บทที่ 1 ปัญหา

1733 คำ
ก่อนเกิดเหตุ… บนชั้นสูงสุดของบริษัทชั้นนำผู้ประกอบธุรกิจเครื่องอุปโภคบริโภค ของใช้ในครัวเรือน ผู้นำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ห้างสรรพสินค้า รวมถึงบริษัทจำกัดในเครือ ภายใต้ชื่อเดอะเกรทฟีเจอร์กรุป หรืออักษรย่อตัว Gf ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าที่เห็นโดยทั่วไปตามท้องตลาด พาทิศ เกียรติภูมิ ทายาทผู้ถือหุ้นสูงสุดของบริษัท ชายหนุ่มขึ้นรับตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารในวัยเพียง 32 ปี ภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งปีที่ขึ้นรับตำแหน่งเขาสังเกตความผิดปกติหลายอย่างในการทำงานของพนักงาน ...ร่างหนาขมวดคิ้วมุ่นแทบจะผูกเป็นโบ เขาจ้องมองไปยังพนักงานคนหนึ่ง สายตาคมเข้มนั้นยากจะคาดเดา เขามีความคิดหลายอย่างที่กำลังปะติดปะต่อกันได้ “ผมจะถามเป็นครั้งสุดท้ายว่าคุณทำงานให้ใคร” เขาถามเสียงนิ่งเรียบไม่ได้ขู่หรือกระโชกโฮกฮากแต่อย่างใด แต่กลับแฝงไปด้วยความน่าเกรงขาม ภายในห้องทำงานของท่านประธานมีเพียงเขาและพนักงานบัญชีคนหนึ่ง ร่างหนาของพนักงานหนุ่มสั่นเทา ไม่มั่นใจว่าตนจะทำอย่างไรกับการถูกจับได้ในคราวนี้ ...วิสัยทัศน์ของท่านประธานคนใหม่แตกต่างจากคนเก่าโดยสิ้นเชิง อิทธิกรผู้เป็นบิดามองหาแค่การขยายกิจการเป็นส่วนใหญ่ มุ่งเน้นการทำกำไรให้แก่บริษัท ขณะเดียวกันพาทิศบุตรชายคนโต เขาชอบที่จะพัฒนาทรัพยากรที่มีอยู่ ทำให้ชายหนุ่มมักเข้ามาแทรกแซงการทำงานอย่างเป็นระบบของพนักงานในบริษัทที่มีอยู่แล้ว ซึ่งการเข้ามาตรวจสอบทุกอย่างด้วยตัวเองทำให้เขาเห็นความผิดปกตินี้ “คำว่าสุดท้ายของผมคงไม่มีความหมายสินะ คุณธนกิต หืม...ผมคิดว่าคนที่คุณกำลังกลัวอยู่น่ากลัวน้อยกว่าผมนะ” พาทิศเหยียดยิ้ม เขาขยับปมเนกไทตัวเองเล็กน้อยระหว่างลุกขึ้นจากเก้าอี้ “อึก ผม...ไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ” ธนกิตยืนกรานว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด แม้นจะเป็นการยืนกรานกระต่ายขาเดียวก็ตามที “มีชื่อของคุณที่เข้าระบบเพื่อเขียนหนังสือให้ธนาคารโอนเงินเข้าบัญชีนายสมชาติ พฤษานนท์ ผู้จัดการฝ่ายผลิต ดูจากการดำเนินการบัญชีเฉลี่ย ๆ แล้วเกือบห้าร้อยล้าน คุณคิดว่าหมาตัวไหนที่ทำกันนะ ถ้าไม่ใช่คุณ...” “อึก ผม...ถ้าผมบอกแล้ว อึก จะ ผะ ผม จะไม่ปลอดภัย” “หึ เดี๋ยวนะ แล้วตอนนี้คุณมึงปลอดภัยแล้วงั้นเหรอ” ยิ่งพูดก็ยิ่งของขึ้น พาทิศรู้สึกร้อนไปทั้งกาย เงินจำนวนนี้เป็นเงินที่ได้จากการยักยอกเงินเดือนของพนักงานบางส่วนในโรงงานมากกว่าสองพันคน ข้อมูลรายการเคลื่อนไหวของบัญชีปรากฏเงินที่โอนไม่ตรงกับเงินที่พนักงานควรได้จริง ๆ เงินที่พนักงานควรได้ 350 บาทต่อวันกลับได้เพียง 250 บาท การยักยอกเงินครั้งนี้สูญเงินเกือบห้าร้อยล้านตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา “ผมคิดว่าอึก คุณสมชาติเป็นคนบงการทั้งหมดครับ” ธนกิตไร้ทางออก ไม่บอกก็ไม่รอด บอกก็ไม่รอด แต่ตอนนี้เขาถูกจับได้จากท่านประธานบริษัทก็คิดว่าบอกทางนี้ไปก่อนก็น่าจะดี “ไม่ใช่...” ชายหนุ่มส่ายหน้า เขาเดินมาอิงโต๊ะทำงานของตัวเอง มองพนักงานบัญชีที่กำลังคุกเข่ายกแขนขึ้นเหนือศีรษะทั้งสองข้างนี้ พาทิศสังเกตพฤติกรรมของนายสมชาติตั้งแต่เห็นรายชื่อบัญชีปลายทางของเงินทั้งหมดที่ถูกยักยอก ผู้จัดการฝ่ายผลิตคนนี้ใช้เงินราวกับว่าไม่เคยมีเงินมาก่อน เป้าหมายของเขาคนนี้คงเป็นแค่เงิน ไม่ได้อยากฮุบบริษัทของเขา มันไม่ใช่คนบงการอย่างแน่นอน “อึก นอกนั้นผมไม่รู้แล้วครับ” “ผมสังเกตดูแล้ว...ไม่ใช่ เขาเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในการคิดโค่นอำนาจครอบครัวผม หึ คิดจะเอาเรื่องนี้มาเล่นงานในอนาคตแน่ ๆ” ชายหนุ่มคิดอย่างนั้น หากมีการตรวจสอบผ่านกรรมการบริหารคนอื่นที่เป็นผู้ถือหุ้นแล้วพบว่ามีการทุจริตเงินในองค์กรนี้ คงมีคนเอาเข้าห้องประชุมถอดเขาออกจากตำแหน่งได้เลย ความไว้วางใจในการทำงานมักถูกทำลายจากการทุจริตในองค์กร แม้นจะไม่ได้ทุจริตเงินเอง แต่การบริหารงานที่ผิดพลาดโดยเปิดช่องโหว่ให้พนักงานทุจริตเงินนั้นเป็นการทำงานที่ขาดความรอบคอบ คงไม่มีใครไว้ใจการบริหารงานของคนในครอบครัวเขาอีกแล้วหลังจากนี้ ผู้ถือหุ้นคนอื่น ๆ คงไม่ไว้วางใจลงคะแนนให้ครอบครัวเขาเป็นประธานคณะกรรมการบริหารแน่ ๆ เพราะจริง ๆ แล้วแม้นจะมีหุ้นสูงสุดถ้าไม่ได้รับความไว้วางใจก็เปล่าประโยชน์ “อึก ผมไม่รู้อะไรแล้ว มีคนบอกผมให้เขียนหนังสือออกคำสั่งบอกธนาคารให้โอนเงินให้กับผู้จัดการฝ่ายผลิต ผมไม่รู้...” “เดี๋ยวนะ มึงพูดว่ามีคนบอกงั้นเหรอ...” พาทิศหยัดกายขึ้นยืนเต็มความสูงทันที เขาเอื้อมมือไปคว้าคอเสื้อของอีกฝ่ายอย่างแรง “อึก ผะ ผม...คุณธันวา อึก คุณธันวาเป็นแค่คนกลาง อึก ผมไม่รู้” “ธันวา? ธันวาไหนวะ!!” ชายหนุ่มตะคอกเสียงดัง พนักงานในบริษัทมีเป็นหมื่น ๆ คนจะให้เขาจำชื่อของทุกคนก็คงไม่ได้ “เขา อึก ไม่ได้ทำงานที่นี่” “ห้ะ...แล้วมันอยู่ไหน กูจะไปหามันที่ไหน!!” “เดี๋ยวผมโทรไปถามว่าเขาอยู่ไหนให้ครับ ท่านประธาน อึก ยะ อย่าแจ้งตำรวจจับผมนะครับ ผมมีครอบครัวต้องดูแล” พาทิศข่มเปลือกตาปิดลงก่อนจะปล่อยคอเสื้อของพนักงานบัญชีคนนี้ออก ชายหนุ่มกระชับเสื้อสูทเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยพูดขึ้นอย่างคนข่มอารมณ์ “มึงย้ายมาอยู่ข้างกู...เดี๋ยวกูให้ติดต่อหามัน ไม่ต้องถามว่าอยู่ไหน...เดี๋ยวกูให้คนตรวจหาที่อยู่มันผ่านสัญญาณโทรศัพท์...เอาโทรศัพท์มึงมานี่ก่อน” เขาว่าพร้อมกับคว้าโทรศัพท์ของธนกิตมาถือไว้ ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานของตนด้วยความรีบร้อน ทว่า กึก! “บอสคะ...มีอะไรหรือเปล่าคะ” ฝ่าเท้าหนาในรองเท้าหนังราคาแพงชะงัก เขาหันไปหาคู่หมั้นสาวพ่วงตำแหน่งเลขานุการคนสวยคนนี้ เธอมีใบหน้าสวยงามเรียวรูปไข่ ผมที่ม้วนเก้าขึ้นเป็นมวยเหนือศีรษะนั้นทำให้เธอน่ามอง หญิงสาวปล่อยปอยผมลงบาง ๆ ให้รับกรอบหน้าเรียว ดูสุภาพและละมุนมากขึ้น คิ้วโก่งเรียวสวยดั่งคันศรธนูนี้ทำให้เธอน่าพิสมัย หม่อมหลวงม่านฟ้า วราเจริญภิวัฒน์ หญิงสาวที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาแต่ยศถาบรรดาศักดิ์ของเธอเหมาะที่จะแต่งงานกับเขามากที่สุด “เปล่า...แล้วสารัชอยู่ไหน” “อ้อ เดี๋ยวเรียกให้ค่ะ” เธอรีบสาวเท้าไปหาผู้ช่วยเลขาฯที่อยู่ห้องพักทันที ไม่รอนานร่างบางก็กลับมาพร้อมกับผู้ช่วยเลขาฯหนุ่ม “ครับบอส” “เข้าไปเอาตัวไอ้พนักงานบัญชีตามมา แล้วก็...ม่านฟ้าเธอกลับไปพักผ่อนได้” “คือ ยังไงเหรอคะ ฉัน...ไม่เข้าใจ วันนี้ไม่ทำงานเหรอคะ มีเอกสารที่ท่านประธานต้องเซ็นอีกเยอะเลยค่ะ” “...มีเรื่องนิดหน่อย เธอไปพักก่อนนะวันนี้ ไม่ได้บอกในฐานะเจ้านาย แต่บอกในฐานะคู่หมั้น...” เขาเดินเข้าไปใกล้เธอก่อนจะยื่นแขนไปโอบเอวบางเข้ามาแนบกาย “เธอควรพักผ่อนหน่อย ช่วงนี้งานเยอะ...หรือมีเรื่องให้คิด ดูหน้าเธอไม่สบายใจเอามาก ๆ” “เอ่อ...” หญิงสาวตัวเกร็งกับการขยับเข้าชิดใกล้ของเขา เธอยกฝ่ามือขึ้นดันแผ่นอกแกร่งเพียงเล็กน้อย “คือว่า...พาคินณ์” “พาคินณ์...ทำไม” ชายหนุ่มถามย้ำเมื่อเธอเอ่ยชื่อของน้องชายฝาแฝดของเขาขึ้นมา แต่กลับเงียบไปราวกับว่ากลัวอะไรบางอย่าง “พาคินณ์ อึก ยังไม่หยุดเลยค่ะ” เธอก้มหน้าลงเวลาพูดถึงเขาคนนั้น ก่อนจะได้รับรอยยิ้มบาง ๆ จากคนตัวโต “พอเราแต่งงานกัน มันก็ไม่ยุ่งแล้วล่ะ” “จริงเหรอคะ” “อืม...มันบอกเอง มันว่าถ้ามันทำให้เรายอมมันไม่ได้มันจะถอยไปเอง...จนกว่าจะถึงฤกษ์แต่งงานของเรา” เขาเปลี่ยนจากโอบเอวเป็นโอบกอดร่างบางของเธอไว้ ฝ่ามือหนาลูบแผ่นหลังบางอย่างปลอบประโลม “ไม่ชอบเลยค่ะ อึก ไม่ชอบที่พาคินณ์เอาแต่ใจแบบนี้” ชายหนุ่มไม่ได้ตอบกลับคำพูดปนเสียงร้องไห้ของเธอ พาคินณ์หลงรักม่านฟ้าตั้งแต่เด็ก แต่เธอไม่ได้รักอีกฝ่ายซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าทำไม ทว่าเจ้าของร่างบางคนนี้กลับบอกว่าชอบเขา ชายหนุ่มไม่ได้อยากแต่งงานด้วยหรอกเขาไม่ได้รู้สึกรักหรือชอบเธอ อีกอย่างมันไม่ต่างจากทำร้ายจิตใจของคนเป็นน้องอย่างพาคินณ์ แต่จะให้ทำอย่างไรได้เมื่อเธอชอบเขา อยากแต่งงานกับเขาและที่บ้านของเขาก็เห็นดีเห็นงามด้วย “ไปพักนะ พรุ่งนี้ค่อยมาทำงานใหม่ครับ ยกเลิกงานทุกอย่างก่อน พี่มีธุระไปทำ...เรื่องสำคัญน่ะ” “เรื่องอะไรคะ” “ความลับครับ” เขาฉีกยิ้มให้เธอ ชายหนุ่มอยากทำอะไรเพียงลำพังไม่อยากให้คนใกล้ตัวรับรู้เพราะเกรงว่าจะเป็นอันตรายกัน “โอเคค่ะ ดูแลตัวเองด้วยนะ” เธอส่งยิ้มให้กับเขา ก่อนจะหันไปมองทางด้านหลังเมื่อสารัชกำลังลากตัวพนักงานบัญชีของบริษัทมา “นั่นมัน คุณธนกิตนี่คะ มีเรื่องอะไรเหรอ” ชายหนุ่มไม่ตอบอะไรเธอ เขาเพียงส่งยิ้มให้บาง ๆ “ฟ้าไปพักนะ...เชื่อพี่” พาทิศว่าแค่นั้นก่อนที่เขาจะเดินนำหน้าผู้ช่วยเลขาฯที่กำลังลากตัวพนักงานบัญชีตามหลังเขามาขึ้นรถยนต์คันหรู...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม