EP 3. ผู้ชายหน้าเหมือนโจร

805 คำ
EP 3. ผู้ชายหน้าเหมือนโจร ร่างสูงก้าวเข้ามาในศาลา ดวงตาจับจ้องไปยังรูปขาวดำที่ใส่กรอบตั้งไว้ทางฝั่งซ้ายมือของโลงศพที่ประดับประดาด้วยดอกซ่อนกลิ่นและดอกเบญจมาศมากมาย เขาค่อยทรุดกายลงคุกเข่าเบื้องหน้าอย่างช้าๆ “ธูปค่ะคุณอา” ปี่แก้วจุดธูปส่งให้พ่อทูนหัว เขารับมาถือไว้แล้วพนมขึ้นกลางอก อาจเพราะชายตัวใหญ่สวมแว่นตาดำซ่อนความรู้สึกเอาไว้ เด็กสาวจึงไม่อาจรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไรต่อการจากไปของเพื่อนรุ่นพี่ จนกระทั่งเธอสังเกตเห็นว่าปลายจมูกของเขาค่อยๆ เปลี่ยนสี จนกลายเป็นสีแดงระเรื่อ จึงได้รู้ว่าที่เขาใส่แว่นดำในเวลากลางคืน ก็เพราะต้องการเก็บซ่อนความเสียใจเอาไว้นั่นเอง ‘พ่อกับอาปรานต์เป็นเพื่อนรักกัน เราเจอกันตอนทำงานพาร์ตไทม์ร้านอาหารไทยที่อเมริกา เขาเป็นคนหนุ่มที่มีความมุ่งมั่น ขยันขันแข็ง แต่หลังจากนั้นเราก็ไม่ค่อยได้เจอกันเพราะอาปรานต์เลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา ส่วนพ่อ...พอมีหนูก็พาหนูกลับมาอยู่ที่เมืองไทย’ คำพูดของบิดาดังขึ้นในห้วงแห่งความคิด เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึกอย่างพยายามกลั้นสะอื้น ‘คุณพ่อขา คุณอาปรานต์ที่คุณพ่อรักมาก มาหาคุณพ่อแล้วนะคะ คุณพ่อดีใจมั้ย’ เด็กสาวยิ้มเศร้ามองไปยังโลงศพสีขาวด้วยสายตาที่เต็มตื้นไปด้วยหยาดน้ำตา เมื่อเคารพศพเสร็จแล้ว ชายหนุ่มก็หันกลับมามองหน้าเด็กสาวอีกครั้ง การได้มองเธอใกล้ๆ ภายในศาลาที่เปิดไฟสว่างไสว ทำให้เขามีโอกาสได้พิศมองใบหน้าหวานเต็มตา เป็นเด็กสาวที่สวยมาก ขนาดไม่ได้แต่งหน้าแต่งตัวยังสวยน่าชม ดูบอบบางราวกับตุ๊กตาแก้วเจียระไนก็ไม่ปาน อีกทั้งยังมีกิริยามารยาทเรียบร้อย พี่รักษ์คงทั้งรักทั้งหวงบุตรสาวคนเดียวมากแน่ๆ “เธอชื่ออะไรนะ” “หนูชื่อปี่แก้วค่ะ เรียกหนูสั้นๆ ว่า ‘ปี่’ ก็ได้ค่ะ” ปรานต์เพียงแค่พยักหน้าน้อยๆ ราวกับคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะขยับตัวกำลังจะลุกขึ้นยืน ทว่าเด็กสาวกลับสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ “แล้วนี่จะกลับยังไง” เขาเหลียวมองไปโดยรอบ เวลานี้ย่างเวลาเข้าสองทุ่ม แขกเหรื่อที่มาร่วมงานก็ทยอยกลับกันไปหมดแล้ว “บ้านหนูอยู่สองซอยถัดไปไม่ไกล เดี๋ยวหนูเดินกลับค่ะ” “ไม่ได้!” คนตัวเล็กถึงกับสะดุ้งอีกครั้ง หน้าซีดเผือดด้วยไม่เข้าใจว่าเธอพูดหรือทำอะไรให้เขาไม่พอใจ จู่ๆ เขาถึงได้ตะคอกห้วนขึ้นมาเสียดื้อๆ ปรานต์นิ่วหน้าอีกรอบ เขาไม่ถนัดพูดคุยกับเด็ก และเขาไม่อาจควบคุมท่าทางให้ดูโอปป้าเกาหลีแสนเฟรนลี่ได้ หน้าตาของเขาเหมือนแก๊งมาเฟียทวงหนี้นอกระบบ แค่เดินเข้าไปใกล้เด็กเล็กๆ ก็พากันร้องไห้จ้า สะอึกสะอื้นราวกับเขาเป็นฆาตกรต่อเนื่อง ถือมีดกำลังจะเข้าไปจ้วงแทงเสียอย่างนั้น ที่ร้ายที่สุด ผู้ปกครองเด็กก็ออกอาการ ‘กลัว’ รีบอุ้มลูกวิ่งหนีไปเสียดื้อๆ ก็คนมันเกิดมาหน้าดุ จะให้ทำยังไงได้! “ตามฉันมา...” เขาคุมโทนเสียงให้ห้วนน้อยลงเพื่อไม่ให้เด็กสาวกลัวเขามากไปกว่านี้ กระนั้นในน้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยคำสั่งและการวางอำนาจอยู่ในที ปี่แก้วกลัวจนทำอะไรไม่ถูก เธอประสานมือเข้าหากันแล้วบีบแน่น เดินตามหลังผู้ชายตัวโตไปห่างๆ เวลานี้เธออดนึกแปลกใจไม่ได้ว่า ทำไมผู้ชายที่อบอุ่นอ่อนโยนอย่างบิดา จึงได้มีเพื่อนสนิทที่ดูป่าเถื่อนก้าวร้าวเช่นนี้ เจ้าของร่างสูงเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างรถลัมโบกินี แล้วเปิดประตูก้าวขึ้นไปนั่งฝั่งคนขับ โดยที่เด็กสาวยังคงยืนนิ่งจ้องมองรถหรูราคาแพงอย่างไม่เคยเห็นใกล้ๆ มาก่อน “ขึ้นรถสิ” เด็กสาวสะดุ้งอีกครั้ง หันไปมองพ่อทูนหัวสลับกับมองรถราวกับกำลังชั่งใจ ถ้าโชคร้ายเธอเดินกลับบ้านอาจถูกโจรโฉดดักฉุดไปรุมโทรม แต่โอกาสที่จะเจอโจรนั้นมีเพียงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ทว่าหากไปกับผู้ชายแปลกหน้าที่หน้าเหมือนโจร สัดส่วนที่จะได้รับอันตรายคือร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม เธออาจตกเป็นเหยื่อ โดนลวงไปย่ำยี หรืออาจหนักกว่านั้นเขาอาจส่งเธอไปค้ากามตามซ่องชายแดน รถหรูคันนี้อาจได้มาจากคราบน้ำตาของผู้หญิงมากมายก็เป็นได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม