บทที่6. เขากลับมาแล้ว

1834 คำ
จะไม่ให้โกรธได้ไง ก็เธอไม่รู้นี่ว่าไอ้ที่ชอบมาแกล้งเธอจนร้องไห้บ่อยๆ นั่นคือการจีบของผู้ชายปากร้ายที่ชื่อไมเคิล แล้ว อยู่ๆ วันหนึ่งที่ตานี่หายไปจากชีวิตเธอเสียเฉยๆ แล้วจู่ๆ ตาบ้านั่นก็มาใส่ร้ายเธอว่าเธอทำให้เขาอกหักจนต้องไปรักษาแผลใจโดยการไปเป็นอาสาสมัครอยู่แอฟฟริกาใต้โน้นแหน่ะ! “แล้วพูดชื่อนี้ทำไมคะ” “ไมเคิลกลับมาแล้วนะ” เขาหยุดดูอาการของเพื่อนสาวนิดนึง “คือ...อาคาร Q&Q ที่พ่อของไมเคิลเป็นเจ้าของหนะ ชั้นล่างที่เป็นมีร้านกาแฟเจ้าของเดิมเค้าต้องการเซ้งกิจการ ผมดูแล้วทำเลดีแบบนั้นเหมาะที่นีกับพี่ยาจะมาเปิดร้านกาแฟของตัวเองอย่างที่ฝันไงละ” “ขอบคุณนะมาริสแต่ความฝันของพวกเรา-เราจัดการได้” “ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ” เขารีบพูดดักคอ เห็นหน้าหวานๆ อย่างนี้ หยิ่งในศักดิ์ศรีอย่าบอกใครเชียว ขนาดว่าเขาจะให้เธอมาทำงานทีเดียวกับเขา เธอยังไม่ยอมเลย “ผมรู้ว่านีอยากสร้างความฝันด้วยตัวเอง แต่คนมีความสามารถอย่างคุณไม่จำเป็นต้องเป็นลูกน้องใครหรอก ผมเองก็เคยรบกวนพี่ยามาตลอดตั้งแต่ตอนเรียน ตอนที่พี่ยาเสียร้านกาแฟนั่นไาาา-เราอาสาสมัครอยู่แอฟฟริกาโน้นแหน่ะองมาริสและ...จะโชคดีแค่ไหนถ้าได้อุ้มลูกของมาริส  ายสิบปีผมเองก็เสียใจเหมือนพวกคุณนั้นแหละ”   จงกลนีสบตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจของมาริส ครั้งหนึ่งที่วัลยาถูกชายคนรักหลอกเอาโฉนดที่ดินที่เป็นทั้งบ้านและร้านกาแฟเล็กๆ ที่สองพี่น้องอาศัยอยู่เอาไปเสียการพนันจนพวกเธอไม่เหลือแม้กระทั้งที่ซุกหัวนอน มาริสก็ยื่นมือเข้ามาช่วยแต่เธอกับพี่สาวปฏิเสธและลุกขึ้นสู้ด้วยตัวเอง วัลยาที่จบด้านตบแต่งภายในจึงกลับมาจับงานที่เคยร่ำเรียนมา จงกลนีเองเมื่อเรียนจบก็รีบหางานทำโดยไม่ยอมใช้เส้นสายของมาริสที่สามารถช่วยให้เธอทำงานบริษัทของพ่อของเขา ตอนนี้วัลยาหุ้นกับเพื่อนและเธอเปิดบริษัทเล็กๆ บนอินเตอร์เนทรับจัดและออกแบบสวน เธอรู้ดีว่าพี่สาวยังคิดถึงร้านกาแฟที่รักมาก แม้พี่สาวจะดูร่าเริงสดใสแต่ความจริงแล้วเธอแบกความรู้สึกผิดมาโดยตลอดทำให้ทุกวันนี้วัลยาไม่กล้ายอมคบผู้ชายคนไหนในแบบคนรักอีกเลย “ถ้าคุณมีร้านกาแฟก็ใช้ร้านเป็นออฟฟิศรับงานให้พี่ยาได้ หรือจะนัดลูกค้ามาคุยงานที่ร้านก็ได้...ผมอยากให้คุณเอาข้อเสนอนี้ไปปรึกษากับพี่ยาดู ส่วนเรื่องเงินทุนที่จะใช้หมุนเวียนในร้าน ผมจะสำรองให้ อ๊ะ! ผมไม่ให้เปล่าๆ นะ ผมให้กู้ยืมแถมคิดดอกเบี้ยด้วย!” หญิงสาวเผลอหัวเราะออกมา เขารู้ดีว่าเพื่อนอยากช่วยเพื่อน  เพราะถ้าเอาเงินมาให้เธอเปล่าๆ...เธอไม่มีวันยอมรับแน่ๆ “นี่หรือคะเรื่องที่เรียกฉันมา จนต้องลางานมาหาเนี่ย”   “ก็ผมรู้ว่า ข้อเสนอของผมจะทำให้คุณไปลาออกจาบริษัทคู่แข่งผมต่างหากละ” เขาหัวเราะเสียงดังก่อนเลื่อนจานข้าวที่จัดการเรียบร้อยแล้ว เขาหยิบซองจดหมายต่างๆ มาพลิกดู  แล้วต้องสะดุดตากับซองกระดาษสีน้ำตาลที่รู้ทันทีว่าไม่ได้มาจากมือบุรุษไปรษณีย์     รอยยิ้มอ่อนโยนจางไปจากใบหน้าทันที ปรากฏรอยยิ้มกระด้างที่กระตุกขึ้นที่มุมปากเพียงเขาดูสิ่งที่อยู่ข้างใน    “มีอะไรหรือเปล่าคะมาริส” จงกลนีเอ่ยถามอย่างห่วงใยเมื่อเห็นสีหน้าเขาแปลกไป “เปล่าครับ” เขารีบปรับสีหน้า แล้วเก็บซองสีน้ำตาลวางไว้อย่างเดิม “พอดีมีเอกสารด่วนที่ผมต้องจัดการ เดี๋ยวแมสเซนเจอร์จะมารับนะครับ” “โอเค...งั้นฉันกลับบ้านก่อนก็ได้คะ” “ผมไม่ได้ไล่นะครับ” เขาทำเสียงอ้อนอย่างอ่อนหวาน แต่เธอกลับส่ายหน้าแล้วหัวเราะออกมา “มุขนี้เก็บไว้ใช้กับสาวๆ เถอะค่ะ ฉันเองก็จะกลับไปปรึกษาข้อเสนอของคุณกับพี่ยา” “ผมหวังว่าจะได้ยินข่าวดีนะ” “ข่าวดีว่าจะได้ฉันเป็นลูกหนี้คุณเหรอ” เธอถามล้อๆ “ก็ผมอยากเก็บดอกเบี้ยทุกวันด้วยกาแฟอร่อยๆ ไงครับ” “พี่ยาได้ยินคงดีใจมากเลยละ งั้นฉันกลับก่อนนะคะ”    หญิงสาวลุกขึ้นยืนเขาเดินออกมาส่งที่หน้าบ้าน “ผมจะให้คนขับรถไปส่งนะ” “ไม่ต้องลำบากก็ได้” “ลำบากที่ไหน ผมไม่ได้ไปเอง ให้คนขับรถไปส่งให้ไง เอ๊ะ! หรือจะตามไมเคิลมารับคุณไปส่งที่บ้านดี” มาริสทำสะดุ้งเมื่อแขนเขาโดนจงกลนีหยิกเข้าให้                 ครู่หนึ่งรถของบ้านเขาก็มาจอดรับเอาร่างเพรียวพาไปส่งตามที่เจ้านายสั่ง  เมื่อรถออกไปพ้นรั้วบ้านแล้วเขารีบเดินกลับไปเอาซองสีน้ำตาลซองเดิมหยิบรูปในซองสามสี่ใบออกมาดูแล้วยิ้มกระด้างขึ้นมาทันทีก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือต่อหมายเลขที่ต้องการทันที “ทำงานได้ดีมาก” เขาเอ่ยชมอีกฝ่าย “ผมจะให้เลขาโอนเงินส่วนที่เหลือให้  ถ้ามีอะไรผมจะติดต่อคุณอีกที” ปลายสายขอบคุณเขาสองสามคำ เขาก็รีบตัดบทวางสายไปมือใหญ่หยิบรูปหญิงสาวหน้าตาอ่อนหวาน ดวงตากลมโตและผมยาวสลวยสีดุจแพรไหม เขายังจำกลิ่นหอมของเส้นผมของเธอได้เป็นอย่างดีราวกับกลิ่นหอมนั่นมันลอยอยู่ปลายจมูกเขา แต่ภาพในความทรงจำเมื่อสามเดือนก่อนกลับฉายชัดจนเขาเผลอกำมือแน่น เขาจำได้ดีถึงวินาทีที่เขาผลักประตูเข้าห้องนอนของฟารีดา ลางสังหรณ์บางอย่างที่ทำให้เขาไปหาน้องสาวที่คอนโดสุดหรูเลิศ             ฟารีดาออกจะเป็นผู้หญิงเปรี้ยวและทันสมัย เมื่อเรียนจบมหาวิทยาลัยก็ย้ายไปอยู่คอนโดทั้งที่บ้านตัวเองก็ใหญ่โตราวกับวัง    เขารู้ว่าน้องสาวมีคนรักเขาไม่เคยเข้าไปยุ่งก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวปล่อยให้เธอได้ตัดสินใจเอง แต่เมื่อรู้ว่าความรักครั้งแรกแตกสลายเขาก็พยายามโน้มน้าวให้เธอกลับมาอยู่บ้านหลังนี้ แต่เธอก็ไม่ยอมมาเขากลัวว่ารักแรกจะทำร้ายชีวิตของน้องสาวที่เข้มแข็งแค่เปลือกนอก และลางสังหรณ์เขาก็เป็นจริง วันนั้นเขารู้สึกประหลาดอยากเจอฟารีดามากจนไปหาที่คอนโดโดยไม่ได้โทรนัดก่อน ทั้งที่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะอยู่ที่ห้องหรือไม่แต่เมื่อสอบถามพนักงานที่ดูแลตึกก็รู้ว่าน้องเธอไม่ได้ออกไปไหนแต่โชคดีที่เขามีคีย์การ์ดสำรองอยู่เปิดประตูเข้า     แล้วภาพที่เห็นก็ต้องทำห้าเขาถึงกับผงะเมื่อร่างเพรียวของฟารีดานอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้นเพราะกินยาเกินขนาด! ถ้าเขามาช้าไปเพียงนาทีเดียวน้องสาวเพียงคนเดียวก็อาจจะจากเขาไปตลอดกาล “พี่มาริส” “ฟารีดา...ทำไมทำร้ายตัวเองขนาดนี้...น้องยังมีพี่อยู่นะจะทิ้งพี่เหมือนที่แม่ทิ้งพี่ไปงั้นเรอะ” เขาจำได้ว่าเขากุมมือน้องสาวแน่นระหว่างที่นั่งอยู่บนรถพยาบาล  “น้องขอโทษ...ขอโทษ” “อย่าทิ้งพี่ไป เราไม่มีใครแล้ว...อย่าทิ้งพี่ไป” เขาพรำเรียกชื่อน้องสาวคนเดียวตลอดเวลาที่หมอพาร่างของน้องสาวเข้าไปห้องไอซียู ป้าลอร่ารีบตามเมื่อทราบข่าว เขากลายเป็นเด็กเล็กๆ เมื่อป้าลอร่าดึงเขาเข้าไปสวมกอด เขานึกถึงภาพที่แม่เดินจากเขาไปในวันที่ฝนโปรายปราย เขาพยายามวิ่งตามแต่แม่ก็ไม่ยอมหันกลับมามองเขาแม้แต่น้อย ประตูห้องไอซียูเปิดออกพร้อมร่างของหมอเจ้าของไข้รอยยิ้มของหมอทำให้เขาหายใจโล่งทั่วปอดขึ้น “คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ แต่ยังอ่อนเพลียต้องอยู่พักอีกสักระยะ ในระหว่างนี้เราจะให้จิตแพทย์มาพูดคุยกับคนไข้นะครับ” “จิตแพทย์...ทำไมต้องคุยกับจิตแพทย์ครับ” “คนไข้ที่พยายามฆ่าตัวตาย เราก็ต้องให้จิตแพทย์มาเยียวยารักษาทางใจด้วยนะครับ” “พยายามฆ่าตัวตาย! เป็นไปไม่ได้ น้องผมไม่ใช่คนคิดสั้นแบบนั้น” เขาพึมพำเหมือนตัวเองจะกลายเป็นคนเสียสติเสียเอง “แต่คุณฟารีดาเพิ่งอกหัก ก็อาจจะคิดสั้นได้นะคะคุณมาริส” ได้ยินเพียงเท่านั้น  เขาก็เผลอกำหมัดแน่นด้วยความโมโห  คุณหมอขอตัวไปดูแลคนไข้ต่อ ป้าลอร่าได้แต่ลูบหลังปลอบโยน “คุณฟารีดาปลอดภัยก็ดีแล้วละค่ะ หมดทุกข์หมดโศกแล้ว”  “ผมไม่ให้จบง่ายๆ อย่างนั้นหรอกครับป้าลอร่า! ใครทำร้ายให้น้องผมเจ็บ ผมจะให้มันต้องชดใช้!” “คุณมาริส!” ป้าลอร่ายกมือทาบอกตกใจกับสิ่งที่ได้ยินโดยเฉพาะแววตาก้าวร้าวที่รู้ว่าพูดจริงทำจริง “คุณมาริสคะ...คุณมาริส” เสียงเรียกของป้าลอร่าทำให้ชายหนุ่มตื่นจากภวังค์ เขารีบซ่อนรูปเก็บใส่ซองอย่างเดิมก่อนปรับสีหน้าให้เป็นปกติ “ป้าจะมาถามว่าคุณมาริสจะรับของว่างหรืออะไรทานระหว่างทำงานไหมคะ” “ป้าลอร่าอย่ามาเหนื่อยเพราะผมนักเลยครับ” ผมพูดพลางกอดเอวอย่างประจบ เขาไม่เคยคิดว่าป้าลอร่าเป็นคนรับใช้    นอกจากฟารีดาแล้วเขาก็รู้สึกว่าป้าลอร่านี่แหละที่เป็นญาติอีกคนที่เขามี “แค่เห็นคุณมาริสมีความสุขป้าก็มีความสุขแล้วละ” “ถ้าผมอ้วนกลายเป็นหมูทำไงละครับ” “คุณมาริสก็พูดไป” ป้าลอร่าหัวเราะคิกคักก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานของเขาไป ไม่ทันได้ยินสิ่งที่เขาพูดออกมา “ป้าจะได้เห็นผมมีความสุข...สุขมากด้วยครับ เพราะผมกำลังจะแก้แค้นไอ้คนที่ทำให้ฟารีดาต้องเกือบตายมาแล้ว!” เขาโยนซองที่บรรจุรูปถ่ายใส่ลิ้นชัก รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏบนใบหน้าแม้ว่าป้าลอร่าจะเคยบอกเขาว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร แต่หัวใจของเขาที่มันรุ่มร้อนดุจถูกเพลิงเผาไหม ถ้าไม่ดับด้วยการชำระแค้น เขาคงไม่มีความสุขไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่เป็นแน่!.  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม