“เอก...พรุ่งนี้เตรียมคนให้พร้อมนะ สักยี่สิบคน มีงานให้ทำ”
“ครับ”
เอกชัยรับคำ ใช้คนมากขนาดนี้ต้องทำเรื่องใหญ่แน่ๆ ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องไม่ดีเสียด้วย นี่ใครช่างโชคร้ายขวางหูขวางตาเจ้านายของเขา แต่คงไม่ใช่วรวิชญ์แน่นอน เพราะรายนั้นสามารถรอดพ้นมือและเท้าของอัคคีได้โดยง่าย ด้วยเหตุผลเพียงสองข้อ ข้อแรกเป็นคนที่ นารีรัตน์รัก ข้อสองเป็นลูกชายของยุทธนา ที่เป็นเพื่อนสนิทของอัคราบิดาของเจ้านายหนุ่มนั่นเอง
“พรุ่งนี้เจอกันรดา เธอทำให้น้องฉันเจ็บ เธอต้องเจ็บยิ่งกว่า”
ชายหนุ่มคาดโทษตัวต้นเหตุเสียงเข้ม ดวงตาเต็มไปด้วยเปลวเพลิงแห่งไฟ ที่พร้อมจะทำลายล้างหญิงสาวที่แสนดีอย่างรดาให้มอดไหม้ กับความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อเอาไว้ เขาจะรู้หรือไม่ว่าการกระทำของเขา ละม้ายการกระทำของผู้เป็นบิดาในอดีต ที่ทำร้ายผู้หญิงที่ไม่มีความผิดให้เจ็บช้ำระกำทรวง จนถึงขีดสุดจนไม่สามารถลบล้างความผิดนั้นได้ ซึ่งเหมือนกับเขาตอนนี้ ที่กำลังซ้ำรอยเดิมของบิดา กว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ว
ตลอดทั้งสัปดาห์ยุทธการหลงมัวเมาอยู่กับกามโลกีย์ที่ลดาลักษณ์ป้อนให้ ทุกท่วงท่าทุกลีลาทำให้เขาถึงกับครางกระหึ่ม บทรักที่เร่าร้อนเจนจัดจนชายหนุ่มอดแปลกใจไม่ได้ว่า หญิงสาวที่เรียบร้อยเหนียมอายในคราแรกที่ร่วมรัก แปรเปลี่ยนเป็นคนละคน หากแต่ความรักและความหลงที่มีอยู่ทำให้จิตใจของเขามืดบอด ไม่มีสตินึกคิดไตร่ตรองว่าทุกอย่างคือมายา
“รดา...” เสียงครางห้าวของยุทธการดังออกมาไม่ขาดปาก เมื่อลดาลักษณ์เคลื่อนไหวบนร่างกายหนาอย่างดุเดือดและเร่าร้อน เช่นเดียวกับเธอที่ส่ายสะบัดใบหน้า ขบเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อเธอก้าวผ่านประตูมายังดินแดนแห่งความสุข
“พี่ต้อม...” เธอเร่งจังหวะให้รุนแรงกระชั้นถี่มากยิ่งขึ้น ทำให้ยุทธการแทบทานทนไม่ไหว พลิกกายอยู่เหนือร่างบาง ก่อนจะขยับสะโพกสอบเร็วระรัว จนหญิงสาวกรีดร้องออกมาดังยาว เช่นเดียวกับยุทธการที่หยุดค้างนิ่ง ปลดปล่อยความสุขเข้าไปในร่างกายของเธอจนหมดสิ้น เหงื่อแห่งกามารมณ์ผุดขึ้นตามร่างกายของทั้งสอง หลังจากผ่านพ้นความร้อนจากการเสพสม
“รดาของพี่ ร้อนจนพี่แทบบ้าเลย”
ยุทธการพูด ก้มใบหน้าจูบที่หน้าผากเนียนสวยของเธออย่างแสนรักและหลงใหล
“พี่ต้อมทำให้รดาร้อนต่างหาก” เธอพูดแสร้งทำเป็นเหนียมอาย บดบังจริตมารยาที่ร้อนแรงไว้ในใจ
“เดี๋ยวนี้รดาเก่งเสียจนพี่...แทบขาดใจ”
“ก็...พี่ต้อมสอนรดาไงคะ” เธอยอมรับว่าเกมกามของยุทธการถึงอกถึงใจเธอ มากกว่าชายใดๆ ที่เคยร่วมหลับนอนมา เขารู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา รู้จังหวะให้เธอถึงจุดสุดยอดก่อนที่จะตามเธอไป ไม่เหมือนผู้ชายบางคนที่หาความสุขบนร่างกายเธอ โดยไม่สนใจว่าเธอจะไปถึงดวงดาวนั้นหรือไม่
“พี่รักรดานะ...พ่อแม่พี่กลับมาจากสวิตเซอร์แลนด์เมื่อไหร่ พี่จะพารดาไปกราบท่าน เราจะแต่งงานกันนะรดา”
ยุทธการตั้งใจจะทำอย่างที่เขาพูดจริงๆ ตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้เขารู้ว่าชีวิตของเขาขาดผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ ลดาลักษณ์ยิ้มเต็มใบหน้า ไม่เสียแรงที่เธอหลอกล่อให้เขาเข้ามาติดกับดักที่วางไว้ อีกไม่นานทรัพย์สินเงินทองของยุทธการจะถูกถ่ายเทมาที่เธอทีละนิดๆ จนกระทั่งมากพอที่เธอจะสลัดเขาทิ้ง จากนั้นก็ไปหาเหยื่อรายใหม่ หรือไม่ก็อยู่กับยุทธการไปจนแก่เฒ่า แล้วแต่สถานการณ์และความน่าจะเป็น
เสียงโทรศัพท์ขัดจังหวะช่วงเวลาอภิรมย์ของทั้งสอง ยุทธการเอื้อมมือมาหยิบโทรศัพท์ที่อยู่หัวเตียง มองดูหมายเลขโทรศัพท์ที่หน้าจอ ก่อนจะตัดสายทิ้งและปิดเครื่องทันที เมื่อรู้ว่าคนที่โทรฯ มาคือปาริฉัตร
“ใครโทรฯ มาคะ ถึงไม่รับสาย สาวๆ หรือเปล่า” ลดาลักษณ์พูดเสียงเย้า
“น้องสาวเพื่อนน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”
เขาตอบเสียงเรียบ ถอนความแข็งแกร่งออกจากร่างบาง มานอนตะแคงกอดร่างของเธอแทน
“แล้วทำไมไม่รับสายล่ะคะ”
“น่าเบื่อ ไม่อยากรับเพราะพี่มีอย่างอื่นที่น่าทำมากกว่าไง”
ชายหนุ่มไม่พูดเปล่า ก้มใบหน้าจูบเธออย่างเร่าร้อน ซึ่งลดาลักษณ์จูบตอบชายหนุ่มด้วยความร้อนแรงไม่ต่างกัน เพลิงสวาทที่ไม่มีวันสิ้นสุดเริ่มต้นอีกครั้งและอีกครั้ง คอนโดของยุทธการจึงเป็นรังรักรังสวาท ที่เขาเองไม่รู้เลยว่ากำลังถูกผู้หญิงจอมลวงโลกปอกลอก โดยใช้ความรักและความใคร่เป็นเครื่องชักจูง
ปาริฉัตรหญิงสาวที่ยึดมั่นในความรัก เจ็บร้าวที่ทรวงอก เมื่อถูกฝ่ายชายตัดสายทิ้ง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำ แต่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ เธอเองไม่อาจนับได้ แต่ทำไมหัวใจและสมองไม่รู้จักจำบ้างว่า เขาไม่เคยสนใจและดูดำดูดีเธอเลยแม้แต่นิดเดียว มีแต่หญิงสาวเท่านั้นที่เป็นฝ่ายวิ่งไล่ตามมาตลอดระยะเวลาสิบกว่าปี หากแต่สิ่งที่เธอวิ่งตามหาคือความรักและหัวใจของเขา ผลตอบแทนที่ได้รับ คือความว่างเปล่าและความเฉยชา
“เมื่อไหร่ต้อมจะหันมามองฉัตรเสียที ฉัตรรอนานแล้วนะ จะรอไม่ไหวแล้วด้วย”
ปาริฉัตรพูดออกมาอย่างสุดกลั้น ปลดปล่อยหยาดน้ำตาออกมาเหมือนเช่นทุกครั้ง ที่ได้รับความเฉยชาและหมางเมินจากยุทธการ หากแต่หัวใจดวงนี้ของปาริฉัตร หาได้จดจำความทุกข์ที่ได้รับไม่ เธอรออย่างมีความหวัง ว่าสักวันหนึ่งเขาจะหันกลับมามอง มองคนที่มีแต่ความรักและความจริงใจให้เสมอมา แม้ว่าต้องรอตลอดชั่วชีวิตก็ตาม
วรวิชญ์เดินหน้าตูมเข้ามาในบ้านเนติรัตน์พิบูล ในเวลาสายของวันใหม่ หลังจากที่อัคคีโทรศัพท์ไปตามเขามาที่นี่ บังคับข่มขู่เขาต่างๆ นานา ไม่เว้นแม้แต่จะทำให้วงศ์ตระกูลของเขา ย่อยยับไปต่อหน้า ไม่สนใจว่าบิดาของเขาเป็นเพื่อนสนิทกับอัคราบิดาของอัคคีก็ตาม วรวิชญ์รู้ดีว่าคนอย่างอัคคีพูดจริงทำจริง ไม่ได้ข่มขู่ให้หวาดกลัว ชายหนุ่มรุ่นน้องจึงจำใจและ จำยอมเดินทางมาหานารีรัตน์
“พี่วิชญ์...พี่วิชญ์มาหารัตน์แล้ว”
นารีรัตน์วิ่งออกมาหาวรวิชญ์ที่กำลังก้าวเดินผ่านประตูมุขเข้ามาภายในบ้าน ด้วยความดีใจ ไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าของชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย
“ก็พี่คีย์โทรฯ ไปข่มขู่และบังคับ ให้พี่มาหารัตน์แต่เช้าน่ะสิ ไม่งั้นพี่ไม่มาหรอก”
นารีรัตน์หน้าเสียเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม หากแต่สาวน้อยเอาแต่ใจกลับยิ้มร่า กลบเกลื่อนความรู้สึกของตัวเอง รู้ดีว่าชายหนุ่มไม่เต็มใจที่จะมาที่นี่