EP 2. ฉันคือพ่อทูนหัวของเธอ

857 คำ
EP 2. ฉันคือพ่อทูนหัวของเธอ กุสลา ธมฺมา อกุสลา ธมฺมา อพฺยากตา ธมฺมา… เสียงพระสงฆ์สวดมนต์ดังกึกก้องไปทั่วทั้งศาลา ปรานต์เปลี่ยนใจไม่เดินเข้าไปภายในงาน แต่ยังคงยืนอยู่ใต้ต้นจามจุรีดังเดิม ทอดมองไปยังโลงศพของอภิรักษ์ผู้เป็นเพื่อนรุ่นพี่ด้วยความสะเทือนใจ เขาเพิ่งเดินทางกลับเมืองไทยตามคำสั่งของผู้เป็นบิดาเมื่อวาน แล้วข่าวแรกที่เขาได้รับก็คือการจากไปอย่างไม่อาจหวนกลับของ ‘อภิรักษ์’ เพื่อนรุ่นพี่ที่เคารพรักดั่งพี่ชาย อภิรักษ์เป็นคนดี ขี้เกรงใจ และเพราะความเป็นคนดีจึงทำให้ธุรกิจของเขาล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงแม้จะลำบากเข้าตาจนสักเพียงใด แต่อภิรักษ์ก็ไม่เคยเล่าเรื่องทุกข์ใจให้ใครฟัง เขาจึงไม่เคยระแคะระคายเลยว่าเพื่อนรุ่นพี่ตกที่นั่งลำบากถึงเพียงนี้ หากเขารู้...เขาจะไม่ปล่อยให้อภิรักษ์ต้องต่อสู้เพียงลำพังเด็ดขาด อภิรักษ์ทำงานหามรุ่งหามค่ำแทบไม่ได้พักผ่อน จนท้ายที่สุดก็หลับในขณะขับรถ จึงประสบอุบัติเหตุรถชนเสาไฟฟ้าเสียชีวิตคาที่ “ผมน่าจะกลับมาเร็วกว่านี้...” ปรานต์ใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกานานกว่าสิบปี ด้วยไม่ลงรอยกับบิดา เพราะท่านเป็นคนเจ้าชู้มักมากในกามและยังเป็นสาเหตุทำให้มารดาของเขาต้องทุกข์ทรมานใจจนฆ่าตัวตาย เขายอมรับว่าเขาทั้งโกรธและผิดหวังในตัวบิดา จึงคิดจะใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นไม่คิดหวนกลับมาเมืองไทยอีกเลย จนกระทั่งบิดาป่วยหนักและเป็นฝ่ายขอร้องให้เขากลับมาช่วยบริหารโรงแรม ทิฐิของเขาจึงคลายลงเมื่อได้เห็นว่าท่านแก่ชราลงมาก อีกทั้งท่านได้สำนึกผิดกับสิ่งที่ทำไว้กับมารดา ความเสียใจกัดกร่อนหัวใจของท่านเรื่อยมาจนร่างกายผ่ายผอมทรุดโทรมลง ช่วงเวลาที่ขาดหาย เขาพลาดอะไรไปมากมายเหลือเกิน “คุณคะ...” ชายหนุ่มตื่นจากภวังค์ความคิด เมื่อจู่ๆ เด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมปลายก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเธอซีดขาว กำลังจ้องมองเขาอย่างหวาดกลัว เขามองเลยผ่านศีรษะของคนตัวเล็กไป จึงเห็นว่าแขกเหรื่อในศาลาได้ทยอยกลับกันไปเกือบหมดแล้ว “หนูขอโทษค่ะ แต่หนูไม่มีเงินจริงๆ” จู่ๆ ปี่แก้วก็ยกมือขึ้นไหว้เขา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยหยาดน้ำใส ดวงตาบวมช้ำราวกับผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ปรานต์ขมวดคิ้วมุ่น ไม่เข้าใจสิ่งที่เด็กสาวกำลังพูด “เธอพูดเรื่องอะไร ฉันไม่เข้าใจ” คนตัวเล็กกว่าถึงกับสะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงตะคอกห้วนของคนที่ตัวโตกว่าร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร เขามีรูปร่างสูงใหญ่ สวมสูทและแว่นตาสีดำยิ่งทำให้เขาดูน่าหวาดหวั่น เมื่อเห็นท่าทางตื่นกลัวของเด็กสาว ปรานต์ก็ถึงนิ่วหน้าด้วยความหงุดหงิดตัวเอง ‘บ้าฉิบ! ไอ้ปรานต์แกกำลังทำให้เด็กกลัว!’ เขาเป็นคนตัวใหญ่ เสียงใหญ่ และมีใบหน้าดุ เมื่อเอ่ยถามโดยลืมควบคุมโทนเสียงจึงกลายเป็นตะคอกห้วน ทั้งที่จริงแล้วเขาเพียงแค่เอ่ยถามออกไปโดยไม่ได้คิดอะไรเลย “หนูไม่มีเงินจริงๆ ค่ะ ช่วงนี้หนูกำลังสอบปลายภาคเพื่อสำเร็จการศึกษา แล้วต้นเดือนหน้าหนูจะไปสมัครงานที่ร้านอาหารแถวบ้านค่ะ หนูจะพยายามเก็บเงินมาคืนคุณ ขอเวลาหนูหน่อยเถอะนะคะ ตอนนี้หนูไม่รู้จะหาเงินจากไหนมาใช้คืนแทนคุณพ่อจริงๆ” ปี่แก้วพนมมือสั่นเทาไหว้เขา เธอร้องไห้จนตัวโยนแทบทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นดิน หัวใจดวงน้อยๆ ไม่อาจตั้งรับปัญหาที่กำลังถาโถมเข้ามาราวกับคลื่นทะเลคลั่ง หนทางในการมีชีวิตของเธอช่างมืดมน ไม่มีแม้เพียงแสงพริบพราวนำทางของหิ่งห้อยตัวน้อย มือหนาเอื้อมไปจับไหล่บอบบางเอาไว้เพื่อประคองไม่ให้เด็กสาวล้ม แต่เธอกลับสะดุ้งสุดตัวราวกับกลัวว่าเขาจะทำร้าย ‘เกิดอะไรขึ้น! ทำไมลูกสาวของพี่รักษ์ถึงได้น่าสงสารขนาดนี้’ “ฉันไม่ได้มาทวงหนี้ แต่ฉันคือพ่อทูนหัวของเธอ” เสียงเกือบจะห้วนเอ่ยออกไป ยังผลให้คนตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหน้าร้องไห้ ค่อยๆ เงยขึ้นช้าๆ ดวงตากลมโตเบิกโพลง ริมฝีปากเล็กได้รูปอ้าค้างด้วยความตกใจ “คุณคือ...คุณอาปรานต์เหรอคะ” ปี่แก้วทวนถามอย่างไม่อยากเชื่อสายตา บิดาเคยบอกว่าเมื่อแรกเกิดเพื่อนสนิทรุ่นน้องที่บิดารักมากเป็นคนช่วยรับขวัญให้ อีกทั้งยังเป็นพ่อทูนหัวของเธออีกด้วย บิดาเล่าเพียงว่าพ่อทูนหัวของเธอชื่อ ‘ปรานต์’ แต่เธอจำอะไรเกี่ยวกับเขาไม่ได้เลย เพราะตอนนั้นเธอเป็นเพียงแค่เด็กทารกที่ไม่รู้ประสา...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม