วันต่อมา...
“หมายความว่าไง คุณพาทิศไปไหน” เสียงทุ้มลึกของชายร่างใหญ่ตรงหน้าทำให้สารัชแปลกใจไม่เข้าใจว่าเลขาฯของท่านประธานคนก่อนนั้นตกใจอะไร
“ก็เมื่อวานบอสพาทิศบอกให้ผมพาพนักงานบัญชีคนนี้มาที่คอนโดครับ แล้วก็บอก เอ่อ...จะไปหาสาว”
“หาสาว?”
“ครับ ทำไมเหรอครับ” ราชัญขมวดคิ้วมุ่น เขาเป็นเลขานุการของอิทธิกรซึ่งเป็นบิดาของพาทิศ ราชัญยังคงทำงานให้บริษัทคอยแนะนำการทำงานให้กับบอสพาทิศ แม้นว่าเจ้านายของเขาจะมอบตำแหน่งให้ลูกชายไปแล้ว แต่พาทิศเพิ่งเข้ามาทำงานเขาก็เลยมีหน้าที่ในการให้คำแนะนำ ทว่าวันนี้พาทิศกลับไม่เข้ามาทำงานอย่างเช่นทุกวัน แต่พอมาหาอีกฝ่ายที่คอนโดมิเนียมกลับพบผู้ช่วยเลขาฯ อย่างสารัชเสียอย่างนั้น
“หาสาวที่ไหน ทำไมติดต่อไม่ได้เลย”
“หืม? ...” แม้นสารัชจะมึนงง แต่ธนกิตไม่ใช่...เขาแอบฟังบทสนทนาของคนทั้งคู่หลังบานประตูห้องนอนที่สารัชเฝ้าอยู่ทั้งวันทั้งคืนนี้ ร่างหนาสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว เขาคิดว่าพาทิศถูกนายใหญ่ตามเก็บแล้วแน่ ๆ ชายหนุ่มคิดหาทางหนีจากที่นี่ไม่งั้นอาจจะเป็นรายต่อไป
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“ฉันมีที่ต้องไป อย่าคิดหนีล่ะ” เสียงของสารัชดังเข้ามาในห้องนอนทำให้ธนกิตรีบเปิดประตูออกทันที
“ผมยังไม่ได้กินอะไรเลยนะครับ” สารัชมองหน้าพนักงานบัญชีคนนี้ เขาไม่รู้เรื่องอะไรมากนักเพราะเมื่อวานบอสพาทิศไปที่สำนักงานกฎหมายเจ้าตัวไม่ได้เข้าไปฟังด้วยว่าคนเป็นนายคุยอะไรกับใครบ้าง รู้แค่ว่าต้องเฝ้าผู้ชายคนนี้ไว้
“งั้นรอก่อน เดี๋ยวสั่งพิซซ่ามา” สารัชว่าเสร็จก็ยกโทรศัพท์โทรสั่งพิซซ่าอย่างที่คิดเพราะเขาก็ไม่ทันได้กินอะไรเลย แต่เมื่อครู่ที่ราชันมาถามหาคนเป็นนายทำให้สารัชอยากออกไปตามหาด้วย
“รอแป๊บ สิบนาทีน่าจะถึง” เขาก้มมองนาฬิกาข้อมือ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โซฟาภายในห้องรับแขกหลังจากสั่งพิซซ่าเสร็จเรียบร้อย
“เมื่อวานมึงคุยอะไรกับคุณพาทิศบ้าง” สารัชอยากจะรู้เผื่อเป็นเบาะแสตามหาคนเป็นนาย ทว่าธนกิตกลับบ่ายเบี่ยง
“ผมไม่รู้อะไรหรอกครับ”
“คุณพาทิศเป็นคนใจดีนะ ครอบครัวนี้เวลาหน้านิ่ง ๆ แล้วเหมือนคนโหดแต่ความจริงแล้วครอบครัวนี้ใจดีทุกคน” แม้นสารัชจะพยายามเกลี้ยกล่อม แต่ธนกิตกลับไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมาอีก กระทั่งเสียงออดหน้าห้องดังขึ้น
ตื๊ดด...
“พิซซ่าน่าจะมาส่งละ...” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปเปิดประตูโดยไม่รู้ว่าธนกิตเดินตามหลังมา ก่อนที่เขาจะออกแรงผลักแผ่นหลังหนาของสารัชจนล้มไปทับพนักงานส่งพิซซ่า
ผลัก!
ตุบ!!
“เฮ้ย!! หยุดนะโว้ย!” พอหยัดกายขึ้นสารัชก็รีบวิ่งตามร่างหนาของธนกิต แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่ออีกฝ่ายขึ้นลิฟต์ไปได้
“โธ่เว้ย!!” ชายหนุ่มสบถออกมาเสียงดังเมื่อประตูลิฟต์เคลื่อนปิดต่อหน้าต่อตาของเขา ดูท่าแล้วอีกฝ่ายคงรู้ว่าเจ้านายของเขาอยู่ไหน ฝ่ามือหนารีบล้วงโทรศัพท์กดโทรหาราชัญเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาต้องบอกอะไรบางอย่างกับเลขาฯประธานบริษัทคนก่อน
ติ๊ด!
