปวดและเสียใจที่ต้องสูญเสียคนรักให้กับคนอื่นไปอย่างไม่มีวันได้กลับคืน ถ้าวันนี้เครื่องบินไม่ดีเลย์เวลานี้นฤเบศร์อาจจะปรากฏตัวอยู่ในงานค่ำคืนนี้ด้วยอีกคนแล้ว แล้วถ้ามาเห็นตอนที่หญิงสาวยืนอยู่บนเวทีคู่กับเขาก็คงจะดีสินะ อยากจะเห็นสีหน้าของน้องชายเหลือเกินว่าจะรู้สึกอย่างไรในตอนที่รับรู้ว่ารัตติกาลกลายมาเป็นพี่สะใภ้แทนคำว่าแฟนสาวที่ซุ่มคบหากันมาเกือบจะ 3 ปี...