“ฮัลโหลครับ ผมลืมบอกไปว่าเมื่อวานบอสพาทิศไปที่สำนักงานกฎหมายเดอะเกรทฯครับ คุณอัทธ์น่าจะรู้ว่าบอสพาทิศหายไปไหน” เขารีบเอ่ยพูดจนลิ้นแทบพันกัน เกรงว่าจะไม่ทันกาล กลัวว่าคนเป็นนายจะได้รับอันตราย แถมตอนนี้ถ้าบอสพาทิศรู้ว่าเขาปล่อยให้ธนกิตหนีไปได้คนเป็นนายต้องด่าเขาแน่ ๆ แต่สิ่งที่น่ากังวลกว่านั้นคือตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเจ้านายอยู่หนใด...
การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดีจนถึงเช้าอีกวัน ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถบอกได้อย่างเต็มปากว่าสมองบางส่วนที่ได้รับความเสียหายนั้นจะสามารถกลับมาทำงานได้เป็นปกติ เขาอาจจะนอนเป็นเจ้าชายนิทราไปตลอดชีวิต
“เอาเป็นว่าให้เขารักษาตัวที่นี่ไปก่อน แกเคลียร์เรื่องเอกสารหมดแล้วใช่ไหม” มีนาหันมามองเจ้าของคำถาม เธอพยักหน้ารับเบา ๆ หญิงสาวใช้สิทธิ์ในการเข้าถึงเวชระเบียนประวัติคนไข้ในโรงพยาบาลก่อนจะเพิ่มรายชื่อของเขาคนนี้เข้าไป แถมยังเป็นชื่อปลอมอีกด้วย
“โจโจ้ คนอะไรชื่อโจโจ้ อะไรดลใจให้ฉันตั้งแบบนี้ก็ไม่รู้” กระถินพึมพำออกมาเบา ๆ พร้อมกับมองใบหน้าของเขาคนนี้ไปด้วย
“หึ...” เช่นเดียวกันกับมีนาที่รู้สึกขำขัน เมื่อชื่อที่กระถินตั้งให้ชายนิรนามคนนี้ว่าโจโจ้ ก่อนที่กระถินจะสวมกอดมีนาเบา ๆ
“ขอบใจแกมากนะที่เอาวิชาชีพมาเสี่ยงแบบนี้ แต่ฉันคิดว่าสิ่งที่เราทำมันถูกต้องแล้วล่ะ คนพวกนั้นตามฆ่าเขาถ้าเราไม่ทำแบบนี้เขาคนนี้ก็อาจจะตายได้” มีนาไม่ได้ตอบอะไร เธอลูบแผ่นหลังของเพื่อนสาวเบา ๆ กระถินจิตใจดีแบบนี้มาเสมอ เธอมักยื่นมือเข้าไปช่วยคนอื่นอยู่เรื่อยแม้นว่าจะไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวก็ตาม
“เมื่อคืนน่ากลัวมาก พวกมันยิงปืนแบบสุ่มไปทั่วเลย ฉันคิดว่าตัวเองจะตายแล้วซะอีก”
“ไม่เป็นไรแล้วนะ แกอยู่ตรงนี้แล้วนี่ไง” แววตาของกระถินยังมีความตกใจอยู่ไม่น้อย
“ขอบใจแกมาก ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย ฉันว่าถ้าเขาคนนี้ตื่นมาก็อาจจะมีเงินจ่ายแหละ ฉันเห็นยี่ห้อรถของเขาราง ๆ น่าจะเป็นพอร์ชนะ รวยพอจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลล่ะมั้ง”
“หึ ฉันไม่มีปัญหาอะไรหรอก แกสบายใจขึ้นแล้วใช่ไหม” มีนาเอ่ยถาม หญิงสาวยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เพื่อนสาวสบายใจ
“อืม พอได้ช่วยเขาแล้วรู้สึกดีมาก เหมือนได้ทำบุญ...” เธอว่าพร้อมกับหันหน้าไปมองเขาคนนี้ “ดู...ขนาดว่าโกนผมแล้วนะ ยังหล่อมากเลย ฮ่า ๆ”
“หึ...” มีนาหัวเราะแห้ง ๆ ให้กับกระถิน เธอคว้าฝ่ามือของกระถินมากุมไว้ เพราะรู้ว่ากระถินกำลังทำตัวเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่มีเรื่องขององศาในใจให้คิดตลอด ทว่าไม่ทันที่มีนาจะได้เอ่ยพูดอะไรนั้น